Title : [Fic] หมอ...llจิตll
Writer : GroupBee + KJW
Couple: YunJae , YooSu , MinRic
Genre : Drama , Erotic
NC : ?
Part…24 ภาคสนาม (SP:MinRic)
ผู้คนในตอนเช้าดูจะคับแน่นไปสักหน่อย การรักษายังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆจนคล้อยเข้าสู่ยามบ่ายของวัน อาหารกล่องสำหรับมื้อกลางวันนี้คุณหมอหนุ่มชางมินรับอาสาเดินไปเอามาให้กับยูฮวานเองและเพียงไม่นานชางมินก็กลับมามาพร้อมๆกับอาหารจำนวนไม่น้อย
“โอ้โห้...นี่นายกะจะกินให้ท้องแตกเลยหรือไงกัน...ชางมิน”ก็จะไม่ให้เขาตกใจได้ยังไง ข้าวกล่องสามกล่อง ผลไม้อีกนานาชนิด นี่ยังไม่รวมไปถึงขนมคบเคี้ยวต่างๆนานาอีกนะ!
“ก็ชั้นรู้ว่านายต้องหิวมากแน่ๆ”ชางมินแก้ตัว
“ไม่จริงอ่ะ ถึงตอนนี้ชั้นจะหิวแต่คงกินไม่หมดหรอก...คงเป็นนายมากกว่าล่ะมั้งที่เป็นฝ่ายหิว...หิวแบบบ้าคลั่งซะด้วย55+”
“หลอกด่าชั้นพอยังล่ะ...ชริ คนเค้าอุตส่าห์หวังดี”พูดด้วยความน้อยใจก่อนจะก้มลงเก็บของตรงหน้าทั้งหมด...ไม่ต้องกินมันแร้วว~~~
“อ่า...นั่นนายจะเอาไปไหน...ชั้นล้อเล่นนะชางมิน...น้าๆ”มือบางรีบคว้าข้อมือของชายหนุ่มเอาไว้ก่อนจะไม่ทันการ
“เฮ้ย...เดี๋ยวนี้คุณหมอชางมินขี้น้อยใจบ่อยจังเลยนะ”
“ก็เพราะนายนั่นแหล่ะ”
“เพราะชั้นหรอ?”
“นายทำให้ชั้นปั่นป่วนไปหมดแล้วรู้มั้ย???”เอาอีกแล้วครับพี่น้องชางมินคนนี้หลุดอีกแล้ว จิตใจเลื่อนลอยบ่อยจังพักนี้
ชั้นก็เหมือนกัน
ยูฮวานก้มหน้างุดไม่อยากมองหน้าชางมินแล้ว...ยิ่งมองก็ยิ่งเขิน
ถ้าบางทีใจของเราตรงกัน...ก็คงจะดีไม่น้อย
“ถ้าปั่นป่วนมากก็รีบๆกินซะสิ เดี๋ยวก็ปวดท้องกันพอดี >//<”แถเปลี่ยนเรื่องซะอย่างนั้น
“เป็นห่วงชั้นหรอไง?”ใบหน้าหล่อเคลื่อนเข้ามาใกล้คนที่ยังก้มหน้ามองพื้นดินราวกับว่ามีอะไรน่าสนใจเสียเต็มประดา พอเงยหน้าขึ้นมาเลยทำให้ใบหน้าของคนทั้งคู่อยู่ใกล้กันเกินความจะเป็น ดวงตากลมโตใสแป๋วของยูฮวานเหมือนถูกมนต์สะกดจากชายหนุ่มตรงหน้า เหมือนกับว่าไม่อาจจะละสายตาไปไหนได้เลย ชางมินก็เช่นกัน...ยูฮวานยิ่งมองใกล้ๆก็ยิ่งน่ารัก
บอกแล้วไงว่าถ้าชั้นเป็นดอกไม้ นายก็เป็นแมลง...ชางมิน
“รู้อะไรมั้ยยูฮวาน...ว่าเดี๋ยวนี้นายน่ารักขึ้นทุกวัน”
“รู้...อะไรของนายเนี่ยยยย!!!”เสียงหวานแหกปากร้อนโวยวายไปลั่นบริเวณ
“โรแมนติกมากเลยมั้ยชางมิน แดดก็เปรี้ยง ร้อนก็ร้อนแทนที่จะรีบๆกินข้าวแล้วไปทำงานต่อ คิดจะหาเรื่องอู้หรอไง...อย่ามาทำเป็นปากหวานไปหน่อยเลย ชั้นเป็นรุ่นน้องนายนะไม่ใช่แฟน!”
“แล้วอยากเป็นมั้ยล่ะ...แฟนน่ะ”น้ำเสียงช่างเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก
“ยังไม่หยุดใช่มั้ย?”สองนิ้วบิดแรงๆที่ปลายจมูกสวยของชายหนุ่ม
“โอ้ยยยย...ยอมแล้วๆ ไม่ล้อนายเล่นแล้วก็ได้”ใบหน้าง้ำงอด้วยความเจ็บปวด
ชั้นจะไม่ล้อเล่นกับนายอีกแล้ว...ต่อไปนี้ทั้งหมด
คือเรื่องจริง!!!
หลังจากที่โดนดุไปชางมินก็เอาแต่ก้มหน้ากินอาหารแต่สายตาของคุณหมอหนุ่มก็แอบชำเลียงมองคนน่ารักนี้อยู่บ่อยครั้ง ยูฮวานพยายามหายใจเข้า--ออกลึกๆ คำพูดกับสายตาที่จริงจังเมื่อกี้ทันทำให้หน้าเขาร้อนวูบ เหมือนกับว่าชางมินกำลังบอกรักเค้าทางอ้อมอย่างนั้นแหล่ะ...ทางสายตา
“อิ่มแล้ว...งั้นเรารีบไปกันเถอะ”เมื่อกินกันเสร็จเรียบร้อยแล้วชางมินก็เอ่ยปากชวน
“อะ...อืม”ฝ่ามือหนายื่นออกไปให้คนที่กำลังจะลุกได้จับ ยูฮวานมองมันอย่างตัดสินใจ ก่อนจะส่งข้อมือขาวออกไปชายหนุ่มออกแรงฉุดก่อนจะผ่อนแรงกลับมายังคนที่กำลังตั้งท่ายืน แรงที่ผ่อนกลับมาทำให้ยูฮวานเสียหลักก่อนจะลงไปนอนกลิ้งกับพื้น
“5555555555”
“โอ้ยยย...ชางมินนายเล่นบ้าอะไรเนี่ยTT”ยูฮวานแว๊ดเสียงใส่คนขี้แกล้งด้วยความอับอาย
“นายไปทำอะไรตรงนั้นน่ะ...ชั้นอุตส่าห์ช่วยให้นายลุกง่ายขึ้นแล้วนะ55+”ชางมินคนขี้แกล้งยังไม่หยุดหัวเราะง่ายๆ
“หรอ...ช่วยได้มากเลยนะ อย่าอยู่เลย...ย๊ากกกกกกก”เมื่อลุกขึ้นได้ก็แหกปากโวยวายทันที ถ้ายูฮวานจับชางมินไม่ได้ก็ไม่ต้องทำอะไรมันแล้ววันนี้ขออู้เถอะ - -+
ห้องพักขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่แต่ก็พอจะที่จะให้ชางมินและยูฮวานได้หลับนอน คนตัวเล็กหัวเสียไม่น้อยที่พึ่งมารู้จากปากเพื่อนๆว่ารุ่นน้องจะต้องนอนห้องเดียวกับรุ่นพี่ของตนเอง ร่างเพรียวเที่ยวไปอ้อนวอนขอร้องกับการแลกห้องแต่กฏก็คือกฏไม่มีใครยอมทำตามเจ้ากวางน้อยเลยสักคน ก็อีกแค่เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เองจะเคร่งอะไรกันนักหนานะก็ไม่รู้...คำสั่งชางมินต่างหาก!
คนที่ออกคำสั่งและจอมแผนการกว่าครั้งไหนๆนั่งกระดิกปลายเท้าด้วยความเพลิดเพลินใจอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้ากวางน้อยก็คงจะเปิดประตูเข้ามาโวยวายกับเขาแน่ๆ ดูจากเสียงกระแทกส้นเท้าที่ได้ยินมาแต่ไกลแล้วอ่ะนะ... 3 2 1~~~
~ ปัง ! ~
“ชิม ชางมิน!”กระแทกประตูเปิดออก แต่ภาพตรงหน้าที่เห็นคือชายหนุ่มกำลังหลับนอนอยู่บนเตียงนุ่มด้วยท่าทีสบายๆ นี่ที่เขาหายออกไปตั้งนานสองนาน ไม่คิดจะเป็นห่วงกันบ้างเลยใช่มั้ย...ไอ้เป็ด
“ชางมิน...อย่ามาทำแบบนี้ลุกขึ้นมาคุยกันให้รู้เรื่อง!”ออกแรงฉุดแขนคนที่แกล้งเล่นละครตบตาว่าหลับได้อย่างแนบเนียน(อันที่จริงชางมินก็เคลิ้มๆไปบ้างแล้ว - -+)
“อารายอ่า...คนจะหลับจะนอน...มาๆนอนๆ”ตบเตียงพื้นที่ว่างข้างๆ แสร้งทำเป็นลุกขึ้นมานั่งไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น
“นายไม่เห็นบอกว่าเราต้องนอนด้วยกัน”
“จะบอกทำไมเรื่องเล็กน้อย”สีหน้าชางมินดูไม่เดือดร้อนเอาซะเลย
ก็แค่นอนด้วยกัน เตียงเดียวกัน สองต่อสอง...เล็กน้อยใช่มั้ยล่ะ...หึหึ
“เล็กน้อยหรอ...ก็ได้ชั้นเหนื่อยที่จะต้องเดินวุ่นไปเคาะประตูขอร้องใครต่อใครแล้ว...นอนก็นอนสิ”
อะไรกัน! ผิดคาดจากที่ชางมินได้คิดเอาไว้ว่ายูฮวานน่าจะโวยวายมากกว่านี้นี่นา แต่กลับกลายเป็นว่ามันง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปากซะอีกนะ -3-
“เฮ้ยยย”คนที่นั่งคิดอะไรเพลินปลิวตกลงไปกองกับพื้น อยู่ดีๆยูฮวานก็มาผลักเขาลงมาเฉยเลย จริงๆแรงมันมากกว่าผลักด้วยซ้ำไป!
“ผลักชั้นทำไมฮะ...ชั้นไปทำอะไรให้นายTT”
“ก็ทีนายยังแกล้งชั้นได้เลยเมื่อตอนบ่ายอ่ะ...แค่นี้ทำเป็นมาบ่น-3-”
“ไม่บ่นก็ได้...นี่!!! เดี๋ยว...นายจะทำอะไรอีก”คนที่เข้ามาใหม่ได้ไม่นานแสดงตัวเป็นใหญ่เต็มที่ ข้าวของเครื่องใช้ที่ใช้ในการนอนของชางมินถูกแบ่งโยนมาที่โซฟาตัวเล็กจิ๋ว
“ก็นั่นไงที่นอนของนาย...ชางมิน”ยกมือขึ้นชี้ประกอบคำอธิบาย
“ได้ไงกันอ่ะ...เมื่อยหลังแย่เลย”ไม่มีทางเค้าจะไม่ยอมนอนปวดหลังตลอดทั้งคืนแน่ๆ
“ย๊ากก...ห้ามเข้ามานะ”กางไม้กางมือปกป้องพื้นที่บริเวณหวงห้ามเต็มที่ ยื้อกันอยู่นานหลายเพลา สุดท้ายชางมินก็ต้องยอมแพ้แต่โดยดี คนตัวสูงเดินคอตกกลับมา โซฟาที่กลายร่างมาเป็นเตียงนอนตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ตัวเค้าก็ใช่ว่าจะเล็กนอนแผ่หลาไปทีช่วงขายาวก็โผล่มาแทบจะทั้งหมด พรุ่งนี้คงจะเมื่อยน่าดู
เสียงหายใจเข้าออกที่ดังมาให้ยูฮวานได้ยินนั้นก็พอจะรู้ว่าชางมินคงจะหลับไปแล้ว ตัวเค้าเองก็เช่นกันทั้งๆที่น่าจะหลับไปตั้งนานแล้วแต่ทำไมถึงยังไม่หลับ...ไม่สบายใจเลยที่ไปแกล้งชางมินแบบนั้น
“ชางมิน...นายหลับแล้วหรอ?”ไม่มีเสียงตอบกลับมา เสียงกรนยังคงมีมาให้ได้ยินเป็นระยะๆ
“ราตรี...สวัสดิ์...นะ”คำบอกลาก่อนเข้านอนของคนตัวเล็กเมื่อพูดจบยูฮวานก็แทบจะหลับไปในทันทีด้วยความอ่อนเพลีย
คนที่แสร้งทำเป็นหลับกรนคอกๆๆลืมตาโผล่งขึ้นในความมืด ถ้าใครได้เห็นแววตาในยามนี้ของชางมิน บอกได้เลยว่ามันทั้งเจ้าเล่ห์และร้ายกาจยิ่งนัก...หึหึ ไม่คิดว่ายูฮวานจะหลงกลเชื่อในแผนลวงของเขาได้ ลุกออกจากที่นอนของตนเองก่อนจะหยิบหมอนและผ้าห่มผืนหนาวางมันลงเบาๆที่เตียงนอนแสนนุ่ม เรื่องอะไรเค้าจะต้องทนนอนปวดหลัง หนาวก็หนาวถึงแม้จะมีผ้าห่มให้แล้วก็เถอะ สู้นอนกอดกับยูฮวานโดยที่ไม่ต้องห่มผ้าห่มมันยังจะอุ่นซะกว่า ด้วยความที่เนียนอย่างต่อเนื่องร่างหนาค่อยๆสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกับยูฮวาน เรียวแขนแข็งแรงค่อยๆเคลื่อนไปโอบกอดร่างที่กำลังหลับใหลไม่ได้รู้เลยว่าจะกำลังถูกใครบางคนลวนลามอยู่ แถมยูฮวานยังจับแขนชางมินให้กอดได้กระชับยิ่งขึ้นไปอีกก่อนจะหมุนตัวหันกลับมาเผชิญหน้ากับชายหนุ่มที่มีสีหน้าตกใจไม่น้อย ไม่รู้ว่าตอนนี้ยูฮวานยังหลับอยู่หรือว่าตื่นขึ้นมาแล้ว ในใจภาวนาอย่าให้เป็นอย่างหลังเลย ไม่งั้นเค้าคงต้องตายแน่ๆ แต่ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นยูฮวานยังคงหลับอยู่อย่างเดิม ชางมินคงจะลืมไปแล้วว่าเด็กคนนี้ขี้เซาเพียงใด -*-
“พรู่ว์~”ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก้มลงมองคนที่นอนซบอกแกร่งของตนเองหัวกลมถูไปมาอย่างน่ารัก ก่อนที่ชางมินจะหลับไปพร้อมๆกับใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม
“ราตรีสวัสดิ์เช่นกันยูฮวาน^^”
เสียงนาฬิกาที่ปลุกจากมือถือนั้นมือบางควานหามันก่อนจะกดปิดเสียง ขาเรียวเกี่ยวหมอนข้างแสนนุ่มอย่างเกลียดคร้านของคนขี้เซา เมื่อคืนกว่าจะเถียงกับชางมินจบก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืนได้ ตอนนี้ขอนอนต่ออีกสักหน่อยก็คงไม่เป็นไร ไหนๆวันนี้ก็เป็นวันเที่ยวแล้วนี่นาเพราะหลังจากที่รักษาคนไข้และบำเพ็ญประโยชน์เสร็จ อาจารย์หมอก็ใจดีปล่อยให้เหล่านักศึกษาแพทย์พักผ่อนได้อีกหนึ่งวันแล้วค่อยออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ คนที่กำลังจะเคลิ้มหลับไปอีกครั้งรู้สึกแปลกๆกับเจ้าหมอนข้างที่ตนได้นอนกอดก่ายอยู่ เพราะมันทั้งแข็งแถมที่ขยับขึ้นลงๆเหมือนว่ามันไม่ใช่หมอนข้าง เปลือกตาค่อยบางค่อยๆลืมขึ้น ตาที่ยังมองอะไรไม่ชัดดีกระพริบมันอยู่สักพักก่อนจะจ้องมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแล้วก็ต้องตกใจ หัวใจดวงน้อยเต้นแรงไม่เป็นจังหวะเพราะคนที่เค้านอนกอดอยู่ทั้งคืนไม่ใช่หมอนข้างแต่เป็น...
“ชางมินนน!!!!!!”นอนดิ้นไปมาอย่างคนเอาแต่ใจก่อนจะออกแรงถีบคนที่กำลังหลับฝันหวานร่วงลงไปกองกับพื้น
~ ผลั่กก!! ~
“แง่มๆๆๆ”อ้าปากหาวอย่างน่าเกลียด นี่ไม่รู้สึกเจ็บอะไรบ้างเลยหรือไง
“ไอ้บ้า...นายมานอนบนเตียงนี้ได้ยังไงห๊ะ...นี่แน่ๆๆ”หมอนใบเขื่องที่ใกล้มือมากที่สุดในตอนนี้ยูฮวานหยิบเอามาขว้างปาใส่ชางมินไม่ยั้ง
“โอ้ยย...เจ็บนะ ก็นอนตรงนั้นมันทั้งเมื่อยทั้งหนาวนี่นา...นายไม่สงสารชั้นหรอไง”ชางมินพยายามหาข้ออ้างมาพูดให้คนขี้โมโหเชื่อฟังเค้าบาง
“ไม่ต้องมาอ้างเลยนะ...นายนอนกอดชั้นทั้งคืน...อ๊ากก”คำพูดของตัวเองทำเอายูฮวานรู้สึกอายไม่น้อย
“ใครกอดใครกันแน่...นายต่างหากที่นอนกอดชั้นน่ะ”พูดพรางส่งสายตากรุ่มกริ่มกลับไปให้
“ฮือๆๆๆ...กลับไปชั้นจะไปฟ้องพี่ยุนโฮ...คอยดู”ยูฮวานเริ่มงอแง
“ฟ้องไปแล้วนายคิดว่ามันทำอะไรชั้นได้...งั้นหรอ?”นั่นสิฟ้องไปแล้วจะทำอะไรเจ้าเป็ดนี่ได้
“งั้นนายต้องเพิ่มคะแนนให้ชั้นเป็นการไถ่โทษ”ยูฮวานเสนอความคิด
“เรื่องอะไร...พูดเหมือนชั้นทำอะไรผิดแต่ก็เอาเถอะถือว่าชั้นใจดีกับเด็กน่ารักๆอย่างนายแล้วกันนะ^^”มือหนาขยี้กลุ่มผมสีดำเล่นจนตอนนี้มันยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว
“ฮึ้ยย...ผมยุ่งหมด”เปรยตาขึ้นไปมองก่อนจะพ่นลมเล่นกับเส้นผมที่ปรกใบหน้าขาวอมชมพู
“20 แต้มเอามาซะดีๆ55+”
“อะไรตั้ง 20 แต้ม”คนตระหนี่ไม่ยอมให้ง่ายๆ
“ฮือๆๆๆ...ฟ้องพี่ยุนแน่อ่ะคอยดูTT”ยูฮวานก็ยังไม่เลิกเจ้าน้ำตาเช่นกัน
“15 แต้ม”ชางมินต่อรอง
“TT”
“20 ก็ 20 นายนี่มัน!!!”พูดแกล้งไปอย่างนั้นแหล่ะ เค้าไม่ใช่คนใจร้ายสักกะหน่อย จริงอย่างที่ยุนโฮว่าเวลายูฮวานอ้อนดูน่ารักมากจริงๆ
“เย้ๆๆ...นายใจดีจังชั้นไปอาบน้ำก่อนนะ...คิ”ว่าเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินผิวปากเข้าห้องน้ำไปอย่างสบายใจ
หลังจากที่อาบน้ำ แต่งตัวเสร็จแล้วยูฮวานก็ออกมารอชางมินข้างนอก หลังห้องพักนั้นเป็นฟาร์มขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยฝูงแพะ ฝูงแกะ และวัวตัวโตมากมาย เสียงเห่าของสุนัขต้อนฝูงสามตัวคอยส่งเสียงเห่าเป็นระยะ ไม่ให้เจ้าสัตว์ทั้งหลายแตกแยกออกจากแถว ยูฮวานนั่งมองอยู่นานนึกชอบบรรยากาศแบบนี้ที่ดูสบายๆและเป็นธรรมชาติ รอยยิ้มหวานประดับยังใบหน้าขาว จมูกโด่งรั้นขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะอากาศที่เริ่มหนาวเย็นกว่าทุกๆวัน
“มาอยู่ที่นี่เอง”เสียงของชางมินดังมาจากข้างหลังของคนใจลอย
“ชางมินที่นี่มีฟาร์มด้วยล่ะ^^”เสียงของคนตัวเล็กดูตื่นเต้น
“อื้ม...ชั้นก็กะจะพานายไปเที่ยวที่นั่นเหมือนกัน...เราไปด้วยกันมั้ย?”ชางมินเองก็ติดจะชอบธรรมชาติแบบนี้ เลยอยากชวนยูฮวานไปด้วยกัน
“สองคนหรอ?”คนขี้ระแวงเอ่ยถาม
“ไมถามชั้นแบบนี้อ่ะ...ไม่ไว้ใจกันหรอไง”
“ก็จะให้ชั้นวางใจนายได้ยังไงล่ะ...เผลอแป๊ปเดียวก็ขึ้นมานอน....”พูดไม่ทันจบประโยคยูฮวานก็เขินไปซะก่อน
“กับนายอ่ะหรอ”คุณหมอหนุ่มรีบต่อประโยคให้จบสมบูรณ์
“ชางมินอ่า~~”ทุบไปที่ไหล่หนาเบาๆ
“ก็บอกแล้วไงว่ามันเมื่อยหลัง...เชื่อกันบ้างสิ...ชั้นไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นสัก...หน่อย”แน่ใจหรอชางมินที่นายพูดไปน่ะ >//<
“ถ้านายไม่คิดก็แล้วไป...อย่าให้ชั้นรู้นะ”เสียงดุๆที่ยูฮวานแกล้งเอ่ยออกมาทำเอาชางมินขนลุกไปเลย - -+
“ได้เวลาแล้ว...ไปกันเถอะ”รีบเปลี่ยนเรื่องก่อนจะชี้มือไปยังฟาร์มที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้มากนัก
เมื่อมาถึงทั้งสองก็ค่อยๆเดินไปตามทาง อย่างแรกเลยจะเป็นฟาร์มแกะขนปุยตัวกลมที่กำลังเล็มหญ้ากินกันอย่างเอร็ดอร่อยซึ่งกระจัดกระจายกันอยู่ไปทั่วรอบคอกไม้ ชายหนุ่มยื่นหญ้าสีเขียวหนึ่งมัดให้กับรุ่นน้องที่ดูจะเพลิดเพลินซะเหลือเกินจนเหมือนจะลืมไปแล้วว่ามีเค้ายืนอยู่ข้างๆด้วย - -+
“ว้าว...ให้อาหารมันได้ด้วยหรอ?”ยูฮวานดูตื่นเต้นไม่น้อย
“อื้ม...ป้อนมันสิ”เมื่อให้อาหารแกะน้อยไปเรียบร้อยแล้วชางมินก็พายูฮวานเดินมาต่อที่คอกม้าตัวสีน้ำตาลเข้มตัวใหญ่
“มีม้าด้วย...หางมันสวยจังเลยชางมิน~~~”เอื้อมมือออกไปจับเบาๆก่อนจะหัวเราะออกมา...จั๊กจี๋
“นายอยากขี่มันมั้ยล่ะ?”เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลจนยูฮวานต้องหันไปมองก่อนจะส่ายหัวปฏิเสธ
“ไม่เอาดีกว่า...ชั้นกลัวตกน่ะ”ใบหน้าเรียวฉายแววความกลัวอยู่เล็กน้อย
“จะตกได้ยังไงไม่ตกหรอก มาสิ..จับมือชั้น”ชางมินค่อยๆดันตัวยูฮวานให้ขึ้นไปนั่งบนหลังม้าพร้อมกับคนดูแลที่ช่วยพยุงอีกที เพียงเท่านั้นคนน่ารักก็ขึ้นไปนั่งบนหลังม้าเรียบร้อยเสียแล้ว
“ว้าว~~~ วู้~~~ >3”
“เดี๋ยวผมถ่ายรูปให้นะครับ”ชายหนุ่มเจ้าของฟาร์มเอ่ย
“เอ่อ...จะดีหรอฮะ”ยูฮวานหันไปมองหน้ากับชางมิน
“ดีสิครับ...เอาเลยนะ”ชายคนนั้นก็ยังคะยั้นคะยอไม่เลิก
“อ่ะ...เดี๋ยวครับ...แปปนะฮะ”ยูอวานร้องห้ามก่อนจะหันไปจัดทรงผมให้กับคนที่ยืนอยู่ข้างๆม้าที่เค้านั่ง...ชางมิน
“ลมมันแรงผมนายเลยยุ่งน่ะ”รีบบอกออกไปก่อนที่ชางมินจะได้เอ่ยปากถามทัน
“ก็...ไม่ได้ว่าอะไรหนิ >//<”รอจนแผ่นฟิล์มแห้งจึงปรากฏภาพสีสวยจากกล้องโพลารอยด์ แผ่นฟิล์มถูกส่งให้กับชางมินนั้นเป็นภาพที่แสดงถึงความสุข รอยยิ้มของคนทั้งสองมันบอกอย่างนั้น
“ขอบคุณนะครับ”เมื่อลงจากหลังม้าแล้วทั้งสองก็เดินไปเรื่อยๆ
“ชางมินขอพักหน่อยได้มั้ย...ชั้นเมื่อยขาไปหมดแล้ว”ยูฮวานนั่งลงที่โต๊ะไม้ตัวสีน้ำตาลเข้ม ไม่น่าเชื่อเดินไปเดินมาแค่นี้ก็กินเวลาไปหลายชั่วโมงแล้ว
“อะไรกันนี่เรายังเดินไปไม่ครบเลยนะ”ยังมีอีกสองถึงสามฟาร์มด้วยกันที่ชางมินอยากจะพายูฮวานไปดู
“แต่ชั้นเมื่อยแล้วนี่นา...ก็แค่นั่งพักเอง”
“ก็ได้ๆ...ชั้นให้เวลานายแป๊ปเดียวนะ”
“นี่ชางมิน”ยูฮวานเหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้ เอ่ยเรียกชื่อรุ่นพี่คนสนิท
“อะไรหรอ?”
“คืนนี้...เรามากางเต็นท์นอนกันมั้ย?”ยูฮวานออกความคิด
“บ้าหรอ...มาชวนชั้นไปนอนกับนาย...ชั้นเขินแย่เลย >//<”ท่าทางที่แสดงออกมาคนที่มองรู้สึกว่าน่าหมั่นไส้ซะมากกว่า - -+
“ไอบ้า...นายคิดไรอยู่...ไม่นอนก็ไม่นอน ชั้นนอนคนเดียวก็ได้”
“แหมๆ...ก็แค่ล้อเล่น ใครจะพลาดโอกาสทองแบบนี้กันล่ะ”คำพูดสองแง่สองง่าม ดวงตาเป็นประกายของร่างเพรียวเริ่มแผ่รังสีอำมหิตให้ชางมินได้รับรู้เสียแล้ว
“คือ...คือชั้นหมายถึงอากาศดีๆแบบนี้มันหาไม่ได้ง่ายๆน่ะ...นายว่างั้นมั้ยอ่ะ”เฉไฉไหลลื่นไปได้อย่างสบายๆ
“ใช่ๆ...ชั้นก็คิดเหมือนนายนี่แหล่ะ”อากาศที่นี่ดีเสียจนเค้าลืมเมืองกรุงที่น่าเบื่อไปเลย
“พรุ่งนี้เราต้องกลับกันแล้วสินะ”
“เร็วจังเนอะ...ชักคิดถึงพี่มิคซะแล้วสิ”เมื่อนึกถึงพี่ชาย ก็ไม่รู้ว่าสองคนนั้นจะเคลียกันได้หรือยัง
“ไม่ต้องมาทำตัวเป็นเด็กเลยนะ...ไปต่อกันเถอะ”ชางมินพายูฮวานตะลอนๆมาตลอดทั้งบ่ายนี้และในที่สุดทั้งคู่ก็เที่ยวรอบฟาร์มจนครบทุกฟาร์มได้สำเร็จ
“สนุกจังเลยอ่ะ...ขอบคุณนายมากนะรุ่นพี่ชิม^^”คนตัวเล็กเอ่ยอย่างร่าเริง ในอีกด้านนึงของชางมินดูเป็นคนที่น่ารักมากๆเวลาอยู่ด้วยแล้วเค้าก็รู้สึกอบอุ่น ถ้าไม่นับเวลางานอ่ะนะ...ไม่รู้จะดุไปไหน
“ไม่ต้องฝืนเรียกก็ได้มั้ง”ยกมือขึ้นหยอกล้อกับกลุ่มผมสีดำจนยุ่งไม่เป็นทรง
“อ้า...ผมยุ่งหมดแล้วนะ”
“5555+”
ตกกลางคืนเมื่อรับประทานอาหารกันเสร็จสับเรียบร้อยแล้ว ชางมินก็จัดข้าวของที่จำเป็นใส่กระเป๋าเป้เตรียมไปนอนที่เต็นท์ด้วยกันกับยูฮวาน กวางน้อยก็ดูจะตื่นเต้นและเตรียมพร้อมสำหรับการออกค่ายเล็กๆนี้ เท้าเรียวเดินตรงเข้ามาช่วยรุ่นพี่ขี้ตามใจถือของ
“ขอบใจนะ...ไปกันเถอะ ป่านนี้เค้าคงกางเต็นท์ให้เราเสร็จแล้ว”ชางมินพูด
“อื้ม^^”
เมื่อมาถึงก็เป็นอย่างที่คาดเอาไว้ เต็นท์นอนสีน้ำเงินเข้มถูกกางไว้แล้วให้แขกกิตติมศักดิ์ทั้งสอง พร้อมกับกองไฟเล็กๆเพื่อคลายความหนาวเย็นจากอากาศในชนบทแบบนี้ พื้นที่ที่ชายหนุ่มเลือกเป็นที่ที่เงียบสงบ ปลอดคน ไร้ซึ่งเสียงรบกวน
“ว้าว~~~”เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่ถูกแต่งแต้มไปดวงหมู่ดารามากมาย
“ดีใจที่นายชอบนะ...เพราะชั้นก็ชอบเหมือนกัน”เงยหน้าขึ้นมองอีกคน ชางมินกำลังยิ้มกับท้องฟ้า
“นายคงไม่ค่อยได้ไปเที่ยวใช่มั้ย...งานนายเยอะจนชั้นเหนื่อยแทนเลยจริงๆ”
“อืม...เห็นแบบนี้แล้วชั้นก็อดคิดถึง...”เมื่อได้มาอยู่ในบรรยากาศแบบนี้อีกครั้ง ชายหนุ่มก็นึกย้อนไปถึงเรื่องในอดีต เป็นเวลานานมากแล้วที่ชางมินไม่ได้ไปเที่ยวกับครอบครัวอีกเลยเพราะหน้าที่การงานที่เค้าต้องรับผิดชอบ มันยากที่จะหาเวลามาทำอย่างอื่น อยู่ๆชางมินก็หยุดพูดไปใบหน้าหล่อฉายแววเศร้าหมอง ทำให้คนข้างกายเข้าใจผิดคิดว่าชางมินกำลังคิดถึงคนรักของตนเองอยู่
“คิดถึงแฟนนายอยู่หรอไง?”กวาดสายตากลับมามองร่างสูงด้วยความอยากรู้ในคำตอบ
“จะบ้าหรอไง...ชั้นยังโสดย่ะ”ชางมินปฏิเสธเสียงแข็ง กลัวยูฮวานจะเข้าใจเค้าผิด
“งั้นนายเป็นอะไร...ทำไมอยู่ๆก็พาชั้นเศร้าไปด้วยแบบนี้ล่ะ”รู้สึกโล่งใจที่คำตอบของชายหนุ่มไม่ได้ทำร้ายจิตใจเขาอย่างที่คิด!?
“..............”
“ชั้นก็นึกว่านายกำลังคิดถึงแทมินอยู่ซะอีก”
“ยูฮวานนายพูดอะไรเนี่ย...แทมเป็นรุ่นน้องของชั้นนะ”
“ก็ทำไมจะคิดไม่ได้ล่ะทีนายยังคิดเรื่องของชั้นกับพี่ยุนโฮได้เลยอ่ะ”
“เฮ้ย...ชั้นพลาดไปแล้วนี่นาแล้วเรื่องของแทมินนะยิ่งมันไม่มีทางเป็นไปได้เลย เปอร์เซ็นมันน้อยมากๆ...แต่ถ้าเป็นเรื่องของนายกับชั้น...นั่นก็ว่าไปอย่าง”
“เรื่องของชั้นกับนาย?”
ก็หรือไม่จริงอ่ะครับ ผมไม่ได้โกหกนะ แต่เปอร์เซ็นที่ผมกับยูฮวานจะมีรู้สึกดีๆต่อกับจนบางทีมันอาจจะเกิดเป็นความรักขึ้นในเร็ววัน...โอกาสมันมีมากจริงๆ ถึงจะทะเลาะหรือเถียงกันเป็นเด็ก แต่สิ่งเหล่านี้แหล่ะที่เป็นตัวเชื่อมของความสัมพันธ์และความรู้สึกที่ดีๆของผมกับเจ้ากวางน้อย
“ชั้นกำลังนึกถึงครอบครัว...นายรู้มั้ยว่าตั้งแต่ที่ชั้นเป็นหมอ...ชั้นก็กลายเป็นคนไม่มีเวลาให้กับครอบครัวไปเลย”ถอนหายใจออกมาเบาๆ รู้สึกผิดอยู่ในใจเหมือนว่าเค้ากำลังละเลยความสำคัญที่แน่นแฟ้นของครอบครัว ไม่เคยเลยสักครั้งที่ชางมินจะเล่าเรื่องแบบนี้ให้ใครฟัง ชายหนุ่มได้แต่เก็บเอาไว้คนเดียว คิดเองคนเดียว...จนบางทีก็รู้สึกอึดอัด
“ไม่เอาน่าชางมิน...อย่าคิดมากสิ”ยูฮวานโอบรอบไหล่หนาตบเบาๆ เพื่อเป็นการปลอบใจ...บางทีชางมินก็เป็นคนอ่อนไหวหรอ?
“ขอกอดหน่อยได้มั้ย?”ดวงตาคมเข้มเป็นประกายจากหยาดน้ำตาเม็ดโต
“อะ...เอ่อ...อื้ม”ยูฮวานทำตัวไม่ถูก เขาตัวแข็งทื่อได้แต่พยักหน้ารับหงึกๆ รู้ดีว่าตอนนี้ชางมินคงว้าเหว่ไม่น้อย...เจ้ากวางน้อยของนายจะช่วยปลอบนายให้หายดีเอง...อย่าห่วงเลย แรงสะท้านเบาๆจากร่างหนาก็ทำให้ยูฮวานรู้ว่าชางมินกำลังร้องไห้แต่นั่นเป็นเพียงสิ่งที่ยูฮวานรู้สึกและคิดไปเองต่างหาก...ชางมินกำลังหัวเราะ?
“ชั้นเข้าใจนายนะ...อย่าร้องไห้สิ...ชางมินของชั้นไม่ใช่คนอ่อนแอแบบนี้นี่นา”ถ้าชางมินยังไม่หยุดร้อง มีหวังเค้าคงได้ร้องไห้ตามออกมาแน่ๆ
“ถ้าพ่อกับแม่เข้าใจชั้นแบบนายก็คงดี”ซุกใบหน้าลงกับไหล่บาง สูดกลิ่นไอความหอมเฉพาะตัวจากคนใจดีที่ให้เขายืมอ้อมกอดแต่ยูฮวานจะรู้มั้ยนะว่าถูกชางมินฉวยโอกาสทองนี้อยู่ สิ่งที่ชางมินพูดชายหนุ่มไม่ได้โกหกแต่เป็นบางส่วนเท่านั้นที่หยิบยกมาเล่าเพราะปัญหาต่างๆที่ว่านั้นมันได้คลี่คลายไปตั้งนานแล้ว
ขอโทษนะยูฮวาน...ชั้นแค่อยากลองใจนายดูเท่านั้นเอง
“นายร้องไห้...แต่ทำไมไม่เห็นมีน้ำตาเลยล่ะ”ถอนอ้อมกอดออกมาเหมือนกวางน้อยเริ่มจะจับพิรุธอะไรบางอย่างได้ แต่แววตาและสีหน้าที่เศร้าหมองของชางมินตอนนี้ไม่สามารถทำให้ยูฮวานคิดเป็นอย่างอื่นไปได้เลย กวางน้อยยังคงเชื่อมันอย่างสนิทใจ ดวงตาแดงก่ำสั่นไหวอย่างไม่มั่นคงแต่กลับไม่มีน้ำตาสักหยดแล้วทีนี้คนเจ้าแผนการจะแก้ตัวยังไงดีล่ะ...ตอบดีๆนะชางมิน
“เอ่อ...คือ”
“อะไร”
“ผู้ชายเค้าไม่ร้องไห้มีน้ำตากันหรอกนะ”ชางมินพูดออกมายิ้มๆ แก้ตัวออกไปน้ำขุ่นๆ
แล้วที่เวลาชั้นร้องไห้...มีน้ำตา
ชั้นก็ไม่ใช่ผู้ชายน่ะสิ....บ้าน่ายูฮวาน -0-
แต่เอาเถอะตอนนี้ชางมินกำลังเศร้า...เค้าจะไม่ต่อล้อต่อเถียงให้อะไรมันแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว เฮ้ย...เอื้อมมือไปปัดปอยผมให้คุณหมอหนุ่มอย่างแผ่วเบาราวกับเป็นการปลอบโยนไปในตัว มือหนาจับทับฝ่ามือเรียวก่อนจะเลื่อนมันลง ใบหน้าของชายหนุ่มเคลื่อนเข้าไปใกล้ใบหน้าขาวมากขึ้นๆ คนตัวเล็กหลับตาลงคาดเดาไม่ถูกเลยว่าชางมินกำลังจะทำอะไร เสียงหัวใจดวงน้อยตีกันจนว้าวุ่นไปหมดในตอนนี้ ดวงตาคู่คมที่ฉายแววเศร้าหมองเมื่อครู่นี้ค่อยๆมองสำรวจใบหน้าน่ารักช้าๆราวกับจะเก็บทุกรายละเอียดให้ตราตรึงในหัวใจของเขาตลอดไป ลมหายใจอุ่นๆพ่นใส่ใบหน้ากวางน้อยจน ยูฮวานต้องหลับตาปี๋ยิ่งกว่าเก่า ก่อนที่ชางมินจะค่อยๆเคลื่อนริมฝีปากกระซิบยังกกหูนิ่มที่กำลังขึ้นสีแดงจัด
“เรานอนกันเถอะ” เสียงทุ่มต่ำกระซิบข้างหูเพียงแค่นั้น ก่อนจะหันตัวกลับเข้าไปในเต็นท์มุดตัวอยู่ในผ้าห่มที่แสนอบอุ่น เปลือกตาหนาหลับลง ยูฮวานลืมตาโผล่งด้วยความไม่เข้าใจตัวเองเช่นกัน นี่เค้ากำลังรออะไร? คาดหวังอะไรจากชางมินอยู่? ก้มมองนาฬิกาข้อมือก็รู้ว่าอีกไม่กี่นาทีก็จะเป็นช่วงเวลาของเช้าวันใหม่แล้วดังนั้นเค้าก็ควรจะเข้านอนตามที่รุ่นพี่ชางมินบอก
เลิกคิดฟุ้งซ้านสักที...ยูฮวาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น