Title : [Fic] หมอ...llจิตll
Writer : GroupBee + KJW
Couple: YunJae , YooSu , MinRic
Genre : Drama , Erotic
NC : PG
Part…25 หึง!!!
เช้าวันสุดท้ายของการมาออกค่ายพักแรมของนักศึกษาแพทย์ บางคนก็เริ่มจัดกระเป๋าเตรียมตัวเดินทางกลับแต่บางคนก็ยังนอนหลับปุ๋ยไม่รู้เรื่องรู้ราวกับใครเค้า ร่างหนาพลิกกายไปมาด้วยความเกลียดคร้าน ชางมินจิ๊ปากอย่างหงุดหงิดที่โดนรบกวนจากการหลับนอน อะไรบางอย่างนุ่มนิ่มกำลังแทะเล็มปลายจมูกของเค้าอยู่ราวกับว่ามันเป็นอาหารจานโปรดก็ไม่ปาน ขนปุกปุยสีขาวนุ่มทำให้ต้องจามออกมาแรงๆ -*-
“คิคิ”ยูฮวานหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุขที่ได้แกล้งคนขี้เซาเล่น
“เอามันออกไปเลยนะ...นี่มันตัวอะไรน่ะ?!”ชางมินลืมตาตื่นมาก็ตกในกับเจ้าสัตว์ขนปุยตรงหน้า ร้องโวยวายเสียงดังลั่น
“555555”ยูฮวานเอามือกุมท้อง เค้าหัวเราะจนท้องแข็งไปแล้ว ชางมินเด้งตัวขึ้นมานั่ง ใบหน้าหล่อดูง้ำงอและหงุดหงิดอยู่ในที
“สนุกมากมั้ยเนี่ย...นายเอากระต่ายมาจากไหนน่ะยูฮวาน?”เมื่อหายงัวเงียแล้วก็อุ้มกระต่ายขนปุยขึ้นมาเล่น
“ชั้นเอามันมาจากฟาร์มตรงโน่นน่ะ...มันปลุกนายได้ดีกว่าเสียงนาฬิกาปลุกเสียอีก”
“งั้นนายก็ควรเลี้ยงมันเอาไว้ปลุกคนขี้เซาแถวๆนี้บ้าง จะได้ไม่ต้องโดนหักคะแนนเพราะมาสายไง”ชายหนุ่มยอกย้อน ใครบางคนที่ชางมินพาดพิงก็คือยูฮวานนั่นเอง
“ไม่ต้องมาหลอกด่าชั้นเลยนะ...ชั้นไม่ได้ซื้อมาเลี้ยงเองหรอก”
“แล้วถ้านายไม่ซื้อมาเลี้ยงเองแล้วนายซื้อมาให้ใครอ่ะ?”
“ไว้ถึงเวลาแล้วเดี๋ยวชั้นจะบอกนะ”
“ความลับเยอะจังนะเรา...ไปอาบน้ำแต่งตัวกันเถอะ...อีกไม่นานรถก็จะมารับแล้วล่ะ”แล้วชางมินกับยูฮวานก็เดินขึ้นห้องพักไปทำภารกิจส่วนตัวเตรียมพร้อมที่จะเดินทางกลับ
รถบัสคันเดินก็มาจอดรอทุกคนอยู่ที่หน้าหอพัก สองคนที่เดินมาด้วยกันนั้นดูมีท่าทีสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเก่าอย่างชางมินและยูฮวานส่งกระเป๋าให้คุณลุงคนขับก่อนจะเดินขึ้นไปนั่งบนรถที่ประจำของตนเอง ขวดน้ำที่พกติดตัวมายูฮวานกำลังจะกรอกมันเข้าปากพร้อมๆกับยาแก้เมารถแต่ทว่ามือหนาของชางมินก็หยุดการกระทำของเขาเอาไว้
“ไม่ต้องกินมันหรอก...เชื่อชั้นสิ”
“จะบ้าหรอ...นายไม่รู้หรอกว่าเวลาชั้นเมารถมันทรมานขนาดไหน...ยิ่งตอนอุแหวะนะ...ทรมาน...ไม่เอาอ่ะTT”ชางมินไม่ได้ฟังเหตุผลของยูฮวานผู้น่าสงสารเลยสักนิด ชายหนุ่มรีบแย่งยาเม็ดเล็กมาจากยูฮวานหน้าตาเฉยก่อนจะปามันออกหน้าต่างไปและก็เป็นเวลาเดียวกับที่รถบัสกำลังเคลื่อนตัวออกไปจากหมู่บ้าน
“เฮ้ยย...ยาชั้น...นาย!!!”ยูฮวานตะหวาดลั่นรถ
“จะโวยวายทำไม...เชื่อชั้นสิ ชั้นไม่ปล่อยให้นายเมารถเด็ดขาด”ชางมินพยายามชวนคนข้างกายที่นั่งงอนเค้าคุยมาตลอดทางทั้งหาเรื่องแกล้งทั้งหาเรื่องชวนทะเลาะต่อปากต่อคำกันไปไม่ได้หยุด และที่สำคัญยังมีกระต่ายน้อยตัวอ้วนกลมน่ารักให้คนทั้งสองได้ผลัดกันเล่นจนกลายเป็นว่ายูฮวานลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังเมารถอยู่น่ะ
“เมื่อวานชั้นทำตัวน่าอายมากเลย ที่ร้องไห้ออกไปแบบนั้น”อยู่ๆชางมินแกล้งก็พูดขึ้นมา เรียกความสนใจจากใบหน้าหวานให้เงยหน้าขึ้นมามอง
“ก็ไม่เชิงหรอกนะ...มันไม่ใช่เรื่องน่าอายหรอกน่า บางทีถ้านายได้ระบายออกมาบ้างมันคงจะดีไม่น้อย^^”ยูฮวานพูดพร้อมรอยยิ้ม
“ขอบใจนายมากนะยูฮวาน” ขอบคุณ..ที่นายจับพิรุธชั้นไม่ได้ต่างหาก55+
“ชางมินนายต้องสัญญากับชั้นนะว่าถ้านายมีเรื่องอะไรไม่สบายใจต้องเล่าให้ชั้นฟัง...เก็บไว้คนเดียวมันไม่ดีหรอก...จริงๆนะ”หยิบขนมใส่ปากก่อนจะยื่นอีกชิ้นให้กับรุ่นพี่จอมคิดมาก - -+ (ตรงไหน???)
“นายอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครนะ...ได้มั้ย”
“ทำไม...อายล่ะสิ...เอาน่าชั้นไม่ปากโป้งหรอก...อย่าห่วงเลย”
ป่าวหรอก...ชั้นกลัวนายอายต่างหาก
ถ้ารู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมัน...555+
เสียงพูดคุยมีมาให้ได้ยินกันตลอดทาง พาหนะขนาดใหญ่ค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าสู่สถานพยาบาลช้าๆ เหล่านักศึกษากลับมาแล้ว รุ่นพี่และเพื่อนๆที่ไม่ได้ไปก็ต่างมายืนรอและต้อนรับ มือบางจับเจ้าสัตว์เลี้ยงหยัดลงไปในกระเป๋าก่อนจะลงรถตามเพื่อนๆพี่ๆออกมา
“ไอ้มิน...ยูฮวาน”เสียงของยุนโฮดังขึ้นพร้อมรอยยิ้ม ร่างโปร่งเดินเข้าไปกอดคุณหมอหนุ่มด้วยความคิดถึง แทมินก็แอบยื่นหน้าออกมาดูยูฮวานเช่นกันแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป
“สนุกมั้ยล่ะ?”
“มากๆเลยฮะพี่ยุน..คิคิ”
“แทมินบ่นอยู่ว่าเหงา...ไม่มีใครมาชวนทะเลาะ”ยุนโฮหันไปทางรุ่นน้องที่ทำเป็นนิ่งเฉยพยายามเก็บอาการเต็มที่
“พี่ยุนพูดไรฮะเนี่ย...พี่ชางมินไม่มีของฝากถึงผมเลยหรอฮะ”
“55+...ไม่มีหรอก ไม่ใช่พี่ไร้น้ำใจนะแต่ว่า...”
“ชางมินกินมันหมดตั้งแต่กลางทางไปแล้วล่ะ...นายน่าจะบอกชั้นนะแทม ไปหวังอะไรจากชางมินแบบนี้...ไม่ได้หรอก55+”ยูฮวานหัวเราะเสียงดัง
“นี่แหน่ะๆ”ชางมินกดหัวของยูฮวานบาๆ
“ไม่จริงสักหน่อย...พี่แค่ล้อเล่น...นายมั่วแล้ว”ว่าพรางหยิบถุงขนมขึ้นมาส่งให้กับคนตรงหน้าทั้งสอง
“ขอบคุณนะฮะ”
“ขอบใจนะ...แต่ของที่นายยังติดชั้นอยู่มันยังไม่หมดแค่นี้นะโว้ย”ยุนโฮพูดออกมาลอยๆซึ่งชางมินก็รู้ทันที...แผนการเอาชนะใจเจ้ากวางน้อยไงล่ะ
“เอ่อน่าๆ”ชางมินเริ่มเหงื่อตก
“พวกพี่พูดไรกันฮะ”ยูฮวานเอ่ยถามอย่างสงสัย ดวงตาฉายแววจับพิรุธ
“ป๊าววว!!!”ชางมินปฏิเสธเสียงสูง จะให้พูดออกไปได้ไงล่ะ เสียฟอร์มแย่เลย 55+
“อ่า...ริคต้องไปก่อนแล้วพี่มิคมารับพอดีเลย...บับบายฮะ...ชางมิน...ขอบใจนะ^^”หันกลับไปร่ำลายุนโฮและใครอีกคนก่อนที่ยูฮวานจะหันกลับมาหาชางมินอีกรอบพร้อมกับเอ่ยคำขอบคุณแบบส่งตรงไปให้ร่างสูง รอยยิ้มหวานของเจ้ากวางน้อยนั้นช่างน่ารักเสียจริงๆ
“เฮ้ย...นานๆจะเห็นเพื่อนรักชั้นเขินหว่ะ55+”
“555+”สองรุ่นพี่รุ่นน้องช่างเข้าขากันดีจริงๆในความคิดของชางมิน
“พูดไรเนี่ย???”เดินยิ้มออกมาใบหน้าแดงก่ำเป็นลูกมะเขือเทศไปแล้วตอนนี้ ชางมินไม่อยากจะอยู่ตรงนี้นานๆสักเท่าไหร่เดี๋ยวจะโดนแซวไปมากกว่านี้ >//<
เป็นเวลาพักใหญ่แล้วที่ยูชอนวนรถหาที่จอดอยู่หลายรอบแล้วโชคก็เข้าข้างเค้าสักที ร่างโปร่งไม่รอช้าที่จะจอดรถเข้าซองก่อนจะหันมาส่งยิ้มหวานๆให้กับตุ๊กตาตัวอวบข้างๆที่พามาด้วย เป็นจังหวะเดียวกับที่ยูฮวานลงมาจากรถพอดิบพอดี
“นั่นไงฮะพี่ยูชอน...ยูฮวานลงมาแล้ว..คิ”จุนซูพูดอย่างตื่นเต้น สายตาคมมองตามนิ้วเรียวที่ชี้บอกทิศทางของน้องชาย
“อ่า...นั่นริคกี้กำลังคุยกับใครอยู่น่ะ”พูดออกมาอย่างไม่ค่อยจะสบอารมณ์ เมื่อร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มผิวสีแทนทำตัวตีสนิทใกล้ชิดกับน้องชายเค้ามากเกินความจำเป็น
“เค้าอาจจะเป็นเพื่อนกันก็ได้นะฮะ...อย่าหวงน้องชายไปหน่อยเลยน่า”จุนซูนึกตลกกับท่าทีของยูชอน
“ก็ดูมันทำสิ...อย่างกับเป็นแฟนกันงั้นแหล่ะ”เบ้ปากพูดอย่างหงุดหงิดใจ จุนซูมองไปยังบุคคลที่ยูชอนกำลังเอ่ยถึงทั้งสอง ชายหนุ่มที่กำลังตกเป็นเป้าสายตาอย่างชางมินในตอนนี้ถูกโขมยซีนไปเสียแล้ว เมื่อคนตาดีอย่างจุนซูเหลือบไปเห็นร่างสูงอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆยูฮวาน ถึงจะเคยเห็นเพียงแค่ครั้งเดียวแต่จุนซูก็จำได้อย่างแม่นยำ คนที่เลวที่ทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจของเพื่อนรักเค้าอย่างไม่ใยดี...ยุนโฮ ตอนนี้ยูฮวานขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้วอดแปลกใจไม่ได้ว่าสองคนนี้คืนดี ปรับความเข้าใจกันได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ คงจะเป็นระหว่างตอนที่เขาไปเข้าค่ายแน่ๆเลย
“จุนซูนายก็มารับชั้นด้วยหรอ...พี่มิคผมคิดถึงพี่จัง”ปากเรียวสีส้มอ่อนประทับลงยังโหนกแก้มนุ่มของพี่ชายอย่างเอาใจ เพียงเท่านี้ก็เรียกรอยยิ้มบางๆจากร่างโปร่งได้แล้ว
“พี่ก็คิดถึงนาย...สนุกมั้ย?”พอได้เห็นใบหน้าที่มีความสุขของน้องชาย ยูชอนก็แทบจะลืมเรื่องที่จะถามเมื่อครู่นี้ไปเลย
“สนุกมากๆเลยฮะ^^”ใบหน้าเปื้อนยิ้มพูดอย่างมีความสุขเมื่อนึกถึงการไปค่ายกับรุ่นพี่ชางมิน >//<
“พี่ถามไรหน่อยสิ...คนที่ยืนใกล้ๆนายคนนั้นอ่ะ เป็นใครหรอยูฮวาน?”ยูชอนชี้มือประกอบคำบอกเล่า
“อ้อ...ชางมินอ่ะหรอฮะ...เค้าเป็นรุ่นพี่ที่ดูแลผมเองฮะ พี่มิคมีไรหรอ?”
“ป่าวหรอก...แค่ไม่ชอบให้หมอนั่นเข้ามายุ่งย่ามกับน้องชายพี่มากเกินไปก็เท่านั้นเอง”พูดพรางทำปากมุบมิบ ถ้าไม่มีอะไรก็แล้วไปเค้าจะได้โล่งใจ...ทำไงได้ก็พี่ชายคนนี้ของนายมันทั้งหวงและก็รักนายมากๆเลยนี่นา ริคกี้
“อ่า...เค้านิสัยดีนะฮะ...พี่มิคก็”ยูฮวานรีบเอ่ยออกไป กลัวว่าพี่ชายจะมองชางมินไปในทางลบ
“พี่ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย...นายนี่”เถียงกันไปตามภาษาพี่น้อง
“แล้วเรื่องของพี่คงจะลงตัวแล้วสินะฮะ...ดีใจด้วยน้า...จุนซูเป็นไรหรือเปล่าเห็นนั่งเงียบมานานแล้วไม่พูดไม่จาเลย”ยูฮวานกับยูชอนหันไปมองคนที่จิตใจเลื่อนลอย สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ร่างสูงของยุนโฮไม่ละไปไหน
“นายมองอะไรอยู่น่ะ?”ยูชอนเบนสายตาไปเรื่อยๆตามที่จุนซูจ้องมองแล้วก็พบเข้ากับชายหนุ่มร่างสูง หน้าตาดีไม่แพ้เค้าเลย - -+
“.............”จุนซูยังคงถลำเข้าสู่ความห้วงคิดของตนเอง ยากนักที่ยูชอนจะหยั่งลงไปถึงเสียแล้วในตอนนี้
“คิม จุนซู!”ส่งเสียงเรียกให้ดังกว่าเดิม จนคนใจลอยสะดุ้งจนตังโยง
“เออ...พี่ยูชอนเรียกจุนซูหรอฮะ...อ้าว...ยูฮวานนายมาตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ^^”จุนซูคงจะไม่รู้ตัวว่าเขานั้นนั่งคิดอะไรจนใจลอยไปเรื่อยเปื่อยนานมาก นานจนสองพี่น้องตระกลูปาร์คจับสังเกตได้
“ยูฮวานเค้ามาตั้งนานแล้วล่ะ...นายต่างหากกำลังสนใจอะไรอยู่...นายกำลังมองใครอยู่จุนซู”ยูชอนถามอย่างดุๆ
“เอ่อ...ป่าวนะฮะ...จุนซูไม่ได้มองอะไรนะพี่ยูชอน”คนตัวเล็กเถียงคอเป็นเอ็น
“อย่ามาโกหกนายมองไอ้หน้าหล่อนั่นอยู่ ชั้นสังเกตอยู่นานแล้ว มันหล่อกว่าสักชั้นเท่าไหร่กันเชียว”คนขี้หึงเริ่มที่จะไม่สบอารมณ์ขึ้นมาอีกรอบแล้วในตอนนี้
“อ้อ...ไอ้หน้าหล่อที่ว่าคือรุ่นพี่ของริคเองฮะ^^”ยูฮวานไขข้อข้องใจให้กลับจุนซูแต่มันก็ยังไม่ใช่ทั้งหมดอยู่ดี
“เป็นรุ่นพี่ของนายหรอ...นายไปรู้จักคนแบบนั้นได้ยังไงกันยูฮวาน”
นายรู้จักคนเลวแบบนั้นด้วยหรอ!
“แล้วนายจะอยากรู้ไปทำไมกันจุนซู”ที่ยูชอนพูดออกมาเหมือนจุนซูจะไม่ได้ฟังในสิ่งที่เค้าประชดออกไปเลยสักนิด คนตัวเล็กยังคงตั้งหน้าตั้งตาฟังในสิ่งที่ยูฮวานเล่าต่อไป
“ทำไมจะไม่รู้จักล่ะจุนซู...พี่เค้าเป็นรุ่นพี่ที่คอยสอนงานชั้น เป็นหมอจิตแพทย์ที่เก่งที่สุดเลยล่ะ...พี่เค้าหล่อใช่มั้ยล่า55+”
“...............”
“แต่เสียดายพี่เค้ามีแฟนแล้ว...เหอๆๆๆ”
“เอ่อ...หรอ”จุนซูหยักหน้ารับ พอจะรู้รายละเอียดเกี่ยวกับยุนโฮมากขึ้นแล้ว ได้ยินมาแบบนี้ก็ไม่อยากจะเชื่อว่าคนใจร้ายแบบยุนโฮจะเป็นหมอได้...ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ ถ้าเป็นพวกฆาตกรโรคจิตก็ว่าไปอย่าง และถ้ายุนโฮมีแฟนแล้วจะมายุ่งกับแจจุงแบบนี้อีกทำไมกัน...จะนิ่งเฉยไม่ได้แล้วนะจุนซู ร่างเล็กคิดใจใน
“นี่หยุดพูดถึงคนอื่นได้แล้วนะทั้งสองคนเลย...ชั้นไม่มีสมาธิขับรถกันพอดี”ยูชอนพูดเสียงแข็ง
“พี่มิค พี่ไม่ได้โกรธจุนซูใช่มั้ยเนี่ยที่พูดแบบนี้อ่ะ...จุนซูแค่ถามเฉยๆเอง พี่อย่าโกรธจุนซูสิฮะ”ยูฮวานหันมาดุคนที่ทำตัวเหมือนเด็กเข้าไปทุกที
“ชั้นไม่ได้โกรธแต่ชั้นหึง!”หลุดปากออกไป คนตัวเล็กที่ยังคงอึ้งอยู่ถึงกับต้องหันมามองคนพูด
“พี่ยูชอน~~~”
“เฮ้ยยย...อะไรอีกล่ะครับก็พี่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆนี่”ยูชอนหน้าแดง
“อย่าคิดมากสิฮะเพราะมันไม่มีอะไรจริงๆ จุนซูรักพี่ยูชอนคนเดียวนะ”คนตัวเล็กเอื้อมมือไปหยิกแก้มของชายหนุ่มเบาๆอย่างรักใคร่ จนปาร์คคนน้องแทบจะทนเห็นความหวานเลื่อนนี้ไม่ได้
“เห็นใจคนไม่มีแฟนอย่างผมบ้างก็ได้นะ...55+”ยูฮวานเอ่ย อยู่ๆใบหน้าของชางมินก็ลอยขึ้นมาซะอย่างนั้นอ่ะ >//<
เป็นเวลาร่วมอาทิตย์ที่คิม แจจุงใช้เวลาส่วนมากติดแหงกอยู่ในห้องชุดสุดหรูของชอง ยุนโฮ พักหลังๆมานี้เขาแทบไม่ได้นอนที่บ้านตัวเองเลยด้วยซ้ำ จากที่เป็นฝ่ายโดนบังคับกับรู้สึกว่าเต็มใจมากกว่าโดนบังคับเสียอีกในตอนนี้ ชอง ยุนโฮคนเลวทราม หรือพี่ยุนที่แสนเจ้าเล่ห์ หรือไอ้โรคจิต หื่นกาม ไม่ว่าจะตัวตนที่แท้จริงของคนๆนี้จะเป็นแบบไหน ตอนนี้เขาก็ไม่สนใจทั้งนั้น ไม่อยากจะยอมรับเลยว่าจะรักคนที่ทำให้ชีวิตเขาต้องจมอยู่กับฝันร้าย...ในอดีต
ความรักและความเกลียดชังที่ตนมีต่อยุนโฮดูมันจะไม่มากหรือน้อยไปกว่ากันจนเหมือนว่าความรู้สึกของเขาจะถูกครอบงำด้วยคนๆเดียว ไม่เหลือแม้กระทั่งช่องว่างแห่งความรู้สึกให้กับใครได้อีก ทั้งชีวิตนี้ของคิม แจจุง ไม่อาจจะ “เกลียด” ใครได้ที่มากสุดและไม่อาจจะ “รัก” ใครได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว ทุกพื้นที่ของหัวใจเขามีแต่ภาพของคนใจร้าย ตีตราจองไว้จนหมดอย่างคนเห็นแก่ตัวจริงๆ
ร่างบอบบางเปลี่ยนมาใส่ชุดลำลองธรรมดาแทนเสื้อเชิ้ตนักศึกษากับกางเกงสแล็ค ในเมื่อต้องนั่งรอคนบางคนทำงานอยู่อีกตั้งนาน ยังไงก็ขอแต่งตัวสบายๆก่อนดีกว่า ร่างบางยกแก้วกาแฟที่พึ่งชงส่งให้คนนั่งหน้าเครียดอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ไอความร้อนจากคาเฟอีนสีดำยังไม่ทันจาง ตาบ้านี่ดื่มมันเข้าไปได้ยังไง ทั้งร้อนและก็ดูน่าจะขมออกอย่างนั้น คนเคร่งเครียดกับงานหันมาเอ่ยคำขอบคุณเบาๆ ก่อนหันไปสนใจงานตรงหน้าต่อ สักครู่ก็เงยหน้าขึ้นมาจากกองเอกสารกองโตเหมือนว่าพึ่งนึกอะไรขึ้นมาได้ เสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยความห่วงใย
“แจจุงครับ หิวข้าวหรือยัง ไปกินข้าวกันก่อนมั้ย?” ร่างบางสั่นหัวไปมาก่อนจะเอ่ยถามกลับไป
“พี่ยุนจะกินเลยมั้ย เดี๋ยวแจจุงไปอุ่นมาให้นะฮะ”ยุนโฮส่งยิ้มก่อนตอบ
“พี่ยังไม่หิวเลยครับ ขอเคลียร์งานให้เสร็จก่อนแค่นี้เพื่อนพี่ก็โทรมาเร่งแล้ว แจจุงไปกินก่อนก็ได้นะครับ เดี๋ยวปวดท้องนะ”
“ไม่เอาอ่ะ เมื่อกี้กินขนมไปตั้งเยอะ รอกินพร้อมพี่ยุนดีกว่าฮะ^^”
“เอายังงั้นเหรอ อืม…แล้ววันนี้ค้างกับพี่ได้มั้ยครับ” คำถามดูธรรมดาแต่ นัยน์ตาวาววับอย่างเจ้าเล่ห์ เขามองแจจุงอย่างไม่ละสายตา ถ้างานไม่เร่งเขาคงได้เข้าไปกอดคนตรงหน้าแน่นให้หายคิดถึง ไม่รู้ว่าทำไมเจอกันทุกวัน อยู่ด้วยกันเกือบตลอดเวลาแต่เขาก็ยังไม่หาย “คิดถึง” แจจุงซะที
“ไม่รู้!!!!” เสียงหวานตอบสะบัดอย่างเคืองๆ ทะลึ่งได้ตลอดจริงๆ นี่ขนาดงานกองจนเต็มโต๊ะ ทำงานทั้งคืนไม่รู้จะเสร็จหรือเปล่า ยุนโฮส่ายหน้าอย่างเอ็นดู ท่าทางของแจจุงน่ารักน้อยซะเมื่อไหร่ล่ะอีกทั้งใบหน้าสวยหวานที่แดงก่ำไปทั้งหน้าจะให้เขาคิดว่ายังไงถ้าไม่ใช่… กำลังเขิน ระหว่างกำลังมีความสุขกับการเย้าแหย่คนสวยขี้โมโหอย่างมีความสุข เสียงริงโทนอันเปรียบเสมือนมารขัดเวลาแห่งความสุขก็ดังขึ้น ไม่อยากจะรับเลยจริงๆเมื่อเห็นชื่อของคนที่โทรเข้า “ชางมิน”
เฮ่ออ~ ยุนโฮพ่นลมหายใจแรงๆก่อนกดรับสาย
แจจุงลอบมองใบหน้าหล่อที่กำลังถกเถียงอะไรสักอย่างเรื่องงานกับเพื่อนอย่างฉุนเฉียว คำพูดหยาบคายบ่งบอกถึงสถานะที่สนิทกันของคนปลายสายได้เป็นอย่างดี และดูเหมือนว่าเพื่อนของพี่ยุนจะโยนงานอะไรมาให้อีกเป็นแน่ ใบหน้าคมคายถึงได้ดูยุ่งเหยิงกว่าที่เคยเห็นแต่ก็ยังมีเค้าโครงหล่อจนน่าอิจฉา ขนาดช่วงนี้พี่ยุนปล่อยให้หนวดขึ้นเขียวเต็มคางไปหมดเพราะข้ออ้างที่ว่าไม่มีเวลา ยังไม่สามารถปกปิดใบหน้าที่หล่อเหลานั่นได้สักนิด อยากรู้จริงๆว่าคนเป็นหมอหน้าตาดีแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า แจจุงอมยิ้มให้กับความคิดเพ้อเจ้อของตัวเองอย่างขำๆ ขณะกำลังมองคนตรงหน้าอย่างเพลินๆ แจจุงก็ต้องสะดุ้งโหยงอย่างตกใจ เมื่อรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนตรงหน้าขา ใครโทรมาอีกนะ เขาคิดพลางสอดมือเข้าไปหยิบมันออกมาจากกระเป๋ากางเกง
ควอน โบอา
หัวใจเขากระตุกวาบ ไม่อยากรับ เขาไม่พร้อมที่จะพูดอะไรในตอนนี้ เขารู้สึกผิดต่อโบอาอย่างมากมาย ไม่น่าเลยจริงๆที่จะดึงผู้หญิงที่แสนดีอย่างโบอามาแปดเปื้อนแบบนี้
เขานี่มันเลว ที่สุดเลย
เป็นคนเริ่มมันตั้งแต่ต้นแต่กลับขี้ขลาดเกินกว่าจะให้คำอธิบายใดๆแก่คนที่ได้ชื่อว่าแฟนสาวของตัวเอง แจจุงยอมรับว่าตัวเองกำลังหนี หนีด้วยความละอายใจ สิ่งที่เขาทำกับหญิงสาวคนหนึ่งเพียงเพื่อพิสูจน์ความต้องการทางร่างกายของตัวเอง ชั่วช้าจนยังไม่อยากจะให้อภัยตัวเองเลยด้วยซ้ำ...ทำไปได้ยังไงกัน
ถึงขณะนั้นเขากำลังสับสนอย่างมากกับความรู้สึกดีๆของตัวเองต่อผู้ชายที่เปรียบเสมือนฝันร้ายของเขา แต่มันก็ไม่ยุติธรรมสำหรับคนไม่รู้เรื่องอะไรแต่ถูกดึงเข้ามาอยู่ในเกมอย่างโบอา แล้วเขาจะจัดการยังไงต่อไป ในเมื่อเขารู้ใจตัวเองแล้วและไม่สามารถฝืนทนทำเป็นว่ารักโบอา...ได้อีกต่อไป!!!
แสงสว่างจากหน้าจอมือถือดับไปอีกครั้งเมื่อไม่มีผู้รับ แต่นั่นไม่ได้ทำให้คนที่กำลังครุ่นคิดอย่างหนักใจอย่างแจจุง สนใจอีกแล้ว ตอนนี้สมองของเขากำลังประมวลความคิดอะไรมากมายจนตีกันวุ่นวายไปหมดและด้วยสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวของคนสวยทำให้ไม่รับรู้ว่ายุนโฮนั้นจบการสนทนาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หน้าสวยมุ่ยลงอย่างคนคิดหนักยิ่งทำให้ยุนโฮแปลกใจมากขึ้นไปอีกสายตาคมเหลือบมองเครื่องมือสื่อสารที่มีแสงสว่างวาบขึ้นมาอีกครั้ง แต่เจ้าของมันกลับถือไว้อย่างไม่รู้ตัว ทั้งที่แรงสั่นสะเทือนของมันน่าจะทำให้สะดุ้งสะเทือนได้บ้าง...เป็นอะไรไป คนตัวใหญ่เดินเข้ามาใกล้กะว่าจะเอื้อมมือไปสะกิด แต่ชื่อที่โชว์ขึ้นมา ทำเอามือที่เอื้อมไปเกือบจะถึง...ชะงัก
ยุนโฮมองชื่อที่ปรากฏ ก่อนจะมองแจจุงที่ยังตกอยู่ในห้วงความคิดตัวเองอย่างเหม่อลอยด้วยใบหน้าเรียบเฉย ความหึงหวงผุดขึ้นมาในจิตใจ เขานิ่งอยู่นานอย่างใช้ความคิดก่อนจะคลี่ยิ้มอย่างคนเจ้าเล่ห์ออกมา
ยังไม่เลิกติดต่อกันอีกเหรอ…!!!
สาวเท้ายาวก้าวไปพ้นประตูห้อง เบียร์เย็นจัดจนจับตัวเป็นเนื้อวุ้นถูกกระดกรวดเดียวหายไปเกือบครึ่งกระป๋อง ความเย็นจัดของมันหาได้ช่วยดับไฟรักที่โหมกระพือด้วยความหึงหวงไม่ได้ คนที่นั่งมองเครื่องมือสื่อสารจะรู้หรือไม่ว่าแววตาของยุนโฮฉายแววดุดันขึ้นมา…อีกแล้ว
หัวทุยสวยยังคงก้มลงส่งข้อความถึงเบอร์ที่ตนไม่ได้รับ อย่างไม่รับรู้ว่ามีใครอีกคน...จ้องมองด้วยความไม่พอใจ
ไม่เข้าใจหรือไง ว่าเธอเป็นของพี่เพียงคนเดียว
เขาขยี้กระป๋องเบียร์เปล่าจนแหลกคามือก่อนโยนใส่ตะกร้าขยะอย่างแม่นยำ เดินเข้าไปหาคนที่เขารักมากจนแทบจะกลายเป็นบ้า
คิม แจจุง
ขนาดเขายืนมองอยู่เนิ่นนาน คนที่กำลังอยู่ในภวังค์ยังไม่รับรู้ถึงการมาของเขาเลยสักนิด
เป็นห่วงยัยนั่นขนาดนั้นเลยหรือไง!?
ร่างบางยังคงเหม่อลอยมองหน้าจอมือถือในมืออย่างคนจิตใจว่างเปล่า ยุนโฮยื่นหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ดูเหมือนคนสวยยังไม่มีทีท่าว่าจะรับรู้ เขาจึงกดจูบหนักหน่วงที่พวงแก้มนุ่มทั้งสองข้าง ด้วยความตกใจที่จู่ๆลมหายใจร้อนจัดปะทะแก้มเนียนใส สติอันล่องลอยของแจจุงเหมือนจะถูกดึงกลับมาจนหมด แจจุงรีบสอดมือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ไวไปกว่าสายตาคมดุจเหยี่ยวที่คอยสังเกตท่าทีอยู่ก่อนแล้ว ยุนโฮแสร้งทำเป็นไม่ได้มองเขาหย่อนตัวลงนั่งข้างๆรั้งคนตัวบางมานั่งเกยที่ตัก แจจุงประท้วงดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง อยู่ในท่านี้มันไม่ปลอดภัยเลยจริงๆ ร่างบางขืนตัวสุดกำลังพยายามยันกายลุกหนีไม่ใช่เพราะรังเกียจอะไร เพียงแต่…พี่ยุนในตอนนี้ดูน่ากลัวเหลือเกิน ความรู้สึกบอกเขาว่ามีอะไรบางอย่างที่มันดูแปลกไป แต่แรงน้อยนิดของเขาทำอะไรไม่ได้เลย ยิ่งดิ้นยุนโฮก็เพิ่มแรงกอดรัดเข้าไปอีก
“ปล่อยเถอะฮะพี่ยุน ไม่เอานะ” เสียงหวานประท้วงเมื่อมือใหญ่รุ่มร่ามไปทั่ว
“ขอพี่ชื่นใจหน่อยนะ...แจจุง” ดูท่าทางจะไม่หน่อยอย่างที่คนตัวใหญ่พูด เมื่อเรียวขาขาวเนียนถูกลูบไล้ตั้งแต่ส่วนที่พ้นชายกางเกงต่ำลงมาเรื่อยๆ เป็นครั้งแรกที่เขานึกโกรธตัวเองที่ใส่กางเกงขาสั้น มันช่างเปิดโอกาสให้มือปลาหมึกปัดป่ายไปมาไม่ยอมหยุด กลีบปากแดงเจ่อซึ่งกำลังเผยอขึ้นประท้วงการกระทำจาบจ้วงของคนตัวใหญ่ ถูกบดเบียดด้วยริมฝีปากอิ่มที่รอท่าอยู่ก่อนแล้ว ลิ้นเรียวยาวไล่เลียรอบเรียวปากสีสด ดูดเม้มเบาๆที่ริมฝีปากบนที่เจ่อขึ้นนิดๆอย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนดูดกลืนรสหวานฉ่ำที่ลิ้มลองเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ รสชาติหอมหวานเย้ายวนที่แสนจะติดใจยิ่งดื่มด่ำก็ยิ่งทวีความต้องการมากขึ้นจนหยุดไม่ได้
มือหนาล้วงเข้าไปลูบคลำผิวเนียนลื่นอย่างถือวิสาสะ แววตาพราวระยับอย่างเจ้าเล่ห์จัดจ้องเข้าไปในนัยน์ตากลมโตสีนิลเข้มด้วยความลุ่มหลง แจจุงก้มหน้างุดเขินอายเกินกว่าจะสบสายตาของคนตรงหน้า มันดูเว้าวอนและเต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนา ยุนโฮส่งลมหายใจร้อนจัดกระทบข้างแก้มนวลที่เริ่มขึ้นสีสุกเปล่งปลั่งอย่างขัดเขิน ค่อยๆวางร่างบางเอนกายราบไปกับเนื้อโซฟานุ่ม ทิ้งร่างหนาทับเรือนร่างบอบบางทั้งตัวจนแจจุงไม่สามารถขยับไม่ไหนได้อีก ใบหน้าหล่อซุกไซร้ไปทุกสัดส่วนอย่างรุ่มร้อน จนกระทั่งเสื้อยืดเนื้อบางหลุดออกจากกายจนได้ ยิ่งเพิ่มความสะดวกแก่คนรุกรานมากขึ้นไปอีก มือสวยดันที่อกแกร่งอย่างประท้วงส่งเสียงหวานร้องห้ามออกมาพัลวัน
“อย่าฮะ...พี่ยุน”
“อย่าอะไรครับแจจุง อย่าทำ หรือ อย่าหยุด” ยุนโฮพูดยิ้มๆ มือยังคงเกาะเกี่ยวกางเกงตัวเล็กของเขาอย่างประสงค์ร้าย ครู่เดียวจริงๆกางเกงสวยก็ถูกเนรเทศออกนอกร่างกาย เขาแอบหยิบมือถือของคนตัวเล็กซ่อนไว้ก่อนจะกดปุ่มโทรออก...เบอร์ที่แจจุงไม่ได้กดรับเมื่อครู่
ควอน โบอา!
ใครจะว่าเขาเลวทรามอย่างไรไม่สนใจ แจจุงเป็นของเขาเท่านั้นคนอื่นไม่มีสิทธิ์ เมื่อแจจุงไม่ทำให้มันจบเขาก็คงต้องจัดการทุกอย่างด้วยตัวเขาเอง เสื้อผ้าของคนทั้งคู่ถูกสลัดออกจากร่างไปคนละทิศละทางอย่างรวดเร็ว ฝ่ามือใหญ่แยกเรียวขาคู่งามออกก่อนจับชันเข่าขึ้น นิ้วมือแข็งแรงก็ส่งเข้าไปแหวกทางเข้าคับแคบด้านหลัง จำนวนนิ้วเพิ่มขึ้นทีละนิ้ว ทีละนิ้ว คนสวยดิ้นเร่าอย่างปั่นป่วนในอารมณ์รักที่หลากหลาย ความเจ็บแปลบที่ถูกแทรกสิ่งแปลกปลอมเข้ามาแปรเปลี่ยนเป็นความวาบวามเมื่อนิ้วที่แช่คาอยู่นั่นหมุนวนสะกิดตุ่มไตภายในไปทั่ว คนตัวเล็กหวีดร้องอย่างสะกดกลั้นความเสียวซ่านที่ได้รับไว้ไม่อยู่...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น