Title : [Fic] หมอ...llจิตll
Writer : GroupBee + KJW
Couple: YunJae , YooSu , MinRic
Genre : Drama , Erotic
NC : ?
Part…15 เมาไม่ตั้งใจ (ภาค2)
~ Flash Back ~
เลิกเรียนแล้วมาเจอชั้นที่ห้องพักครูด้วย
~ ห้องพักครู ~
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ห้องพักครูในยามเย็นเวลานี้ไม่มีใครอยู่แล้วจะเหลือก็แต่คนที่นัดเค้าให้มาเจอ...ครูยูชอน
“มาแล้วหรอจุนซู...นั่งก่อนสิ”ยูชอนเงยหน้าจากกองกระดาษมากมายพร้อมกับเอ่ยให้คนตัวเล็กนั่งลง
“..........”
“ไม่มีเรียนแล้วใช่มั้ย”
“ฮะ”
“มีเรื่องไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า...นายดูเหมือนไม่ใช่จุนซูคนเดิม”
นั่นแหล่ะฮะคือเหตุผลที่ผมไม่อยากจะเจอกับพี่ตอนนี้
จุนซูอยากให้ยูชอนเห็นเขาในแบบที่ร่าเริงเท่านั้น...แต่ตอนนี้จุนซูไม่ร่าเริงเอาเสียเลยTT
“...........”
“ลำบากใจที่จะพูดหรอ...ชั้นคงเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวนายมากเกินไปสินะ”อดที่จะไม่พูดประชดออกไปไม่ได้ ทั้งๆที่เค้าก็พร้อมเสมอถ้าหากจุนซูจะปรึกษาอะไรก็ตามแต่...เค้าเป็นทั้งครูและพี่ชายที่แสนดีของจุนซูไม่ใช่หรือไง
“ฮะ...มันเรื่องส่วนตัวของผมฉะนั้นครูก็คงจะไม่เกี่ยว...ถ้าไม่มีอะไรแล้วจุนซูขอตัวนะฮะ”ลุกขึ้นยืนก่อนจะรีบเดินออกไป
“เดี๋ยวสิจุนซู...นายลืมไปแล้วหรอว่าชั้นก็เป็นพี่ชายนายนะ...นอกเวลาเรียนไง”คำพูดของยูชอนรั้งร่างเล็กให้หยุดเดินและหันกลับมาอีกครั้ง ยูชอนไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเค้าถึงได้รู้สึกแคร์จุนซูมากมายขนาดนี้ ความรู้สึกแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเค้าเลย...มันเรียกว่าอะไร?
“จุนซูเคยบอกพี่ยูชอนไปแล้วไงฮะ...ว่าจุนซูมีพี่ชายอยู่แล้ว”ไม่รอให้ยูชอนได้ถามอะไรต่อคนอารมณ์แปรปรวนก็รีบสาวเท้าเดินออกมาจากห้อง รู้สึกผิดที่ไปพูดจาและทำกริยาแย่ๆใส่ยูชอนแบบนี้ทั้งๆที่ยูชอนก็ดูจะเป็นห่วงเค้าเอามากๆ
พี่ยูชอน...จุนซูขอโทษฮะ
~ come back ~
~♪ ♫ ♪ ♫ ♪ ~
“ฮะพี่ฮีชอล”
“จุนซูหรอ...นี่พี่เองนะแจจุงอยู่กับจุนซูหรือเปล่า?”ฮีชอลกรอกเสียงลงไปอย่างร้อนใจ ตอนที่แจจุงโทรมาหาเค้านั้นน้ำเสียงแจจุงฟังดูแปลกๆและฮีชอลก็รู้สึกสังหรใจไม่ดีเลยโทรมาถามจุนซูเพื่อความสบายใจ
แต่จุนซูนี่สิดูจะตอบยากไปสักหน่อยคนตัวเล็กกำลังคิดหนักไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี แจจุงไม่ได้อยู่กับเค้าแน่นอนเพราะเมื่อตอนเย็นที่ผ่านมาแจจุงได้แยกตัวออกไปกับโบอา
“.............”
“เอ่อ...มีอะไรหรือเปล่าฮะ”จุนซูลองหยังเชิงถามออกไป
“ก็ตอนที่แจจุงโทรมาหาพี่ บอกว่าจะไปทำรายงานที่บ้านจุนซู วันนี้อาจจะไม่กลับ แต่น้ำเสียงฟังดูไม่ดีเลย พี่เป็นห่วง”
แจจุงนายโกหกพี่ฮีชอลแบบนี้เพื่ออะไร
“อย่าห่วงเลยฮะแจจุงอยู่กับจุนซู“ โกหกออกไปหน้าตาเฉย จุนซูไม่รู้จะตอบยังไงแล้วเหมือนกัน ถ้าบอกว่าไม่อยู่พี่ฮีชอลก็จะสงสัยแจจุงอีก เรื่องนี้คงจะได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมากันพอดี
ชั้นจะช่วยนายแค่ครั้งนี้...ครั้งเดียว
“งั้นพี่ขอคุยกับแจจุงหน่อยสิ”เอาแล้วไง แจจุงไม่ได้อยู่กับเขาจริงๆซะด้วย โกหกออกไปแล้วทีนี้จะแก้ปัญหายังไงดีล่ะ
“เอ่อ...คือ...แจจุงเค้า...ไปเข้าห้องน้ำน่ะฮะ...พี่ฮีชอลอย่าห่วงเลยฮะแจจุงอยู่กับจุนซูจริงๆ พี่ไม่เชื่อจุนซูหรอฮะ”จุนซูเริ่มเปลี่ยนแผนเป็นคนขี้น้อยใจแทน
“เปล่านี่จ๊ะ...ถ้าไม่มีอะไรก็ดีแล้ว...แค่นี้แหล่ะ พี่ฝากจุนซูด้วยนะ”
“ครับ...ถึงพี่ไม่บอกจุนซูก็ต้องดูแลแจจุงอยู่แล้ว”
“ขอบใจนะ...บายจ๊ะ”สัญญาณโทรศัพท์ถูกตัดไปแล้ว จุนซูจึงรีบต่อสายไปหาแจจุงเค้ากะจะถามให้รู้เรื่องไปเลยว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วทำไมต้องโกหกพี่ฮีชอลแบบนี้ด้วยแต่สัญญาณของแจจุงเป็นเพียงระบบตอบรับอัตโนมัติ
“ติดต่อไม่ได้อีกแล้ว...แจจุงนายคิดจะทำอะไร”
ร่างสูงที่กลับเข้ามาพร้อมยาลดไข้และแก้วน้ำอุ่น แต่ร่างบางบนเตียงก็ยังคงหลับต่อไปไม่มีท่าทีว่าจะตื่นขึ้นมามือหนาค่อยๆประคองยูฮวานขึ้นมากระซิบข้างหูเบาๆจนเริ่มรู้สึกตัว เม็ดยาสีขาวถูกยื่นเข้าใกล้ก่อนที่คนในอ้อมกอดจะรับมันเอาไว้ด้วยปากพร้อมกระดกน้ำตาม
“ไข้ลดลงแล้ว...แต่นายดูไม่ดีขึ้นเลย”
“ชั้น...จะ...กลับบ้าน”
“นอนอยู่ที่นี่ก็ได้นายกำลังไม่สบายอยู่นะ”
ชางมินเอ่ยออกมาอย่างเป็นห่วงแต่เด็กดื้อไม่ยอมฟังส่ายหน้าปฏิเสธทันที ก็เพราะว่าถ้าไม่ใช่บ้านหรือที่หอพักก็คงไม่มีที่ไหนที่เขาจะนอนหลับได้สนิทอีกแล้วเป็นเพราะความเคยชินตั้งแต่ของยูฮวาน
“จะกลับบ้าน...แล้วกลับไหวมั้ยล่ะ?...ลุกขึ้นมานั่งยังจะไม่มีแรงเลย”ชางมินเริ่มจะเหลือมนกับคนแสนดื้อดึง
“นายต้องไปส่ง”
“อะไรนะ!”
“ชั้นบอกว่านายต้องไปส่ง”ยูฮวานออกคำสั่งอีกครั้ง
“แล้วทำไมชั้นต้องทำตามที่นายสั่งด้วยล่ะ”ไม่ว่ายังไงยูฮวานก็ยังจะดื้อและครั้งนี้ดูเหมือนว่าชางมินก็จะไม่ยอมง่ายๆแล้วเช่นกัน
“ก็เพราะว่านาย...เป็นรุ่นพี่ของชั้น”คำตอบสุดท้ายของยูฮวานทำให้คนใจแข็งเมื่อครู่หัวใจอ่อนวูบลงทันทีใบหน้าคมเข้มเผยรอยยิ้มดีใจอย่างไม่เก็บอาการที่ได้ยินยูฮวานเรียกเขาว่ารุ่นพี่ชัดๆแบบนี้...น่าแปลก ยูฮวานไม่ได้พูดเพื่อที่ต้องการจะเอาใจชางมินแต่พูดเพราะว่าอยากจะพูดมันออกมาจากความรู้สึกของเขาเอง ถึงแม้ว่าชางมินจะดูเป็นคนที่พูดจากวนประสาท ปากร้าย แต่ถ้าเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่หรือเกิดเรื่องไม่ดีชางมินก็จะกลายเป็นอีกคน
อบอุ่น - ปกป้อง – สุภาพบุรุษ
“บ้านนายอยู่ไหนล่ะ”คนถามก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเวลาที่ถูกยูฮวานจ้องมองมาแบบนี้ตัวเขาถึงไม่กล้าไปสบสายตาด้วย
“เปลี่ยนใจแล้ว...ไปส่งที่หอแทนได้มั้ย”
“เฮ้ย...นายนี่มันจริงๆเลยแล้วแต่คุณหนูยูฮวานเถอะครับ”คุณหมอหนุ่มที่กำลังสวมบทบาทสารถีจำเป็นค่อยๆประคองคนตัวเล็กลงจากเตียงก่อนจะพาไปส่งยังหอพักที่อยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลแห่งนี้เท่าใดนัก
เมื่อมาถึงยังหอพักแล้วชางมินก็ไม่ยอมให้ยูฮวานเดินขึ้นไปเองคนเดียวชายหนุ่มดึงดันจะไปส่งจะไปส่งให้ถึงห้องให้ได้เพราะถึงยูฮวานจะดูดีขึ้นมามากกว่าเก่าแล้วแต่เพื่อความสบายใจของตัวเค้าเอง
“ส่งแค่หน้าห้องก็พอ”
“ห้องนอนนายอยู่ไหน”ชายหนุ่มยังคงหูทวนลมไม่ได้ยินสิ่งที่ยูฮวานเอ่ย คนป่วยเริ่มเกิดอาการเหนื่อยใจและเมื่อยปากจึงแค่ชี้นิ้วเพื่อบอกทิศทางเพียงเท่านั้น คุณหมอหนุ่มลอบยิ้มอย่างพอใจที่ยูฮวานยอมฟังที่เขาพูดมากกว่าวันไหนๆ เมื่อมาถึงยังห้องนอนเจ้าของห้องก็ทิ้งตัวลงนอนต่อทันทีพร้อมผ้าห่มผืนหนาที่คลุมตัวจนมิด
“จะนอนแบบนี้เลยหรอ”ใบหน้าที่โผล่มาให้เห็นแค่ดวงตากลมโตกับสันจมูกพยักขึ้นลงแทนคำตอบ
“งั้นก็ตามใจแต่นายยังนอนไมได้นายยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่บ่าย”
“ชั้นไม่หิว”
“ไม่หิวได้ยังไง...ชั้นไม่เชื่อนายหรอกนะ”เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่ยูฮวานจะไม่หิวในความคิดของชางมินก็ขนาดเขาไม่ได้กินอะไรมาแค่ชั่วโมงสองชั่วโมงน้ำย่อยในกระเพาะมันก็ร้องประท้วงให้ซะแล้ว (นั่นมันนาย...ชางมิน)
“ชั้นกินอะไรไม่ลง...เจ็บคอ”
“งั้นชั้นจะไปอุ่นนมมาให้นาย”ไม่รอฟังคำตอบช่วงขายขาวก็เดินออกไปก่อนจะกลับมาพร้อมกับแก้วใสที่มีน้ำนมสีขาวขุ่นอยู่เกือบเต็มแก้ว
“อ่ะ...ไม่ร้อนเท่าไหร่แล้วล่ะ^^”
“ยิ้มอะไรของนาย”คิ้วสวยเลิกขึ้นเป็นเชิงถามด้วยความสงสัย
“ก็ชั้นกำลังคิดว่านายตอนดื้อกับตอนไม่สบายอันไหนมันจะน่ารักกว่ากัน”
“หลอกด่ากันหนิ ตอนนี้ชั้นไม่มีแรงจะมานั่งเถียงกับนายหรอกนะ...ส่งมาสักทีสิ”ยูฮวานรีบเปลี่ยนเรื่องที่อยู่ๆถึงแม้ว่าจะถูกชางมินหลอกด่าแต่ก็เหมือนเป็นคำชมในคราเดียวกัน...เค้าเชื่ออย่างนั้น
ชางมินในแบบนี้ก็เท่กว่าชางมินที่คอยกวนประสาทเขาเป็นไหนๆ >//<
สองมือขาวจับแก้วนมไว้มั่นก่อนจะเข้าจิบจนหมดเกลี้ยงเหลือไว้แต่เพียงแก้วเปล่าให้คนที่นำมาเสริฟได้ภูมิใจเล่น
“ไหนบอกไม่หิวไง...ไม่เหลือสักกะหยด”
“ถ้าไม่กินชั้นก็เสียมารยาทแย่สิ”ยูฮวานแก้ตัว
“เอ่อ...ที่กินนี่เพราะนายเป็นคนมีมารยาทว่างั้น?...ชั้นคงต้องขอบใจนายสินะ”
“คิคิ...ล้อเล่นน่า...ขอบใจนะ^^”
“ไม่เป็นไรหรอก...เอาเถอะนอนได้แล้วถ้าพรุ่งนี้ไปไม่ไหวก็ไม่ต้องไปเรียนหรอกนะ...เข้าใจมั้ย?”เดินไปหยุดที่ข้างเตียงก่อนจะจัดหมอนและผ้าห่มให้คนตัวเล็กได้นอนสบายขึ้น
“เอาล่ะ...หลับตาซะราตรีสวัสดิ์นะกวางน้อย”
“กวางน้อยหรอ?”เปลือตาที่กำลังจะปิดสนิทฝืนลืมขึ้นเมื่อได้ยินสรรพนามที่ใช้เรียกตน
“ชั้นจะดับไฟแล้วนะ”กดปิดสวิตซ์ไฟก่อนจะเดินออกมาจากห้องเบาๆเพราะไม่อยากให้อะไรไปรบกวนยูฮวานอีก
“ราตรีสวัสดิ์เช่นกัน...เจ้า...เป็ด...ปากบาน...ZZZ....”คำพูดท้ายประโยคเกือบจะไม่ครบสมบูรณ์เมื่อยูฮวานผล่อยหลับไปแทบจะทันที
คนที่มาช่วยเขายังไงซะก็จะต้องเป็นคนๆเดียวกับคนที่นัดเขามาเจอที่ห้องดับจิตแน่นอน
คำใบ้ที่ว่า...เป็ด!!!
ก็คงหนีไม่พ้นรุ่นพี่ชางมิน ทั้งๆที่ก็คิดอยู่ว่าพอมีส่วนคล้ายแต่เขากลับไม่ได้เอะใจอะไร
และคืนนั้นยูฮวานกวางน้อยที่น่ารักก็ฝันถึงเจ้าเป็ดปากบานชิมชางมินตลอดทั้งคืน...ฝันหวานนะ^^
หลังจากที่ออกมาจากมหาลัยแล้วจุนซูก็เดินมาเรื่อยเปื่อยเค้ายังไม่อยากกลับบ้านตอนนี้ พอรู้ตัวอีกทีบรรยากาศโดยรอบก็เริ่มจะมืดแล้วแถมตอนนี้เค้ายังเดินมาไกลจากบ้านอยู่มากพอสมควร
“อ่าว...พ่อหนูวันนี้ไม่ทานอะไรหรอคะ...ป้าทำคิมบับไว้เยอะเลยนะ”เสียงคุณป้าเจ้าของร้านริมทางที่จุนซูและใครอีกคนชอบมานั้นร้องทักลูกค้าขาประจำ
“เออ...ฮะ...ผมกำลังจะสั่งพอดี”ไหนๆก็ชวนแล้วจุนซูไม่อยากจะเสียมารยาท
“รับอะไรดีคะ?”
“ผมขอเป็นคิมบับ..แป้งต๊อก...แล้งก็โซจูฮะ”หลุดสั่งออกไปได้ยังไงก็ไม่รู้ทั้งๆที่อย่างหลังสุดเค้าไม่เคยคิดที่จะกินมัน แต่ด้วยที่จุนซูนึกถึงคำพูดของใครบางคนได้ขึ้นมาซะก่อน…
“พี่...พี่ยูชอน...มีเรื่องไม่สบายใจหรือป่าวฮะ”
“อะ...เอ๋?”
“ก็เวลาที่มีเรื่องไม่สบายใจเค้าก็มักจะหาทางออกด้วยการมากินเหล้าแบบนี้ไม่ใช่หรอฮะ?”
“ฮ่าฮา...ใครบอกจุนซูแบบนี้กัน?...ก็คงงั้นมั้ง”
“ตอนนี้จุนซูไม่สบายใจ...จุนซูก็ต้องกินเหล้าสินะ”ความคิดผิดๆของเด็กน้อย ขวดแก้วสีเขียวจุนซูค่อยๆเทมันใส่แก้วใสอย่างไม่ยั้งมือกระดกมันรวดเดียวหมด ก่อนจิ้มแป้งที่ราดด้วยซอสรสเผ็ดเข้าปากตามไปเพื่อบรรเทาความขมฝาดคอนี้ ใบหน้าขาวเริ่มขึ้นสีแดงจัดรวมไปทั้งร่างกายของจุนซูก็ด้วย หัวเล็กผงกขึ้นลงเหมือนคนเมาเข้าไปทุกทีก่อนจะกระดกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอีกรอบ
“ให้พี่นั่งด้วยได้มั้ยครับ?”ชายหนุ่มแปลกหน้าจับข้อมือขาวอย่างฉาบฉวยก่อนจะนั่งลงยังฝั่งตรงข้าม
“ฮืมม...คุณเปนคายอ่ะ...ฮะ”วางแก้งลงก่อนจะเอ่ยถามคนที่มาขัดจังหวะในการกินขิงเขา ดวงตาเล็กหรี่ลงเพื่อมองภาพให้ชัดเจนเพราะตอนนี้มันช่างมัวเหลือเกิน
“ฮืมม...คุณเปนคายอ่ะ...ฮะ”วางแก้งลงก่อนจะเอ่ยถามคนที่มาขัดจังหวะในการกินขิงเขา ดวงตาเล็กหรี่ลงเพื่อมองภาพให้ชัดเจนเพราะตอนนี้มันช่างมัวเหลือเกิน
“พอดีพี่มาคนเดียว...เลยอยากมีเพื่อนนั่งคุยด้วยน่ะ”คนตัวเล็กที่เมาอย่างเต็มที่แล้วนั้นผายมือเป็นการเชื้อเชิญเต็มที่
“กินกับผมก็ได้นะ...ไม่ต้องเกรงใจ”จุนซูเมาแล้วยังใจกว้างซะด้วย
“ฮ่าฮา...”คำพูดที่น่ารักนั้นทำให้ชายหนุ่มอดที่จะหัวเราะเพราะความเอ็นดูไม่ได้
“เราไปต่อที่อื่นกันดีกว่ามั้ย?”
“ไปไหนฮะ...ไปๆ”ลุกขึ้นจ่ายเงินก่อนจะเดินตามคนที่พึ่งรู้จักได้ไม่นานไปยังที่เที่ยวแห่งใหม่ แต่ทว่า...
“ขอโทษนะครับ”เสียงต่ำทุ่มมันช่างฟังดูคุ้นหูจุนซูเสียจริง
“เค้าคงไปกับคุณด้วยไม่ได้แล้ว”
“คุณเป็นแฟนเค้าหรอครับ?”ชายแปลกหน้าเอ่ยถามออกไป ถ้าคนน่ารักตรงหน้านี้มีเจ้าของแล้ว เค้าก็จะไม่ยุ่ง
“ครับ”ตอบกลับไปเพียงสั้นๆแต่ใจความที่ได้กลับแปลเป็นความหมายที่ชัดเจน
“งั้นผมก็ขอโทษด้วย”ว่าจบชายหนุ่มก็เดินออกไปซะเฉยๆ
“ไม่เป็นไรครับ” เดี๋ยวนี้พวกวิชาชีพเยอะจริงๆ ยูชอนคิด
คนกลางคืนเดี๋ยวนี้มีหลายรูปแบบนักจุนซูไม่ระวังตัวเอาซะเลย ยูชอนที่นั่งมองจุนซูตั้งแต่เดินเข้าร้านมาแล้ว แต่จุนซูกลับมองไม่เห็นเค้า วันนี้จุนซูทำตัวแปลกมากทั้งที่บอกว่าตัวเองแพ้เหล้าแต่ก็ยังจะสั่งมานั่งกินหน้าตาเฉย ไม่ห่วงร่างกายตัวเองเลยบ้างเลย หันไปมองคนที่ยืนหลับแต่ก็ยังทรงตัวยืนอยู่ได้ ยูชอนพาจุนซูมานั่งที่โต๊ะของตัวเองตอนนี้จุนซูนั่งฟุบหลับไปแล้วมีเพียงยูชอนที่ยังคงนั่งคิดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับคนตรงหน้าในแบบที่เค้าก็ไม่อาจจะเข้าใจตัวเอง
บอกตามตรงเมื่อตอนเย็นที่ได้ยินจุนซูพูดออกมาแบบนั้นเหมือนต้องการจะตัดความสัมพันธ์กับเค้า ยูชอนรู้สึกเสียใจไม่น้อย มือหนายังคงยกขวดเหล้าซดเข้าปากเป็นว่าเล่นพร้อมกับนั่งมองคนตรงหน้าที่ทำให้หัวใจเค้าเต้นไม่เป็นจังหวะมากขึ้นมากขึ้นไปทุกวี่วัน ยูชอนพอจะรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งอย่างแล้ว...ตอนนี้ก็ยิ่งจะเข้าใจ
ความรัก...มักเกิดขึ้นโดยที่คนเราไม่ทันได้ตั้งตัว
เวลาผ่านไปเลยเข้าสู่ยามดึกของค่ำคืน ดีกรีความเมาของคนทั้งคู่ก็ไม่มีใครลดน้อยลงไปเลย ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหลือบมองหน้าปัดนาฬิกาเรือนหรูอยู่นานกว่าจะมองออกว่าตอนนี้เป็นเวลาเท่าไหร่แล้วก็ทำเอาเสียเวลาไปหลายนาที
“จุนซู...จุนซู”มือหนาเอื้อมไปสะกิดปลุกคนขี้เซา
“.........”
“ตัวนายร้อนจัง...กินไปเยอะสิท่า”พูดโดยที่ไม่มองตัวเองเลยว่าสภาพตอนนี้ก็ไม่ต่างกัน
ชายหนุ่มค่อยๆพยุงร่างเล็กนี้เดินไปขึ้นรถของตนที่จอดเอาไว้ไม่ไกล เมื่อขึ้นมาบนรถได้เรียบร้อยแล้วยูชอนก็เอ่ยถามจุนซูถึงบ้านช่องที่จะต้องพาไปส่ง
“จุนซู...บ้านนาย...อึก...อยู่แถวไหนอ่ะ...ฮึก”
“#$$*%&^$#%@#”
“งง...ขอใหม่อีกรอบได้ป่ะ?”
“...>U*&^#%#+=2”
“นายพูด...อารายของนายเนี่ย...ชานฟังไม่รู้เรื่อง...เลยยยย~~~”
เอาเข้าไปทั้งคนพูดคนฟังมันชักจะไม่รู้เรื่องเข้าไปใหญ่แล้ว คนที่พอจะมีสติดีที่สุด??? เลยต้องเป็นคนตัดสินใจเอาเองหลังจากที่นั่งคิดอยู่นานจนตาจะปิดอยู่ลอมล่อ บ้านของจุนซู ยูชอนก็ไม่รู้จักหนทางเดียวในตอนนี้ก็คงจะเป็น...
“ไปบ้านชั้นก็แล้วกัน”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น