2555/04/21

[Fic] ~ Love Dark...เพราะรักออกแบบไม่ได้ ~ Part...1 แผนการที่แยบยล


Title :  ~ Love Dark...เพราะรักออกแบบไม่ได้  ~
Writer :  KJW +  GroupBee
Couple:  YunJae , YooSu , Changmin
Genre : Romantic , Drama
NC :  18+

Part...1 แผนการณ์ที่แยบยล

ข้อมือบางถูกคว้าหมับขณะที่เจ้าตัวกำลังเช็ดโต๊ะอาหารอย่างเหม่อลอย หัวสมองยังไม่หยุดคิดเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างตนเองกับยูชอน นับตั้งแต่แจจุงเห็นภาพทำร้ายจิตใจของคนรักนอนกอดก่ายกับใครก็ไม่รู้ ความเสียใจกับสิ่งที่เกิดทำให้ไม่อาจอยู่รอคำอธิบาย

...ในเมื่อหลักฐาน ก็ชัดเจนอยู่แล้ว...

บอกตัวเองว่าไม่ให้คิดแต่ก็ยังอดคิดถึงมันไม่ได้ ยิ่งกว่าเสียใจเมื่อก้าวเดินออกจากห้อง คุณพ่อของยูชอนก็หัวเราะใส่หน้าอย่างเย้ยหยัน แววตาที่คนสูงวัยสะท้อนผ่านลูกแก้วสีน้ำตาลบ่งบอกถึงความสมเพช ถึงจะรู้ว่าจองโมเกลียดเขามากแค่ไหนแต่ก็ยังอดเสียใจกับท่าทีของชายสูงวัยไม่ได้ แจจุงปาดน้ำตาลวกๆก่อนหยุดโค้งคำนับอย่างเคารพ
กระดาษใบหนึ่งถูกยื่นมาจนประชิดใบหน้า เสียงทรงอำนาจออกคำสั่ง“รับไปซะ แล้วเดินออกไปจากชีวิตยูชอน ตลอดกาล”แจจุงพึ่งสังเกตจริงๆว่า กระดาษแผ่นนั้นคือ เช็ค  ให้ตายเถอะจะดูถูกกันเกินไปแล้ว ถึงเขาจะจนแต่ก็ไม่เคยขอใครกิน และการที่เป็นคนรักของยูชอน เขาไม่เคยหวังอะไรให้ตัวชายหนุ่มเลยสักนิด คุณพ่อของยูชอนทำแบบนี้เหยียดหยามกันเกินไปแล้ว
“.................” แจจุงจ้องใบหน้าซึ่งเต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งประสบการณ์ชีวิตด้วยความโมโห ความเสียใจกับสิ่งที่เห็นในห้อง ดูเป็นเรื่องเล็กไปเลยเมื่อเทียบกับความเสียใจในตอนนี้
“อย่าทำเป็นหยิ่ง รับไปซะ หรือเธอกำลังหวังอะไรที่สูงกว่านี้ ห๊ะ...แจจุง หัดเจียมตัวซะบ้าง กายังไงก็คือกา ไม่มีทางเปลี่ยนมาเป็นหงส์ได้หรอก ที่ชั้นพูดน่ะ เธอเข้าใจมั้ย?  เอาไป...แล้วก็ออกไปจากบ้านชั้นได้แล้ว เดี๋ยวจุนซู เอ่อ...ลูกสะใภ้ชั้นตื่นมาเห็นเธอเข้า ชั้นขี้เกียจบอกว่าเธอเป็นใคร...เชิญ!” มือหยาบยัดเช็คใส่มือเรียวสวยที่ยังสั่นเทา อาการพูดไม่ออกมันเป็นอย่างนี้นี่เอง กว่าจะหาคำพูดของตัวเองได้ คนสูงวัยก็กำลังหันหลังเตรียมเดินเข้าไปในห้องนอนยูชอนแล้ว
“ผมไม่เอา เก็บเงินของคุณคืนไป”พูดขึ้นมาสุดเสียง แล้วดันกระดาษคืนยังคนเป็นเจ้าของอย่างไม่แยแส ปาร์ค จองโม เลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ ด้วยความสงสัยจึงเอ่ยปากถาม
“ทำไม หรือเธอไม่เห็นว่าชั้นยังไม่ได้กรอกตัวเลข”แจจุงส่ายหน้า
“ไม่ครับ ผมเห็น”
“แล้วทำไม?”
“เงินของคุณอาจจะซื้ออะไรก็ได้ แต่ไม่ใช่ซื้อชีวิตผม ถ้าผมจะเลิกกับยูชอนก็เพราะผมต้องการจะเลิกด้วยตัวผมเอง ไม่เกี่ยวกับเงินของคุณ และถ้าผมไม่อยากจะเลิกกับยูชอนต่อให้คุณหาใครมาบำเรอยูชอน ผมก็ไม่แคร์ ดีซะอีกยูชอนจะได้มีความสุข”ปาร์ค จองโมถึงกับนิ่งอยู่นานจากถ้อยคำตอบโต้ของเด็กที่ตนไม่เคยนึกชอบใจ เขาเกลียดเด็กเหลือขอนี่มากที่สุดเพราะมันทำให้ลูกชายที่เขารัก กล้าขัดใจเขาทั้งยูชอนและยูฮวานเด็กที่เคยเชื่อฟังเขาเป็นอย่างดีทั้งคู่ แต่กลับกลายเป็นว่า การที่เขากีดกันไม่ให้คบกับเด็กต่ำๆอย่างแจจุงและชางมิน ทำให้ลูกชายทั้งคู่โกรธกระทั่งไม่อยากจะมองหน้าเขาอีกเลย ตอนที่ภรรยาของเขายังมีชีวิตอยู่ เธอก็รักและเอ็นดูพวกเด็กนี่มาก ไม่รู้พวกมันมีดีอะไร กำพืดก็ต่ำ แต่เขาก็ยังยอมๆเพราะเห็นแก่ความสุขของในบั้นปลายชีวิตของเธอ
หลังจากที่เธอตายไป ลูกชายทั้งคู่ของเขาก็ยิ่งทำตัวติดเป็นตังเมกับพวกเด็กเหลือขอมากกว่าเก่า ทั้งที่เขาสู้อุตส่าห์หาวิธีจับแยกแทบตาย สุดท้ายลูกชายตัวดีก็ยังไม่เลิกคบกัน ซ้ำยังสนิทกันเกินกว่าจะแยกออกได้ แต่นั่นยังไม่ร้ายเท่ากับยูชอนลดตัวไปเป็นคนรักกับ คิม แจจุง ให้เขาช้ำใจเล่นอีก  ตาทั้งคู่สบมองกันอย่างหยั่งเชิงท่าทีกันและกัน ต่างฝ่ายต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง  ปาร์ค จองโมเกลียดความรู้สึกที่เหมือนตัวเองกำลังถูกกดดัน เส้นเลือดปูดขึ้นมาจนเห็นเด่นชัดบนสีหน้าโมโหจัดของผู้สูงวัย เขาโกรธมากจนบรรยายไม่ถูก คนอย่างแจจุงกับการโต้ตอบกลับมาอย่างดุเดือด ทุกอย่างกำลังจะเป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้ แต่คำพูดที่แสดงออกว่ารู้ทันของคนชั้นต่ำแบบนั้น มันสุดจะทนจริงๆ มือหยาบสะบัดแรงบนผิวหน้าซีดขาวจนขึ้นรอยแดงเป็นปื้นใหญ่กระจ่างชัดตัดกับผิวขาวน้ำนมของคนหน้าสวย แรงตบทำให้ริมฝีปากบางฉีกขาดมีเลือดซึมออกมาเล็กน้อยพอให้รู้สึกแสบ
“อย่าปากดี คิม แจจุง อย่าได้บังอาจมาก้าวร้าวคนที่ชั้นเลือกให้ยูชอนเป็นอันขาด จุนซูสูงส่งเกินกว่าที่คนอย่างเธอจะกล่าวหา”ปาร์ค จองโมตวาดดังลั่นอย่างไม่อาจควบคุมสติ แจจุงไม่ได้แสดงถึงความเจ็บที่ได้รับ ไม่มีร่องรอยแห่งความเสียใจกับคำพูดถากถาง เขาเพียงแต่หัวเราะในลำคอก่อนยิ้มให้คนที่อุตส่าห์ประทับรอยนิ้วมือบนแก้มเนียนใส ท่าทีที่แสดงออก มันทำให้ปาร์ค จองโมแทบเต้นเร่าด้วยความชิงชัง เขาเกลียดดวงตากลมโตคู่นั้นที่จ้องกลับมาไม่ลดละ เงาสะท้อนในลูกแก้วใสราวกับบอกว่าการกระทำของเขามันน่าขันเพียงใด ถึงไม่พูดออกมาแต่สายตาคู่นั้นตอบแทนหมดทุกอย่าง

...เกลียดแกจริงๆ คิม แจจุง ชั้นจะทำลายชีวิตของแกให้ย่อยยับ...

มือที่ส่งไปทำร้ายคนตัวเล็กกำหมัดแน่นสั่นเทิ้มไปทั่วทั้งร่างกาย เด็กบ้านี่ยังไม่หยุดจ้องตากับเขาอีก ยิ่งเงียบยิ่งไม่ตอบโต้ ยิ่งทำให้ปาร์ค จองโมร้อนรุ่มในใจแทบระเบิด เขาจะอกแตกได้ด้วยความทรมานอยู่แล้ว ท่าทีนิ่งงันของแจจุง ทำให้เขาหงุดหงิดใจบอกไม่ถูก เขาไม่สามารถทนเห็นคนที่แสนเกลียดยืนอยู่ในระยะการมองของตนเองได้อีกต่อไปแล้ว
“แกออกไปจากบ้านชั้นเดี๋ยวนี้...ไป!!!
 “ขอให้คุณมีความสุขกับสิ่งที่คุณกำลังทำนะฮะ แล้วรักษาความสุขที่ได้รับให้อยู่กับคุณไปนานๆล่ะ ผมขอตัว”เสียงหวานพูดนิ่งเฉยไม่บ่งบอกความรู้สึกใด ๆ เดินออกมาอย่างสับสนในใจ แจจุงควรจะร้องไห้กับชะตาชีวิตน่าขำของตัวเองดีหรือควรจะหัวเราะไปกับมันดี เขาเริ่มเหนื่อยกับการ รัก ยูชอนเสียแล้ว  แรงบีบหนักๆที่ข้อมือบางปลุกแจจุงให้หลุดจากภวังค์ ความรู้สึกแรกที่แวบผ่านเข้ามาในหัวคือ ตกใจ ตากลมโตมองผ่านข้อมือสวยที่ยังถูกจับไว้ไม่ปล่อยเลยไปที่ใบหน้าของเจ้าของกริยาฉาบฉวยไม่ให้เกียรติ
“ช่วยตามผมมาทางนี้หน่อยนะครับ”คำพูดกึ่งขอร้องอย่างมีมารยาทแต่การกระทำดังกล่าวไม่ได้บ่งบอกถึงความมีมารยาทของผู้พูดเท่าไหร่ มือบางพยายามสะบัดข้อมือให้พ้นจากการเกาะกุม แต่ทำอย่างไรก็ไม่หลุด ข้อมือเล็กขึ้นรอยแดงช้ำอย่างไม่ต้องสงสัย แรงฉุดกระชากของคนที่มีกำลังเหนือกว่ากึ่งอุ้มกึ่งลากเขาห่างออกไปจากร้านของพี่ชายคนสนิทพอสมควร ร่างบางถูกผลักโครมเข้าไปให้รถสีดำคันใหญ่ที่จอดคอยอยู่แล้วริมถนน แจจุงเริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลในสิ่งที่เกิดมากขึ้นทุกขณะ เพียงแต่กลิ่นหอมแปลกๆที่ใครบางคนในรถยัดเยียดให้เขาสูดดม ทำให้ภาพตรงหน้าเริ่มพร่ามัว ก่อนสติเขาจะพลันดับวูบในที่สุด...
                       
------------------------------------------------------------------------------

ชอง ยุนโฮขยับกายหมายขับไล่ความรู้สึกเมื่อยล้าไปทั่วทั้งตัว ความรู้สึกแรกที่ลืมตาคือปวดหัวและมันเริ่มปวดมากขึ้นจนเขาเกือบลืมตาไม่ขึ้นด้วยซ้ำ สมองอันชาญฉลาดกำลังประมวลสิ่งที่เกิดขึ้นย้อนกลับไป ตั้งแต่เขาเดินทางกลับมาถึงบ้าน ใช่แล้ว...คุณอาจองโม โทรมาคุยเรื่องงานและชวนเขาออกมาทานอาหารมื้อค่ำ ถึงแม้ร่างกายที่ทำงานอย่างหนักมาทั้งวันจะเรียกร้องหาการพักผ่อนบนเตียงอุ่น แต่ยุนโฮก็ไม่อยากขัดใจคุณอาจองโมซึ่งคอยให้คำปรึกษาเรื่องธุรกิจสำหรับเด็กรุ่นใหม่อย่างเขาอยู่เสมอ แถมความสัมพันธ์ของคุณอากับคุณพ่อของยุนโฮก็เป็นความผูกพันกันแน่นเฟ้น รวมถึงรุ่นลูกอย่างเขากับยูชอนก็คบหากันอย่างสนิทสนม ยิ่งนึกก็ยิ่งปฎิเสธไม่ได้ ขนาดไม่รวมเรื่องที่เขาเป็นคู่หมั้นกับยูฮวานน้องชายที่น่ารักของยูชอนอีกเรื่อง คำบอกปัดจึงหมดไป
ระหว่างรับประทานอาหารเหมือนว่ายุนโฮขอตัวไปรับโทรศัพท์ข้างนอกร้านครู่หนึ่ง พอกับมาคุณอาก็ชวนดื่มไวน์ เขาอยากปฎิเสธแต่ก็อีกนั่นแหละคำว่า แค่แก้วเดียว คำพูดของเขาจึงถูกกลืนไปในลำคอ ไวน์แดงสีเข้มไหลผ่านลำคอลงไปช้าๆจนไม่เหลือน้ำสีเลือดหลงเหลือในแก้วทรงสูงสักหยด แปลกใจอยู่เหมือนกันที่ชั่วขณะหนึ่งซึ่งสายตาเขาเหลือบไปเห็น ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของคุณอาจองโม ฉายแววแปลกๆ ดูพอใจ สมใจหรือว่าสะใจ แค่ไวน์แก้วเดียวไม่น่าจะเมาได้ แต่ตอนนี้ทั้งร่างกายกับร้อนผ่าว อึดอัดแทบหายใจไม่ออก นัยน์ตาแดงก่ำสบตาเพื่อนคุณพ่อที่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“ยุนโฮไหวมั้ย? อาไม่น่าคะยั้นคะยอให้เราดื่มเข้าไปเลย เอาอย่างนี้เดี๋ยวอาให้คนของอาขับรถไปส่งนะ”ถึงไม่อยากรับความหวังดี แต่ยุนโฮก็ไม่อาจปฏิเสธเช่นเดียวกัน เนื่องจากสภาพร่างกายของตัวเองตอนนี้ บอกได้เลยว่าไม่มีปัญญาพาตัวเองกลับบ้านได้แน่ ยุนโฮผงกหัวรับอย่างจำนน รู้สึกสะลึมสะลืออย่างบอกไม่ถูก เรี่ยวแรงหดหายไปไหนหมดไม่รู้ กระทั่งถูกพยุงร่างใหญ่มานอนบนเตียงก็ยังมึนงงอยู่มาก  แปลกที่แปลกตา บรรยากาศโดยรอบมันไม่ใช่บ้านของเขาแน่ แต่ไม่มีแรงแม้จะเอ่ยถามว่าพาเขามาที่ไหน วูบเดียวรู้สึกเหมือนกำลังหลับไป แต่ความร้อนผ่าวภายในร่างกาย ทำให้ยุนโฮบิดกายไปมาอย่างไม่อยู่สุข อึดอัดไปทุกส่วน  เสียงครื่นๆของเครื่องปรับอากาศบอกถึงการทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี หากแต่เขาไม่ได้รู้สึกว่าไอเย็นจากมันจะช่วยบรรเทาอาการร้อนรุ่นจากอุณหภูมิในตัวเขาได้เลยสักนิด ยุนโฮปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเนื้อดีจนพ้นตัว ยังไม่ช่วยคลายความร้อนในกายและบางอย่างกลางลำตัวกำลังเรียกพองตัวแน่นคับดันเป้ากางเกงแสล็คสีเข้ม ยุนโฮไม่เคยเกิดความต้องการมากมายถึงขนาดต้องส่งมือหนาไปขย้ำตรงปลายสกัดอารมณ์หวาม ร่างหนานอนหายใจหอบถี่ อึดอัดไปหมดราวกับทั้งร่างจะระเบิด

...ไม่เพียงพอ ส่วนอ่อนไหวเรียกร้องจากยุนโฮ มากกว่านั้น...

ร่างหนาบิดกายไปมา ทรมาน เขาปรารถนาที่จะปลดปล่อย เสียงเปิดประตูห้องดังแว่วอยู่ในหู ยุนโฮยังไม่ทันได้พูดถามในสิ่งที่ตนสงสัย ไม่ทันได้มองคนที่ก้าวเข้ามาให้เต็มตาว่าเป็นใคร ร่างของใครสักคนก็ถูกปล่อยลงข้างตัวเขา ยุนโฮเอี้ยวตัวมองคนที่ถูกวางลงข้างๆ ในนาทีเดียวกับที่เสียงประตูห้องปิดลงพร้อมกับชายที่เป็นคนพาคนแปลกหน้ามานอนเคียงข้างเขา

...สวย...

คำเดียวที่นิยามคนตรงหน้าได้ดีที่สุด สายตาคมสำรวจคนแปลกหน้าด้วยความรู้สึกแปลกๆ พยายามอย่างยิ่งยวดในการบังคับจิตใจไม่ให้ทำอะไรชั่วๆ แต่เขาไม่อาจห้ามการกระทำของร่างกายที่ไม่หยุดสอดมือเข้าไประรานผิวเนียนละเอียด เสื้อตัวบางถูกอัญเชิญออกจากร่างที่หลับใหลไม่ได้สติตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ บอกตรงๆว่าตอนนี้ยุนโฮแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังทำอะไร มีเพียงสิ่งเดียวในหัวคือสัมผัสเรือนร่างงดงามราวรูปสลักของคนตรงหน้า  ไม่นานร่างเปลือยเปล่าก็ปรากฏแก่สายตา ตอนนี้ยุนโฮไม่คำนึงถึงเหตุผล ว่ามันจะผิดชอบชั่วดีแค่ไหน เขาเกิดความปรารถนารุนแรงและต้องได้ ครอบครอง มันเดี๋ยวนี้
ริมฝีปากอิ่มดูดกลืนผิวเนื้อขาวกระจ่างตา ร่างบางสั่นนิดๆคงจะรู้สึกไม่ชินกับสิ่งน่ารำคาญซึ่งระรานไปทั่วทั้งร่าง ลิ้นหนาทำหน้าที่คู่กับริมฝีปากอิ่มเป็นอย่างดี ทั้งดูดทั้งเลียยอดอกสวยทั้งสองข้างอย่างต้องมนต์ ยุนโฮหยุดตัวเองไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว เสียงครางในลำคอสวยอย่างเคลิบเคลิ้มไปในรสสัมผัส กระตุ้นความเป็นชายของเขาให้ตื่นขยายขนาดจนรู้สึกจุก ยุนโฮแหวกเรียวขาขาวนวลออก จูบซ้ำๆไปถึงซอกขาด้านในแต่ด้วยความต้องการของร่างกายที่ประท้วงไม่หยุด ทำให้เขาไม่อาจชื่นชมความงดงามของเรือนร่างสวยให้เนิ่นนานไปกว่านี้ ร่างกายของเขาทนมานานพอแล้ว มือใหญ่จึงจับกระชับต้นขาอ่อน ยกสะโพกมนขึ้นมาให้สะดวกแก่การสอดใส่ เติมเต็มมันด้วยส่วนไวต่อความรู้สึกของร่างกายตัวเอง แทรกผ่านช่องทางรักคับแคบที่เด่นชัดตรงหน้าเข้าไปจนหมด เลือดที่เกิดจากการฉีกขาดไหลทะลักออกมาไม่หยุด กลายเป็นดั่งน้ำมันหล่อลื่นชั้นดี ทำให้ยุนโฮสวนกายเข้าไปโดยง่าย ถ้าเป็นเวลาที่ยุนโฮมีสติเป็นตัวของตัวเองมากกว่านี้ เขาคงไม่ฝืนกระแทกกายเข้าไปในนั้นอย่างดึงดันแบบนี้ เพียงแต่ในเวลานี้ ยุนโฮมีแต่ความต้องการรุนแรงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สะโพกหนาจึงอัดกระแทกสวนกายเข้าไปในร่างบางอย่างรุนแรง สติรับรู้ผิดชอบชั่วดีถูกวางกองไว้สักมุมหนึ่งในห้อง จะเรียกว่าขาดสติก็ไม่เชิง เพราะยุนโฮรับรู้อยู่ตลอดว่าตัวเองกำลังทำอะไร เพียงแต่ไม่อาจหยุดยั้งความต้องการทางเพศของตนได้เลย

หรือถ้าเขาสามารถที่จะ หยุดได้  ก็ไม่อยากหยุดอีกต่อไปแล้ว!

ร่างที่นอนสลบรองรับอารมณ์ใคร่ยังคงไม่รับรู้ถึงชะตากรรมอันน่าเศร้าของตัวเอง แต่เพราะความเจ็บแสบที่ได้รับจากการร่วมเพศ น้ำตาเม็ดใสค่อยๆไหลออกมาพร้อมกับเสียงสะอื้น  ทั้งหมดมันออกมาจากจิตใต้สำนึกของคนเจ็บกายเท่านั้น
“อ่า...อือออ~“เสียงทุ้มปลดปล่อยร่างกายตัวเองกับร่างบอบช้ำไปไม่รู้กี่ครั้งจนกระทั่งความรู้สึกต้องการมากมายในตัวลดลงไปมากแล้ว แต่ยุนโฮยังไม่อาจตอบตัวเองได้ว่าทำไมเขายังไม่อยากปล่อยร่างบางเป็นอิสระ ไม่หรอกเขายังต้องการอยู่ ยุนโฮพูดบอกตัวเองไม่รู้เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้ว หลังจากพยายามหาข้ออ้างในการล่วงเกินผิวขาวผ่องที่ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยรักที่เขาตีตราจองไว้จนทั่ว
กลิ่นหอมจากกายคนแปลกหน้าที่ตัวเองกำลังโอบรัดแน่นหนา พร้อมบดเบียดร่างแกร่งของตนแนบสนิทผิวขาวนวลเนียนไม่ห่าง ทุกส่วนในร่างกายเกี่ยวรัดกันจนแยกแทบไม่ออกว่าส่วนไหนเป็นแขนใคร ส่วนไหนเป็นขาใคร ยุนโฮบดเบียดกายแกร่งเข้าหาร่างที่หลงใหลไม่รู้เบื่อ เป็นจังหวะรับกับส่วนเชื่อมประสานของร่างกายทั้งคู่ที่ยังเสียดสีกันต่อเนื่อง ไม่มีทีท่าจะยอมหยุด กลิ่นกายของคนๆนี้เป็นส่วนหนึ่งที่กำลังทำให้เขาคลั่ง ควบคุมตัวเองไม่อยู่จริงๆ  มือหนาบีบเค้นไปทั่วทั้งร่าง ริมฝีปากอิ่มก็ขบกัดสร้างรอยประดับไม่รู้เบื่อ ตอนนี้ไม่มีส่วนไหนของคนๆนี้ที่ชอง ยุนโฮไม่รู้จัก เขาสำรวจมาครบทุกส่วนแล้ว ตักตวงความสุขจากการดื่มด่ำร่างตรงหน้าเต็มที่  นาทีนี้เขาไม่รู้จักคำว่า อิ่ม กับคำว่า พอ เสียแล้ว
ความหอมหวาน เย้ายวนที่ได้รับจากบทรักร้อนแรงกับร่างกายที่สวนประสานกันเป็นหนึ่งยิ่งแนบชิด ความต้องการเข้าไปในจุดที่ล้ำลึกที่สุดภายในร่างกายของคนในวงแขนทวีขึ้นอย่างไม่อาจควบคุม ทุกท่วงท่า ทุกลีลาเปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการของตัวเองทั้งสิ้น ร่างหนาบดเบียดกายเสียดสีผิวเนื้อขาวน้ำนมอีกครั้งและอีกครั้งอย่างพึงพอใจ ถ้าทำได้เขาอยากกลืนกินร่างบางนี่ด้วยซ้ำ ผิวเนื้อขึ้นสีแดงระเรื่อไปหมดจากการบีบขยี้รุนแรงจากน้ำมือชายหนุ่ม เมื่อไม่อาจระงับความเสียวซ่านที่ได้รับ ร่างหนาเริ่มออกอาการเกร็งปลายเท้าจิกลงบนฟูกหนานุ่ม บ่งบอกถึงปลายทางที่กำลังจะไปถึง ร่างหนาครางกระเส่าไม่หยุดกับความสุขที่ได้รับ  ผลผลิตจากเกมส์รักพวยพุ่งเข้าใส่ช่องทางสีชมพูที่แตกปริจากแรงเสียดสีของร่างกาย ขนาดคนๆนี้ไม่มีสติรับรู้ใดๆร่างบางยังตอดรัดเนื้อแน่นที่เขาสวนกายเข้าใส่ สร้างความสุขสมจนไม่อยากออกห่างเรือนร่างน่ากอดสักนิด แต่เขาเริ่มเหนื่อยล้ากับเกมส์รักซึ่งดำเนินต่อเนื่องไม่มีจุดสิ้นสุด แม้กระทั่งแสงสว่างจากภายนอกส่องเข้ามาแผดเผาเรือนกายที่เกี่ยวรัดกันจนผิวของยุนโฮขึ้นสีแดงออกมาอย่างเด่นชัด ร่างหนาที่โถมแรงใส่อีกร่างที่อ่อนนุ่มเป็นขี้ผึ้งรนไฟดั่งเดิม แสงแดดยามสายไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อชอง ยุนโฮ เพียงแต่ร่างกายที่ทำหน้าที่เป็นอย่างดีตั้งแต่ช่วงดึก เป็นเรียกร้องที่จะหยุดพักอย่างอ่อนล้า มือหนาที่ประครองกอดเอวบางสั่นนิดๆ เป็นสัญญาณประท้วงว่าไม่ไหว ยุนโฮจึงยอมยกธงขาวแต่โดยดี ด้วยความจำนนแต่ยังไม่ยอมถอนกายออกมาจากร่างเย้ายวนใจสักนิด
ร่างหนารั้งเอวค่อดบางปะทะแผงอกกว้าง วงแขนแข็งแรงโอบรอบร่างบางอย่างหวงแหน มือข้างหนึ่งเช็ดหยาดเหงื่อเกาะพราวตามดวงหน้าหวานอย่างไม่นึกรังเกียจ แวบหนึ่งเขาอยากให้คนตรงหน้าลืมตาขึ้นมา อย่างเห็นแววตาของคนตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก เป็นความรู้สึกแปลกๆที่ก่อตัวอยู่ภายใน สักวันเขาจะต้องค้นหาคำตอบของมัน ก่อนซุกใบหน้ากับกลุ่มผมนุ่มของคนแปลกหน้า เข้าสู่ห้วงนิทรา...ในที่สุด

--------------------------------------------------------------------------------------------

ปาร์ค จองโม มองจอมอนิเตอร์แววตาเหี้ยม คิม แจจุง แก้วตาสีเข้มสั่นระริกอย่างสาแก่ใจ นี่คือบทเรียนที่แกสมควรจะได้รับ ความจริงชั้นใจดีกับแกมากแค่ไหนที่ให้แก่มีโอกาสเสพสุขกับยุนโฮหลานชายคนโปรด ที่ถูกดึงเข้ามาร่วมเกมส์อย่างไม่รู้ตัว
ถ้าแกตื่นขึ้นมาเรื่องราวจะสนุกแค่ไหน?  ถ้าแกรู้ว่าผู้ชายที่แกนอนด้วยเป็นใคร?
แล้วถ้ายูชอนเห็นภาพที่แกกำลังร่วมรักกับผู้ชายจะรู้สึกยังไง?

ฮ่าๆๆๆๆๆๆ เขาหัวเราะเสียงดังอย่างบ้าคลั่ง เรื่องทุกอย่างลงตัวตามที่คิดไว้ไม่ผิดเพี้ยน เริ่มจะสนุกขึ้นแล้วสินะ เสียงหัวเราะยังดังต่อไปอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ตอนนี้ปาร์ค จองโม ไม่ต่างอะไรกับคนเสียสติเลยสักนิด

------------------------------------------------------------------------------

2555/04/14

[Fic] ~ Love Dark...เพราะรักออกแบบไม่ได้ ~ ...Intro...

Title :  ~ Love Dark...เพราะรักออกแบบไม่ได้ ~

Writer :  KJW +  GroupBee

Couple:  YunJae , YooSu , Changmin

Genre :  Romantic , Drama

NC :  17



Intro…

แก้วตาใสคลอด้วยหยาดน้ำตาเม็ดโต แพขนตาหนากระพริบขื้นลงถี่ๆอย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า ของในมือร่วงหล่นทิ้งตัวลงมาอยู่บนพื้นหินแกรนิตสีดำอย่างแรงจนกระทั่งของเหลวซึ่งบรรจุอยู่ภายในกรดพื้นหินที่เจ้าของห้องห่วงนักห่วงหนา ถ้าเป็นเวลาปกติใครทำน้ำหกเปรอะพื้นหินสวยนี่เข้า ไม่วายต้องโดนปาร์ค ยูชอนเล่นงานหนักเป็นแน่ แต่คงไม่ใช่ในเวลานี้ แจจุงปล่อยให้ของเหลวสีดำเปรอะเปื้อนกระเซ็นเต็มพื้นห้อง เอสเปรสโซ่ร้อนส่งกลิ่นประท้วงหอมกรุ่นเมื่อจู่ๆมือที่ประคับประคองแก้วกระดาษมาอย่างทะนุถนอมกลับปล่อยแก้วร่วงหล่นลงไปกับพื้น ทั้งที่อุตส่าห์หิ้วติดมือมาฝากคนรักยามเช้า เหนอะหนะคลอบคลุมไปถึงกล่องใส่ขนมเค้กเจ้าประจำที่คนรักชอบกินเป็นที่สุด...
เวลาผ่านไปเชื่องช้าเหลือเกินในความรู้สึกของแจจุง หัวใจดวงน้อยเหมือนหยุดเต้นชั่วคราว พอกับสติการรับรู้ที่ชะงักอยู่กับที่ อาการบีบรัดของก้อนเนื้อเล็กๆในอกที่เต้นแผ่วเบาจนน่าใจหาย ครู่หนึ่งแจจุงเกือบคิดว่าตัวเองกำลังจะตายเหมือนขาดอากาศหายใจ มือเล็กขยุ้มเสื้อเชิ้ตตัวยาว รู้สึกแน่นหน้าอก อยากร้องเรียกคนตรงหน้าแต่เสียงหวานถูกดูดกลืนหายไปในลำคอ...มันพูดไม่ออก
เมื่อร่างเล็กที่นอนกอดก่ายร่างกายของชายอันเป็นที่รักของตัวเองอยู่ ขยับตัวซุกไซร้ทั่วซอกคอและกำลังจะไล่ต่ำลงไปอีก ถ้าไม่ถูกรั้งเอวกลมน่าสัมผัสด้วยท่อนแขนแกร่ง ก่อนใบหน้าเปี่ยมเสน่ห์ของปาร์ค ยูชอนจะก้มลงมาแตะริมฝีปากสีชมพูสดของคนน่ารักคนนั้นจากแตะกันเพียงผิวเผิน เริ่มรุนแรง เร่าร้อน ร่างหนาพลิกคว่ำเรือนร่างอวบก่อนตามประกบทันที มือไม้สะเปะสะปะไปทั่ว ภาพตรงหน้ามันเกินกว่าหัวใจที่บอบช้ำจะทานทน แจจุงเผลอส่งเสียงร้องออกมาอย่างไม่อาจกลั้น
เจ็บไปหมดแล้ว รู้มั้ยที่รัก?
ทำไมถึงทำกับแจจุงแบบนี้?
ไม่รู้เป็นเพราะเสียงร่ำไห้อย่างปวดร้าวของแจจุงหรือเพราะสัมผัสที่ไม่คุ้นเคยกันแน่ สติที่เตลิดเปิดเปิงไปจากบรรยากาศที่เป็นใจยามเช้า ดวงตาที่ปิดสนิทค่อยๆเปิดขึ้นรับกับแสงสว่างยามเช้าอันอบอุ่น มือหนาที่ไล่ไปทั่วปลีน่องนุ่มเนียนก่อนแหวกเรียวขาทั้งคู่ออกเริ่มรู้สึกแปลกใจกับบางสิ่ง
ไม่ใช่.. แจจุง
สติสัมปชัญญะรับรู้บางสิ่งที่ไม่คุ้นชินอย่างมึนงง  แต่ความรู้สึกต้องการตามธรรมชาติมันทำให้ร่างกายไม่หยุดลูบไล้ผิวเนื้อนุ่มเนียนตรงหน้า ความสงสัยไม่อาจเอาชนะแรงขับดันทางเพศ เมื่อเรือนร่างแสนเย้ายวนแนบกายแกร่งไม่ห่าง กลิ่นหอมอ่อนๆจากเรือนกายเนียนนุ่มลื่นมือทำให้ยูชอนเผลอไผลในรสสัมผัส กู่ไม่กลับเสียแล้ว ยิ่งแนบชิดยิ่งทวีความปรารถนา รอยรักสีกุหลาบปรากฏเด่นชัดจับจองทั่วพื้นผิวขาวผ่อง เห็นแล้วอดที่จะรู้สึกแปลกๆไม่ได้ รอยรักที่ตัดบนผิวขาวๆเย้ายวนใจให้เข้าไปสัมผัสอีกหน เพียงแต่ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีแวบผ่านเข้ามาในหัวสมองซึ่งยังไม่ตื่นเต็มตาของยูชอนกะทันหัน เสียงครางรับของหนุ่มปริศนา มีส่วนปลุกสติของยูชอนให้กับมาอีกครั้ง
ปาร์ค ยูชอนขยี้เปลือกตาหนาหลายที ฝันไปหรือเปล่า? ร่างงดงามตรงหน้าไม่ใช่แจจุงคนรักของเขาแน่นอน เนื้อหนังที่อวบอิ่มเต็มไม้เต็มมือ น่าฟัดขนาดนี้ดูยังไงก็ไม่ใช่  ร่างเปลือยเปล่าที่นอนคว่ำหน้ากับเตียงนุ่มยังไม่มีทีท่าจะรับรู้ ดวงหน้าจิ้มลิ้มยังคงหลับตาพริ้มไม่รับรู้เหตุการณ์อะไรทั้งสิ้น ยูชอนเอียงคอมองท่าทางหลับสบายของคนตัวเล็ก ดูน่าเอ็นดูเสียจนเขาหลุดยิ้มบางๆออกมา มือที่ว่างเกลี่ยลูกผมเส้นเล็กของคนแปลกหน้าเล่นอย่างเพ้อๆ
... หยุดชะงัก ...
กับเสียงที่ได้ยินเหมือนกับเสียงคนกำลังร้องไห้ ตาคมมองปราดไปที่หน้าประตูห้องทันควัน แต่คงช้ากว่าร่างบางที่ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วกับสิ่งที่เห็น
...รอยยิ้มของยูชอน ไม่ใช่.. ของแจจุงคนเดียวอีกแล้ว
เจ็บเกินเยียวยา ทำไมถึงได้ใจร้ายขนาดนี้...
ไม่ใช่เพียงแต่แจจุงที่ตกใจกับสิ่งที่เห็นยูชอนเองก็เช่นกัน ร่างบางที่คุ้นตาแม้เห็นเพียงด้านหลังแวบเดียว เขาก็รู้ทันทีว่าใคร ยูชอนหัวใจกระตุกวาบ ความรู้สึกถึงคำว่าสูญเสียดังก้องอยู่ในหัว สภาพห้องอันเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบกาแฟ กล่องเค้กเจ้าประจำที่เขาชอบอ้อนให้แจจุงนำมาฝากทุกเช้าเปียกคราบสีดำจนหมด เป็นหลักฐานอย่างดีทีเดียวที่บ่งบอกว่าแจจุงของเขามานานแค่ไหนแล้ว ร่างหนาเตรียมลุกขึ้นวิ่งตามหัวใจตัวเองที่เรียกร้องทั้งที่ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น  เพียงแค่ขยับตัวขึ้นนิดเดียวบุคคลที่เขาไม่อยากเจอที่สุดตอนนี้ก็ก้าวเข้ามาในห้อง แววตาที่เหมือนกันดุจฝาแฝดของคนตรงหน้าตรึงยูชอนให้ทิ้งตัวลงกับเตียงอย่างเกรงขาม ปาร์ค จองโม คุณพ่อของเขานั่นเอง เสียงเรียบเอ่ยขึ้นดั่งประกาศิต
“แกคงมีคำอธิบายสำหรับสิ่งนี้”สายตาคมดุจเหยี่ยวแสร้งทำเป็นมองไปที่หนุ่มน้อยปริศนาที่นอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงกับเขา ไม่รู้อะไรดลใจให้ยูชอนเอื้อมมือไปหยิบผ้าห่มปลายเตียงมาคลุมเรือนร่างนั่นไว้ ไม่อยากให้ใครมอง นอกจากตัวเขาเอง
“หมายความว่ายังไง ผมไม่เข้าใจ?เสียงทุ้มเอ่ยถามกวนๆ เขาเลิกเรียกคนตรงหน้าว่า  พ่อ  ตั้งแต่เกิดเรื่องคราวนั้นแล้ว
“ชั้นรู้ว่าลูกชายของชั้น ไม่ใช่..คนโง่ เรื่องง่ายๆแค่นี้ทำไมต้องแกล้งไม่เข้าใจด้วย”น้ำเสียงเยาะเย้ยเอ่ยประชดประชัน
ใช่...ยูชอนเข้าใจ สายตาของคนเป็นพ่อที่มองสิ่งที่เกิดขึ้นราวกับมันเป็นเรื่องธรรมดาก็ไม่ปาน  ดูไม่ตกใจอย่างกับว่ามันคือที่สิ่งที่คาดการณ์อะไรไว้แล้ว ดูสะใจ พอใจ สมใจ อะไรบางอย่างที่สะท้อนออกมาจากดวงตาคู่นั้น มันบอกว่าเป็นอย่างนั้น ยูชอนรู้สึกได้ เริ่มเกิดความรู้สึกโกรธขึ้นมาในใจหรือว่าเรื่องที่เกิดจะเป็นการจัดฉากขึ้นมาทั้งหมด!!!
“ทั้งหมด...เป็นฝีมือคุณใช่มั้ย?”เสียงตวาดดังลั่นอย่างโมโห ค่อนข้างแน่ใจว่าการคาดเดาของเขาไม่ผิด  ชายสูงวัยยักไหล่ อย่างไม่สนใจท่าทีโมโหจัดของคนเป็นลูก เขาระบายยิ้มอย่างสาแก่ใจ
“ถ้าใช่แล้วแกจะทำไม ห๊ะ...ปาร์ค ยูชอน เตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าวได้แล้ว แกต้องแต่งงานกับคนที่ชั้นเลือกเท่านั้น”
“ไม่มีทาง คุณก็รู้ว่าผมรักแจจุง”ยูชอนจ้องตาคนเป็นพ่ออย่างโกรธจัด ใจคอของคนๆนี้ทำด้วยอะไร ทำไมถึงได้เลือดเย็นถึงเพียงนี้ คงจะตั้งใจให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นเพื่อให้แจจุงของเขามาเห็นและก็เข้าล็อคที่วางไว้พอดิบพอดี แต่เขาไม่มีวันยอมกับเรื่องนี้...ยูชอนยอมไม่ได้จริงๆ
“เรื่องนั้นชั้นไม่สน แกอยากรักมันก็รักไป แต่แกต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น”คนเป็นพ่อพูดมันอย่างไม่แยแส
“ผมไม่ได้ทำอะไร ทำไมต้องรับผิดชอบ”ยูชอนเถียงชายวัยกลางคนยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนส่งหนังสือพิมพ์ให้คนเป็นลูก
 “อ่านซะ...จะได้เข้าใจว่าทำไม”
ถึงไม่อยากรับรู้เรื่องราวสกปรกที่คนตรงหน้าหยิบยื่นแต่ความอยากรู้ที่มีมากกว่า ทำให้มือหนาคลี่หน้าหนังสือพิมพ์เร็วๆ มือไม้สั่นเทากับสิ่งที่ผ่านสายตา ภายใต้ช่องตัวอักษรหนาของข่าวพาดหัว มีกรอบขนาดใหญ่ที่สายตาคมไม่อาจละความสนใจ  รูปเปลือยเปล่าของเขากับหนุ่มนิรนาม แม้จะคาดดำที่ตากับเซนเซอร์ส่วนที่ล่อแหลมเอาไว้ แต่ก็เดาได้ไม่อยากว่าสองร่างกำลังทำอะไรกันอยู่ ใต้รูปปรากฏข้อความ  ช็อค!!!! รูปหลุดไฮโซหนุ่ม ย. เริงรักกับน้องชายไฮโซหนุ่ม ย.. ไม่รู้ว่าเบื่อหนุ่มหน้าสวย จ. ตั้งแต่เมื่อไหร่ อ่านต่อหน้า11...  ยูชอนฉีกหนังสือพิมพ์อุบาวท์นั่นทิ้งจนไม่เหลือชิ้นดี ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะโมโหอะไรได้ขนาดนี้ ตั้งแต่เกิดมาสิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือการถูกบังคับ โดยเฉพาะในสิ่งที่เขาไม่ได้ก่อให้เกิดขึ้นมาแบบนี้ เสียงหัวเราะที่น่าชังของคนเป็นพ่อดังขึ้นอย่างไม่รู้สึกรู้สมใดๆในการกระทำน่ารังเกียจของตน ซึ่งทำร้ายหัวใจของยูชอนจนป่นปี้ น้ำตาลูกผู้ชายไหลลงมาอาบข้างแก้มอย่างจนมุมไม่รู้จะจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นยังไง แล้วความรู้สึกของแจจุงล่ะเขาจะทำอย่างไรต่อไปดี???

เสียงสบถด้วยความหงุดหงิดใจของใครบางคนดังแว่วข้างหู เหลือกตาหนักๆพยายามเปิดขึ้นทีละน้อย ปวดบริเวณกระบอกตาจนแทบลืมตาไม่ขึ้น...เกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ช่วงขาเรียวที่โผล่ออกมาพ้นชายผ้าห่มผืนใหญ่รู้สึกชาวาบจากอากาศภายนอก ความเย็นของเครื่องปรับอากาศซึ่งปล่อยออกมากระทบผิวทำให้เย็นยะเยือกอย่างบอกไม่ถูก ร่างเล็กเริ่มขยับตัวขลุกขลัก เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหมดจริงๆ อาจเป็นเพราะนอนอยู่ในท่าที่เลือดลมเดินไม่สะดวก สติรับรู้เริ่มตื่นขึ้นจนกระทั่งร่างกายที่ขยับผ่อนคลายความเมื่อยขบแตะไปโดนผิวเนื้ออุ่นๆของใครอีกคนที่เบียดกายอยู่เคียงข้าง
หัวใจพลันกระตุกวาบ เมื่อมือเล็กๆคว้านสำรวจไปทั่วเรือนร่างของตนเอง ฝ่ามือน้อยสัมผัสกับผิวเนียนโดยตรงไม่ได้ผ่านเสื้อผ้าใดๆ หมายความว่ายังไง...???  แปลกใจ งง ระคนความสงสัย ไวเท่าความคิด คิม จุนซูลืมตาขึ้นค่อยๆกระพริบเปลือกตาขึ้นลงถี่ๆเพื่อปรับสภาพม่านตาให้คุ้นชินกับแสงสว่างที่ลอดผ่านเข้ามา เมื่อภาพตรงหน้าปรากฏชัดแก่สายตา ลำตัวอวบผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว สายตาหวาดผวากับสิ่งที่ได้เห็นผู้ชายอีกคนที่นอนทิ้งตัวลงกับเตียงใหญ่เรือนร่างเปลือยเปล่าเช่นเดียวกันและกำลังจ้องมองมาที่จุนซูอย่างไม่ลดละ น่าแปลก...แค่ถูกมองเพียงเท่านั้นทำไมจุนซูถึงรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วดวงหน้า แก้มใสเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ ขัดเขินจนทำตัวไม่ถูก สายตาที่จ้องมองราวกับจะแผดเผาร่างกายของเขาให้เป็นผุยผง แต่ทำให้จุนซูตระหนักได้ว่าตนอยู่ในสภาพน่าอายเพียงใด ทันทีที่รู้ตัวมือเล็กรีบคว้าผ้าห่มที่ล่นมากองอยู่ข้างตัวคลี่ออกมาคลุมเรือนร่างขาวอย่างร้อนรน เขากับคนแปลกหน้านี่คงไม่ได้ทำอะไรกันแบบนั่นใช่มั้ย...? สภาพของทั้งคู่ไม่ได้ช่วยทำให้คำพูดปลอบใจตัวเองของจุนซูดูสมเหตุสมผลขึ้นมาเลย
เสียงเย้ยหยันดังขึ้นเป็นประโยคแรกในบรรยากาศชวนอึดอัด“จะปิดทำไม ชั้นเห็นหมดทุกส่วนแล้ว ไม่ใช่แค่มองเท่านั้นนะ ยังสัมผัสมาแล้ว...ทุกส่วน!!!”คำพูดของคนแปลกหน้า ทำลายเหตุผลที่เขาคิดเพื่อหลอกตัวเองจนหมดสิ้น มือไม้สั่นไปหมด ก่อนกลั้นใจถามอย่างหวาดหวั่น
“มะ...หมายความ...ว่ายังไง?”แทนคำตอบ ยูชอนรั้งเอวอวบอิ่มที่เย้ายวนใจตรงหน้าเข้ามาประชิดแผงอกกว้างของตน ริมฝีปากอิ่มพ่นลมใส่รูหูเล็กให้จั๊กจี้เล่น
เสียงทุ้มกระซิบกวนโทสะคนตัวเล็ก “แล้วเธอคิดว่ายังไงล่ะ”ขนลุกซู่ไปหมดทั้งตัวกับสัมผัสแปลกๆที่พึ่งเคยได้รับจากคนแปลหน้าที่เขาไม่รู้จัก ทำไมถึงกล้าทำร้ายกันแบบนี้ จุนซูดิ้นรนขัดขืนสุดกำลังที่ตัวเองมี หวังเพียงหลุดพ้นพันธนาการแน่นหนา การกระทำของจุนซูกับยิ่งโหมกระพือความรู้สึกบางอย่างที่กำลังก่อตัวอยู่ภายในของยูชอนอย่างเงียบๆ เลือดในกายที่เข้าสู่อุณหภูมิปกติจากการรับฟังแผนอุบาวท์ของผู้เป็นบุพการีเมื่อครู่เริ่มสูบฉีดตามหน้าที่อีกคราจนอุณหภูมิภายในร้อนฉ่า ยิ่งจุนซูขยับผิวเนื้อเนียนละเอียดก็ยิ่งเบียดเสียดผิวกายเปลือยเปล่าของยูชอนเข้าไปใหญ่ ไม่รู้หรือไงว่าเป็นการกระตุ้นความต้องการทางเพศของเขาขึ้นทุกขณะ เสียงร้องโวยวายของคนตัวเล็กน่ารำคาญจนเขาต้องขึ้นเสียงให้หยุด
จุนซูหยุดร้องโวยวายแต่เปลี่ยนเป็นร้องไห้คร่ำครวญแทน จะมีอะไรกวนใจเขามากไปกว่านี้อีก ซ้ำมือเล็กยังถูกส่งมาทุบไม่ยั้งทั่วแผงอกหนาหลายครั้งเข้ามันก็เจ็บ ฝ่ามือใหญ่รวบข้อมือประทุษร้ายไว้ในมือเดียว คนตัวเล็กยังร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุด กล่าวโทษอะไรเขาสารพัด ยัดเยียดความผิดที่เขาไม่ได้ทำ สรุปแล้วจะให้รับผิดให้ได้...ใช่มั้ย?
“ปล่อยนะ ไอ้เลว ไอ้ชั่ว ทำแบบนี้กับเค้าทำไม ชีวิตเค้าพังหมดแล้วเพราะแก...ไอ้คนโรคจิต!”เสียงแหบตะเบ็งด่าไม่หยุด ยูชอนเริ่มมีอารมณ์หงุดหงิดมากขึ้น คนไม่ได้ ทำ กับโดนกล่าวหาว่า ทำ
“หยุดบ้าได้แล้ว เธอต่างหากเด็กน้อยที่ทำชีวิตชั้นย่อยยับไปหมด ทำไมอยากได้ชั้นเป็นผัวจนตัวสั่นเลยหรือไงถึงได้ยอมทอดกายให้ชั้นขนาดนี้”เสียงทุ้มตวาดกลับอย่างมีอารมณ์  คำพูดหมิ่นเกียรติของคนเลวตรงหน้าทำเอาลูกแมวน้อยอย่างจุนซูกลายเป็นนางเสือ ดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธ คนเลวนี่มันมีสิทธิ์อะไรมาด่าเขาแบบนี้
“หน้าตัวเมีย...รังแกคนไม่มีทางสู้แล้วมาโยนความผิดให้กันแบบนี้หรอ หรือไม่มีใครสั่งสอนมารยาทแกถึงได้เลวทรามแบบนี้”
ขาดผึงงงง
ถ้าเปรียบดั่งสติ มันก็คงจะขาดทันทีที่คนตัวเล็กพ่นคำด่าอย่างไม่ทันคิดนั้นออกไป เขาพยายามอดกลั้นต่อทำด่าว่าทุกอย่างโดยไม่โต้เถียงคนตรงหน้า เพราะเขารู้ว่ายังไม่ได้ล่วงเกินอะไรร่างเล็กบนเตียงนั่นแน่นอน แต่ถ้อยคำที่พูดจาเหน็บแนมนั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการลองใจอะไรบางอย่างกับสิ่งที่ปาร์ค ยูชอนอยากรู้
เด็กหนุ่มปริศนาคนนี้ มีส่วนรู้เห็นอะไรกับแผนการอุบาวท์นี้หรือไม่?
จริงๆคำตอบน่ะเขาได้แล้ว แต่ไอ้ท่าทีรังเกียจที่คนตัวเล็กแสดงออกมาทำให้รู้สึกเคืองอยู่ในใจเหมือนกัน อีกอย่างเขารู้ตัวว่าไม่สามารถออกไปเคลียร์เรื่องยุ่งยากที่เกิดให้คนรักของเขาเข้าใจได้ ลองบุพการีของเขาเดินเกมส์ด้วยตัวเอง มันคงไม่ง่ายที่จะขัดขืน เพราะสถานการณ์ที่บีบบังคับ ทำให้ปาร์ค ยูชอนกดโทรศัพท์หาคนรักของตนด้วยมือที่สั่นเทา ป่านนี้แจจุงของเขาจะเป็นยังไงบ้าง จะเสียใจกับสิ่งที่เห็นเพียงไหน ตั้งแต่เกิดมานอกจากคุณแม่กับยูฮวานน้องชายสุดที่รัก ก็มีเพียงแจจุงคนเดียวที่เขาแคร์ ยูชอนต้องการทะนุถนอมแจจุงให้ดีที่สุด แต่ไม่ว่าเพียรกดเบอร์กี่ครั้ง คนรักของเขาก็ไม่ยอมรับสักที แล้วยังต้องมารับฟังถ้อยคำด่าทอเมื่อครู่มันช่างกวนใจเขาเสียจริง คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ ยั่วได้ยั่วดีนัก มีไม่กี่คนที่รู้ว่าปาร์ค ยูชอน อ่อนไหวกับคำที่กล่าวพาดพิงถึงผู้เป็นแม่ ผู้ซึ่งเป็นที่รักของเขา โชคร้ายเหลือเกินที่ท่านได้ด่วนจากไปก่อน ดังนั้นที่ด่าทอว่าไม่มีใครสั่งสอนมันเสียดแทงในอก ปวดร้าวเกินบรรยาย ส่วนหนึ่งที่เขารักแจจุงจนหมดหัวใจ คงเป็นเพราะแจจุงคล้ายกับเงาซ้อนทับคุณแม่ของเขา ที่เขารักหนักหนา ความเสียสละของแจจุงเป็นอีกสิ่งที่ทำให้หัวใจด้านชาของยูชอนหวั่นไหว รักโดยปราศจากข้อแม้ รักโดยไม่มีเงื่อนไข แล้วทำไมคนดีอย่างแจจุงถึงเป็นฝ่ายถูกทำลายอยู่ร่ำไป ในเมื่อคนเป็นพ่ออุตส่าห์มีน้ำใจวางเหยื่อที่น่าขย้ำไว้ตรงหน้า...แล้วยูชอนจะโง่ปฎิเสธมันทำไมกัน!
แววตาที่เปลี่ยนไปของผู้ชายตรงหน้าหยุดคำพูดของจุนซูได้สนิท ตอนนี้จุนซูยอมรับว่ารู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ มือที่เพียงเกาะกุมรอบเอวอวบอิ่มทำการสำรวจไปทั่วเนื้อเนียนนุ่มนิ่มที่เย้ายวนสายตามาแต่แรกอย่างจาบจ้วง ริมฝีปากอิ่มเคลื่อนลงมาดูดเม้มแถวซอกคอขาว ทำรอยรักประดับซ้ำรอยจางๆที่มีอยู่ก่อนจนสีเข้มปรากฏเด่นชัดบนผิวเนื้อขาว กลิ่นหอมอ่อนๆที่แตกต่างจากสัมผัสของแจจุงมันปลุกเร้าอารมณ์ดิบที่หลับสนิทอยู่เนิ่นนานให้ตื่นขึ้นมาและเด็กน้อยน่ารักตรงหน้านี่แหละ...ต้องรับผิดชอบ  น่าแปลกสำหรับแจจุงคนรักของเขา มันไม่ใช่เป็นความต้องการทางเพศ เขาสามารถอยู่กับแจจุงได้ทั้งคืนโดยนอนกอดกันเพียงเท่านั้น ไม่ใช่...ไม่รัก ยูชอนรักแจจุงมาก อาจจะมากกว่าชีวิตของตัวเองด้วยซ้ำ เพียงแต่ เวลาอยู่ใกล้ๆ ได้กลิ่นหอมอ่อนละมุนเฉพาะตัวของแจจุงมันทำให้เขารู้สึกสงบ ผ่อนคลาย กลิ่นอบอุ่นเจือความห่วงใยบวกการกระทำที่ให้ความใส่ใจในตัวเขาเสมอ ทำให้เขาชอบอยู่ใกล้ๆแจจุง อีกอย่างทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ใกล้ชิด คุณแม่และด้วยเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นมาในชีวิตทำให้เขาไม่กล้าที่จะล่วงเกินแจจุงแบบนั้นได้อีก มันเป็นความรู้สึกผิดในใจอยู่ตลอด แจจุงต้องการอะไรจากเขาก็ได้เขาจะให้สิ่งนั้นทั้งหมด ขอเพียงแค่แจจุงยังคงอยู่เคียงข้างเขา เขายอมหมดทุกอย่าง
ร่างที่แนบเนื้ออยู่ในขณะนี้ทำให้เขาเคลิบเคลิ้มจนลืมแจจุงไปชั่วขณะ รสรักที่ไม่ได้สัมผัสมาเนิ่นนานกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ด้วยความอ่อนเดียงสาของจุนซูทำให้ยูชอนลุ่มหลงมัวเมาไปกับกลิ่นกายหอมละมุ่นละไม จมูกโด่งสูดกลิ่นทั่วทั้งร่างบางที่อ่อนระทดระทวยอย่างทำตัวไม่ถูก แต่ยังสู้อุตส่าห์รวบรวมกำลังที่เหลืออยู่น้อยนิดส่ายลำตัวหลบหนีจมูกซุกซนที่ตามราวีไม่เลิก ร่างเล็กดูสิ้นเรี่ยวแรงจากความรู้สึกแปลกๆที่พึ่งรู้จัก เด็กน้อยส่ายหน้าไปมาหนีริมฝีปากอิ่มที่ตามมาประกบจูบไม่ลดละ ไม่ได้รู้เลยว่ายิ่งดิ้นรนยิ่งทำให้ยูชอนปรารถนาจะครอบครองเรือนร่างอวบอิ่มมากขึ้นไปอีก ท่วงทีไม่ประสีประสาของคนตัวเล็กที่ยังพยายามขัดขืนสุดกำลัง มันดูยั่วเย้าให้ยูชอนต้องการมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งมากกว่านี้ ตอนนี้ความคิดเดียวที่หลงเหลืออยู่คือ
ปราบพยศ เด็กน้อยน่าฟัดตรงหน้าเท่านั้น
ลำตัวหนากดทับร่างเล็กให้จมไปกับความหนานุ่มของเตียงนอน ใช้ช่วงขาแข็งแรงกดล็อคตรึงร่างเล็กไว้กับที่ จุนซูร้องไห้ออกมาเมื่อรู้ตัวว่าหมดทางสู้ ปล่อยน้ำใสให้ไหลออกมาระบายความอัดอั้นในใจที่ทำอะไรไม่ได้เลยกับสถานการณ์เลวร้ายที่กำลังจะดำเนินต่อ หวาดกลัวกับสิ่งที่กำลังจะเกิด เสียงแหบสั่นเพราะสะอื้นไห้ยังคงต่อรองตะกุกตะกัก
“ยะ...อย่าทำอะไรผมเลย กะ...แก.. เอ่อ...คุณอยากได้อะไร บอกผมสิ ผมจะให้หมดทุกอย่าง”คำพูดของจุนซูทำให้ยูชอนหยุดชะงัก แววตาเรืองโรจน์ด้วยความเดือดดาล ตวาดลั่นจนจุนซูสั่นไปทั้งตัวอย่างน่าสงสาร
“เด็กน้อยสงสัยเธอจะเคยชินกับการได้อะไรมาง่ายๆจนเคยตัว ชีวิตมนุษย์มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ แต่...ชั้นจะบอกสิ่งที่ชั้นอยากได้ จากเธอล่ะกัน...”ถึงสายตาของผู้ชายตรงหน้าจะดูไม่น่าไว้ใจ น้ำเสียงที่ใช้ก็ดูน่ากลัว เด็กที่ได้รับการดูแลอย่างดีมาจากครอบครัวที่อบอุ่นไม่เคยเลยสักครั้งที่มีใครขึ้นเสียงใส่ให้ระคายหู อาจเพราะเป็นคนมองโลกในแง่ดีมาโดยตลอด จึงอดคิดในทางบวกไม่ได้เพราะคำพูดที่เอ่ยออกมาราวกับให้โอกาสนั้น ทำให้จุนซูโล่งใจขึ้นมาด้วยมีความหวัง รีบส่งคำถามต่อในทันที
“บอกมาสิ ว่าคุณอยากได้อะไร?”ยูชอนส่งเสียงหัวเราะผ่านลำคอ มือใหญ่ไล้ไปรอบๆเรียวขาอัดแน่นด้วยนวลเนื้อนุ่มเนียน ลูบไล้จนเข้าไปถึงซอกขาด้านใน ก่อนป้วนเปี้ยนรอบช่องทางสีชมพูสวยที่น่าเติมเต็มนั่น จุนซูสั่นสะท้านด้วยความรู้สึกแปลกๆ มือเล็กรีบผวาจับกุมข้อมือใหญ่เอาไว้ เกรงภัยที่ตัวเองจะได้รับ ยูชอนส่งสายตากรุ่มกริ่มใส่นัยน์ตาสวยที่มองตอบเขาอย่างตื่นตระหนก เสียงทุ้มพูดราวกับเพ้อ น้ำเสียงไม่ดังนัก แต่ทำเอาใจหนุ่มน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะ
“ก็ตัวเธอไง ที่ชั้นต้องการ~”ไม่ปล่อยให้จุนซูหายช็อคในสิ่งที่ได้ยิน นิ้วเรียวแทรกผ่านเข้าไปในช่องทางสีชมพูสดอย่างเอาแต่ใจ สิ่งแปลกปลอมที่ถือโอกาสเข้ามาในร่างกายผ่านช่องทางที่ไม่เคยมีใครล่วงล้ำ ทำให้จุนซูกรีดร้องขึ้นมาอย่างเจ็บปวด ยูชอนเอื้อมมือที่ยังว่างอยู่จับเนื้อแน่นที่แข็งตัวชูชันของเด็กน้อยรูดคลึงให้มันคลายความตึงแน่น บรรเทาความเจ็บที่คนตัวเล็กรู้สึก ทั้งยังได้ปลุกความรู้สึกต้องการในตัวเด็กหนุ่ม เป็นอีกครั้งที่จุนซูเผลอไผลไปกับมัน สติยั้งคิดเริ่มเลือนรางไปทีละนิด ลืมความเจ็บปวดที่พึ่งรู้สึกไปจนหมด ลืมย้ำเตือนตัวเองว่าไม่ควรยินยอมไปกับการเอาเปรียบของผู้ชายแปลกหน้าไร้มารยาทคนนี้ ลิ้นเปียกชุ่มละเลงทั่วผิวเนื้อขาวอมชมพูถ่ายทอดความชุ่มฉ่ำ พร้อมสร้างรอยรักที่ตีตรากระจ่างชัดทุกพื้นที่ที่ริมฝีปากอิ่มสำรวจ ขบกัดอย่างหมั่นเขี้ยวจนขึ้นสีระเรื่อสมใจ ก่อนดูดกลืนเม็ดทับทิมสวยเด่นที่ประดับยอดอกอย่างเอร็ดอร่อยจากซ้ายไปขวาไม่เร่งรีบ  จุนซูเคลิบเคลิ้มไปกับรสสวาทที่ชายหนุ่มปรนเปรอให้ไม่หยุด ใบหน้ากลมเชิดขึ้นกัดริมฝีปากแน่น บรรยายความรู้สึกตัวเองไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร ร่างกายร้อนผ่าวแทบทุกสัดส่วนที่ถูกรุกราน ทั้งร่างกายและจิตใจตอนนี้ราวกับไม่ใช่ของเขาเอง หน้าอกที่ถูกปากและลิ้นของชายแปลกหน้าครอบครองแอ่นขึ้นเปิดทางสะดวกแก่คนฉวยโอกาสโดยไม่ตั้งใจ มือเล็กที่ผลักไสร่างหนาเมื่อครู่กับขยี้กลุ่มผมสีนิลเข้มของผู้รุกรานระงับความเสียวซ่าน ส่งเสียงครางหวานหูดังกังวานอย่างไม่อาจกลั้น เมื่อช่วงกลางลำตัวได้รับการปลดปล่อยจนเห็นสวรรค์รำไร
“แฮ่กๆๆ...อ่ะ...จะทำอะไรอีก”จุนซูหอบจัดรีบตักตวงลมหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนร้องเสียงหลงเมื่อชายแปลกหน้ายังไม่หยุดเอาเปรียบ แต่จะเอาอะไรไปสู้กับคนใจร้ายได้ในเมื่อตอนนี้เขาหมดแรงแม้กระทั่งขยับตัวหนียังลำบากเลย...เหนื่อยไปทั้งหัวใจ
ร่างระทดระทวยสั่นสะท้านอีกครั้ง เมื่อยูชอนจับเรียวขาคู่งามแยกออกจากกันอย่างใจเย็น ส่งลิ้นละเลงไปทั่วซอกขาด้านในพอให้คนตัวเล็กใจสั่นเล่น ไม่จำเป็นต้องตอบคำถามของเด็กน้อย เมื่อร่างกายเขามันเรียกร้องจนดันแน่นปวดหนึบไปหมด ถ้าไม่ติดว่าสงสารเด็กน้อยที่กลายเป็นเหยื่อล่อให้กับเกมส์ชีวิตของเขาโดยไม่รู้ตัวแล้ว ยูชอนคงจับกระแทกใส่เข้าไปไม่โดยไม่ปรานีเป็นแน่ ความจริงเขารู้แต่แรกแล้วว่าเด็กน้อยน่ารักคนนี้ไม่ได้รู้เห็นเป็นใจกับแผนอุบาวท์นั่น ยอมรับว่าตัวเอง เลว ไม่ต่างกับคนวางแผน แต่มันช่วยไม่ได้จริงๆถ้าจะโทษเธอคงต้องโทษโชคชะตาของตัวเอง ที่ดันต้องตาต้องใจพ่อของเขาถึงขนาดเลือกให้มาเป็นคู่ชีวิต สงสัยคงต้องพิสูจน์ว่ามีดีอะไร???
“อ๊ากก...เอามันออกไป ฮื่อๆๆๆ”เสียงกรีดร้องดังลั่นเมื่อยูชอนเติมเต็มส่วนนั้นพรวดเดียวเข้าไปในร่าง ด้วยความเกร็งจัดของจุนซูทำให้ช่องทางรักบีบรัดส่วนอ่อนไหวของยูชอนจนชายหนุ่มแทบคลั่ง อยากขยับแรงๆใจแทบขาดแต่ความเห็นใจแวบเข้ามาในหัว ครั้งแรกกับการโดนข่มขืนคงเป็นความทรงจำที่เลวร้ายเกินไปหน่อย    
“ครั้งแรกของเธอ ชั้นจะพยายามอ่อนโยนกับมัน”เสียงนุ่มนวลเอ่ยเบาๆข้างกกหูนิ่ม ค่อยจูบซับน้ำตาที่เปรอะเปื้อนดวงหน้าใสอย่างอ่อนละมุนไล่ไปเรื่อยจนกระทั่งริมฝีปากแตะกัน ยูชอนงับกลีบปากนุ่มถูกใจเล่นทั้งริมฝีปากบนและล่าง ปลายลิ้นถือโอกาสแทรกเข้าไปในโพรงปากสวยในจังหวะที่จุนซูเผยอปากขึ้นเตรียมประท้วง ค่อยๆตวัดต้อนลิ้นเล็กภายในไม่ลดละ จากที่เคยล่นหนีลิ้นเล็กเผลอเกี่ยวพันปลายลิ้นหนาด้วยความลืมตัว รสจูบปลอบโยนเพิ่มดีกรีเร่าร้อนขึ้นตามลำดับ
มือซุกซนบีบขยี้เม็ดสีชมพูที่แข็งเป็นไตรับสัมผัส พอรู้สึกได้ว่าเด็กน้อยเริ่มผ่อนคลายไปมากแล้วสะโพกหนาจึงเริ่มขยับ แต่ไม่หยุดปั่นป่วนอารมณ์คนตัวเล็กให้เตลิดเกินควบคุม จากยอดอกมือปลาหมึกของเขาก็เคลื่อนมาบีบเคล้นก้นขาวเนียนล้นมืออย่างเมามัน ร่างกายของเด็กน่ารักนี่ช่างถูกใจเขาไปทุกส่วน เพิ่มแรงขย้ำขยี้จนแทบแหลกเหลวคาฝ่ามือหนาไม่หยุด เร่งจังหวะสวนกายเข้าไปรุนแรงขึ้น พอกับอารมณ์ของจุนซูซึ่งทะยานถึงขีดสุด ตอนนี้ร่างกายเขาตอบสนองต่อทุกสัมผัสของชายแปลกหน้า ในสมองขาวโพลนว่างเปล่าเกินกว่าจะคิดถึงว่าตัวเองกำลังทำในสิ่งน่าละอาย สะโพกกลมมนเด้งเข้าใส่สิ่งที่สวนกายเข้ามาอย่างลืมตัว มือเล็กจิกกำที่เอวของอีกฝ่ายรู้สึกเสียวซ่านปนสุขสม เสียงครางหวานหูที่แว่วออกมาทำให้ยูชอนได้ใจ ขยับกายหนักหน่วงไม่ยั้งจนกระทั่งส่วนที่ประสานฉีดพ่นของเหลวอุ่นจัดอัดเข้าไปในช่องทางคับแคบเต็มที่จนล้นทะลักออกมาเหนอะหนะต้นขาคนตัวเล็กที่ทิ้งตัวฟุบหน้ากับเตียงเกือบจะทันทีที่ยูชอนปลดปล่อยเข้าไปด้านในจนหมด
ยูชอนเอนกายข้างๆร่างเล็กที่เริ่มทำท่าจะขยับหนีด้วยความหมั่นไส้ในความอวดดีไม่เลิก เขาจึงรั้งเอวกลมเข้ามาแนบชิดอีกครั้ง คนตัวเล็กยังไม่วายขยับตัวขลุกขลักในวงแขน ในความคิดของจุนซูตอนนี้ต้องการออกห่างจากผู้ชายอันตรายให้เร็วที่สุดเมื่อบทรักร้อนแรงสิ้นสุดลง สติสัมปชัญญะอันเลือนหายไปเริ่มคืนสู่หัวสมองทีละนิด เกิดความรู้สึกอับอายในสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นที่สุด แต่จุนซูไม่อาจหลีกพ้นไปได้โดยง่ายเนื่องจากบางส่วนของร่างกายที่ยังเชื่อมโยงกันอยู่ เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างขัดเคือง
“ปล่อยได้แล้ว”ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ยูชอนส่งลิ้นเข้าไปล้อเล่นในรูหูคนตัวเล็กขนลุกซู่ ความรู้สึกแปลกๆก่อตัวขึ้นอีกครั้ง
“อะ...อย่า...อื้ออ~”ร้องห้ามอย่างหวาดหวั่น เด็กน้อยกำลังหวั่นไหว ร่างกายบางส่วนมันเรียนรู้ไวต่อรสสัมผัส ตอนนี้เพียงแตะนิดเดียวร่างบางก็สะท้านไปหมด พึ่งรู้สึกตัวเมื่อสายอีกแล้วจุนซู คนตัวเล็กบอกตัวเองอย่างโมโห อีกสิ่งที่เขาได้เรียนรู้คือไม่ควรดิ้นรนหนีในขณะที่ยังมีส่วนของร่างกายคนทั้งสองคับแน่นคาอยู่ อวัยวะภายในของจุนซูช่างไม่รักษาหน้าเจ้าของเอาซะเลย เมื่อส่วนอ่อนไหวของยูชอนตื่นตัวขยายขนาดขึ้น มันก็ตอดรัดรอบท่อนเนื้อจนยูชอนยากที่จะต้านทาน เขาต้องการสวนกายในช่องทางเย้ายวนใจของเด็กน่ารักอีกครั้ง  ไวพอกับความคิดหรืออาจพร้อมๆกับที่คิด สะโพกหนาขยับเสียดสีเข้าไปอีกหน มือหนากอดรัดลำตัวที่เต็มไปด้วยเนื้อหนังนุ่มนิ่มน่ากัดจนแผ่นหลังเนียนบดเบียดเนื้อกายเปลือยเปล่าของยูชอนแทบหลอมละลายเป็นเนื้อเดียว ร่างเล็กครางออกมาไม่หยุดประสานกับเสียงครางแหบพร่าของคนเอาเปรียบ จังหวะรักดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ไม่รู้จุดสิ้นสุด เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นไม่เข้าถึงหูคนที่กำลังร่วมรักกันอย่างสุขสม จนกระทั่งเสียงเรียกเข้าเงียบหายไปในที่สุด เหลือเพียงเสียงลมหายใจหอบกระเส่าของทั้งคู่กับเสียงเนื้อกระทบกันไม่หยุด
แสงสว่างบนหน้าจอมือถือดับลง พร้อมกับตัวอักษรบ่งบอกปลายสายที่ขยันโทรเข้ามา
 “ที่รัก ของยูชอน”

2555/04/09

~ Love Dark...เพราะรักออกแบบไม่ได้ ~



~ Love Dark...เพราะรักออกแบบไม่ได้ ~













มันง่าย ที่จะพูด ว่า “รัก”
แต่.. มันยากที่จะทำให้ รู้สึกว่า “รัก”
~ ชอง ยุนโฮ ~









มันง่าย ที่จะพูด ว่า “ลืม”
แต่.. มันยากที่จะทำให้ “ลืม”
~ คิม แจจุง ~







มันง่าย ที่จะพูด ว่า “จบ”
แต่.. มันยากที่ จะทำให้ “จบ”
~ ปาร์ค ยูชอน ~








มันง่าย ที่จะพูด ว่า “เกลียด”
แต่.. มันยากที่ จะทำให้ “เกลียด”
~  คิม จุนซู  ~








มันง่าย ที่จะพูด ว่า “ให้อภัย”
แต่.. มันยากที่ จะ “ให้อภัย”
~ ชเวคัง ชางมิน ~






มันง่าย ที่จะพูดว่า “รัก กับใครสักคน”
แต่.. มันยากที่จะ “รัก” ...ตัวเอง”
~ ปาร์ค ยูฮวาน  ~