2554/02/25

[Fic] หมอ...llจิตll Part…7 มอง (การกลับมาของชอง ยุนโฮ! ตอนที่2)


Title : [Fic] หมอ...llจิตll
Writer : GroupBee + KJW
Couple: YunJae , YooSu , Changmin
Genre : Drama , Erotic
NC :  ?

Part…7  มอง (การกลับมาของชอง ยุนโฮ! ตอนที่2)



อะ...อุ๊บ...จุ๊บ!”

-------------------------------------------------------------------

นี่มันเกิดอะไรขึ้น ผมกำลังกำลังทำอะไรอยู่

จูบ

ผมกำลังจูบกับยูชอนไม่จริงใช่มั้ยครับ?  เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ความฝันใช่หรือเปล่า?

นี่มันไม่ใช่ความฝันนี่ฮะ! ...แต่มันคือเรื่องจริง จูบแรกในชีวิตของผมถูกผู้ชายตรงหน้าขโมยไปแล้ว คนที่ผมตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นแล้วผมควรจะทำยังไงกับตอนนี้ดีล่ะ???

ติ๊ก...!

ผมควรจะต่อต้าน???

ต๊อก...!

หรือว่าจะจูบตอบ???


~                   ~ 


ในขณะที่เรียวปากบางยังคงปล่อยค้างไว้กับริมฝีปากนุ่มๆของยูชอนและก่อนที่จุนซูจะได้ตัดสินใจในเรื่องที่ลังเลอยู่ทว่าเสียงโทรศัพท์ก็ดังขัดขึ้นมา ไม่รู้ว่าเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจหรือจะเป็นสิ่งที่ขัดจังหวะสำหรับจุนซูกันแน่...คนเดียวที่รู้คำตอบของการตัดสินใจที่ว่าก็คือตัวของจุนซูเอง

วะ...ว่าไงแจจุงคนตัวเล็กรีบถอนริมฝีปากออกมาหยิบโทรศัพท์ด้วยมือที่สั่นเทาก่อนจะกดรับและกรอกเสียงลงไป

เป็นอะไรหรือป่าวจุน...เสียงสั่นเชียว

ป่าวนี่

นายถึงบ้านหรือยัง?

เอ่อ...คือ

ยังหรอ...แล้วนายอยู่ไหน?

แจจุงคือว่า...พอดีชั้นเจอคนรู้จักก็เลยแวะคุยกันแต่เค้าเมามากแล้วตอนนี้ก็นอนหลับไปแล้วด้วย...ชั้นควรจะทำไงดีอ่ะ?

อืม...งั้นหรอ...ถ้าอย่างงั้นนายก็ลองเอามือถือของเขาหาเบอร์คนที่น่าจะเป็นญาติให้มารับตัวไปสิแจจุงแนะ

จริงด้วย...ทำไมชั้นถึงคิดไม่ออกนะ

นั่นดิ...ทุกทีจุนซูของชั้นออกจะฉลาดหลักแหลมแล้วเรื่องแค่นี้ทำไมถึงคิดไม่ออกหรือว่าจะไปเจออะไรดีๆมาทำให้นายลืมอะไรต่อมิอะไรไปหมด

ป่าวสักหน่อย...งั้นแค่นี้ก่อนนะ...บายจุนซูรีบบอกลาคนที่ชอบจับผิดก่อนจะกดตัดสายวางไปก่อนที่จะถูกจับได้แบบทุกๆครั้งที่ผ่านมา...เกือบไปแล้ว  ฝ่ามือที่พึ่งจะหยุดสั่นเมื่อครู่ค่อยๆกดหารายชื่อของคนที่ยูชอนน่าจะรู้จักมากที่สุด ไอ้ตัวแสบ และจุนซูก็มาสะดุดกับชื่อนี้มากที่สุดก่อนจะกดโทรออก...




หลังจากที่แจจุงวางสายจากจุนซูไปพี่ฮีชอลก็กลับมาพอดี แจจุงวิ่งออกไปเปิดประตูต้อนรับอย่างที่เคยทำอยู่เป็นประจำ

เป็นอะไรฮะใครทำพี่หน้าบึ้งเป็นตูดลิงได้ขนาดนี้เนี่ย...พี่ซีวอนหรอ?

...........

เดี๋ยวผมจัดการให้เองอยู่ไหนฮะ?กำปั้นเล็กต่อยไปยังมืออีกข้างใบหน้าทีเล่นทีจริงทำให้คนเป็นพี่ต้องเปรยยิ้มบางๆออกมา

ซีวอนเค้ากลับไปแล้วล่ะ

งั้นผมแปะไว้ก่อนก็ได้...พี่ซีวอนนะพี่ซีวอนดูเหมือนแจจุงจะยังเข้าใจผิดอยู่ฮีชอลเลยต้องรีบแก้ต่างให้กับแฟนตัวเอง

ไม่เกี่ยวกับซีวอนหรอก...เรื่องที่พี่สอบคัดตัวไม่ผ่านต่างหากพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวัง  ฮีชอลอาจจะตั้งใจและก็มั่นใจในตัวเองมากเกินไปเลยไม่ได้เผื่อใจเอาไว้กับผลที่ไม่หน้ายินดีแบบนี้

ไม่ได้ก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนี่ฮะ...พี่ทำเต็มที่แล้วไม่ใช่หรอ?

แต่พี่เสียใจ...แจจุงไม่ผิดหวังหรอที่พี่ทำไม่สำเร็จฮีชอลอยากให้แจจุงมองเค้าเป็นต้นแบบ

ผมบอกไม่ถูกหรอกครับ...แจจุงแค่รู้สึกเสียใจแล้วก็ดีใจในเวลาเดียวกัน

ยังไงหรอ?

ก็เสียใจที่พี่ไม่ผ่านการคัดเลือกเพราะมันคือความใฝ่ฝันของพี่แต่ที่ดีใจก็เรื่องเดียวกันนั่นแหล่ะฮะเพราะถ้าพี่ผ่านการทดสอบพี่ฮีชอลก็ต้องไปต่างประเทศตั้งหลายเดือนแล้วแจจุงก็คงจะเหงาถ้าพี่ไม่อยู่

อ่า...ไม่ต้องมาทำเป็นปากหวานเลยนะเรา...พี่คงดูใจร้ายมากเลยถ้าเลือกความฝันของตัวเองแล้วต้องทิ้งแจจุงไป

ไม่หรอกฮะพี่ฮีชอล...เรื่องนั้นมันแค่เล็กน้อยถ้าเทียบกับอนาคตที่ดีของพี่น่ะ...โอกาสหน้ายังทีผมเชื่ออย่างนั้นครับคำพูดปลอบใจของน้องชายทำให้ฮีชอลรู้สึกดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

แจจุงน้องพี่โตแล้วจริงๆ...ขอกอดทีสิบรรยายกาศรอบตัวช่างดูอบอุ่นคงเพราะความรักของสองพี่น้องตระกลูคิมที่มีให้ต่อกัน



~                   ~ 

ว่าไงฮะพี่กดรับก่อนจะกรอกเสียงหวานลงไปยังเครื่องมือสื่อสาร  หลังจากที่ได้รับโทรศัพท์จากผู้หวังดีที่โทรมาบอกถึงความเป็นไปของพี่ชาย ยูฮวานก็รีบออกจาหอแล้วมายังสถานที่ที่ได้บอกเอาไว้

แฮ่กๆ...เอ่อคุณคือ...???

มาแล้วหรอฮะ?จุนซูดูมีสีหน้าดีใจเมื่อคนที่เขาคิดว่าน่าจะรู้จักกับยูชอนยอมมาตามคำขอร้องของเค้า

พี่ยูชอนเรียวแขนยาวเอื้อมไปสะกิดคนที่ยังคงหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว

เค้าหลับไปนานแล้วล่ะฮะเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่นจุนซูอธิบาย

เอ่อหรอฮะ...ขอบคุณคุณมากเลยนะฮะ ผมปาร์ค ยูฮวานฮะถ้าดูจากสีหน้าค่าตาถึงไม่บอกจุนซูก็พอจะเดาออก

ผมคิม จุนซูเป็นลูกศิลษ์ของ...ครูยูชอนฮะเอื้อมมือไปจับอย่างมีไมตรี

คุณจุนซูเป็นลูกศิลย์ของพี่ยูชอนหรอฮะเนี่ย...ฮ่าฮา...ผมนึกว่าคุณจุนซูเป็นแฟนกับเฮียเค้าซะอีกยูชอนพูดแซวเล่น แต่ก็ทำให้คนฟังถึงกับหน้าแดงเป็นลูกเมือเขือเทศสุก >//<

อ่า...คุณยูฮวาน

ผมล้อเล่นน่ะฮะ...แต่มันก็น่าแปลกคุณจุนซูลองคิดดูสิฮะพี่ยูชอนไม่เคยเมาหมดสภาพแบบนี้ให้ใครเห็นมาก่อนถ้าไม่ใช่ผม ครอบครัวแล้วก็...

ก็จุนซูพูดตามพร้อมกับอ้างปากค้างเอาไว้อย่างนั้นตั้งใจฟังคำพูดต่อไปของยูฮวาน

ก็คนเป็นแฟนน่ะสิฮะ...ผมถึงได้เข้าใจผิดคิดว่าคุณเป็นแฟนกับเฮียจริงๆ...ถือว่าเป็นบุญตาเลยนะฮะเนี่ย^^”ยูฮวานยังคงอารมณ์ขันต่อไป

เอิ่ม...ฮ่าฮา...คุณนี่อารมณ์ขันจังเลยนะครับจุนซูพูดจาแก้เขิน

ป่าวฮะ...ผมพูดจริงๆ

เอ่อ...คือผมคงต้องกลับก่อนแล้วยังไงคุณยูฮวานก็ขับรถดีๆนะฮะ...ผมขอตัวกลับก่อน^^”

เดี๋ยวสิฮะให้ผมไปส่งดีกว่านะ

แต่ว่า...

ให้ผมไปส่งเถอะฮะ...ถือซะว่าเป็นการขอบคุณที่คุณจุนซูช่วยดูแลพี่ยูชอนตอนเมาอีกอย่างถ้าพี่ยูชอนรู้ว่าผมปล่อยให้คุณกลับบ้านเองตอนดึกๆแบบนี้...มีหวังเฮียได้เอาเลือดหัวผมออกกันพอดี...55

เมื่อพูดออกมาแบบนี้แล้วคนตัวเล็กก็ไม่รู้ว่าจะปฏิเสธไปอย่างไรจุนซูเลยได้แต่ยอมทำตามที่ยูฮวานบอก  จุนซูและยูฮวานนั่งเบาะหน้าส่วนยูชอนน่ะหรอนอนหัวทิ่มหัวตำอยู่เบาะหลังโน่น...- -+  และด้วยความที่ทั้งสองอายุไม่ห่างกันมากนักจึงมีเรื่องให้หยิบมาพูดได้ตลอดทางจนถึงบ้านของจุนซู

ขอบคุณนะยูฮวาน

ครับผม...ไปก่อนนะจุนซู...บาย^^”สรรพนามที่ถูกใช้เรียกก็เปลี่ยนตามไปด้วยจุนซูยืนส่งจนรถที่แล่นลับสายตาไป



     เช้าวันใหม่ของสัปดาห์รุ่งเช้าที่แสนสดใสพร้อมที่จะให้เหล่าคนทำงานได้ออกไปทำตามหน้าที่  หากแต่เวลานี้ก็ยังมีใครบางคนที่ยังคงหลับใหลนอนแผ่อยู่บนเตียงนอนของน้องชาย ยูฮวานเดินออกมาจากห้องน้ำสวมใส่เสื้อผ้าในชุดลำลองสบายๆหลังจากที่อาบน้ำเสร็จก็ยังไม่มีวี่แววว่าคนขี้เซาจะตื่นขึ้นมาเลย ดวงตาคู่สวยเพียงแค่เปรยมองด้วยหางตาก่อนจะจิ๊ปากอย่างขัดใจ

เฮีย...เฮีย

หื้มมม!!!”ยูชอนไม่ค่อยพอใจนักที่ถูกปลุก

ไม่ไปสอนหรอไง?...จากหอริคมันใช้เวลานานนะเหตุผลที่ยูฮวานพายูชอนมาที่นี่ก็เพราะเมื่อคอนกว่าจะไปส่งจุนซูและขับรถกลับมามันก็ดึกมากแล้ว  ยูชอนค่อยๆลืมตาตื่นจากการปลุกของน้องชายอาการปวดหัวจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์เป็นอะไรที่ยูชอนเกลียดที่สุด

อ่ะ...ดื่มนี่สิฮะจุนซูเค้าซื้อมาให้พี่ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วล่ะขวดแก้วสีน้ำตาลเข้มถูกส่งไปให้พร้อมกับชื่อของใครบางคนที่ลอยเข้าหูยูชอนเป็นการเรียกสติของชายหนุ่มได้ดียิ่งกว่าอะไร   จุนซู

จุนซู...ริคนายเห็นเด็กคนนั้นมั้ย?ถามออกมาอย่างร้อนใจ

คนไหนฮะ...คนที่ขาวๆอวบๆน่ารักๆอ่ะหรอ?

ใช่คนนั่นแหล่ะเห็นมั้ย? แล้วพี่มาอยู่ที่นี่ได้ไงอ่ะ

เรื่องมันยาวน่ะฮะ...ไว้ไปถามแฟนพี่เอาเองแล้วกัน...นี่พี่ไม่ไปสอนหรอฮะ?

เฮ้ย!...เที่ยงแล้วหรอ?ยังไม่ได้ตอบคำถามพอเห็นเวลายูชอนก็เด้งตัวกุลีกุจอเข้าห้องน้ำก่อนจะออกมาพร้อมกับชุดทำงานและไม่รอช้าที่จะมุ่งตรงไปยังมหาวิทยาลัย...



สายตาคู่หนึ่งที่กำลังจดจ้องร่างของใครบางคน
สายตาที่แสดงออกมาราวกับจะกลืนกิน
เป็นเหมือนราชสีห์ที่กำลังจ้องจะจับเหยื่อที่แสนอ่อนแอไร้ทางสู้รอจนกระทั่งเหยื่อที่ว่าชะล่าใจแล้วก็กลายมาเป็นอาหารอันโอชะในที่สุด 
ดวงตาคมเข้มไร้ความอ่อนโยนหากแต่ถ้าได้สบกับดวงเนตรคู่นี้คงเต็มไปด้วยความดุดัน โหยหา ความต้องการ??? 

    มอง
 ผมกำลังถูกใครบางคนจ้องมองจากที่ไหนสักแห่งรอบๆตัว 
เลยว่ามันช่างหน้ากลัวจับใจ
ราวกับความสุขในตัวของผมจะหมดไปแล้วแทนที่ด้วยความกลัวที่ผมสร้างมันขึ้นมา...หรอบางทีผมจะคิดมากไปเอง??? 

ใบหน้าที่ติดจะง้ำงอและครุ่นคิดถูกบดบังด้วยมือของหญิงสาว

โบอา

อ่า...แจอ่ะทายถูกอีกแล้ว

ก็ใครจะกล้าเล่นกับผมแบบนี้ถ้าไม่ใช่โบอาคำพูดอ้อนๆฟังดูเอาใจยังคงทำให้โบอาหน้าขึ้นสีทุกทีไป

ไม่ต้องมาปากหวานเลย

ป่าวสักหน่อยแจจุงบิดจมูกของหญิงสาวอย่างหมั่นเขี้ยว

โบอาหายใจไม่ออกนะ

ฮ่าฮา...งั้นหรอหญิงสาวยู่หน้าด้วยความขัดใจ

ไม่เป็นไรใช่มั้ย?

หึ...ไม่อ่ะ...แต่เจ็บจมูกมากกว่า

ไม่ใช่...คือผมหมายถึงเรื่องวันนั้น?

อย่าพูดถึงมันอีกเลย...โบอาลืมมันไปหมดแล้วล่ะ...แจจุงก็อย่าคิดมากนะรู้มั้ย?

อะ...อืม...ขอบใจนะโบอาเสียงโหวกเหวกโวยวายดึงความสนใจจากคนทั้งคู่

จุนซู!...คิม จุนซู!”เสียงแหบห้าวเอ่ยออกมาเสียงดังเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของยูชอน เสียงตะโกนที่ไล่หลังไม่ได้ทำให้จุนซูลดระดับฝีเท้าลงเลยจุนซูยังคงก้าวเดินอย่างไม่สนใจใครก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นวิ่งเพื่อให้หนีจากใครบางคนได้เร็วยิ่งขึ้น จุนซูยังไม่พร้อมที่จะเจอกับยูชอนในตอนนี้ไม่รู้ว่าเพราะอะไร...ความรู้สึกในใจไม่สามารถอธิบายออกมาได้

พรู่ว์ลมหายใจถูกถอนออกมาอย่างโล่งอกร่างเล็กหันตัวกลับมาจากตรงมุมตึกแล้วชนเข้ากับร่างบางอีกคนที่ดูเหมือนจะจงใจเดินมาดักทาง

อ๊ะ!!!”

“……….”

โถ่...แจจุงตกใจหมดเลย

ตกใจอะไรของนาย...นายวิ่งหนีใครมา?

ป่าวนะ...ชั้นป่าว

ชั้นไม่เชื่อ...นายโกหกมีอะไรปิดบังชั้นอยู่บอกมา...หนึ่ง...สอง...

เฮ้ย...บอกก็ได้...ไม่เห็นต้องมาขู่กันแบบนี้เลยTT”


-------------------------------------------------------------------------------

ห๊ะ!!!...อะไรนะ?

ชู่วร์...เบาๆสินายจะตะโกนไปทำไมกันแจจุง!”

ใครฟังก็ต้องตกใจ...จูบแรกของเพื่อนชั้นถูกชายหนุ่มนามว่าปาร์ค ยะ...ยะ...อุ๊บฝ่ามือเรียวยกขึ้นปิดปาดคนช่างเจรจา

พอเลย...หยุดพูดไปเลยก็ชั้นบอกแล้วไงว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ...เรื่องบังเอิญอ่ะเข้าใจมั้ย?จุนซูพยายาอธิบาย

บังเอิญอะไร...ก็แกบอกว่าเค้าดึงแกไปจูบชัดๆแจจุงพูดราวกับอยู่ในเหตุการณ์

แจจุง!”

อะไรเล่า...

ถ้านายยังไม่หยุดพูด...

อ่าๆ...หยุดพูดแล้วก็ได้แค่นี้ก็ทำมาเป็นเขิน...ดูสิหน้าแดงไปหมดแล้ว...ฮ่าฮาแจจุงพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังฟังชัดเหมือนเป็นการเรียกร้องให้ใครแถวนี้ได้หันมามอง

ชั้นไปซื้อน้ำก่อนดีกว่า -3- เดินผิวปากออกไปอย่างอารมณ์ดีปล่อยให้ร่างเล็กของจุนซูยืนหันหลังสะบัดก้นให้อย่างโกรธๆ

แจจุงไหนนายบอกว่าจะไปซื้อน้ำไง?ถามออกไปเมื่อไหล่บางถูกสะกิด

“……….”เมื่อไม่ได้รับคำตอบจุนซูเลยหันไปหาคู่สนทนาของตนหากแต่ไม่ใช่เพื่อนรักแจจุงแต่เป็น...

ยูชอน...เอ่อ...ครูยูชอน

เป็นอะไรไปเมื่อกี้นายวิ่งหนีชั้นทำไมหรอจุนซู?

ผมป่าวฮะ...จุนซูไม่ได้หนีปฏิเสธออกไปทั้งๆที่การกระทำมันตรงกันข้ามกับสิ่งที่พูด

แล้วนายไม่ได้ยินที่ชั้นเรียกหรอ?

ไม่ฮะ...ไม่ได้ยินก้มหน้าก้มตาตอบ

คิม จุนซู!”

ฮะน้ำเสียงที่เรียกฟังดูจริงจังซะจนคนตัวเล็กต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง

ทีนี้ได้ยินชัดรึยัง?

ฮะ

เอ่อ...ชั้นไม่ได้ตั้งใจจะตะคอกนายนะ...คือว่าชั้นมีเรื่องจะคุยกับนาย

............
เรื่องเมื่อคืน...ชั้นอยากจะขอโทษนายแล้วก็ขอบคุณนายน่ะจุนซู

ขอโทษแล้วก็ขอบคุณผมเรื่องอะไรหรอฮะ?เอียงคอถามอย่างน่ารัก

ก็เรื่องเมื่อวานที่ชั้นเมาแถมยังเดือดร้อนนายต้องมาเป็นธุระโทรตามน้องชั้นให้มารับอีก

อ้อ...เรื่องแค่นี้เอง จุนซูแค่ไม่อยากเห็นพี่ยูชอนต้องนอนโดนยุงกัดอยู่ข้างถนนน่ะฮะคำพูดหน้าตายของจุนซูดูเหมือนจะทำให้ยูชอนอับอายไม่น้อย...นอนข้างถนนเลยหรอ???

อะ...อืม

ฮ่าฮา...ล้อเล่นน่ะฮะ^^”

จุนซูคือ...ชั้นไม่ได้ทำอะไรที่มันแย่ๆกับนายใช่มั้ย?

อะ...เอ๋?

คือ...ชั้นไม่ได้ทำตัวแย่ๆกับนายใช่หรือป่าว?จุนซูจ้องมองใบหน้าของยูชอนที่มีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมาเต็มไปหมด  ยูชอนคงจำอะไรไม่ได้เลยเวลาเมาแล้วก็คงไม่มั่นใจในตัวเองถึงได้มาถามกับเค้าแบบนี้

ครูจำไม่ได้หรอฮะ?จุนซูถามเสียงเศร้ายูชอนได้แต่ส่ายหน้าแล้วพูดต่อ

ถ้าครูทำอะไรให้จุนซูไม่พอใจ...ครูขอโทษนะ

ช่างมันเถอะฮะ...เรื่องมันผ่านมาแล้วยิ่งจุนซูพูดแบบนี้แสดงว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆในความคิดของยุชอน จุนซูเตรียมตัวจะหันหลังเดินออกไปแต่ยูชอนก็เรียกเอาไว้ก่อน ยิ่งเห็นจุนซูเป็นแบบนี้เค้าก็ยิ่งไม่สบายใจ

ครูทำอะไรที่แย่ๆกับเธอใช่มั้ย?...บอกครูมาสิ!”

แล้วถ้าผมจะบอกว่าเมื่อคืนครูจูบผม...ครูจะเชื่อผมมั้ยฮะ?

อะไรนะ 0.0

ฮ่าอา...ไม่เห็นต้องตกใจขนาดนั้นเลย...จุนซูล้อเล่น^^”

จุนซูนายแกล้งชั้นหรอ...ไม่สนุกเลยนะยูชอนหน้าเสีย

มีอะไรรึป่าวฮะ?

ก็มันเหมือนกับที่ชั้นฝันน่ะ

ฝันว่าอะไรหรอครับ

ฝันว่าครูได้...เอ่อ...จูบกับนางฟ้า

ห๊ะ!!!”จุนซูอุทานออกมาเสียงแหลมจนนักศึกษาบริเวณรอบๆต่างหันมามอง

เบาๆสิ...มันไร้สาระใช่มั้ยล่ะ...แต่ถ้ามันไม่มีอะไรก็ดีแล้ว...ครูจะได้โล่งใจ

 ฮ่าฮา...ไม่เห็นจะไร้สาระตรงไหนเลยรู้สึกน้อยใจไม่น้อยที่ยูชอนคิดว่ามันเป็นแค่ความฝันแต่จะให้พูดอะไรไปมากกว่าล่ะ???

เอาไว้วันหลังครูจะพาจุนซูไปเลี้ยง...ถือว่าเป็นการแก้ตัวก็แล้วกัน^^”

ไม่ฮะ!...ผมจะไม่ไปกับครูแล้วขืนครูไปเมาอาละวาดแล้วผมจะทำยังไงอ่ะTT”

ครั้งต่อไปไม่มีแบบนี้อีกแล้ว...ครูสัญญายกนิ้วก้อยให้จุนซูได้เกี่ยวก่อนจะแปะโป้งแทนคำสัญญาที่ว่านี้

ไม่โกรธครูใช่หรือป่าว?ถามย้ำให้มั่นใจอีกครั้ง

ไม่ฮะ...จะโกรธครูได้ยังไงล่ะครูออกจะน่ารัก>//< ประโยคหลังจุนซูได้แต่พูดอยู่ในใจถึงแม้จะรู้สึกไม่ดีเลยจริงๆที่ยูชอนจำเรื่อง จูบ ไม่ได้แต่ยูชอนก็ดูมีความรับผิดชอบที่กล้ามาถามเค้าตรงๆแบบนี้...จุนซูให้อภัยฮะพี่ยูชอน^^

คาบเรียนยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆร่างเล็กที่เข้ามาช้ากว่าเวลาเรียนราวๆสิบห้านาทีเพื่อเคลียปัญหาหัวใจ??? เดินมายังข้างแจจุงอย่างเงียบเฉียบ

เคลียกันเรียบร้อยแล้วสิ?ใบหน้าสวยยังคงจ้องมองกระดาน

อื้ม >< ”จุนซูยิ้มจนหน้าบาน แจจุงไม่ได้พูดอะไรต่อเพียงแค่รอบยิ้มกับอาการเขินของคนข้าง

ก็ดีแล้ว

     เมื่อการเรียนสำหรับวิชาสุดท้ายของวันนั้นสิ้นสุดลงทั้งแจจุงและจุนซูก็รีบเก็บหนังสือตำราเรียนต่างๆเข้ากระเป๋า เพราะวันนี้ยังทีรายงานอีกสองเล่มรอให้เค้าทั้งคู่กลับไปทำ


~ หอพักคิม จุนซู ~

     รายงานเล่มหนาที่ช่วยกันทำใช้เวลาร่วมสี่ชั่วโมงถูกวางลงบนโต๊ะก่อนร่างบางทั้งคู่จะนอนแผ่อย่างหมดแรงและตอนนี้ก็ถึงเวลาที่แจจุงจะต้องกลับบ้านไปพักผ่อนสักที

จุนซู...ชั้นกลับก่อนนะ

ให้ชั้นไปส่งนายเอามั้ย?

ไม่...พอเลยชั้นกลับเองได้ ชั้นโตแล้วนะ

แล้วทีนายอ่ะทำอย่างกับชั้นเป็นเด็กไปได้

ก็นายมัยยังเด็ก...เด็กน้อยคิม จุนซู^^”แจจุงยกมือขึ้นลูบศรีษะกลมอย่างคนขี้แกล้ง

ไปเลยๆ...ชั้นส่งนายแค่นี้แหล่ะ...บายพูดจบก็รีบปิดประตูโดยไม่หันมาสนใจแจจุงอีก...จะมีมั้ยนะที่เค้าจะเถียงชนะแจจุงได้บ้างTT  แจจุงอมยิ้มก่อนเท้าเล็กจะก้าวเดินออกมาแต่ก็ไม่วายที่จะหันไปมองห้องของจุนซู ใบหน้าเล็กๆที่แอบมองจากหน้าต่างรีบหลบในทันทีพร้อมกับดับไฟเพื่อที่แจจุงจะได้มองไม่เห็นเค้าอีก  แจจุงเลยแกล้งตะโกนให้ดังๆเพราะรู้ว่าคนตัวเล็กยังแอบดูเค้าอยู่ไม่ไปไหน

ชั้นรู้จุนซู...นายยังแอบมองชั้นอยู่...อย่ามาทำเป็นขี้งอนไปหน่อยเลยนายไม่ใช่คนแบบนั้น...ฮ่าฮา...ฝันดีน้า^^”

     ระยะทางจากหอพักของจุนซูกับบ้านของแจจุงดูจะไกลกันพอสมควร อากาศที่ติดจะหนาวเย็นสังเกตได้จากควันสีขาวที่พ่นออกมาจากปลายจมูกและเรียวปากแห้ง  รถประจำทางสายประจำก็เหมือนจะหมดไปแล้วส่วนรถแท็กซี่ก็ยังไม่มีวี่แววที่จะผ่านมาสักคันคนตัวเล็กได้แต่ทำใจยอมรับชะตากรรม เท้าเล็กก้าวไปตามทางเท้าอย่างเหนื่อยอ่อนอะไรบางอย่างทำให้แจจุงต้องหยัดเดินและหันไปมอง

ว่างเปล่า

พยายามคิดไปว่าคงจะรู้สึกไปเองเพราะนอกจากตัวเค้าแล้วก็ไม่มีใคร

นายเป็นแบบนี้อีกแล้วนะ...แจจุง

ช่วงขาเรียวยาวรีบเดินให้เร็วขึ้นถึงแม้จะไม่มีอะไรแต่แจจุงก็รู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยและยังคงรู้สึกถึงการจ้องมองเหมือนมีใครบางคนกำลังติดตามเค้าอยู่  เสียงฝีเท้าที่ที่ได้ยินมาจากที่ไหนสักแห่ง จากที่เดินอยู่ก็เปลี่ยนเป็นวิ่งแทน แจจุงไม่คิดจะหันหลังกลับไปมองคนตัวเล็กออกแรงวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ แต่ข้อเท้าก็เกิดพลิกขึ้นมากะทันหันร่างทั้งร่างลอยและตกลงพื้นอย่างแรงด้วยความที่วิ่งเร็ว แรงที่ปะทะก็เลยหนักเอาการ

โอ้ย!”สีหน้าที่แสดงถึงความเจ็บปวด เมื่อเงยหน้าขึ้นมองรอบๆตัว

     เมื่อไม่พบใครแจจุงก็นึกโมโหตัวเอง น้ำตาเม็ดใสค่อยๆไหลยังปรางขาวอย่างเจ็บใจ เค้าเชื่อว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกไปเอง ไม่ได้หูฝาด แต่แจจุงกำลังถูกจ้องมองจริงๆ แล้วก็เป็นแบบนี้มานานร่วมสองอาทิตย์แล้ว  ซึ่งมันทำให้เค้ากลัวยิ่งพักหลังๆแจจุงรู้สึกว่าไม่ใช่เพียงแค่การจ้องมองแต่เหมือนดวงตาคู่นั้นมันติดตามเค้าไปทุกที

ฮึก...นายต้องเข้มแข็งสิแจจุง...อย่าให้ใครมาทำอะไรเราได้

เปล่าเลยไม่มีใครมาทำอะไร...แจจุงต่างหากที่กำลังทำร้ายตัวเองอยู่?

ยกมือขึ้นปาดน้ำตาก่อนจะพาร่างที่แสนเปราะบางพยุงตัวเองลุกขึ้นแล้วเดินต่อไป

มันไม่มีตัวตน...มันเป็นสิ่งที่นายคิดขึ้นมาเอง...ไม่...ไม่มีอยู่จริง!”ย้ำตัวเองให้ชัดๆอีกครั้งและออกเดินต่อไป โชคดีที่มีแท็กซี่ผ่านมาแจจุงไม่รอช้าที่จะโบกมือเรียก อย่างน้อยเค้าก็ไม่ต้องทนเจ็บเท้าเดินกลับบ้าน

เมื่อแจจุงขึ้นรถไปแล้ว ที่ตรงนั้นทางเท้าตรงนั้นก็ไร้เงาของร่างบางเมื่อครู่ ทางเท้าฝั่งตรงข้ามก็ปรากฏเงาดำๆของใครบางคน

 หรือเรื่องทั้งหมด...แจจุงจะไม่ได้คิดไปเอง?



     สถานที่ที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นยาก็คงจะหนีไม่พ้นสถานที่ที่ว่า...โรงพยาบาล  ร่างสูงของยุนโฮใบหน้าที่แช่มชื่นในชุดกราวด์สีขาวดูภูมิฐานผิดกับอีกคนที่ทำหน้าตาบึ้งตึงจนยุนโฮต้องเอ่ยปากแซว

นี่ชางมิน...จะไปรับรุ่นน้องหรือจะไปตายว่ะเนี่ย?...ดูทำหน้าเข้า

หยุดพูดไปเลย...อาจารย์หมอเค้าไม่ได้เลือกแกหนิ

ฮ่าฮา...นั่นมันถือว่าเป็นโชคของชั้นโว้ย!”

เอ่อ...ทีใครทีมันจำไว้เลยนะอาจารย์หมอนี่ลำเอียงได้อีกอ่ะในความคิดของชางมิน งานก็ออกจะล้นมือจนแทบจะท่วมหัวเค้าตายอยู่แล้วแต่อาจารย์หมอก็ยังสั่งให้เค้าไปรับรุ่นน้องอีก ชางมินเลยต้องวางมือจากงานกองโตเอาไว้แบบนั้น

โถ่...อย่ามาทำเป็นโกรธไปหน่อยเลย

ไม่รู้ล่ะ...วันนี้นายต้องดุแลคนไข้แทนชั้นด้วยไม่งั้นไม่หายโกรธโว้ย!!!”

ฮ่าฮา...เรื่องอะไรมาโยนกันแบบนี้อ่ะ...งานใหญ่เลยนะนั่น...ก็ได้ๆเห็นแกความเป็นเพื่อนของเราเลยนะเนี่ยยุนโฮเมื่อเห็นสีหน้าที่เหมือนจะร้องไห้ของชางมินก็เลยต้องรีบรับปากช่วยเหลือ

หรอ?...แล้วอย่างนี้ชั้นต้องกราบเท้านายด้วยมั้ยเนี่ย?...ไอ้ยุนชางมินกวนประสาท - -+

ฮ่าฮา...ได้ก็ดี

ไม่มีทาง...ไอ้หน้าหมี

งั้นก็ไปเลย...ไอ้หน้าเป็ด

ไม่ต้องไล่หรอก...ชั้นไปแน่!”เมื่อสิ้นสุดการปะทะคารมชางมินก็เดินออกไปอย่างสบายใจอย่างน้อยก็ได้โยนงานไปให้ยุนโฮเกือบครึ่ง...ขอบใจมากไอ้เพื่อนเลิฟ -3-

พยาบาลสาวที่เดินสวนมาพร้อมกับแฟ้มประวัติของผู้ป่วยดึงความสนใจจากยุนโฮ ร่างสูงขมวดคิ้วอย่างใช้ความคิด

เดี่ยวครับ...ผมขอดูแฟ้มอันนี้หน่อยพูดจบก็คว้าแฟ้มสีดำที่แสดงรายชื่อของคนไข้ขึ้นมาอ่าน

แฟ้มทั้งหมดนี้จะเอาไปไหนหรอครับ?

เอาไปไว้ให้คุณหมอชิมค่ะแต่วันนี้คุณหมอชิมไม่อยู่คงต้องหลัดเปลี่ยนคนไข้ให้กับคุณหมอท่านอื่นน่ะค่ะ

ของชางมินทั้งหมดเลยหรอครับ?

ใช่ค่ะ...ถ้าไม่มีอะไรแล้วดิชั้นขอตัวนะคะ

เดี๋ยวครับ...แฟ้มทั้งหมดนี้เดี่ยวผมจัดการเอง

เอ่อ...แต่...

ไม่มีแต่ครับ...ชางมินฝากงานวันนี้ไว้กับผม!”พูดด้วยเสียงดุๆ พยาบาลสาวเลยไม่กล้าขัดพร้อมกับส่งแฟ้มไปให้กับยุนโฮทั้งหมดก่อนจะเลี่ยงเดินออกไป  รับแฟ้มมาถือไว้ก่อนจะตรงไปยังห้องตรวจประจำ ความคิดมากมายกับแผนการอันชาญฉลาดผุดขึ้นเต็มหัวสมองของชายหนุ่มพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าที่ยากจะคาดเดาในห้วงอารมณ์


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น