2555/04/21

[Fic] ~ Love Dark...เพราะรักออกแบบไม่ได้ ~ Part...1 แผนการที่แยบยล


Title :  ~ Love Dark...เพราะรักออกแบบไม่ได้  ~
Writer :  KJW +  GroupBee
Couple:  YunJae , YooSu , Changmin
Genre : Romantic , Drama
NC :  18+

Part...1 แผนการณ์ที่แยบยล

ข้อมือบางถูกคว้าหมับขณะที่เจ้าตัวกำลังเช็ดโต๊ะอาหารอย่างเหม่อลอย หัวสมองยังไม่หยุดคิดเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างตนเองกับยูชอน นับตั้งแต่แจจุงเห็นภาพทำร้ายจิตใจของคนรักนอนกอดก่ายกับใครก็ไม่รู้ ความเสียใจกับสิ่งที่เกิดทำให้ไม่อาจอยู่รอคำอธิบาย

...ในเมื่อหลักฐาน ก็ชัดเจนอยู่แล้ว...

บอกตัวเองว่าไม่ให้คิดแต่ก็ยังอดคิดถึงมันไม่ได้ ยิ่งกว่าเสียใจเมื่อก้าวเดินออกจากห้อง คุณพ่อของยูชอนก็หัวเราะใส่หน้าอย่างเย้ยหยัน แววตาที่คนสูงวัยสะท้อนผ่านลูกแก้วสีน้ำตาลบ่งบอกถึงความสมเพช ถึงจะรู้ว่าจองโมเกลียดเขามากแค่ไหนแต่ก็ยังอดเสียใจกับท่าทีของชายสูงวัยไม่ได้ แจจุงปาดน้ำตาลวกๆก่อนหยุดโค้งคำนับอย่างเคารพ
กระดาษใบหนึ่งถูกยื่นมาจนประชิดใบหน้า เสียงทรงอำนาจออกคำสั่ง“รับไปซะ แล้วเดินออกไปจากชีวิตยูชอน ตลอดกาล”แจจุงพึ่งสังเกตจริงๆว่า กระดาษแผ่นนั้นคือ เช็ค  ให้ตายเถอะจะดูถูกกันเกินไปแล้ว ถึงเขาจะจนแต่ก็ไม่เคยขอใครกิน และการที่เป็นคนรักของยูชอน เขาไม่เคยหวังอะไรให้ตัวชายหนุ่มเลยสักนิด คุณพ่อของยูชอนทำแบบนี้เหยียดหยามกันเกินไปแล้ว
“.................” แจจุงจ้องใบหน้าซึ่งเต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งประสบการณ์ชีวิตด้วยความโมโห ความเสียใจกับสิ่งที่เห็นในห้อง ดูเป็นเรื่องเล็กไปเลยเมื่อเทียบกับความเสียใจในตอนนี้
“อย่าทำเป็นหยิ่ง รับไปซะ หรือเธอกำลังหวังอะไรที่สูงกว่านี้ ห๊ะ...แจจุง หัดเจียมตัวซะบ้าง กายังไงก็คือกา ไม่มีทางเปลี่ยนมาเป็นหงส์ได้หรอก ที่ชั้นพูดน่ะ เธอเข้าใจมั้ย?  เอาไป...แล้วก็ออกไปจากบ้านชั้นได้แล้ว เดี๋ยวจุนซู เอ่อ...ลูกสะใภ้ชั้นตื่นมาเห็นเธอเข้า ชั้นขี้เกียจบอกว่าเธอเป็นใคร...เชิญ!” มือหยาบยัดเช็คใส่มือเรียวสวยที่ยังสั่นเทา อาการพูดไม่ออกมันเป็นอย่างนี้นี่เอง กว่าจะหาคำพูดของตัวเองได้ คนสูงวัยก็กำลังหันหลังเตรียมเดินเข้าไปในห้องนอนยูชอนแล้ว
“ผมไม่เอา เก็บเงินของคุณคืนไป”พูดขึ้นมาสุดเสียง แล้วดันกระดาษคืนยังคนเป็นเจ้าของอย่างไม่แยแส ปาร์ค จองโม เลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ ด้วยความสงสัยจึงเอ่ยปากถาม
“ทำไม หรือเธอไม่เห็นว่าชั้นยังไม่ได้กรอกตัวเลข”แจจุงส่ายหน้า
“ไม่ครับ ผมเห็น”
“แล้วทำไม?”
“เงินของคุณอาจจะซื้ออะไรก็ได้ แต่ไม่ใช่ซื้อชีวิตผม ถ้าผมจะเลิกกับยูชอนก็เพราะผมต้องการจะเลิกด้วยตัวผมเอง ไม่เกี่ยวกับเงินของคุณ และถ้าผมไม่อยากจะเลิกกับยูชอนต่อให้คุณหาใครมาบำเรอยูชอน ผมก็ไม่แคร์ ดีซะอีกยูชอนจะได้มีความสุข”ปาร์ค จองโมถึงกับนิ่งอยู่นานจากถ้อยคำตอบโต้ของเด็กที่ตนไม่เคยนึกชอบใจ เขาเกลียดเด็กเหลือขอนี่มากที่สุดเพราะมันทำให้ลูกชายที่เขารัก กล้าขัดใจเขาทั้งยูชอนและยูฮวานเด็กที่เคยเชื่อฟังเขาเป็นอย่างดีทั้งคู่ แต่กลับกลายเป็นว่า การที่เขากีดกันไม่ให้คบกับเด็กต่ำๆอย่างแจจุงและชางมิน ทำให้ลูกชายทั้งคู่โกรธกระทั่งไม่อยากจะมองหน้าเขาอีกเลย ตอนที่ภรรยาของเขายังมีชีวิตอยู่ เธอก็รักและเอ็นดูพวกเด็กนี่มาก ไม่รู้พวกมันมีดีอะไร กำพืดก็ต่ำ แต่เขาก็ยังยอมๆเพราะเห็นแก่ความสุขของในบั้นปลายชีวิตของเธอ
หลังจากที่เธอตายไป ลูกชายทั้งคู่ของเขาก็ยิ่งทำตัวติดเป็นตังเมกับพวกเด็กเหลือขอมากกว่าเก่า ทั้งที่เขาสู้อุตส่าห์หาวิธีจับแยกแทบตาย สุดท้ายลูกชายตัวดีก็ยังไม่เลิกคบกัน ซ้ำยังสนิทกันเกินกว่าจะแยกออกได้ แต่นั่นยังไม่ร้ายเท่ากับยูชอนลดตัวไปเป็นคนรักกับ คิม แจจุง ให้เขาช้ำใจเล่นอีก  ตาทั้งคู่สบมองกันอย่างหยั่งเชิงท่าทีกันและกัน ต่างฝ่ายต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง  ปาร์ค จองโมเกลียดความรู้สึกที่เหมือนตัวเองกำลังถูกกดดัน เส้นเลือดปูดขึ้นมาจนเห็นเด่นชัดบนสีหน้าโมโหจัดของผู้สูงวัย เขาโกรธมากจนบรรยายไม่ถูก คนอย่างแจจุงกับการโต้ตอบกลับมาอย่างดุเดือด ทุกอย่างกำลังจะเป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้ แต่คำพูดที่แสดงออกว่ารู้ทันของคนชั้นต่ำแบบนั้น มันสุดจะทนจริงๆ มือหยาบสะบัดแรงบนผิวหน้าซีดขาวจนขึ้นรอยแดงเป็นปื้นใหญ่กระจ่างชัดตัดกับผิวขาวน้ำนมของคนหน้าสวย แรงตบทำให้ริมฝีปากบางฉีกขาดมีเลือดซึมออกมาเล็กน้อยพอให้รู้สึกแสบ
“อย่าปากดี คิม แจจุง อย่าได้บังอาจมาก้าวร้าวคนที่ชั้นเลือกให้ยูชอนเป็นอันขาด จุนซูสูงส่งเกินกว่าที่คนอย่างเธอจะกล่าวหา”ปาร์ค จองโมตวาดดังลั่นอย่างไม่อาจควบคุมสติ แจจุงไม่ได้แสดงถึงความเจ็บที่ได้รับ ไม่มีร่องรอยแห่งความเสียใจกับคำพูดถากถาง เขาเพียงแต่หัวเราะในลำคอก่อนยิ้มให้คนที่อุตส่าห์ประทับรอยนิ้วมือบนแก้มเนียนใส ท่าทีที่แสดงออก มันทำให้ปาร์ค จองโมแทบเต้นเร่าด้วยความชิงชัง เขาเกลียดดวงตากลมโตคู่นั้นที่จ้องกลับมาไม่ลดละ เงาสะท้อนในลูกแก้วใสราวกับบอกว่าการกระทำของเขามันน่าขันเพียงใด ถึงไม่พูดออกมาแต่สายตาคู่นั้นตอบแทนหมดทุกอย่าง

...เกลียดแกจริงๆ คิม แจจุง ชั้นจะทำลายชีวิตของแกให้ย่อยยับ...

มือที่ส่งไปทำร้ายคนตัวเล็กกำหมัดแน่นสั่นเทิ้มไปทั่วทั้งร่างกาย เด็กบ้านี่ยังไม่หยุดจ้องตากับเขาอีก ยิ่งเงียบยิ่งไม่ตอบโต้ ยิ่งทำให้ปาร์ค จองโมร้อนรุ่มในใจแทบระเบิด เขาจะอกแตกได้ด้วยความทรมานอยู่แล้ว ท่าทีนิ่งงันของแจจุง ทำให้เขาหงุดหงิดใจบอกไม่ถูก เขาไม่สามารถทนเห็นคนที่แสนเกลียดยืนอยู่ในระยะการมองของตนเองได้อีกต่อไปแล้ว
“แกออกไปจากบ้านชั้นเดี๋ยวนี้...ไป!!!
 “ขอให้คุณมีความสุขกับสิ่งที่คุณกำลังทำนะฮะ แล้วรักษาความสุขที่ได้รับให้อยู่กับคุณไปนานๆล่ะ ผมขอตัว”เสียงหวานพูดนิ่งเฉยไม่บ่งบอกความรู้สึกใด ๆ เดินออกมาอย่างสับสนในใจ แจจุงควรจะร้องไห้กับชะตาชีวิตน่าขำของตัวเองดีหรือควรจะหัวเราะไปกับมันดี เขาเริ่มเหนื่อยกับการ รัก ยูชอนเสียแล้ว  แรงบีบหนักๆที่ข้อมือบางปลุกแจจุงให้หลุดจากภวังค์ ความรู้สึกแรกที่แวบผ่านเข้ามาในหัวคือ ตกใจ ตากลมโตมองผ่านข้อมือสวยที่ยังถูกจับไว้ไม่ปล่อยเลยไปที่ใบหน้าของเจ้าของกริยาฉาบฉวยไม่ให้เกียรติ
“ช่วยตามผมมาทางนี้หน่อยนะครับ”คำพูดกึ่งขอร้องอย่างมีมารยาทแต่การกระทำดังกล่าวไม่ได้บ่งบอกถึงความมีมารยาทของผู้พูดเท่าไหร่ มือบางพยายามสะบัดข้อมือให้พ้นจากการเกาะกุม แต่ทำอย่างไรก็ไม่หลุด ข้อมือเล็กขึ้นรอยแดงช้ำอย่างไม่ต้องสงสัย แรงฉุดกระชากของคนที่มีกำลังเหนือกว่ากึ่งอุ้มกึ่งลากเขาห่างออกไปจากร้านของพี่ชายคนสนิทพอสมควร ร่างบางถูกผลักโครมเข้าไปให้รถสีดำคันใหญ่ที่จอดคอยอยู่แล้วริมถนน แจจุงเริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลในสิ่งที่เกิดมากขึ้นทุกขณะ เพียงแต่กลิ่นหอมแปลกๆที่ใครบางคนในรถยัดเยียดให้เขาสูดดม ทำให้ภาพตรงหน้าเริ่มพร่ามัว ก่อนสติเขาจะพลันดับวูบในที่สุด...
                       
------------------------------------------------------------------------------

ชอง ยุนโฮขยับกายหมายขับไล่ความรู้สึกเมื่อยล้าไปทั่วทั้งตัว ความรู้สึกแรกที่ลืมตาคือปวดหัวและมันเริ่มปวดมากขึ้นจนเขาเกือบลืมตาไม่ขึ้นด้วยซ้ำ สมองอันชาญฉลาดกำลังประมวลสิ่งที่เกิดขึ้นย้อนกลับไป ตั้งแต่เขาเดินทางกลับมาถึงบ้าน ใช่แล้ว...คุณอาจองโม โทรมาคุยเรื่องงานและชวนเขาออกมาทานอาหารมื้อค่ำ ถึงแม้ร่างกายที่ทำงานอย่างหนักมาทั้งวันจะเรียกร้องหาการพักผ่อนบนเตียงอุ่น แต่ยุนโฮก็ไม่อยากขัดใจคุณอาจองโมซึ่งคอยให้คำปรึกษาเรื่องธุรกิจสำหรับเด็กรุ่นใหม่อย่างเขาอยู่เสมอ แถมความสัมพันธ์ของคุณอากับคุณพ่อของยุนโฮก็เป็นความผูกพันกันแน่นเฟ้น รวมถึงรุ่นลูกอย่างเขากับยูชอนก็คบหากันอย่างสนิทสนม ยิ่งนึกก็ยิ่งปฎิเสธไม่ได้ ขนาดไม่รวมเรื่องที่เขาเป็นคู่หมั้นกับยูฮวานน้องชายที่น่ารักของยูชอนอีกเรื่อง คำบอกปัดจึงหมดไป
ระหว่างรับประทานอาหารเหมือนว่ายุนโฮขอตัวไปรับโทรศัพท์ข้างนอกร้านครู่หนึ่ง พอกับมาคุณอาก็ชวนดื่มไวน์ เขาอยากปฎิเสธแต่ก็อีกนั่นแหละคำว่า แค่แก้วเดียว คำพูดของเขาจึงถูกกลืนไปในลำคอ ไวน์แดงสีเข้มไหลผ่านลำคอลงไปช้าๆจนไม่เหลือน้ำสีเลือดหลงเหลือในแก้วทรงสูงสักหยด แปลกใจอยู่เหมือนกันที่ชั่วขณะหนึ่งซึ่งสายตาเขาเหลือบไปเห็น ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของคุณอาจองโม ฉายแววแปลกๆ ดูพอใจ สมใจหรือว่าสะใจ แค่ไวน์แก้วเดียวไม่น่าจะเมาได้ แต่ตอนนี้ทั้งร่างกายกับร้อนผ่าว อึดอัดแทบหายใจไม่ออก นัยน์ตาแดงก่ำสบตาเพื่อนคุณพ่อที่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“ยุนโฮไหวมั้ย? อาไม่น่าคะยั้นคะยอให้เราดื่มเข้าไปเลย เอาอย่างนี้เดี๋ยวอาให้คนของอาขับรถไปส่งนะ”ถึงไม่อยากรับความหวังดี แต่ยุนโฮก็ไม่อาจปฏิเสธเช่นเดียวกัน เนื่องจากสภาพร่างกายของตัวเองตอนนี้ บอกได้เลยว่าไม่มีปัญญาพาตัวเองกลับบ้านได้แน่ ยุนโฮผงกหัวรับอย่างจำนน รู้สึกสะลึมสะลืออย่างบอกไม่ถูก เรี่ยวแรงหดหายไปไหนหมดไม่รู้ กระทั่งถูกพยุงร่างใหญ่มานอนบนเตียงก็ยังมึนงงอยู่มาก  แปลกที่แปลกตา บรรยากาศโดยรอบมันไม่ใช่บ้านของเขาแน่ แต่ไม่มีแรงแม้จะเอ่ยถามว่าพาเขามาที่ไหน วูบเดียวรู้สึกเหมือนกำลังหลับไป แต่ความร้อนผ่าวภายในร่างกาย ทำให้ยุนโฮบิดกายไปมาอย่างไม่อยู่สุข อึดอัดไปทุกส่วน  เสียงครื่นๆของเครื่องปรับอากาศบอกถึงการทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี หากแต่เขาไม่ได้รู้สึกว่าไอเย็นจากมันจะช่วยบรรเทาอาการร้อนรุ่นจากอุณหภูมิในตัวเขาได้เลยสักนิด ยุนโฮปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเนื้อดีจนพ้นตัว ยังไม่ช่วยคลายความร้อนในกายและบางอย่างกลางลำตัวกำลังเรียกพองตัวแน่นคับดันเป้ากางเกงแสล็คสีเข้ม ยุนโฮไม่เคยเกิดความต้องการมากมายถึงขนาดต้องส่งมือหนาไปขย้ำตรงปลายสกัดอารมณ์หวาม ร่างหนานอนหายใจหอบถี่ อึดอัดไปหมดราวกับทั้งร่างจะระเบิด

...ไม่เพียงพอ ส่วนอ่อนไหวเรียกร้องจากยุนโฮ มากกว่านั้น...

ร่างหนาบิดกายไปมา ทรมาน เขาปรารถนาที่จะปลดปล่อย เสียงเปิดประตูห้องดังแว่วอยู่ในหู ยุนโฮยังไม่ทันได้พูดถามในสิ่งที่ตนสงสัย ไม่ทันได้มองคนที่ก้าวเข้ามาให้เต็มตาว่าเป็นใคร ร่างของใครสักคนก็ถูกปล่อยลงข้างตัวเขา ยุนโฮเอี้ยวตัวมองคนที่ถูกวางลงข้างๆ ในนาทีเดียวกับที่เสียงประตูห้องปิดลงพร้อมกับชายที่เป็นคนพาคนแปลกหน้ามานอนเคียงข้างเขา

...สวย...

คำเดียวที่นิยามคนตรงหน้าได้ดีที่สุด สายตาคมสำรวจคนแปลกหน้าด้วยความรู้สึกแปลกๆ พยายามอย่างยิ่งยวดในการบังคับจิตใจไม่ให้ทำอะไรชั่วๆ แต่เขาไม่อาจห้ามการกระทำของร่างกายที่ไม่หยุดสอดมือเข้าไประรานผิวเนียนละเอียด เสื้อตัวบางถูกอัญเชิญออกจากร่างที่หลับใหลไม่ได้สติตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ บอกตรงๆว่าตอนนี้ยุนโฮแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังทำอะไร มีเพียงสิ่งเดียวในหัวคือสัมผัสเรือนร่างงดงามราวรูปสลักของคนตรงหน้า  ไม่นานร่างเปลือยเปล่าก็ปรากฏแก่สายตา ตอนนี้ยุนโฮไม่คำนึงถึงเหตุผล ว่ามันจะผิดชอบชั่วดีแค่ไหน เขาเกิดความปรารถนารุนแรงและต้องได้ ครอบครอง มันเดี๋ยวนี้
ริมฝีปากอิ่มดูดกลืนผิวเนื้อขาวกระจ่างตา ร่างบางสั่นนิดๆคงจะรู้สึกไม่ชินกับสิ่งน่ารำคาญซึ่งระรานไปทั่วทั้งร่าง ลิ้นหนาทำหน้าที่คู่กับริมฝีปากอิ่มเป็นอย่างดี ทั้งดูดทั้งเลียยอดอกสวยทั้งสองข้างอย่างต้องมนต์ ยุนโฮหยุดตัวเองไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว เสียงครางในลำคอสวยอย่างเคลิบเคลิ้มไปในรสสัมผัส กระตุ้นความเป็นชายของเขาให้ตื่นขยายขนาดจนรู้สึกจุก ยุนโฮแหวกเรียวขาขาวนวลออก จูบซ้ำๆไปถึงซอกขาด้านในแต่ด้วยความต้องการของร่างกายที่ประท้วงไม่หยุด ทำให้เขาไม่อาจชื่นชมความงดงามของเรือนร่างสวยให้เนิ่นนานไปกว่านี้ ร่างกายของเขาทนมานานพอแล้ว มือใหญ่จึงจับกระชับต้นขาอ่อน ยกสะโพกมนขึ้นมาให้สะดวกแก่การสอดใส่ เติมเต็มมันด้วยส่วนไวต่อความรู้สึกของร่างกายตัวเอง แทรกผ่านช่องทางรักคับแคบที่เด่นชัดตรงหน้าเข้าไปจนหมด เลือดที่เกิดจากการฉีกขาดไหลทะลักออกมาไม่หยุด กลายเป็นดั่งน้ำมันหล่อลื่นชั้นดี ทำให้ยุนโฮสวนกายเข้าไปโดยง่าย ถ้าเป็นเวลาที่ยุนโฮมีสติเป็นตัวของตัวเองมากกว่านี้ เขาคงไม่ฝืนกระแทกกายเข้าไปในนั้นอย่างดึงดันแบบนี้ เพียงแต่ในเวลานี้ ยุนโฮมีแต่ความต้องการรุนแรงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สะโพกหนาจึงอัดกระแทกสวนกายเข้าไปในร่างบางอย่างรุนแรง สติรับรู้ผิดชอบชั่วดีถูกวางกองไว้สักมุมหนึ่งในห้อง จะเรียกว่าขาดสติก็ไม่เชิง เพราะยุนโฮรับรู้อยู่ตลอดว่าตัวเองกำลังทำอะไร เพียงแต่ไม่อาจหยุดยั้งความต้องการทางเพศของตนได้เลย

หรือถ้าเขาสามารถที่จะ หยุดได้  ก็ไม่อยากหยุดอีกต่อไปแล้ว!

ร่างที่นอนสลบรองรับอารมณ์ใคร่ยังคงไม่รับรู้ถึงชะตากรรมอันน่าเศร้าของตัวเอง แต่เพราะความเจ็บแสบที่ได้รับจากการร่วมเพศ น้ำตาเม็ดใสค่อยๆไหลออกมาพร้อมกับเสียงสะอื้น  ทั้งหมดมันออกมาจากจิตใต้สำนึกของคนเจ็บกายเท่านั้น
“อ่า...อือออ~“เสียงทุ้มปลดปล่อยร่างกายตัวเองกับร่างบอบช้ำไปไม่รู้กี่ครั้งจนกระทั่งความรู้สึกต้องการมากมายในตัวลดลงไปมากแล้ว แต่ยุนโฮยังไม่อาจตอบตัวเองได้ว่าทำไมเขายังไม่อยากปล่อยร่างบางเป็นอิสระ ไม่หรอกเขายังต้องการอยู่ ยุนโฮพูดบอกตัวเองไม่รู้เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้ว หลังจากพยายามหาข้ออ้างในการล่วงเกินผิวขาวผ่องที่ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยรักที่เขาตีตราจองไว้จนทั่ว
กลิ่นหอมจากกายคนแปลกหน้าที่ตัวเองกำลังโอบรัดแน่นหนา พร้อมบดเบียดร่างแกร่งของตนแนบสนิทผิวขาวนวลเนียนไม่ห่าง ทุกส่วนในร่างกายเกี่ยวรัดกันจนแยกแทบไม่ออกว่าส่วนไหนเป็นแขนใคร ส่วนไหนเป็นขาใคร ยุนโฮบดเบียดกายแกร่งเข้าหาร่างที่หลงใหลไม่รู้เบื่อ เป็นจังหวะรับกับส่วนเชื่อมประสานของร่างกายทั้งคู่ที่ยังเสียดสีกันต่อเนื่อง ไม่มีทีท่าจะยอมหยุด กลิ่นกายของคนๆนี้เป็นส่วนหนึ่งที่กำลังทำให้เขาคลั่ง ควบคุมตัวเองไม่อยู่จริงๆ  มือหนาบีบเค้นไปทั่วทั้งร่าง ริมฝีปากอิ่มก็ขบกัดสร้างรอยประดับไม่รู้เบื่อ ตอนนี้ไม่มีส่วนไหนของคนๆนี้ที่ชอง ยุนโฮไม่รู้จัก เขาสำรวจมาครบทุกส่วนแล้ว ตักตวงความสุขจากการดื่มด่ำร่างตรงหน้าเต็มที่  นาทีนี้เขาไม่รู้จักคำว่า อิ่ม กับคำว่า พอ เสียแล้ว
ความหอมหวาน เย้ายวนที่ได้รับจากบทรักร้อนแรงกับร่างกายที่สวนประสานกันเป็นหนึ่งยิ่งแนบชิด ความต้องการเข้าไปในจุดที่ล้ำลึกที่สุดภายในร่างกายของคนในวงแขนทวีขึ้นอย่างไม่อาจควบคุม ทุกท่วงท่า ทุกลีลาเปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการของตัวเองทั้งสิ้น ร่างหนาบดเบียดกายเสียดสีผิวเนื้อขาวน้ำนมอีกครั้งและอีกครั้งอย่างพึงพอใจ ถ้าทำได้เขาอยากกลืนกินร่างบางนี่ด้วยซ้ำ ผิวเนื้อขึ้นสีแดงระเรื่อไปหมดจากการบีบขยี้รุนแรงจากน้ำมือชายหนุ่ม เมื่อไม่อาจระงับความเสียวซ่านที่ได้รับ ร่างหนาเริ่มออกอาการเกร็งปลายเท้าจิกลงบนฟูกหนานุ่ม บ่งบอกถึงปลายทางที่กำลังจะไปถึง ร่างหนาครางกระเส่าไม่หยุดกับความสุขที่ได้รับ  ผลผลิตจากเกมส์รักพวยพุ่งเข้าใส่ช่องทางสีชมพูที่แตกปริจากแรงเสียดสีของร่างกาย ขนาดคนๆนี้ไม่มีสติรับรู้ใดๆร่างบางยังตอดรัดเนื้อแน่นที่เขาสวนกายเข้าใส่ สร้างความสุขสมจนไม่อยากออกห่างเรือนร่างน่ากอดสักนิด แต่เขาเริ่มเหนื่อยล้ากับเกมส์รักซึ่งดำเนินต่อเนื่องไม่มีจุดสิ้นสุด แม้กระทั่งแสงสว่างจากภายนอกส่องเข้ามาแผดเผาเรือนกายที่เกี่ยวรัดกันจนผิวของยุนโฮขึ้นสีแดงออกมาอย่างเด่นชัด ร่างหนาที่โถมแรงใส่อีกร่างที่อ่อนนุ่มเป็นขี้ผึ้งรนไฟดั่งเดิม แสงแดดยามสายไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อชอง ยุนโฮ เพียงแต่ร่างกายที่ทำหน้าที่เป็นอย่างดีตั้งแต่ช่วงดึก เป็นเรียกร้องที่จะหยุดพักอย่างอ่อนล้า มือหนาที่ประครองกอดเอวบางสั่นนิดๆ เป็นสัญญาณประท้วงว่าไม่ไหว ยุนโฮจึงยอมยกธงขาวแต่โดยดี ด้วยความจำนนแต่ยังไม่ยอมถอนกายออกมาจากร่างเย้ายวนใจสักนิด
ร่างหนารั้งเอวค่อดบางปะทะแผงอกกว้าง วงแขนแข็งแรงโอบรอบร่างบางอย่างหวงแหน มือข้างหนึ่งเช็ดหยาดเหงื่อเกาะพราวตามดวงหน้าหวานอย่างไม่นึกรังเกียจ แวบหนึ่งเขาอยากให้คนตรงหน้าลืมตาขึ้นมา อย่างเห็นแววตาของคนตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก เป็นความรู้สึกแปลกๆที่ก่อตัวอยู่ภายใน สักวันเขาจะต้องค้นหาคำตอบของมัน ก่อนซุกใบหน้ากับกลุ่มผมนุ่มของคนแปลกหน้า เข้าสู่ห้วงนิทรา...ในที่สุด

--------------------------------------------------------------------------------------------

ปาร์ค จองโม มองจอมอนิเตอร์แววตาเหี้ยม คิม แจจุง แก้วตาสีเข้มสั่นระริกอย่างสาแก่ใจ นี่คือบทเรียนที่แกสมควรจะได้รับ ความจริงชั้นใจดีกับแกมากแค่ไหนที่ให้แก่มีโอกาสเสพสุขกับยุนโฮหลานชายคนโปรด ที่ถูกดึงเข้ามาร่วมเกมส์อย่างไม่รู้ตัว
ถ้าแกตื่นขึ้นมาเรื่องราวจะสนุกแค่ไหน?  ถ้าแกรู้ว่าผู้ชายที่แกนอนด้วยเป็นใคร?
แล้วถ้ายูชอนเห็นภาพที่แกกำลังร่วมรักกับผู้ชายจะรู้สึกยังไง?

ฮ่าๆๆๆๆๆๆ เขาหัวเราะเสียงดังอย่างบ้าคลั่ง เรื่องทุกอย่างลงตัวตามที่คิดไว้ไม่ผิดเพี้ยน เริ่มจะสนุกขึ้นแล้วสินะ เสียงหัวเราะยังดังต่อไปอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ตอนนี้ปาร์ค จองโม ไม่ต่างอะไรกับคนเสียสติเลยสักนิด

------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น