Title : [Fic] หมอ...llจิตll
Writer : GroupBee + KJW
Couple: YunJae , YooSu , MinRic
Genre : Drama , Erotic
NC : 18+
Part…22 ความจริง
ซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ใจกลางเมือง คู่รักหวานชื่นอย่างฮีชอลและซีวอนกำลังเดินจับจ่ายใช้สอย เลือกซื้ออาหารทั้งของสดและอาหารแห้งมาเก็บเอาไว้ยามฉุกเฉิน ร่างบางเดินเลือกของมือบางหยิบนู่นหยิบนี่ใส่ในตะกร้าใบใหญ่ที่มีคนคอยเดินถือตามต้อยๆ ซีวอนเบ้หน้าด้วยความด้วยความหนัก แขนทั้งสองข้างเริ่มล้าและปวดเมื่อยจากการถือของเดินตามฮีชอลมานานร่วมชั่วโมง
“ฮีชอล...นายจะซื้ออะไรหนักหนาอ่าTT”เสียงอ้อยอิ่งเอ่ยถามแฟนสาว?ที่เห็นเค้าเป็นคนใช้ไปเสียแล้วในตอนนี้
“แล้วนายล่ะกินอะไรหนักหนา-3-”ย้อนกลับไปอย่างไม่เป็นเดือดเป็นร้อน ถ้าซีวอนไม่กินของในตู้เย็นจนหมดเกลี้ยงเขาก็คงไม่ต้องออกมาซื้อให้เสียเวลาแบบนี้
“ป่านนี้แจจุงคงนั่งรอนายที่บ้านแล้วมั้ง?”
“ไม่หรอก...แจจุงขอชั้นไปนอนที่บ้านจุนซูตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะ”พูดไปพรางก่อนจะหยิบนมสดขวดใหญ่ใส่ลงไปในตะกร้าอีกครา
“งั้นก็เท่ากับว่า...”ประโยคแสนเจ้าเล่ห์กระซิบข้างกกหูนิ่ม หยุดค้างเอาไว้แค่นั้นให้คนฟังคิดต่อเอาเอง แต่มีหรอที่ฮีชอลจะเดาทางซีวอนไม่ถูก
“ไม่ต้องมาหื่นใส่ชั้นเลยนะตาบ้า>//<”ด้วยความเขินอาย แรงที่ผลักชายหนุ่มจึงมีอยู่มาก แต่โชคดีที่ซีวอนเป็นคนแข็งแรงจึงยังทรงตัวไว้ได้ไม่อย่างนั้นคงได้ล้มหน้าคะมำไปแล้ว - -+
“ไม่ต้องมาเขินผมหรอกน่า...กลับบ้านกัน^^”
“อ๊ะ!!!”คว้าข้อมือขาวให้เดินตามตนเองออกไป เมื่อจ่ายเงินเสร็จแล้วก็ช่วยกันทั้งถือทั้งหอบถุงจำนวนไม่ต่ำกว่าสิบใบไปใส่ที่ท้ายรถและเพียงไม่นานบีเอ็มคันหรูสีดำก็ขับเคลื่อนเข้ามาจอดยังบ้านเดี่ยวหลังเล็กที่เต็มไปด้วยกลิ่นไอของความอบอุ่น ความรัก
“เดี๋ยวชั้นไปเปิดประตูก่อนดีกว่า นั่นใครมานั่งหน้าบ้านเราน่ะ?”ร่างบอบของใครคนนึงที่นั่งกอดเข่าก้มหน้าหลบความหนาวเย็นในตอนที่อากาศเริ่มเย็นจัดยามค่ำคืน มืดแล้วยังจะมีใครมาที่บ้านเราอีกนะ ฮีชอลคิดในใจ
“ขอโทษนะฮะ...คุณ...บะ...โบอา!”เมื่อหญิงสาวเงยหน้าขึ้นมา ฮีชอลจึงเห็นใบหน้าของเธออย่างชัดเจน
“พี่ฮีชอลกลับมาแล้วหรอคะ?”ถ้าพี่ฮีชอลกลับมาก็แสดงว่าแจจุงก็ต้องกลับมาด้วยน่ะสิ...ดีใจจัง
โบอามารอเจอแจจุงตั้งแต่ตอนเย็นแล้ว เหตุเพราะโทรหาเท่าไหร่แฟนหนุ่มก็ไม่ยอมรับสายเธอ ไม่รู้ว่ายุ่งมากจนถึงขั้นรับโทรศัพท์ไม่ได้กันเลยหรือไง แถมไม่ยอมโทรกลับมาอีกต่างหาก แจจุงไม่เคยเป็นแบบนี้กับเธอ โบอาเลยตัดสินใจมานั่งรอแจจุงอยู่ที่บ้านแทน หลายวันมานี้เธอไม่ได้เจอหน้าแจจุงเลย มีบางทีที่ได้โทรคุยกันแต่ก็ไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ คนปลายสายก็ขอวางไปซะก่อนแล้ว แจจุงทำตัวแปลกไปมาก ดูห่างเหินจนเหมือนความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่เหลืออะไรแล้วในความคิดของโบอาแม้แต่ความเป็นเพื่อนก็ไม่มี หญิงสาวเริ่มเครียดและเป็นกังวลใจจึงมาที่นี่ เพื่อจะมาถาม...เกิดอะไรขึ้น?
“จะมาทำไมไม่บอกพี่ก่อนล่ะ...รีบเข้าบ้านกันเถอะเดี๋ยวจะเป็นหวัดนะ”
“อะ...เอ่อ...ค่ะ”
สองคนที่เหลือเดินเข้าบ้านตามคำสั่งของฮีชอล น้ำชากลิ่นหอมกรุ่นกลุ่มควันสีขาวบ่งบอกถึงอุณหภูมิความร้อนถูกยื่นให้กับหญิงสาว โบอารับมันมาก่อนจะเป่าและจิบมันทีละนิด ชาแก้วนี้ช่วยให้เค้ารู้สึกอุ่นขึ้นมาก
“ขอบคุณนะคะ”
“แล้วนี่มาได้ยังไงล่ะ?”เอ่ยถามออกไปเพราะทุกครั้งที่โบอามาบ้านแจจุงจะเป็นคนชวน ไม่เคยเลยสักครั้งที่น้องชายของเขาจะปล่อยให้แฟนสาวมาหาเองที่บ้านแบบนี้
“เราไม่ค่อยได้เจอกันเลยค่ะพักนี้แจจุงบอกว่างานที่ร้านของพี่ซีวอนยุ่งมากๆ...ให้โบอาไปช่วยอีกคนก็ได้นะคะ”น้ำเสียงของหญิงสาวฟังดูหวังดีและเศร้าในคราวเดียวกันเหมือนกับว่ากำลังมีเรื่องทุกข์ใจอย่างไงอย่างงั้นและก็คงจะเป็นเรื่องใดไปไม่ได้นอกจากเรื่องของน้องชายเค้า...แจจุง
“เดี๋ยวนะ...งานที่ร้านยุ่งหรอ?”ฮีชอลทวนคำ
“ค่ะ...แจจุงบอกว่าต้องไปช่วยพี่ทุกวันบางทีก็ไม่ได้กลับบ้านเลย...คงเหนื่อยมากแน่ๆ”
อยู่ๆคำพูดของน้องชายก็ลอยเข้ามาในหัวของฮีชอล
‘พี่ฮีชอล...แจจุงขอไปนอนค้างที่บ้านจุนซูนะฮะ...ทำรายงาน’
“ช่วยงานที่ร้านอะไรกัน...อะ...โอ้ย!”เท้าเล็กใต้โต๊ะทั้งแตะทั้งจิกลงไปที่หน้าแข้งของชายหนุ่มจนคนที่กำลังพูดถึงกับสะดุ้งจนตัวโยง
“อะไรมันกัดนายหรอ...ไหนดูสิ”สายตาที่แอบแฝงไปด้วยความนัยเล็กๆน้อยๆนั้นซีวอนก็พอจะรู้ว่าฮีชอลต้องการให้เขาอยู่นิ่งๆทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดีเท่านั้นและ...ถ้าไม่อยากเจ็บตัว!
“พี่ซีวอนเป็นอะไรมั้ยคะ?”โบอาเมื่อเห็นซีวอนหน้าซีดลงไปก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ชายหนุ่มไม่ได้ปริปากพูดอะไรออกมาเพียงแต่ส่ายหัวแทนคำตอบเท่านั้น - -
“ใช่จะงานที่ร้านเรายุ่งมากๆเลย...พี่ให้แจจุงเฝ้าร้านแทน พอดีว่าพี่ต้องแวะเอาของมาเก็บแล้วก็กำลังจะไปต่อน่ะ”ไม่รู้จะพูดอะไรออกไปให้มันดูดีไปมากกว่านี้อีกแล้วคงได้แต่เออออตามน้ำไปก่อน ซีวอนหันไปมองหน้าคนพูดเพราะรู้ดีว่าฮีชอล...โกหก
“งั้นโบอาขอตัวกลับก่อนดีกว่าค่ะรบกวนเวลาพี่มามากแล้ว บอกแจจุงด้วยนะคะว่าโบอาคิดถึง”ฮีชอลพยักหน้ารับ รู้สึกแย่ที่ต้องพูดปดออกไปแบบนี้
“งั้นให้พี่ซีวอนไปส่งแล้วกันนะ”คนสวยเริ่มออกคำสั่งอีกครั้งกับชายหนุ่มข้างกาย
“อย่าเลยค่ะรบกวนพี่ป่าวๆ...เดี๋ยวพี่ต้องรีบกลับไปที่ร้านต่อไม่ใช่หรอคะ”
“อ่า...ใช่แต่พอดีพี่ต้องทำอะไรนิดหน่อยน่ะ ซีวอนอยู่ก็กวนพี่เปล่าๆไปส่งโบอาน่ะดีแล้ว”ฮีชอลรีบหาข้ออ้างทันที
“เอ๋?”
“เอาเถอะจะ...ไม่ต้องเกรงใจพี่หรอกนะ...พี่ซีวอนไปส่งไม่ใช่พี่สักหน่อย55+”
“จร้า...แม่คุณ”ชายหนุ่มหันมาขโมยจูบพวงแก้มใสอย่างหมั่นเขี้ยว
“นายนี่...ไม่อายโบอาหรอไง >//< ”
“ไม่อาย”ตอบหน้าตาย(หรอหน้าด้านดี?)
“แต่ชั้นอายนี่...รีบๆไปเลยนะ...เดี๋ยวเถอะ”
“งั้นโบอาไปก่อนนะคะ...แล้วเจอกันค่ะ^^”โค้งให้ก่อนจะเดินออกไป
“บายจะ...ซีวอนขับรถดีๆนะ”
“คร้าบบบบบบบบ^^”
เมื่อได้ยินเสียงรถสตาร์ทออกไปแล้วมือบางรีบกดต่อสายหาน้องชายตัวดีที่นับวันเริ่มจะทำตัวมีอะไรปกปิดเค้ามากขึ้น เสียงสัญญาณดังให้คนร้อนใจรออยู่นาน กดโทรออกที่เบอร์เดิมอยู่หลายครั้งและโชคก็เข้าข้างฮีชอลเมื่อคนปลายสายกดรับเปิดโอกาสให้เค้าได้กรอกเสียงลงไป
“ฮัลโหล...แจจุง!” น้ำเสียงที่เรียกฟังดูเหมือนคนกระวนกระวายใจจนแจจุงเริ่มรู้สึกไม่ดี สังหรณ์ใจเล็กๆว่าฮีชอลอาจจะรู้อะไรบางอย่าง...พี่ฮีชอลจะรู้อะไรมั้ยนะ?
“ครับพี่ฮีชอล”
“ทำอะไรอยู่ให้พี่รอสายตั้งนาน”รีบเปลี่ยนน้ำเสียงให้เป็นปกติกลัวแจจุงจะจับพิรุธได้ ก่อนจะเอ่ยถามอย่างคนใคร่รู้
“เอ่อ...พอดีแจกำลังจะลงรถเลยไม่ได้รับสายพี่...คือพี่บอกเองไม่ใช่หรอฮะว่าเวลาขึ้นรถ ลงรถห้ามรับโทรศัพท์เดี๋ยวจะตกรถเอาน่ะ”แจจุงรีบหาข้ออ้าง ร่ายยาวถึงคำสั่งสอนของพี่ชายที่เคยพร่ำบอกเค้าอยู่เป็นประจำ
“ดีแล้ว...แล้วเรากำลังจะไปไหนน่ะ?”
“เอ่อ...แจจุงไปกินข้าวกับโบอามาน่ะฮะ...กะว่าจะนอนค้างที่บ้านโบด้วยเพราะไม่มีใครอยู่ที่บ้านเลย...แจจุงเป็นห่วงน่ะฮะ พี่ฮีชอลคงไม่ว่าอะไรใช่ผมใช่มั้ยครับ”จำใจต้องพูดโกหก ไม่รู้ว่าแจจุงพูดปดแบบนี้มากี่รอบแล้ว เค้าโกหกฮีชอลมาตลอด คิดว่าถ้าตนเองเป็นพิน็อคคิโอก็ลงจะจมูกยาวออกมาเป็นเมตรได้แล้ว ฮีชอลนิ่งชะงักไปทันที เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดก็เพราะว่าโบอาพึ่งออกจาบ้านเค้าไปได้ไม่นานต่อให้นั่งรถเร็วยังไงก็ไม่มีทางไปเจอแจจุงได้ทัน จะบังเอิญยังไงสองคนนั้นก็ไม่มีทางมาเจอกันได้อย่างแน่นอน...ไม่มีทาง!!!
“................”
“พี่ฮีชอล...ฟังแจอยู่หรือเปล่าฮะ”อยู่ๆฮีชอลก็เงียบหายไปเลยเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมขาน
“ฟังอยู่จะ...ฟังอยู่...งั้นแค่นี้ก่อนนะ...พี่ทำงานก่อน”เพื่อความแน่ใจฮีชอลเลยโทรไปถามซีวอนแล้วก็ได้คำตอบมาว่าโบอายังอยู่กับตน แล้วก็ยังไม่ถึงบ้านหญิงสาวเพราะรถออกจะติดไปสักหน่อย
เกิดอะไรขึ้น...ทำไมแจจุงต้องโกหกเค้าด้วยแถมยังโกหกโบอาอีกต่างหาก เป็นไปไม่ได้ที่เค้าจะให้น้องชายของตัวเองกลับไปในที่ที่เลวร้ายแบบนั้นอีก...ไปช่วยงานที่ร้านหรอ?
แจจุงโกหก!
ประโยคเดียวสั้นๆที่ลอยอยู่เต็มไปหมดในหัวของฮีชอล
ทำไม?
อากาศที่เย็นลงทุกขณะทำเอาเด็กดื้อรั้นห่อไหล่ด้วยความหนาวสั่นวันนี้จุนซูมาที่บ้านของยูชอนเหตุเพราะคนตัวเล็กยังคงไม่เข้าใจกับบทเรียนที่พึ่งผ่านพ้นไป ครูหนุ่มจึงถือโอกาสพาจุนซูมาทำความคุ้นเคยกับคนที่บ้านไปด้วยในตัว การเรียนการสอนยังคงดำเนินต่อไปพอรู้ตัวอีกทีตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบห้าทุ่มกว่าๆได้แล้ว จุนซูเลยออกมาเดินผ่อนคลายความเครียดจากการเรียน ครู่เดียวไออุ่นจากสัมผัสแนบชิดที่แผ่นหลัง...กลิ่นหอมแบบนี้ …พี่ยูชอน >///<
ตอนนี้จุนซูกำลังฝันไปใช่มั้ยเนี่ย เขาได้มายืนอยู่ในห้องของพี่ยูชอนอีกครั้งและนอกระเบียงก็เป็นวิวบรรยากาศที่งดงาม รอบด้านที่เต็มไปด้วยสวนดอกไม้สีสวยมันโรแมนติกสุดๆไปเลย
“หนาวมั้ย นางฟ้าของพี่“ เสียงที่อบอุ่นไม่แพ้อ้อมกอดเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
เมื่อเป็นเวลาดึกแบบนี้ก็จะมีน้ำค้างหยดเล็กมากมาย เขาไม่อยากให้คนในวงแขนไม่สบาย แต่ดูเหมือนนางฟ้าน้อยของเขาแปลงร่างเป็นเด็กดื้อไปเสียแล้ว ร่างเล็กสั่นหัวดุ๊กดิ๊กอยู่ในวงแขนน่ารักจนเขาไม่รู้จะอดใจไหวหรือเปล่า เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้จนลมหายใจร้อนรดแก้มขาวเนียนอมชมพูของจุนซู
ได้ใจ
คำนี้คงจะใช้ได้กับสถานการณ์ในตอนนี้เมื่อจุนซูไม่ได้ว่าอะไร ยูชอนจึงพ่นลมใส่ที่ใบหน้าน่ารักซึ่งกำลังหลับตาปี๋คิดว่าชายหนุ่มจะประทับจุมพิตซะอีก จุนซูเบะปากอย่างงอนจัด เรื่องอะไรพี่ยูชอนต้องมาทำให้เขาเสียฟอร์มด้วย...ใจร้ายที่สุดเลย
ยูชอนใช้นิ้วคีบจมูกโด่งรั้นของคนแสนงอนอย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนฉกชิมความหวานจากริมฝีปากชมพูสด อย่างรวดเร็ว คนแสนงอนอ้าปากเหวอด้วยความตกใจไม่คาดคิดว่าพี่ยูชอนจะจูบ ลิ้นอุ่นจึงเข้าไปดูดด่ำรสหวานภายในเรียวปากบางอย่างสะดวก ความหอมหวานบริสุทธิ์ที่ได้รับจากคนคนนี้เท่าไหร่ก็ไม่เคยพอจริงๆมีแต่จะเพิ่มความต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ แข้งขาจุนซูพาลจะหมดเรี่ยวแรงเอาดื้อๆ ต้องทิ้งตัวเอนพิงคนตัวใหญ่ที่ประคองกอดแนบแน่นอย่างเต็มอกเต็มใจ มือไม้ยูชอนสัมผัสไปทั่วค่อยๆหยุดขยี้ขย้ำที่ก้นนิ่ม จุนซูสะดุ้งโหยงสุดตัวรีบดันตัวยูชอนออกใบหน้าสวยขึ้นสีแดงแปร๊ด
ไม่รู้เพราะโมโห.. เขิน… หรือเป็นเพราะแรงกระตุ้นที่ได้รับกันแน่
ยูชอนมองนางฟ้าของเขาอย่างลุแก่โทษ เขาคงจะรุกรานจุนซูหนักไปหน่อยคนตัวเล็กคงจะหวาดหวั่นอยู่ไม่น้อย เขาค่อยๆวางมือลูบเบาๆที่หัวของคนตัวเล็ก ก่อนจูบเบาๆที่หน้าผากสวยของคนตรงหน้า
“พี่ขอโทษนะครับจุนซู ที่ทำให้ตกใจ บอกพี่สิว่าโกรธกันหรือเปล่า? ฮืม~” พูดเสร็จก็ดึงคนน่ารักเข้ามาไว้ในอ้อมกอด เขาอยากส่งผ่านความรักที่มีทั้งหมดให้นางฟ้าของเขารู้เหลือเกิน ไม่รู้ทำไม อยู่ใกล้ๆ จุนซูทีไรเขาควบคุมตัวเองไม่ได้สักที จุนซูส่ายหัวไปมาหลายครั้ง ก่อนจะพูดเสียงอู้อี้กับเจ้าของอกกว้างและอ้อมกอดที่แสนอบอุ่น
“จุนซูไม่ได้โกรธพี่ยูชอน แต่ว่า… แต่ว่า… มันตกใจฮะ”
“พี่เข้าใจครับ คราวหลังพี่จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว พี่สัญญาครับ”ร่างโปร่งพูดพร้อมกับเกี่ยวก้อยแปะโป้งแตะกับนิ้วของคนตัวเล็กเพื่อเป็นการยืนยันว่าเขาจะไม่ทำอีกแล้วจริงๆ
“พี่ยูชอนฮะ พี่ยูชอนจะเบื่อจุนซูมั้ยฮะ?” นางฟ้าน้อยเอียงคอถามอย่างน่าเอ็นดู พี่ยูชอนส่งมือมาขยี้กลุ่มผมนุ่มจนมันกระเซอะกระเซิงอย่างหมั่นเขี้ยว เรียกค้อนจากดวงตาคู่สวยวงใหญ่
“ถามอะไรกัน หืมม~ พี่จะเบื่อเราได้ยังไงกันครับ” จุนซูมองใบหน้าเปี่ยมเสน่ห์เนิ่นนาน เขากังวลใจกับเรื่องนี้จริงๆ เขากลัวว่าพี่ยูชอนจะเบื่อที่เขาไม่ยอมให้ทำอะไรมากกว่ากอด จูบ ไม่รู้เขาทำตัวงี่เง่าเกินไปหรือเปล่า
“เป็นอะไรไป ทำไมทำหน้าแบบนี้ ไม่เอาน่าอย่าคิดมากสิ” ยูชอนแตะหลังจุนซูเบาๆ ก่อนทั้งคู่จะเดินจูงมือกันกลับเข้าไปข้างใน
เป็นครั้งที่สองที่เขาได้มาเหยียบที่บ้านของพี่ยูชอน ด้วยเหตุผลที่เขาเถียงไม่ออกว่ามันดึกมากแล้ว จริงๆมันเกินกว่าคำว่าดึกเสียด้วยซ้ำ เสียงนาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืนนี่มันเริ่มวันใหม่แล้วต่างหาก พี่ยูชอนให้เขาอาบน้ำก่อนแล้วพี่ยูชอนค่อยตามมาอาบทีหลัง ความจริงตอนแรกเขาก็อดจะกังวลใจไม่ได้ก็ในเมื่อต้องมานอนในห้องเดียวกับพี่ยูชอนอีกครั้ง แถมครั้งนี้สติสัมปัญญะของเขาก็อยู่ครบแล้วนี่เขาจะทำตัวอย่างไงดีล่ะ แค่คิดก็เขินแล้ว อาบน้ำก่อนดีกว่าเดี๋ยวพี่ยูชอนจะรอนานจุนซูเดินยิ้มเข้าห้องน้ำอย่างมีความสุข
เดินออกจากห้องน้ำพร้อมแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจุนซูชะเง้อคอมองคนอีกคนที่คิดว่าจะนั่งรออยู่ในห้อง แล้วพี่ยูชอนไปไหนแล้วล่ะ เท้าเรียวค่อยๆก้าวออกนอกประตูห้องชะโงกมองไปทั่วไม่เห็นมีเลย...พี่ยูชอนไปหลบอยู่ที่ไหนนะ จุนซูเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องทำงานของพี่ยูชอน (ป้ายหน้าห้อง บอกเขาอย่างนั้น) มือซนผลักบานประตูไม้ตรงหน้าเบาๆ แค่ต้องการแง้มดูว่าคนที่กำลังตามหานั่นอยู่ในห้องมั้ย โชคดีที่ประตูไม่ได้ล็อค นั่นพี่ยูชอนยืนคุยกับใครอยู่น่ะ จากมุมที่เขาส่องมันเห็นเพียงแผ่นหลังของพี่ยูชอน เสียงพูดคุยเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ใจจริงจุนซูไม่ได้อยากแอบฟังสักนิดแต่เพราะในบทสนทนานั้นดันมีชื่อเขาเข้ามาเกี่ยวด้วย ไม่ผิดใช่มั้ยถ้าเขา…จะอยากรู้เรื่องของตัวเอง
“หมายความว่ายังไง พี่แค่ต้องการรับผิดชอบจุนซูงั้นเหรอ???”
“อือ….ริคกี้ พี่บอกตรงๆนะ ว่าพี่ไม่แน่ใจว่าได้ทำอะไรไปจุนซูหรือเปล่า”
“พี่มิค...ทำไมพี่พูดอย่างนั้น???”
“จริงๆนะ...พี่ว่า...ไม่รู้สิ...ก็พี่เมาแล้วหลักฐานมันก็ชัดเจนขนาดนั้น ถ้าพี่ไม่พูดอะไรออกไปจุนซูจะเป็นฝ่าย
เสียหาย”
“พี่ไม่ได้รักจุนซูหรือไง ถ้าไม่รักทำไมไปทำอะไรเขาแบบนั้น”
“ไม่รู้สิริค...บางทีพี่อาจจะกำลังรัก...จุนซูอยู่ก็ได้”
“มิคกี้!!!!!!!”ยูฮวานตะโกนลั่น
“ไม่ต้องตะโกนเสียงดังขนาดนั้นก็ได้ พี่ก็แค่อยากรับผิดชอบในสิ่งที่พี่ทำ”
“รับผิดชอบงั้นเหรอ?...พี่ยูชอน ถ้าพี่ต้องการแค่นั้นไม่ต้องก็ได้ฮะ...เพราะมันไม่จำเป็น!!!”
เสียงหวานที่ดังขึ้นมาขัดบทสนทนาของสองพี่น้องตระกูลปาร์คทำเอาคนทั้งคู่หันมามองด้วยความตกใจ ภาพตรงหน้าคือ คิม จุนซู ที่ยืนมองตอบเขาด้วยแววตาตัดพ้ออย่างเจ็บปวด ยูชอนรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว ร่างสูงรีบสาวเท้ายาวไล่ตามคนตัวเล็กที่เตรียมวิ่งหนีเขาและเพราะช่วงขาที่ต่างกันอยู่มาก...เพียงไม่นานก็ไล่ทัน เขาคว้าข้อมือคนตัวเล็กแน่นถ้าปล่อยไปอย่างนี้ไม่ดีแน่ จุนซูร้องไห้น้ำตาเปอะเปื้อนทั้งสองข้างแก้มเนียนใส พยายามสะบัดข้อมือตัวเองออกจากการกอบกุม ไม่เป็นผลเมื่อยูชอนเพิ่มแรงบีบเพื่อจับคนที่พยายามดึงมือตัวเองออกอย่างรุนแรงได้หยุดฟังคำอธิบาย
“ฟังพี่ก่อนได้มั้ย จุนซู!”
“จุนซูได้ยินหมดทุกอย่างแล้ว ปล่อยฮะ...จุนซูอยากกลับบ้าน” ข้อมือขาวเริ่มแดงเป็นปื้นทั้งถูกจับล็อคโดยข้อมือของชายหนุ่มและแรงสะบัดที่ไม่กลัวว่าตัวเองจะเจ็บของจุนซู
“พี่ไม่ปล่อย เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อน!” ยูชอนเริ่มขึ้นเสียงบ้าง เมื่อจุนซูไม่ยอมเข้าใจอะไรบ้างเลย เขารวบร่างจุนซูก่อนอุ้มขึ้นไปเจรจากันต่อที่ในห้อง เขาค่อยๆวางร่างจุนซูลงกับโซฟาพอเท้าสัมผัสกับพื้นห้องจุนซูก็เตรียมวิ่งหนีอีกครั้ง แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเมื่อตัวเองถูกรั้งเข้าไปแนบชิดกับแผงอกของคนตรงหน้า ทีนี้ต่อให้ดิ้นรนยังไงก็หนีไม่พ้น แถมยังทำให้ร่างกายเบียดเสียดกับคนใจร้ายมากเข้าไปอีก ร่างเล็กเริ่มหยุดดิ้นเมื่อรู้สึกว่าตัวเองใกล้ชิดกับพี่ยูชอนมากจนเกินไปแล้ว มือเล็กๆถูกส่งออกมาดันหน้าอกกว้างให้ถอยห่างออกไปอีกแต่กำแพงอกที่แข็งแรงก็ไม่ขยับเขยื้อนดั่งที่คิด
“พี่ยูชอนจะพูดอะไรก็พูดมา...จุนซูจะกลับบ้าน” คนน่ารักเอ่ย เมื่อเห็นว่านางฟ้าของเขาเริ่มหยุดดิ้น ยูชอนค่อยๆคลายการกอดรัดแน่นหนาของตนออกแต่ไม่วายโอบเอวจุนซูไว้ไม่ยอมปล่อย
“ที่จุนซูได้ยินมันไม่ใช่อย่างที่คิดนะ” ยูชอนรีบพูดอย่างร้อนรน เกรงว่าจุนซูจะเข้าใจเขาผิด
“แล้วมันเป็นยังไงล่ะฮะ ก็แค่พี่ยูชอนต้องการแสดงความรับผิดชอบ จุนซูบอกแล้วไงฮะว่าไม่ต้องการ เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยเลิกยุ่ง..กับจุนซูได้แล้ว!”
“หมายความว่ายังไงที่พูดว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน!” ยูชอนตวาดออกมาอย่างโมโห เขาเสียใจจริงๆที่ได้ยินคำนี้จากปากจุนซู
“ขนาดพี่ยูชอนยังบอกเองว่าไม่แน่ใจ...ปล่อยนะ...พี่ไม่มีสิทธิ์มาทำอะไรแบบนี้กับจุนซูนะ”คำพูดที่ราวกับเอาน้ำมันมาราดลงบนกองไฟ ไม่ได้รู้เลยหรือไงว่าอันตรายกำลังใกล้เข้ามา
มือใหญ่กระชับกอดเอวอิ่มของนางฟ้าตัวน้อยที่กำลังสั่นสะท้านไม่รู้ว่ากลัวหรือตื่นเต้นกับสัมผัสแปลกๆ ด้วยความโมโหจนลืมตัว เขากระชากเสื้อนอนลายน่ารักของคนตัวเล็กหลุดติดมือ ก่อนปัดป่ายมือหนาของเขาสำรวจเรือนร่างขาวผ่องเนียนละเอียดอย่างลุ่มหลงจุนซูผวาด้วยความตกใจ เขากลัวพี่ยูชอนเหลือเกิน ส่งเสียงวิงวอนหวังว่าจะเรียกสติคนตรงหน้ากับมา
“จะทำอะไรฮะ...ปล่อยจุนซูเถอะ”แววตาที่ส่งตอบมองเขาราวกับหิวกระหาย น่ากลัวจนจุนซูไม่กล้ามองซ้ำ
“พี่ก็จะทำให้แน่ใจ...และ “มีสิทธิ์” ในตัวจุนซูไงครับ” สิ้นเสียงยูชอนก็ตีตราจองไปทั่วผิวขาวเนียนที่เขาอยากสัมผัสมานาน ปากบางเอ่ยร้องขอให้หยุด แต่ดูท่ายูชอนจะหน้ามืดตามัวไม่ยอมฟังเสียงใครเสียแล้ว เขารู้เพียงแต่อยากสัมผัสเรือนร่างตรงหน้าให้ลึกซึ้ง…ยิ่งกว่านี้
ยูชอนดันร่างที่ดิ้นขลุกขลักอย่างดันทุรังจนนอนราบไปบนเตียงใหญ่ ก่อนจะคร่อมทับร่างที่เกือบเปลือยเปล่า สองมือที่ทั้งผลักและดัน จุนซูถูกจับล็อคด้วยมือเพียงข้างเดียวของยูชอน ริมฝีปากสีสวยสดเอ่ยร้องให้หยุดกับถูกปิดมันด้วยริมฝีปากอิ่มที่แรงอารมณ์เริ่มพุ่งสูงขึ้น จุมพิตครั้งนี้ไม่ได้หวานละมุ่นชวนฝันเหมือนดั่งครั้งแรกหรือที่แล้วๆมา แต่มันเต็มไปด้วยความกระหายในร่างเล็กที่เขากดทับ จุนซูขนลุกไปหมดทั้งตัว...เขากลัวไปหมดแล้ว
ลำตัวอวบนิ่มขยับหนีการรุกล้ำยิ่งทำให้เนื้อเนียนละเอียดบดเบียดกับร่างกายกำยำของยูชอนเข้าไปใหญ่ เลือดในกายหนุ่มพุ่งทะยานสูบฉีดไปทั่วร่าง ความปรารถนาจะครอบครองเรือนร่างขาวผ่องตรงหน้ามีมากมายจนสะกดใจตัวเองไม่ไหวอีกต่อไป กลิ่นหอมสะอาดของสบู่ฝังติดในทุกพื้นผิวขาว ยูชอนซุกไซร้ไปทั่วซอกคอสวยแต่งแต้มรอยสีกุหลาบแผ่วเบา เผลอแปบเดียวทั่วทั้งเรือนร่างขาวเนียนนุ่มก็ประปรายไปด้วยสีแดงระเรื่อแสดงความเป็นเจ้าของลืมหมดสิ้นว่าเคยสัญญาอะไรเอาไว้กับนางฟ้าตัวน้อย
ครู่เดียวเรือนร่างที่ปราศจากอาภรณ์เกะกะก็ปรากฏแก่สายตา เขาจ้องมองความงดงามน่าสัมผัสอย่างลุ่มหลง จุนซูหุบขาเข้าหากันทันทีที่เห็นสายตาจ้องประทุษร้ายต่อสิ่งนั้นแต่เพียงแค่ยูชอนจูบไล้ต่ำลงไปเรื่อยๆ จนถึงซอกขาด้านใน ด้วยความไม่คุ้นชินกับความเปียกชื้นของลิ้นสากที่ลากผ่านเข้ามาประชิดพื้นที่สงวน ขาแข็งที่เกร็งปิดไว้จึงหมดเรี่ยวแรงจะต้านทาน ความวาบหวามที่ได้รับจุนซูทิ้งตัวแผ่หลารอรับสัมผัสจากชายหนุ่มอย่างหมดแรงต่อต้าน สมองของเขาขาวโพลนไปหมดเหมือนคำพูดของพี่ยูชอนจะลอยแว่วอยู่ในหัว ถ้อยคำสัญญาที่ฝากไว้...
พี่ลืมมันแล้วใช่มั้ย?...สัญญาของเรา
เมื่อคนใจร้ายมอบความชุ่มฉ่ำไปทั่วช่องทางรักของจุนซู จนคิดว่าเพียงพอต่อการมอบสัมผัสที่ลึกซึ้งกว่านี้ นิ้วแข็งแรงจึงถูกส่งเข้าไปเพื่อเปิดทางก่อนสอดใส่ท่อนกายที่ตื่นตัวเต็มที่ของเขา แต่วินาทีที่ปลายนิ้วดุดดันเข้าไปจนหมด ร่างอิ่มก็ดิ้นพล่านด้วยความปวดร้าวไปหมดทุกส่วนกับสิ่งแปลกปลอมที่ล่วงล้ำเข้ามา จุนซูรวบรวมแรงที่เหลือทั้งหมดทุบตีคนใจร้ายอย่างหนักหน่วงมันเจ็บจนเขาพูดไม่ออก
“….ฮึกกก … เจ็บบบ ...ปล่อยเค้านะ คนใจร้าย ฮื่ออ~” เสียงแหบพร่าร้องออกมาอย่างน่าสงสาร
ยูชอนก็เหมือนจะใบ้กิน ไปชั่วขณะ กับสิ่งที่พึ่งรับรู้
จุนซูยังไม่เคยมีอะไรกับเขา...!!!
คนโดนรังแกส่งสายตามองเขาด้วยแววตาผิดหวัง นั่นมันทำให้ยูชอนรู้สึกเจ็บยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด สติที่กระเจิดกระเจิงเพราะความโมโหเริ่มกลับคืนมาจนหมด เขารีบชักนิ้วที่ส่งเข้าไปออกมา นางฟ้าน้อยของเขายังนอนสั่นเทาเป็นลูกนก ใบหน้าอาบไปด้วยน้ำตาเม็ดโตที่ยังไหลออกมาจนเปียกชุ่มแพขนตาสวย เขาเสียใจในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปจริงๆ
เกลียดพี่แล้วสินะ นางฟ้าน้อยของพี่
ยูชอนคิดในใจอย่างปวดร้าว
ทำตัวเองทั้งนั้น
เขาก้มลงไปหยิบชุดนอนน่ารักของคนตรงหน้า สภาพของมันบ่งบอกถึงความเลวที่ตนกระทำเป็นอย่างดี เท้าเรียวก้าวยาวๆไปหยิบชุดของตัวเองมาสวมใส่ให้คนที่เป็นดั่งดวงใจอย่างทะนุถนอม ปากอิ่มพร่ำแต่คำว่าขอโทษไม่หยุด ก่อนที่ห่มผ้านวมผืนหนาคลุมร่างที่สั่นสะท้านอย่างอ่อนโยน แล้วเตรียมลุกออกไปข้างนอก
จุนซูคงไม่พร้อมที่จะมองหน้าเขาตอนนี้แน่ๆ
ยังไม่ทันได้ยกตัวขึ้นจากเตียง ยูชอนรู้สึกถึงความร้อนบริเวณแผ่นหลัง จุนซูเบียดกายกอดเขาอย่างแน่นหนา ด้วยความกลัวว่าพี่ยูชอนจะทิ้งตัวเองไป
“พี่ยูชอน จุนซูรักพี่ยูชอนนะฮะ …ฮึกกก อย่าเกลียดจุนซูเลย …นะ …ฮึกก…. อย่า อึกกก…. อย่า หันหน้าหนีจุนซู เหมือนพี่ไม่อยากมองหน้าจุนซู...ได้มั้ยฮะ” เสียงหวานติดแหบนิดๆ ร้องวิงวอนสะอึกสะอื้น
ยูชอนเอี้ยวตัวกลับมาโอบกอดจุนซูแน่น เขารักจุนซูเหลือเกิน เขาต่างหากล่ะที่ต้องเป็นฝ่ายพูดคำนั้น เขาเป็นคนทำร้ายจุนซู คนที่สมควรถูกเกลียดน่าจะเป็นตัวเขาเองมากกว่าและที่สำคัญกว่าอะไรทั้งหมด ณ ตอนนี้ จุนซูไม่ได้รู้เลยว่าเนื้อตัวนุ่มนิ่มของตัวเองกำลังจะทำให้ตบะเขาแตกอีกแล้ว ยิ่งร่างกายเขาแนบชิดคนน่ารักมากเท่าไหร่ความเป็นชายของเขาก็ดูจะเรียกร้อง โหยหาความอุ่นจากช่องทางรักของคนตัวเล็กเสียเดี๋ยวนี้ ยูชอนแข็งใจแกะมือน้อยที่เกาะกุมเอวของตนออกช้าๆก่อนดันร่างนิ่มออกห่างเพื่อความปลอดภัยของจุนซู แต่สิ่งที่เขาทำกับยิ่งย้ำว่าไม่ต้องการสัมผัสจากคนตัวเล็ก กริยาที่แสดงออกมาทำเอาจุนซูใจเสีย นี่เขาถูกเกลียดแล้วใช่มั้ย? ชายหนุ่มลูบหัวจุนซูอย่างปลอบประโลม เอื้อมมือเกลี่ยเช็ดรอยน้ำตาบนแก้มเนียนออกให้หมด
“นอนได้แล้วนะคนดี พี่จะไปนอนกับริคกี้ ฝันดีนะครับ” คำพูดอ่อนโยนของเขาไม่ได้ทำให้จุนซูรู้สึกดีขึ้นมาเลยสักนิด เมื่อยูชอนยังดึงดันจะหนีหน้าเขาไป คนตัวเล็กขืนตัวไม่ยอมนอนอย่างดื้อดึงเอนตัวซบลงกับอกกว้างซะอย่างนั้น ยูชอนใจเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ
“พี่ไม่ได้เกลียดจุนซูจริงๆนะเพียงแต่พี่กลัวจะทำร้ายจุนซูอีก นอนเถอะนะ...คนดีของพี่”คนตัวเล็กซุกหน้ากับอกของชายอันเป็นที่รัก กลั้นใจพูดตะกุกตะกักอย่างขัดเขิน
“ถ้าพี่ยูชอนไม่...ไม่ทำให้จุนซูกลัวแบบเมื่อกี้อีก...จุนซู...ก็...พะ...”
พร้อมจะเป็นของพี่ยูชอนฮะ
เสียงพูดต่อประโยคที่ขาดหายไปดังกังวานอยู่ในใจ เอาเข้าจริงๆจุนซูก็ไม่กล้าพูด พอรู้ตัวว่าตัวเองพลาดพูดอะไรเปิดโอกาสแบบนั้นออกไป ก็รู้สึกเคอะเขินทำอะไรไม่ถูก มือที่กอดเอวคนที่ตัวเองรัดแน่นรีบปล่อยทันทีราวกับเป็นของร้อน แล้วซ่อนตัวในผ้าห่มผืนใหญ่ ยกมือขึ้นมากอดที่อกตัวเองแน่น ภายในใจเต้นแรงซะจนเขากลัวว่ามันจะหลุดออกมาข้างนอกซะก่อน
ยูชอนยกริมฝีปากหยักขึ้นอย่างตกตะลึง เสียงหวานของจุนซูดังสะท้อนอยู่ในหู มือใหญ่จับชายผ้าห่มด้านหนึ่งเปิดทางให้ร่างกายตัวเองมุดเข้าไปใกล้ชิดคนน่ารักอย่างรวดเร็ว จุนซูสะดุ้งวาบเมื่อถูกรั้งเข้าไปประชิดใบหน้าเปี่ยมเสน่ห์ที่เขาแสนรัก สายตาที่ทอดมองเขามันสะท้อนความรักออกมาจนยูชอนยิ้มไม่หยุด ชายหนุ่มแกล้งถูจมูกตัวเองกับจมูกรั้นของคนน่ารัก กระซิบถามเสียงทุ้มแบบที่เขาชอบฟัง
“ก็อะไร...หืม~…คนดี” ปากพูดแต่มือซุกซนไม่ยอมอยู่สุข
“ไม่รู้ ไม่ชี้ ถอยออกไปนะ มานอนเบียดเค้าทำไม ไหนพี่ยูชอนบอกว่าจะไปนอนกับริคกี้ไงล่ะฮะ” เสียงหวานร้องว่าพลางดันร่างหนาให้ออกไปไกลๆ ร่างที่รัดลำตัวอิ่มแนบแน่นไม่ขยับสักนิดมีแต่จะรุกรานไปทั่วเรือนร่าง
“เรื่องอะไรมาไล่พี่ล่ะ นอนกอดจุนซูหอมกว่า อุ่นกว่าด้วย” ไม่พูดเปล่าจมูกโด่งคมเป็นสันยังสูดกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ของคนตัวเล็กอย่างนุ่มนวลทั่วทั้งตัว ดูเหมือนจุนซูจะเป็นหนุ่มเนื้อหอมจริงๆ ทุกส่วนของร่างกายจุนซูดูเหมือนมันส่งเสียงเรียกร้องให้เขาเข้าไปสูดดมความหอมหรือเป็นเพราะหัวใจเขาต้องการเองกันแน่
“พี่ยูชอน อย่าสิฮะ ไหนว่าแค่นอนกอดเฉยๆ” เสียงหวานใสประท้วง
“พี่บอกว่านอนกอดเฉยๆที่ไหน พี่บอกว่าจุนซูของพี่หอมกว่า นี่ไง พี่กำลังพิสูจน์ความหอมของจุนซูอยู่”คนเจ้าเล่ห์ตอบกลับพร้อมส่งสายตากรุ้มกริ่ม ค่อยๆประทับปากอิ่มที่เริ่มจะบวมเจ่อขึ้นมานิดๆอีกครั้งอย่างไม่รู้จักพอ
เพียงครู่เดียวอาภรณ์ของคนทั้งคู่ก็ถูกอัญเชิญออกจากร่างของเจ้าของอย่างไม่ใยดี เรือนร่างเปลือยเปล่าเบียดเสียดกันแทบไม่เหลือพื้นที่ว่าง ยูชอนมอบจุมพิตหวานฉ่ำราวกับจะขอโทษในเรื่องเลวร้ายที่ตัวเองได้กระทำ จุนซูตอบรับสัมผัสอุ่นจัดของปลายลิ้นที่แทรกผ่านกลีบปากสีชมพูอ่อนของตนอย่างเต็มใจ การตอบสนองแบบเด็กน้อยไม่ประสีประสาของคนตรงหน้า ทำให้ยูชอนปั่นป่วนมวนท้องน้อยเป็นที่สุดมันน่าตื่นเต้นและก็แสนเย้ายวนไปในที เมื่อลิ้นสากมอบความชุ่มฉ่ำบริเวณเม็ดสีชมพูเข้มบนยอดอกก่อนดูดเม้มเบาๆ มันทั้งจั๊กกะจี๋และเสียวซ่านไปหมด ร่างนุ่มนิ่มแอ่นอกตอบสนองต่อสัมผัสคนตัวใหญ่ไม่ยอมให้เม็ดเล็กๆอีกด้านน้อยใจฝ่ามืออุ่นบีบเค้นไปพลางก่อนจะหันมาชำระความอีกข้างโดยเท่าเทียม เสียงลมหายใจกระเส่าพร้อมเสียงครางหวานหูของคนใต้ล่างมันทำให้ยูชอนได้ใจ มือไม้ละลานไปทั่วหน้าขาขาวผ่องก่อนเอ่ยกระซิบเสียงแหบพร่าชิดกกหูเล็กของจุนซู
“ไว้ใจพี่มั้ยครับคนดี...พี่อยากรักจุนซูมากกว่านี้...ได้มั้ย?”การกระทำของพี่ยูชอนมันบอกเขาทั้งหมดแล้ว ว่าต้องการอะไร เหลือเพียงแต่เขาจะยินยอมมั้ย...ก็เท่านั้น
จุนซูสบตาคมช้าๆ ก่อนเอ่ยถามเสียงสั่น “มันจะไม่เจ็บ ใช่มั้ยฮะ พี่ยูชอน”
“ครับ...พี่จะอ่อนโยนกับจุนซู..นะครับ”นางฟ้าน้อยของเขาพยักหน้าเบาๆอย่างเอียงอาย ยูชอนก้มลงจูบแผ่วเบาที่ขมับสวย
“ไม่ต้องเกร็งนะครับ คนดี”
“ถ้าเจ็บก็กัดมาที่ไหล่ของพี่...พี่ยูชอนรักจุนซูนะครับ”
จบคำบอกรัก ริมฝีปากอิ่มก็เคลื่อนมาประกบริมฝีปากนิ่ม ค่อยๆส่งนิ้วเข้าไปเปิดทางอย่างใจเย็นก่อนจะเอามันออกมาแล้วแทนที่ด้วยท่อนเนื้อใหญ่ที่ตั้งตระหง่านเตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว ร่างเล็กกระตุกไปทั้งตัวเมื่อได้รับสิ่งแปลกปลอมขนาดใหญ่เข้าไปทั้งหมด จุนซูกรี๊ดร้องพยายามขืนตัวหนี ยูชอนแช่ค้างไว้อย่างนั้นยังไม่กล้าขยับกลัวว่าจุนซูจะเจ็บไปกว่านี้ ฝ่ามืออุ่นรูดคลึงท่อนเนื้อหยุ่นของคนตัวเล็กเพื่อเบี่ยงเบนความเจ็บปวด
คนตัวเล็กยกสะโพกกลมมนได้รูปขึ้นเปิดทางสะดวกให้คนตรงหน้า ตอนนี้ความเจ็บปวดของเขาได้ถูกเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่านไปหมด เมื่อรู้สึกว่าจุนซูของเขาพร้อมแล้วยูชอนจึงเริ่มขยับสะโพกขึ้นลงเป็นจังหวะพร้อมกับรูดท่อนเนื้อร้อนของจุนซูหนักหน่วง ทำเอาคนตัวเล็กฝังฟันคมที่ไหล่เนียนลาดของคนรักระงับความซาบซ่านอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ความร้อนระอุภายในร่างกายของยูชอนทวีขึ้นเรื่อยๆยิ่งจุนซูส่งเสียงหวานอย่างเปี่ยมสุขเขายิ่งต้องการเป็นหนึ่งเดียวกับคนตรงหน้ามากที่สุด
เนื้อร้อนตรงกลางลำตัวของจุนซูได้รับการปรนเปรอจนถึงจุดสิ้นสุด คนตัวเล็กปล่อยน้ำหวานสีข้นออกมาจำนวนมาก หายใจหอบแรงอย่างเหนื่อยอ่อน ยูชอนถอนท่อนเนื้อแน่นของตนออกมาก่อนสอดใส่มันอีกครั้งเมื่อพลิกร่างนิ่มนวลชวนสัมผัสของจุนซูคว่ำลง ใบหน้าน่ารักซุกลงกับหมอนนุ่มมือหนาขย้ำขยี้ก้นอวบอิ่มขนาดกำลังน่ารักของนางฟ้าตัวน้อยอย่างเมามันพร้อมกับเร่งจังหวะเสียดสีให้หนักหน่วงและแนบแน่นขึ้นไปอีก
“อ่า.. อ่า...พี่ยูชอน~~~”
“มันเสียว...อือออ… แรงงอีก...ได้มั้ยย” จุนซูร้องสั่งเสียงหลง
“จุนซู...อืมมม...อ่ะ...อ่า~~~” เสียงเรียกชื่อคนตัวเล็กเมื่อได้รับการบีบรัดตุ๊บๆๆบริเวณช่องรัก จนเข้าเสียวซ่านไปหมด...จุนซูกำลังจะทำให้เขาคลั่งตายอยู่แล้ว
ทั้งคู่ครางรับกันเสียงระงมทั่วห้อง เสียงร้องของนกน้อยที่ดังปลุกยูชอนอยู่ทุกเช้าไม่ได้ทำให้เขาสนใจเท่ากับเสียงหวานใสของจุนซูที่ครางเรียกชื่อเขาอย่างสุขสม แสงสว่างเมื่อเข้าสู่รุ่งอรุณของวันใหม่สาดส่องเขามากระทบร่างที่ยังมอบรสรักแก่กันไม่หยุด ร่างกายนุ่มนิ่มเบียดเสียดกับร่างใหญ่ที่ขยับสะโพกหนาหนักหน่วงก่อนจะส่งน้ำรักเข้าไปในช่องทางบวมช้ำจากการเสียดสีกันไม่หยุดตลอดทั้งคืนจนกระทั่งสว่าง จุนซูรู้สึกเหนื่อยจนหมดแรงแทบจะทันที ไม่รู้พี่ยูชอนเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนรักกับเขาจนสว่างยังไม่ยอมหยุด ถึงจะรู้สึกเหนอะหนะบริเวณช่องทางด้านหลังแต่ด้วยความอ่อนล้ามันมีมากกว่า คนน่ารักจึงฟุบหลับพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้มในทันทีที่คำพูดสุดท้ายของพี่ยูชอนสิ้นสุด
“พี่รักเรามากที่สุดนะครับ...นางฟ้าน้อยของพี่ยูชอน”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น