2554/02/25

[Fic] หมอ...llจิตll Part…3 ไม่เหมือนเดิม


Title : [Fic] หมอ...llจิตll
Writer : GroupBee  + KJW
Couple: YunJae , YooSu , Changmin
Genre : Drama, Erotic
NC :  ?
Part…3  ไม่เหมือนเดิม


อะ...โอ้ย!”

นะ...นาย!”ชางมินรีบเข้าไปพยุงร่างบางที่ดูเหมือนคนป่วยซะมากกว่า แจจุงนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด บาดแผลทางด้านหลังที่ร้าวระบมทำให้ไม่สามารถกลั้นต่อมน้ำตาน้อยๆไว้ได้อยู่

เป็นอะไรมากมั้ย?เมื่อพยุงให้ลุกขึ้นยืนได้แล้วถึงจะดูยากเย็นสำหรับชางมินแต่ร่างโปร่งก็ไม่ได้คิดเอะใจอะไร...จนกระทั่ง

มะ...ฮึก...ไม่เป็นไรฮะพูดเพียงเท่านั้นก็รีบผละตัวหนีออกมาอย่างรวดเร็ว ชางมินกลอกตาเหลือบมองบานประตูที่คนตัวเล็กพึ่งจะเดินออกมา เค้าจำได้ว่าเด็กหนุ่มคนเมื่อกี้คือคนคนเดียวกับเด็กที่วิ่งมาชนเค้าหน้าห้องน้ำที่ผับ...เมื่อสองวันก่อน...แต่ทำไมถึง?...ยุนโฮ!

เอ่อ...เดี๋ยวน้อง...หายไปเร็วจังไร้ร่างที่ต้องการจะถามไถ่พูดคุย(จุดนี้ชางมินคิดช้ามากกว่านะ55+)
     รองเท้าหนังสีน้ำตาลเข้มมันวาวเหยียบย่างลงบนพื้นพรมสีชาอ่อนหากแต่ของเหลวหยดเล็กๆทำให้ชางมินต้องขมวดคิ้วอย่างใช้ความคิด นักศึกษาแพทย์ระดับหัวกะทิแนวหน้าของประเทศอย่างเค้าทำไมจะดูไม่ออกว่าของเหลวสีแดงข้นคืออะไรแถมยังหยดเป็นทางยาว...ความคิดที่ว่าคือทำไมมันเยอะและดูน่ากลัวจัง...เกิดอะไรขึ้น?  เดินตามมาเรื่อยๆและรอยหยดเลือดก็พาร่างของเค้ามายังห้องนอนของเพื่อนสนิท

ห้องไอ้ยุน!”เสียงเคาะประตูตามมารยาทที่พึงกระทำดูจะไม่มีประโยชน์และไร้ค่าไปเลยเพราะถึงจะเคาะไปก็ไม่มีการตอบรับกลับมาหรอก...เจ้าของห้องไม่อยู่

     เมื่อไม่มีทีท่าว่ายุนโฮจะออกมาเปิดต้อนรับตนชางมินจะบิดลูกบิดเปิดประตูเข้าไปเองและก็เป็นอย่างที่คิดเอาไว้สภาพเดิมๆที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยกลิ่นคลุ้งเหล้าฟุ้งไปทั่วห้องนอน ข้าวของกระจัดกระจายไหนจะกลิ่นคาวที่มาจากเลือด

     ผ้าปูสีขาวครีมยับยู่ยี่ปรากฎล่องลอยของเหลวสีขาวขุ่นและคราบเลือดที่แห้งกรังแค่เพียงเท่านี้ชางมินก็พอจะเรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี

เด็กคนนั้นถูกไอ้ยุน...ขืนใจงั้นหรอ?พยายามทำใจให้ร่มและออกมานั่งที่ห้องรับแขกเพื่อรอให้ไอ้เพื่อนตัวแสบกลับมา...เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้เค้าฟัง ชางมินอยากรู้คำตอบจากปากของยุนโฮมากที่สุด ถึงแม้ว่าคำตอบที่ได้จะฟังดูไม่ทุกข์ร้อนอย่างที่เคยเป็นก็ตาม



~ สถานีตำรวจ ~

     เสียงเอะอะและความชุลมุนวุ่นวายของสถานที่แห่งนี้บอกตามตรงถ้าไม่จำเป็นจริงๆคิมฮีชอลไม่เคยคิดที่จะเข้ามาเหยียบเลยสักนิดเดียว

คุณคิม ฮีชอลครับเสียงนายตำรวจที่เป็นเวรประจำวันขานชื่อขึ้น

ครับ...อยู่นี่ครับ

ตอนนี้ทางเรายังไม่ได้เบาะแสอะไรเช่นกัน...ข้อมูลที่คุณให้กับทางเรามันยังน้อยเกินไปจนแทบจะไม่มีอะไรเลย...ผมว่าคุณกลับไปก่อนจะดีกว่าแล้วถ้ามีอะไรคืบหน้าเดี๋ยวผมจะรีบโทนแจ้งพวกคุณทันทีเลย

ฮึก...ขอบคุณมากๆเลยครับคุณตำรวจฮีชอลและซีวอนได้ทำเรื่องเอาไว้เมื่อวันก่อนแต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าจนถึงตอนนี้ หัวใจของคนเป็นพี่แทบแตกสลาย

ฮีชอลนายกลับไปพักผ่อนเถอะ  นายยังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืน

เอ่อ...แต่ว่า

ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น...คุณตำรวจก็รับปากแล้วด้วยว่าจะตามหาน้องชายนายอย่างสุดความสามารถ ฉะนั้นนายควรกลับไปพักผ่อนแล้วพรุ่งนี้ชั้นจะมารับนายแต่เช้าเลย...สัญญา

คือ...ก็ได้ฮะสายตาดุๆถูกส่งไปให้กับคนที่แสนจะดื้อรั้นอย่างฮีชอลจนร่างบางต้องรีบตอบรับคำให้ร่างสูงได้พอใจ

ดีมาก...ฟังชั้นนะ ถ้านายไม่ดูแลตัวเองอยู่แบบนี้แจจุงนั่นแหล่ะที่จะลำบาก...รู้มั้ย?

ฮะคุณซีวอน...เอ่อ ขอบคุณมากเลยนะฮะที่...ทิ้งระยะไว้สักพักก่อนจะเอ่ยคำพูดในประโยคถัดไป

ที่อยู่เคียงข้างผมในตอนที่ผมลำบากแบบนี้

อ่า...ไม่เป็นไรหรอกน่า คนเป็นแฟนกันเค้าไม่ปล่อยให้แฟนตัวเองต้องมานั่งทุกข์ใจแล้วก็ลำบากใจคนเดียวแบบนี้หรอก

อะ...เอ่อ...

เฮ้ย...รีบไปกันดีกว่าบางทีน้องนายอาจจะกลับบ้านนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆแสนอบอุ่นแล้วก็ได้รีบพูดจาเฉไฉไปตามเรื่องตามราว

ฮะ...ขอให้เป็นแบบนั้นเถอะฮะ

     ใช้เวลาเพียงไม่นานสารถีรูปหล่อเชวซีวอนก็พาฮีชอลกลับมายังบ้านหลังเล็กแสนอบอุ่น ทุกครั้งที่กลับจากการทำงานที่แสนเหน็ดเหนื่อยก็จะมีน้องชายคนเล็กออกมาต้อนรับถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ การพูดคุยของสองพี่น้องที่เต็มไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะ แต่วันนี้กลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง เงียบเหงาไร้เงาของน้องชาย...คิมแจจุง

คุณซีวอนเข้ามาก่อนสิฮะเอ่ยปากชวนในฐานะเจ้าของบ้าน

     มือบางไขกุญแจประตูรั้วแต่ก็ต้องแปลกใจเพราะว่าลูกกุญแจที่ควรจะล็อคไว้อย่างแน่นหนาแต่ทว่ามันกลับไม่ได้ล็อคเอาไว้...หรือว่าแจจุงจะกลับมาแล้วจริงๆ เท้าเล็กไม่รอช้าที่จะก้าวเข้าไปและอะไรบางอย่างที่ฮีชอลเห็นทำให้เท้าเล็กหยุดนิ่งก้าวขาไม่ออก
     ร่างที่นอนสลบอยู่ตรงหัวบันไดของบ้าน ใบหน้าซีดขาว รอยฟกช้ำและรอยเลือดแห้งกรังไปทั่วร่างกาย  เสื้อผ้าที่ขาดหลุดลุ่ย ดูก็รู้ว่าต้องผ่านเรื่องไม่ดีมามากแค่ไหน

จะ...แจ...แจจุง!”ออกแรงเขย่าปลุกคนที่ไร้สติให้ตื่นขึ้นมาพูดจาอะไรบ้างให้ใจได้พอชุ่มชื้นคลายความหวาดกลัวในจิตใจแต่ก็ไร้ผล

เรารีบพาแจจุงไปโรงพยาบาลก่อนดีกว่าดูอาการแกน่าเป็นห่วงมากเลย ซีวอนช้อนร่างแจจุงขึ้นมา ฮีชอลจึงรีบวิ่งไปเปิดประตูรถ พร้อมกับทำหน้าที่พี่ชายที่ดีอยู่ไม่ห่าง

แจจุงตื่นสิ...ฮึก...ได้ยินที่พี่เรียกมั้ย...อย่าเป็นอะไรไปเลยนะ...ฮึก...แล้วพี่จะอยู่กับใครล่ะแจจุง...ฮือๆๆตลอดระยะทางจากบ้านมาถึงโรงพยาบาลฮีชอลไม่คลาบอ้อมกอดออกจากแจจุงเลยสักนิดเดียว คำพูดและเสียงสะอื้นไห้มีมาให้ได้ยินตลอดระยะทางที่ซีวอนขับมาแต่ก็ไม่ได้เข้าไปในโสตประสาทของคนที่ไร้สติอย่างคิมแจจุงเลย  เมื่อมาถึงที่หมายบุรุษพยาบาลก็วิ่งกรุกันเข้ามารับตัวร่างบาง แผนกฉุกเฉินที่ดูเหมือนยังจะวุ่นวายไม่พอกลับต้องชุลมุนวุ่นวายมากยิ่งขึ้นกว่าเก่าเป็นเท่าตัว

เอ่อ...ญาติคนไข้รอด้านนอกนะคะพยาบาลสาวพูดพร้อมกับปิดบานประตูลง แต่ก็ยังมองเห็นความเคลื่อนไหวภาพในจากบานประตูสีขุ่น

ฮึก...ฮือๆๆๆมือหนาประคองกอดให้ร่างบางไม่รู้สึกว่าตนเองนั้นต้องโดดเดี่ยวอย่างที่เคยเป็น
แจจุงต้องไม่เป็นอะไร...ฮีชอล


     เมื่อมาถึงยังคอนโดของตัวเองยุนโฮก็ไม่รอช้าที่จะผลักบานประตูที่แสนจะเกะกะและขวางทางช่วงขาที่ยาวก้าวตรงไปยังห้องนอนโดยไม่ทันได้สังเกตเห็นเพื่อนร่างโปร่งที่กำลังนั่งมองดูอาการลุกลี้ลุกลนของตนเองอยู่  ห้องนอนที่ว่างเปล่าก็ให้คำตอบกับชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี ยุนโฮคิดผิดดูถูกในตัวร่างเล็กเกินไปทั้งๆที่คิดว่าการที่ตื่นจากความเมื่อยล้าก็ถือว่าทำได้เก่งแล้วแต่นี่กลับมาหนีเค้าไปได้อย่างไร้ร่องลอย...เขาผิดเองที่ชะล่าใจเกินไป ดวงตาสีดำเข้มฉายแววโกรธเกรี้ยวและเสียดาย...เสียดาย?

เค้าไปแล้วล่ะน้ำเสียงที่ไม่ต้องหันไปมองยุนโฮก็รู้ดีว่าเป็นเสียงของใคร ใบหน้าหล่อร้ายหันขวับไปยังเจ้าของคำพูดที่ดูจะสะใจในน้ำเสียงซะเหลือเกิน

ไปแล้ว...ไปนานรึยัง?

ก็สักพักก่อนนายกลับ

โธ่เว้ย!”เตะโซฟาตัวนุ่มเพื่อระบายความโกรธ

แล้วทำไมแกไม่ห้ามมันไว้

ก็มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของชั้นนี่...หึคำพูดที่ฟังดูสบายๆของชางมิน ยุนโฮล่ะเกลียดมันซะจริงๆแต่จะไปทำอะไรได้

บอกชั้นมาให้หมดว่ามันเกิดอะไรขึ้น?

     ห้องนอนสุดหรูถูกปรับเปลี่ยนโหมดให้กลายมาเป็นห้องสอบสวนโดยคนที่สอบปากคำก็ไม่ใช่ใครที่ไหน...ชิม ชางมินเพื่อนคนสนิท

แกจะถามทำไมว่ะก็เห็นๆกันอยู่ทำไมต้องอธิบายให้เสียเวลาทุกอย่างที่เห็นก็น่าจะเป็นคำตอบให้กับคนช่างถามอย่างชางมินได้ดีอยู่แล้ว

แกบังคับเค้ามาใช่มั้ย?

ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชั้นบังคับหรือว่าเค้าเต็มใจมากับชั้นกันแน่...แกคิดว่าไงว่ะ55+ท่าทางที่ไม่เป็นเดือดเป็นร้อน เสียงหัวเราะที่ไม่น่ารื่นรมเอาเสียเลย เรื่องแบบนี้ไม่ใช่แค่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น แต่ทุกครั้งที่เมาชอง ยุนโฮคนนี้ก็จะจำอะไรไม่ได้สักอย่างเดียว แต่ที่น่าแปลกสิ่งที่ยุนโฮจำได้อย่างแม่นยำและยังคงแจ่มชัดอยู่ในหัวสมองก็คือ ใบหน้า ร่างกาย เสียงครางหวานหู

ยุนโฮกลับจำมันได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ไอ้ยุน!”เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของชางมินว่าไม่ได้มีอารมณ์ร่วม(?)ไปกับตนด้วย ยุนโฮก็เลยต้องรีบสารภาพความจริงทั้งหมดออกมาซึ่งก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีไปกว่าเก่าเลยสักนิด...กวนประสาท

ไม่รู้อ่ะ...จำไม่ได้...รู้แต่ว่าร่างกายชั้นมันมีความสุขมากๆเลยหวะตอนที่...

ตอนที่แกได้ขืนใจเค้าอ่ะหรอ...ไอ้เลว!”

อืม ก็คงจะประมาณนั้นใบหน้าคมคายหันหนีคำพูดที่กวนโสตประสาทและบาทาเบื้องล่าง ถ้าไม่ติดว่าเป้นเพื่อนกันามานานแสนนานชางมินคงได้ชกปากยื่นๆของไอ้เพื่อนห่ามๆคนนี้ไปนานแล้ว

แล้วจะเอาไงแกไม่กล้วเค้ามาเอาเรื่องแกหรอ?...หรือว่าเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นบ่อยจนแกชินไปซะแล้ว?ร่างโปร่งเอ่ยวาจาประชดประชันออกไป

อ่า...ไอ้มินแกดูเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเด็กนั่นจังเลยนะ ชั้นเป็นเพื่อนแกแท้ๆแต่กลับมาด่าชั้นฉอดๆแบบนี้มันน่าน้อยใจ

แล้วถ้าไม่ให้ชั้นด่าแก แกจะให้ชั้นไปด่าเด็กคนนั้นหรือไง?

ถ้าหากว่ายัยเด็กนั่นจะอาเรื่องชั้นขึ้นมาจริงๆล่ะก็  ชั้นก็พร้อมเสมอ...รู้ที่อยู่ชั้นแล้วหนิ

เฮอะ!...แกนี่มันเลวได้โล่จริงๆ ตามใจอยากทำอะไรก็ทำชั้นไม่เอากับแกด้วยแล้ว!”ว่าจบก็เดินออกไปทันที เบื่อที่จะต้องมานั่งต่อกลอนกับคนไร้หัวใจ และไอ้ที่ชางมินเป็นเดือดเป็นร้อนแทนก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าความสงสารเลยจริงๆ เค้าก็แค่ทนเห็นสายตาไม่ได้  สายตาที่เจ็บปวดและหวาดกลัว เด็กผู้ชายตัวเล็กๆถูกทารุณแบบนั้นมันคงจะเลวร้ายน่าดูสำหรับความรู้สึกที่ได้รับ สุภาพบุรุษอย่างเค้าทนเห็นไม่ได้จริงๆ...น่าสงสาร



     ทั้งฮีชอลและซีวอนนั่งรอตั้งแต่ที่บานประตูปิดลงเมื่อสี่สิบห้านาทีก่อนแต่แล้วการรอคอยอย่างใจจดใจจ่อและแสนจะทรมานก็สิ้นสุดลง  เมื่อบานประตูเปิดออกบุรุษพยาบาลเข็นเตียงที่มีร่างบอบบางของแจจุงนอนอยู่ออกมาพร้อมกับสายน้ำเกลือระโยงระยางและคุณหมอเจ้าของไข้

ญาติคนไข้เชิญทางนี้ครับ

ห้องประจำตำแหน่งของนายแพทย์วัยกลางคนถูกจัดไว้เพื่อรองรับญาติของคนไข้

เชิญนั่งครับ

เอ่อ...น้องชายผมเป็นยังไงบ้างครับ?  แกไม่ได้เป็นอะไรมากใช่มั้ย?คำถามร้อนรนไม่รอช้าที่จะเอ่ยถามออกไปในทันที

คืออย่างนี้นะครับ  หมอยังบอกอะไรมากไม่ได้ต้องรอดูตอนที่คนไข้ฝื้นอีกที...ร่างกายภายนอกที่ถูกทำร้ายถึงจะไม่มากแต่น้องคุณยังเด็กอยู่มากคงต้องใช้เวลาในการฝื้นตัวสักพักน่ะครับ

ครับ...แค่นี้ใช่มั้ยครับแจจุงแกไม่ได้เป็นอะไรมากใช่มั้ยครับคุณหมอ?

เอ่อ  หมอขอถามตรงๆเลยนะครับน้องคุณไปทำอะไรมารึป่าว?  ถึงร่างกายภายนอกเหมือนแค่ถูกทำร้ายมาเฉยๆแต่...

แต่อะไรครับ?

ช่องทางด้านหลังของคนไข้...ฉีกขาดมีอาการอักเสบและระบมไปหมด ตอนนี้หมอทายาให้แล้วล่ะครับ

คุณหมอ...หมายความว่าไงครับ?

คือถ้าให้พูดกันตรงๆมีอยู่สองสาเหตุหลักๆด้วยกันคือถูกสิ่งแปลกปลอมล่วงล้ำและเกิดจากการร่วมเพศแบบชายรักชายที่รุนแรงน่ะครับ

ไม่จริง!  นี่คุณหมอกำลังจะบอกว่าน้องผมถูกข่มขืนงั้นหรอครับ...แต่เค้า...เค้า...ไม่อยากจะเชื่อเลย...ฮือๆ

ฮีชอลใจเย็นๆก่อน...เอ่อ...แล้วยังไงต่อครับคุณหมอ

หมอกลัวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะส่งผลกระทบต่อจิตใจของคนไข้น่ะครับ...เคยเครสแบบนี้มาแล้ว

ฮึก...ยังไงหรอครับ...ฮือๆ

ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของเหตุการณ์ด้วยครับเพราะคนไข้ยังเด็ก  หมอเกรงว่าถ้าคนไข้ตื่นขึ้นมาแล้วอาจจะมีอาการหวาดกลัวหรือหวาดระแวงน่ะครับฮีชอลยกมือขึ้นปิดปากก้อนขมๆที่คอมันช่างฝืดและกลืนยากซะเหลือเกิน

หมอว่าคุณกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะครับ...ยังไงซะก็ต้องรอให้คนไข้ฝืนขึ้นมาก่อนอยู่ดี

ฮีชอลปฏิเสธลูกเดียวว่าจะอยู่เฝ้าแจจุงจนกว่าน้องชายสุดที่รักของเขาจะตื่นขึ้นมาเลยต้องเดือดร้อนซีวอนในการใช้ลูกไม้และเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวต่างๆที่มีให้ฮีชอลยอมกลับไปบ้านเพื่อที่จะได้พักผ่อน  หากแต่ความพยายามทั้งหมดก็หาได้สำเร็จไม่

งั้น...ถ้านายไม่กลับชั้นก็จะอยู่กับนายที่นี่นี่แหล่ะ

ไม่ได้นะครับ...คุณควรจะกลับไปพักผ่อนที่บ้านอย่าห่วงผมเลยครับผมอยู่ได้

ฮีชอลทีนายยังดื้อกับชั้นได้เลยแล้วทำไมชั้นจะดื้อกับนายบ่างไม่ได้ล่ะ  อีกอย่างชั้นเป็นเจ้านายเธอนะ!  อย่าห่วงเลยนายดูแลแจจุงไปเถอะส่วนชั้นจะดูแลนายเองว่าจบก็ห่มผ้าให้กับคิมคนพี่ที่นั่งเฝ้าน้องชายอยู่ไม่ห่าง ส่วนซีวอนก็หลบไปนั่งที่โซฟาตัวเล็กที่จัดไว้สำหรับแขกผู้มาเยี่ยม

ถ้านายเมื่อยก็มานอนตรงนี้ได้นะซีวอนพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม

ไม่เป็นไรฮะ...ราตรีสวัสดิ์ครับคุณซีวอน

อืม  เช่นกัน...ราตรีสวัสดิ์



     ซีวอนพาฮีชอลกลับไปที่บ้านเพื่อทำธุระส่วนตัวที่บ้านและแวะซื้อของใช้ของกินต่างๆในการเฝ้ายามโดยไม่ลืมที่จะซื้อช่อดอกไม้เพื่อตกแต่งห้องให้ดูมีชีวิตชีวาสำหรับคนไข้ที่กำลังป่วย

     คนไข้ในชุดผู้ป่วยสีฟ้าอ่อนที่หลับมานานถึง 1 วันเต็มๆ แพรขนตาหนากระพริบถี่ๆสิ่งแรกที่แจจุงเห็นคือเพดานขาวที่มองยังไงก็ไม่ใช่ห้องนอนของตนเอง...แล้วตัวเค้าอยู่ที่ไหนกัน  สมองค่อยๆลำดับเหตุการณ์ช้าๆและภาพเหตุการณ์เลวร้ายก็เริ่มฉายย้อนเข้ามาในหัวให้คนตัวเล็กได้หวาดกลัวเล่น  แผ่นหลังบางค่อยๆพยุง ลุกขึ้นมานั่งบาดแผลช่วงล่างที่อักเสบก็ส่งผลความรู้สึกเจ็บปวดราวกับร่างทั้งร่างจะแตกแยกออกจากกัน นิ้วเรียวยกขึ้นปาดน้ำตาแห่งความหวาดกลัวและเจ็บปวดในคราวเดียวกันที่กำลังไหลรินออกมาไม่หยุด  สายน้ำเกลือที่ข้อมือด้านขวาก็ทำให้แจจุงพอจะเดาออกว่าตัวเองนั้นอยู่ที่ไหนแต่ก็หาได้ใส่ใจ  ตอนนี้ที่แจจุงคิดคือออกไปจากห้องสีเหลี่ยมเล็กๆนี้  เป็นเวลาเดียวกับที่ฮีชอลและซีวอนกลับเข้ามาพอดี

แจจุงลุกขึ้นมาทำไม...อยากเข้าห้องน้ำหรอ?เมื่อบาดแผลและร่องรอยต่างๆตามร่างกายของน้องชายดูทุเราลงถึงจะไม่มากแต่ก็ทำให้คนที่เป็นพี่ได้โล่งใจขึ้นมาได้เปราะนึง  อ้อมกอดที่แสนอบอุ่นตรงเข้าประคองกอดน้องชายด้วยความรักและคิดถึง...แต่ทว่า  แรงต้านจากแจจุงส่งผลให้ฮีชอลเซและถอยหลังไปหลายก้าว

อย่า...อย่าเข้ามา...ผม...ผมกลัวแล้ว...กลัวแล้วก้มหน้าก้มตาปัดป้องตนเองออกจากอ้อมกอดของคนตรงหน้า...ปฏิเสธอ้อมกอดที่ปลอดภัยที่สุดจากพี่ชายแต่ร่างเล็กในตอนนี้ไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย ความทรงจำยังคงคิดถึงแต่คนใจร้ายคนนั้นที่ทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจจนไม่เหลือชิ้นดี

จะ...แจจุง

ผมบอกว่าอย่าเข้ามาไงล่ะ...อกไปให้พ้น!”

แจจุง...พี่เอง...นี่พี่เอง...พี่ฮีชอล...ของแจจุงไงพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

ฮึก...พี่...ฮีชอลหรอฮะ?ดวงหน้าหวานเงยขึ้นสบกับเจ้าของคำพูดเมื่อครู่  ดวงตาที่เอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำใสพินิจมองคนตรงหน้าใหม่อีกครั้ง

ใช่แล้ว...พี่คือพี่ชายของแจจุง...พี่ฮีชอล...ไม่ใช่...คนเลวคนนั้น

     จากที่หวาดกลัวแจจุงกลับพุ่งทะหลาเข้าไปกอดพี่ชายด้วยความคิดถึงและหวังจะให้อ้อมกอดนี้ปกป้องตนเองจากฝันร้ายที่แจจุงภาวนาให้มันเป็นแค่เพียงเรื่องที่ไม่มีวันเกิดขึ้นจริง...เป็นไปไม่ได้

พี่อยู่นี่แล้ว...ไม่ต้องกลัวนะไม่มีใครมาทำอะไรน้องชายคนนี้ของพี่ได้

ฮึก...แจจุงกลัวฮะ...กลัวมัน...ฮือๆๆร่างกายที่สั่นเทาไปด้วยความหวาดกลัวและแรงสะอื้น ฮีชอลค่อยๆพาแจจุงนอนลงบนเตียงเหมือนเดิม นิ้วเรียวค่อยๆเช็ดไล่หยาดน้ำตาบนใบหน้าหวานให้หมดไปแต่มันช่างเป็นไปได้ยากเมื่อแจจุงยังคงร้องไห้ต่อไปไม่หยุด

เล่าให้พี่ฟังได้มั้ยว่ามันเกิดอะไรขึ้น?ทั้งที่พยายามจะข่มใจไม่พรั่งปากถามเพราะรู้ว่าแจจุงคงยังไม่พร้อมที่จะเล่าอะไรตอนนี้ให้ฟังแต่ความสงสัยที่มีอยู่มากกลับทำให้ฮีชอลเผลอถามออกไป

ฮึก...มันน่ากลัวฮะพี่ฮีชอล...แจจุงกลัว

มันเป็นใคร...มันทำอะไรแจจุง...บอกพี่!”ด้วยความโมโหบวกกับความร้อนใจ เหมือนเป็นการกดดันแจจุงมากยิ่งขึ้นไปอีก แล้วเส้นสติที่แสนจะบอบบางของคนเรา มันเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมไว้ได้หากเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้นกับตัวของเราเอง  แจจุงเองก็เช่นกันร่างเล็กไม่สามารถควบคุมสติของตนเองไว้ได้อีกต่อไปเมื่อความกลัวเข้าครอบงำจิตใจ เส้นสติที่ว่าเหมือนโดนของมีคมตัดให้ขาด...ออกจากกัน

กรี๊ด!...อ๊าก!...ไม่อย่าเข้ามานะ...ผมเจ็บ...กลัว...แล้ว...ไอ้เลว!”แขนผอมยกขึ้นเพื่อป้องกันตนเองอีกครา เท้าเล็กจิกเกรงกระเถิบพาตนเองไปอยู่บนหัวเตียง  นั่งชันเข่าก้มหน้าก้มตาร้องไห้อย่างน่าสงสาร

ฮีชอลยืนมองน้องชายอย่างหมดเรี่ยวแรงใช่ว่าแจจุงจะเจ็บปวดคนเดียวซะเมื่อไหร่คนเป็นพี่คนนี้ก็ไม่ต่างกันนักหรอก...หัวใจสลาย


                                ใครกันที่ทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้
                                ใครกันที่ทำให้น้องชายของเขาต้องเป็นแบบนี้...ไม่รู้เลย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น