2555/04/14

[Fic] ~ Love Dark...เพราะรักออกแบบไม่ได้ ~ ...Intro...

Title :  ~ Love Dark...เพราะรักออกแบบไม่ได้ ~

Writer :  KJW +  GroupBee

Couple:  YunJae , YooSu , Changmin

Genre :  Romantic , Drama

NC :  17



Intro…

แก้วตาใสคลอด้วยหยาดน้ำตาเม็ดโต แพขนตาหนากระพริบขื้นลงถี่ๆอย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า ของในมือร่วงหล่นทิ้งตัวลงมาอยู่บนพื้นหินแกรนิตสีดำอย่างแรงจนกระทั่งของเหลวซึ่งบรรจุอยู่ภายในกรดพื้นหินที่เจ้าของห้องห่วงนักห่วงหนา ถ้าเป็นเวลาปกติใครทำน้ำหกเปรอะพื้นหินสวยนี่เข้า ไม่วายต้องโดนปาร์ค ยูชอนเล่นงานหนักเป็นแน่ แต่คงไม่ใช่ในเวลานี้ แจจุงปล่อยให้ของเหลวสีดำเปรอะเปื้อนกระเซ็นเต็มพื้นห้อง เอสเปรสโซ่ร้อนส่งกลิ่นประท้วงหอมกรุ่นเมื่อจู่ๆมือที่ประคับประคองแก้วกระดาษมาอย่างทะนุถนอมกลับปล่อยแก้วร่วงหล่นลงไปกับพื้น ทั้งที่อุตส่าห์หิ้วติดมือมาฝากคนรักยามเช้า เหนอะหนะคลอบคลุมไปถึงกล่องใส่ขนมเค้กเจ้าประจำที่คนรักชอบกินเป็นที่สุด...
เวลาผ่านไปเชื่องช้าเหลือเกินในความรู้สึกของแจจุง หัวใจดวงน้อยเหมือนหยุดเต้นชั่วคราว พอกับสติการรับรู้ที่ชะงักอยู่กับที่ อาการบีบรัดของก้อนเนื้อเล็กๆในอกที่เต้นแผ่วเบาจนน่าใจหาย ครู่หนึ่งแจจุงเกือบคิดว่าตัวเองกำลังจะตายเหมือนขาดอากาศหายใจ มือเล็กขยุ้มเสื้อเชิ้ตตัวยาว รู้สึกแน่นหน้าอก อยากร้องเรียกคนตรงหน้าแต่เสียงหวานถูกดูดกลืนหายไปในลำคอ...มันพูดไม่ออก
เมื่อร่างเล็กที่นอนกอดก่ายร่างกายของชายอันเป็นที่รักของตัวเองอยู่ ขยับตัวซุกไซร้ทั่วซอกคอและกำลังจะไล่ต่ำลงไปอีก ถ้าไม่ถูกรั้งเอวกลมน่าสัมผัสด้วยท่อนแขนแกร่ง ก่อนใบหน้าเปี่ยมเสน่ห์ของปาร์ค ยูชอนจะก้มลงมาแตะริมฝีปากสีชมพูสดของคนน่ารักคนนั้นจากแตะกันเพียงผิวเผิน เริ่มรุนแรง เร่าร้อน ร่างหนาพลิกคว่ำเรือนร่างอวบก่อนตามประกบทันที มือไม้สะเปะสะปะไปทั่ว ภาพตรงหน้ามันเกินกว่าหัวใจที่บอบช้ำจะทานทน แจจุงเผลอส่งเสียงร้องออกมาอย่างไม่อาจกลั้น
เจ็บไปหมดแล้ว รู้มั้ยที่รัก?
ทำไมถึงทำกับแจจุงแบบนี้?
ไม่รู้เป็นเพราะเสียงร่ำไห้อย่างปวดร้าวของแจจุงหรือเพราะสัมผัสที่ไม่คุ้นเคยกันแน่ สติที่เตลิดเปิดเปิงไปจากบรรยากาศที่เป็นใจยามเช้า ดวงตาที่ปิดสนิทค่อยๆเปิดขึ้นรับกับแสงสว่างยามเช้าอันอบอุ่น มือหนาที่ไล่ไปทั่วปลีน่องนุ่มเนียนก่อนแหวกเรียวขาทั้งคู่ออกเริ่มรู้สึกแปลกใจกับบางสิ่ง
ไม่ใช่.. แจจุง
สติสัมปชัญญะรับรู้บางสิ่งที่ไม่คุ้นชินอย่างมึนงง  แต่ความรู้สึกต้องการตามธรรมชาติมันทำให้ร่างกายไม่หยุดลูบไล้ผิวเนื้อนุ่มเนียนตรงหน้า ความสงสัยไม่อาจเอาชนะแรงขับดันทางเพศ เมื่อเรือนร่างแสนเย้ายวนแนบกายแกร่งไม่ห่าง กลิ่นหอมอ่อนๆจากเรือนกายเนียนนุ่มลื่นมือทำให้ยูชอนเผลอไผลในรสสัมผัส กู่ไม่กลับเสียแล้ว ยิ่งแนบชิดยิ่งทวีความปรารถนา รอยรักสีกุหลาบปรากฏเด่นชัดจับจองทั่วพื้นผิวขาวผ่อง เห็นแล้วอดที่จะรู้สึกแปลกๆไม่ได้ รอยรักที่ตัดบนผิวขาวๆเย้ายวนใจให้เข้าไปสัมผัสอีกหน เพียงแต่ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีแวบผ่านเข้ามาในหัวสมองซึ่งยังไม่ตื่นเต็มตาของยูชอนกะทันหัน เสียงครางรับของหนุ่มปริศนา มีส่วนปลุกสติของยูชอนให้กับมาอีกครั้ง
ปาร์ค ยูชอนขยี้เปลือกตาหนาหลายที ฝันไปหรือเปล่า? ร่างงดงามตรงหน้าไม่ใช่แจจุงคนรักของเขาแน่นอน เนื้อหนังที่อวบอิ่มเต็มไม้เต็มมือ น่าฟัดขนาดนี้ดูยังไงก็ไม่ใช่  ร่างเปลือยเปล่าที่นอนคว่ำหน้ากับเตียงนุ่มยังไม่มีทีท่าจะรับรู้ ดวงหน้าจิ้มลิ้มยังคงหลับตาพริ้มไม่รับรู้เหตุการณ์อะไรทั้งสิ้น ยูชอนเอียงคอมองท่าทางหลับสบายของคนตัวเล็ก ดูน่าเอ็นดูเสียจนเขาหลุดยิ้มบางๆออกมา มือที่ว่างเกลี่ยลูกผมเส้นเล็กของคนแปลกหน้าเล่นอย่างเพ้อๆ
... หยุดชะงัก ...
กับเสียงที่ได้ยินเหมือนกับเสียงคนกำลังร้องไห้ ตาคมมองปราดไปที่หน้าประตูห้องทันควัน แต่คงช้ากว่าร่างบางที่ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วกับสิ่งที่เห็น
...รอยยิ้มของยูชอน ไม่ใช่.. ของแจจุงคนเดียวอีกแล้ว
เจ็บเกินเยียวยา ทำไมถึงได้ใจร้ายขนาดนี้...
ไม่ใช่เพียงแต่แจจุงที่ตกใจกับสิ่งที่เห็นยูชอนเองก็เช่นกัน ร่างบางที่คุ้นตาแม้เห็นเพียงด้านหลังแวบเดียว เขาก็รู้ทันทีว่าใคร ยูชอนหัวใจกระตุกวาบ ความรู้สึกถึงคำว่าสูญเสียดังก้องอยู่ในหัว สภาพห้องอันเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบกาแฟ กล่องเค้กเจ้าประจำที่เขาชอบอ้อนให้แจจุงนำมาฝากทุกเช้าเปียกคราบสีดำจนหมด เป็นหลักฐานอย่างดีทีเดียวที่บ่งบอกว่าแจจุงของเขามานานแค่ไหนแล้ว ร่างหนาเตรียมลุกขึ้นวิ่งตามหัวใจตัวเองที่เรียกร้องทั้งที่ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น  เพียงแค่ขยับตัวขึ้นนิดเดียวบุคคลที่เขาไม่อยากเจอที่สุดตอนนี้ก็ก้าวเข้ามาในห้อง แววตาที่เหมือนกันดุจฝาแฝดของคนตรงหน้าตรึงยูชอนให้ทิ้งตัวลงกับเตียงอย่างเกรงขาม ปาร์ค จองโม คุณพ่อของเขานั่นเอง เสียงเรียบเอ่ยขึ้นดั่งประกาศิต
“แกคงมีคำอธิบายสำหรับสิ่งนี้”สายตาคมดุจเหยี่ยวแสร้งทำเป็นมองไปที่หนุ่มน้อยปริศนาที่นอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงกับเขา ไม่รู้อะไรดลใจให้ยูชอนเอื้อมมือไปหยิบผ้าห่มปลายเตียงมาคลุมเรือนร่างนั่นไว้ ไม่อยากให้ใครมอง นอกจากตัวเขาเอง
“หมายความว่ายังไง ผมไม่เข้าใจ?เสียงทุ้มเอ่ยถามกวนๆ เขาเลิกเรียกคนตรงหน้าว่า  พ่อ  ตั้งแต่เกิดเรื่องคราวนั้นแล้ว
“ชั้นรู้ว่าลูกชายของชั้น ไม่ใช่..คนโง่ เรื่องง่ายๆแค่นี้ทำไมต้องแกล้งไม่เข้าใจด้วย”น้ำเสียงเยาะเย้ยเอ่ยประชดประชัน
ใช่...ยูชอนเข้าใจ สายตาของคนเป็นพ่อที่มองสิ่งที่เกิดขึ้นราวกับมันเป็นเรื่องธรรมดาก็ไม่ปาน  ดูไม่ตกใจอย่างกับว่ามันคือที่สิ่งที่คาดการณ์อะไรไว้แล้ว ดูสะใจ พอใจ สมใจ อะไรบางอย่างที่สะท้อนออกมาจากดวงตาคู่นั้น มันบอกว่าเป็นอย่างนั้น ยูชอนรู้สึกได้ เริ่มเกิดความรู้สึกโกรธขึ้นมาในใจหรือว่าเรื่องที่เกิดจะเป็นการจัดฉากขึ้นมาทั้งหมด!!!
“ทั้งหมด...เป็นฝีมือคุณใช่มั้ย?”เสียงตวาดดังลั่นอย่างโมโห ค่อนข้างแน่ใจว่าการคาดเดาของเขาไม่ผิด  ชายสูงวัยยักไหล่ อย่างไม่สนใจท่าทีโมโหจัดของคนเป็นลูก เขาระบายยิ้มอย่างสาแก่ใจ
“ถ้าใช่แล้วแกจะทำไม ห๊ะ...ปาร์ค ยูชอน เตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าวได้แล้ว แกต้องแต่งงานกับคนที่ชั้นเลือกเท่านั้น”
“ไม่มีทาง คุณก็รู้ว่าผมรักแจจุง”ยูชอนจ้องตาคนเป็นพ่ออย่างโกรธจัด ใจคอของคนๆนี้ทำด้วยอะไร ทำไมถึงได้เลือดเย็นถึงเพียงนี้ คงจะตั้งใจให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นเพื่อให้แจจุงของเขามาเห็นและก็เข้าล็อคที่วางไว้พอดิบพอดี แต่เขาไม่มีวันยอมกับเรื่องนี้...ยูชอนยอมไม่ได้จริงๆ
“เรื่องนั้นชั้นไม่สน แกอยากรักมันก็รักไป แต่แกต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น”คนเป็นพ่อพูดมันอย่างไม่แยแส
“ผมไม่ได้ทำอะไร ทำไมต้องรับผิดชอบ”ยูชอนเถียงชายวัยกลางคนยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนส่งหนังสือพิมพ์ให้คนเป็นลูก
 “อ่านซะ...จะได้เข้าใจว่าทำไม”
ถึงไม่อยากรับรู้เรื่องราวสกปรกที่คนตรงหน้าหยิบยื่นแต่ความอยากรู้ที่มีมากกว่า ทำให้มือหนาคลี่หน้าหนังสือพิมพ์เร็วๆ มือไม้สั่นเทากับสิ่งที่ผ่านสายตา ภายใต้ช่องตัวอักษรหนาของข่าวพาดหัว มีกรอบขนาดใหญ่ที่สายตาคมไม่อาจละความสนใจ  รูปเปลือยเปล่าของเขากับหนุ่มนิรนาม แม้จะคาดดำที่ตากับเซนเซอร์ส่วนที่ล่อแหลมเอาไว้ แต่ก็เดาได้ไม่อยากว่าสองร่างกำลังทำอะไรกันอยู่ ใต้รูปปรากฏข้อความ  ช็อค!!!! รูปหลุดไฮโซหนุ่ม ย. เริงรักกับน้องชายไฮโซหนุ่ม ย.. ไม่รู้ว่าเบื่อหนุ่มหน้าสวย จ. ตั้งแต่เมื่อไหร่ อ่านต่อหน้า11...  ยูชอนฉีกหนังสือพิมพ์อุบาวท์นั่นทิ้งจนไม่เหลือชิ้นดี ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะโมโหอะไรได้ขนาดนี้ ตั้งแต่เกิดมาสิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือการถูกบังคับ โดยเฉพาะในสิ่งที่เขาไม่ได้ก่อให้เกิดขึ้นมาแบบนี้ เสียงหัวเราะที่น่าชังของคนเป็นพ่อดังขึ้นอย่างไม่รู้สึกรู้สมใดๆในการกระทำน่ารังเกียจของตน ซึ่งทำร้ายหัวใจของยูชอนจนป่นปี้ น้ำตาลูกผู้ชายไหลลงมาอาบข้างแก้มอย่างจนมุมไม่รู้จะจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นยังไง แล้วความรู้สึกของแจจุงล่ะเขาจะทำอย่างไรต่อไปดี???

เสียงสบถด้วยความหงุดหงิดใจของใครบางคนดังแว่วข้างหู เหลือกตาหนักๆพยายามเปิดขึ้นทีละน้อย ปวดบริเวณกระบอกตาจนแทบลืมตาไม่ขึ้น...เกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ช่วงขาเรียวที่โผล่ออกมาพ้นชายผ้าห่มผืนใหญ่รู้สึกชาวาบจากอากาศภายนอก ความเย็นของเครื่องปรับอากาศซึ่งปล่อยออกมากระทบผิวทำให้เย็นยะเยือกอย่างบอกไม่ถูก ร่างเล็กเริ่มขยับตัวขลุกขลัก เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหมดจริงๆ อาจเป็นเพราะนอนอยู่ในท่าที่เลือดลมเดินไม่สะดวก สติรับรู้เริ่มตื่นขึ้นจนกระทั่งร่างกายที่ขยับผ่อนคลายความเมื่อยขบแตะไปโดนผิวเนื้ออุ่นๆของใครอีกคนที่เบียดกายอยู่เคียงข้าง
หัวใจพลันกระตุกวาบ เมื่อมือเล็กๆคว้านสำรวจไปทั่วเรือนร่างของตนเอง ฝ่ามือน้อยสัมผัสกับผิวเนียนโดยตรงไม่ได้ผ่านเสื้อผ้าใดๆ หมายความว่ายังไง...???  แปลกใจ งง ระคนความสงสัย ไวเท่าความคิด คิม จุนซูลืมตาขึ้นค่อยๆกระพริบเปลือกตาขึ้นลงถี่ๆเพื่อปรับสภาพม่านตาให้คุ้นชินกับแสงสว่างที่ลอดผ่านเข้ามา เมื่อภาพตรงหน้าปรากฏชัดแก่สายตา ลำตัวอวบผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว สายตาหวาดผวากับสิ่งที่ได้เห็นผู้ชายอีกคนที่นอนทิ้งตัวลงกับเตียงใหญ่เรือนร่างเปลือยเปล่าเช่นเดียวกันและกำลังจ้องมองมาที่จุนซูอย่างไม่ลดละ น่าแปลก...แค่ถูกมองเพียงเท่านั้นทำไมจุนซูถึงรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วดวงหน้า แก้มใสเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ ขัดเขินจนทำตัวไม่ถูก สายตาที่จ้องมองราวกับจะแผดเผาร่างกายของเขาให้เป็นผุยผง แต่ทำให้จุนซูตระหนักได้ว่าตนอยู่ในสภาพน่าอายเพียงใด ทันทีที่รู้ตัวมือเล็กรีบคว้าผ้าห่มที่ล่นมากองอยู่ข้างตัวคลี่ออกมาคลุมเรือนร่างขาวอย่างร้อนรน เขากับคนแปลกหน้านี่คงไม่ได้ทำอะไรกันแบบนั่นใช่มั้ย...? สภาพของทั้งคู่ไม่ได้ช่วยทำให้คำพูดปลอบใจตัวเองของจุนซูดูสมเหตุสมผลขึ้นมาเลย
เสียงเย้ยหยันดังขึ้นเป็นประโยคแรกในบรรยากาศชวนอึดอัด“จะปิดทำไม ชั้นเห็นหมดทุกส่วนแล้ว ไม่ใช่แค่มองเท่านั้นนะ ยังสัมผัสมาแล้ว...ทุกส่วน!!!”คำพูดของคนแปลกหน้า ทำลายเหตุผลที่เขาคิดเพื่อหลอกตัวเองจนหมดสิ้น มือไม้สั่นไปหมด ก่อนกลั้นใจถามอย่างหวาดหวั่น
“มะ...หมายความ...ว่ายังไง?”แทนคำตอบ ยูชอนรั้งเอวอวบอิ่มที่เย้ายวนใจตรงหน้าเข้ามาประชิดแผงอกกว้างของตน ริมฝีปากอิ่มพ่นลมใส่รูหูเล็กให้จั๊กจี้เล่น
เสียงทุ้มกระซิบกวนโทสะคนตัวเล็ก “แล้วเธอคิดว่ายังไงล่ะ”ขนลุกซู่ไปหมดทั้งตัวกับสัมผัสแปลกๆที่พึ่งเคยได้รับจากคนแปลหน้าที่เขาไม่รู้จัก ทำไมถึงกล้าทำร้ายกันแบบนี้ จุนซูดิ้นรนขัดขืนสุดกำลังที่ตัวเองมี หวังเพียงหลุดพ้นพันธนาการแน่นหนา การกระทำของจุนซูกับยิ่งโหมกระพือความรู้สึกบางอย่างที่กำลังก่อตัวอยู่ภายในของยูชอนอย่างเงียบๆ เลือดในกายที่เข้าสู่อุณหภูมิปกติจากการรับฟังแผนอุบาวท์ของผู้เป็นบุพการีเมื่อครู่เริ่มสูบฉีดตามหน้าที่อีกคราจนอุณหภูมิภายในร้อนฉ่า ยิ่งจุนซูขยับผิวเนื้อเนียนละเอียดก็ยิ่งเบียดเสียดผิวกายเปลือยเปล่าของยูชอนเข้าไปใหญ่ ไม่รู้หรือไงว่าเป็นการกระตุ้นความต้องการทางเพศของเขาขึ้นทุกขณะ เสียงร้องโวยวายของคนตัวเล็กน่ารำคาญจนเขาต้องขึ้นเสียงให้หยุด
จุนซูหยุดร้องโวยวายแต่เปลี่ยนเป็นร้องไห้คร่ำครวญแทน จะมีอะไรกวนใจเขามากไปกว่านี้อีก ซ้ำมือเล็กยังถูกส่งมาทุบไม่ยั้งทั่วแผงอกหนาหลายครั้งเข้ามันก็เจ็บ ฝ่ามือใหญ่รวบข้อมือประทุษร้ายไว้ในมือเดียว คนตัวเล็กยังร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุด กล่าวโทษอะไรเขาสารพัด ยัดเยียดความผิดที่เขาไม่ได้ทำ สรุปแล้วจะให้รับผิดให้ได้...ใช่มั้ย?
“ปล่อยนะ ไอ้เลว ไอ้ชั่ว ทำแบบนี้กับเค้าทำไม ชีวิตเค้าพังหมดแล้วเพราะแก...ไอ้คนโรคจิต!”เสียงแหบตะเบ็งด่าไม่หยุด ยูชอนเริ่มมีอารมณ์หงุดหงิดมากขึ้น คนไม่ได้ ทำ กับโดนกล่าวหาว่า ทำ
“หยุดบ้าได้แล้ว เธอต่างหากเด็กน้อยที่ทำชีวิตชั้นย่อยยับไปหมด ทำไมอยากได้ชั้นเป็นผัวจนตัวสั่นเลยหรือไงถึงได้ยอมทอดกายให้ชั้นขนาดนี้”เสียงทุ้มตวาดกลับอย่างมีอารมณ์  คำพูดหมิ่นเกียรติของคนเลวตรงหน้าทำเอาลูกแมวน้อยอย่างจุนซูกลายเป็นนางเสือ ดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธ คนเลวนี่มันมีสิทธิ์อะไรมาด่าเขาแบบนี้
“หน้าตัวเมีย...รังแกคนไม่มีทางสู้แล้วมาโยนความผิดให้กันแบบนี้หรอ หรือไม่มีใครสั่งสอนมารยาทแกถึงได้เลวทรามแบบนี้”
ขาดผึงงงง
ถ้าเปรียบดั่งสติ มันก็คงจะขาดทันทีที่คนตัวเล็กพ่นคำด่าอย่างไม่ทันคิดนั้นออกไป เขาพยายามอดกลั้นต่อทำด่าว่าทุกอย่างโดยไม่โต้เถียงคนตรงหน้า เพราะเขารู้ว่ายังไม่ได้ล่วงเกินอะไรร่างเล็กบนเตียงนั่นแน่นอน แต่ถ้อยคำที่พูดจาเหน็บแนมนั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการลองใจอะไรบางอย่างกับสิ่งที่ปาร์ค ยูชอนอยากรู้
เด็กหนุ่มปริศนาคนนี้ มีส่วนรู้เห็นอะไรกับแผนการอุบาวท์นี้หรือไม่?
จริงๆคำตอบน่ะเขาได้แล้ว แต่ไอ้ท่าทีรังเกียจที่คนตัวเล็กแสดงออกมาทำให้รู้สึกเคืองอยู่ในใจเหมือนกัน อีกอย่างเขารู้ตัวว่าไม่สามารถออกไปเคลียร์เรื่องยุ่งยากที่เกิดให้คนรักของเขาเข้าใจได้ ลองบุพการีของเขาเดินเกมส์ด้วยตัวเอง มันคงไม่ง่ายที่จะขัดขืน เพราะสถานการณ์ที่บีบบังคับ ทำให้ปาร์ค ยูชอนกดโทรศัพท์หาคนรักของตนด้วยมือที่สั่นเทา ป่านนี้แจจุงของเขาจะเป็นยังไงบ้าง จะเสียใจกับสิ่งที่เห็นเพียงไหน ตั้งแต่เกิดมานอกจากคุณแม่กับยูฮวานน้องชายสุดที่รัก ก็มีเพียงแจจุงคนเดียวที่เขาแคร์ ยูชอนต้องการทะนุถนอมแจจุงให้ดีที่สุด แต่ไม่ว่าเพียรกดเบอร์กี่ครั้ง คนรักของเขาก็ไม่ยอมรับสักที แล้วยังต้องมารับฟังถ้อยคำด่าทอเมื่อครู่มันช่างกวนใจเขาเสียจริง คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ ยั่วได้ยั่วดีนัก มีไม่กี่คนที่รู้ว่าปาร์ค ยูชอน อ่อนไหวกับคำที่กล่าวพาดพิงถึงผู้เป็นแม่ ผู้ซึ่งเป็นที่รักของเขา โชคร้ายเหลือเกินที่ท่านได้ด่วนจากไปก่อน ดังนั้นที่ด่าทอว่าไม่มีใครสั่งสอนมันเสียดแทงในอก ปวดร้าวเกินบรรยาย ส่วนหนึ่งที่เขารักแจจุงจนหมดหัวใจ คงเป็นเพราะแจจุงคล้ายกับเงาซ้อนทับคุณแม่ของเขา ที่เขารักหนักหนา ความเสียสละของแจจุงเป็นอีกสิ่งที่ทำให้หัวใจด้านชาของยูชอนหวั่นไหว รักโดยปราศจากข้อแม้ รักโดยไม่มีเงื่อนไข แล้วทำไมคนดีอย่างแจจุงถึงเป็นฝ่ายถูกทำลายอยู่ร่ำไป ในเมื่อคนเป็นพ่ออุตส่าห์มีน้ำใจวางเหยื่อที่น่าขย้ำไว้ตรงหน้า...แล้วยูชอนจะโง่ปฎิเสธมันทำไมกัน!
แววตาที่เปลี่ยนไปของผู้ชายตรงหน้าหยุดคำพูดของจุนซูได้สนิท ตอนนี้จุนซูยอมรับว่ารู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ มือที่เพียงเกาะกุมรอบเอวอวบอิ่มทำการสำรวจไปทั่วเนื้อเนียนนุ่มนิ่มที่เย้ายวนสายตามาแต่แรกอย่างจาบจ้วง ริมฝีปากอิ่มเคลื่อนลงมาดูดเม้มแถวซอกคอขาว ทำรอยรักประดับซ้ำรอยจางๆที่มีอยู่ก่อนจนสีเข้มปรากฏเด่นชัดบนผิวเนื้อขาว กลิ่นหอมอ่อนๆที่แตกต่างจากสัมผัสของแจจุงมันปลุกเร้าอารมณ์ดิบที่หลับสนิทอยู่เนิ่นนานให้ตื่นขึ้นมาและเด็กน้อยน่ารักตรงหน้านี่แหละ...ต้องรับผิดชอบ  น่าแปลกสำหรับแจจุงคนรักของเขา มันไม่ใช่เป็นความต้องการทางเพศ เขาสามารถอยู่กับแจจุงได้ทั้งคืนโดยนอนกอดกันเพียงเท่านั้น ไม่ใช่...ไม่รัก ยูชอนรักแจจุงมาก อาจจะมากกว่าชีวิตของตัวเองด้วยซ้ำ เพียงแต่ เวลาอยู่ใกล้ๆ ได้กลิ่นหอมอ่อนละมุนเฉพาะตัวของแจจุงมันทำให้เขารู้สึกสงบ ผ่อนคลาย กลิ่นอบอุ่นเจือความห่วงใยบวกการกระทำที่ให้ความใส่ใจในตัวเขาเสมอ ทำให้เขาชอบอยู่ใกล้ๆแจจุง อีกอย่างทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ใกล้ชิด คุณแม่และด้วยเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นมาในชีวิตทำให้เขาไม่กล้าที่จะล่วงเกินแจจุงแบบนั้นได้อีก มันเป็นความรู้สึกผิดในใจอยู่ตลอด แจจุงต้องการอะไรจากเขาก็ได้เขาจะให้สิ่งนั้นทั้งหมด ขอเพียงแค่แจจุงยังคงอยู่เคียงข้างเขา เขายอมหมดทุกอย่าง
ร่างที่แนบเนื้ออยู่ในขณะนี้ทำให้เขาเคลิบเคลิ้มจนลืมแจจุงไปชั่วขณะ รสรักที่ไม่ได้สัมผัสมาเนิ่นนานกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ด้วยความอ่อนเดียงสาของจุนซูทำให้ยูชอนลุ่มหลงมัวเมาไปกับกลิ่นกายหอมละมุ่นละไม จมูกโด่งสูดกลิ่นทั่วทั้งร่างบางที่อ่อนระทดระทวยอย่างทำตัวไม่ถูก แต่ยังสู้อุตส่าห์รวบรวมกำลังที่เหลืออยู่น้อยนิดส่ายลำตัวหลบหนีจมูกซุกซนที่ตามราวีไม่เลิก ร่างเล็กดูสิ้นเรี่ยวแรงจากความรู้สึกแปลกๆที่พึ่งรู้จัก เด็กน้อยส่ายหน้าไปมาหนีริมฝีปากอิ่มที่ตามมาประกบจูบไม่ลดละ ไม่ได้รู้เลยว่ายิ่งดิ้นรนยิ่งทำให้ยูชอนปรารถนาจะครอบครองเรือนร่างอวบอิ่มมากขึ้นไปอีก ท่วงทีไม่ประสีประสาของคนตัวเล็กที่ยังพยายามขัดขืนสุดกำลัง มันดูยั่วเย้าให้ยูชอนต้องการมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งมากกว่านี้ ตอนนี้ความคิดเดียวที่หลงเหลืออยู่คือ
ปราบพยศ เด็กน้อยน่าฟัดตรงหน้าเท่านั้น
ลำตัวหนากดทับร่างเล็กให้จมไปกับความหนานุ่มของเตียงนอน ใช้ช่วงขาแข็งแรงกดล็อคตรึงร่างเล็กไว้กับที่ จุนซูร้องไห้ออกมาเมื่อรู้ตัวว่าหมดทางสู้ ปล่อยน้ำใสให้ไหลออกมาระบายความอัดอั้นในใจที่ทำอะไรไม่ได้เลยกับสถานการณ์เลวร้ายที่กำลังจะดำเนินต่อ หวาดกลัวกับสิ่งที่กำลังจะเกิด เสียงแหบสั่นเพราะสะอื้นไห้ยังคงต่อรองตะกุกตะกัก
“ยะ...อย่าทำอะไรผมเลย กะ...แก.. เอ่อ...คุณอยากได้อะไร บอกผมสิ ผมจะให้หมดทุกอย่าง”คำพูดของจุนซูทำให้ยูชอนหยุดชะงัก แววตาเรืองโรจน์ด้วยความเดือดดาล ตวาดลั่นจนจุนซูสั่นไปทั้งตัวอย่างน่าสงสาร
“เด็กน้อยสงสัยเธอจะเคยชินกับการได้อะไรมาง่ายๆจนเคยตัว ชีวิตมนุษย์มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ แต่...ชั้นจะบอกสิ่งที่ชั้นอยากได้ จากเธอล่ะกัน...”ถึงสายตาของผู้ชายตรงหน้าจะดูไม่น่าไว้ใจ น้ำเสียงที่ใช้ก็ดูน่ากลัว เด็กที่ได้รับการดูแลอย่างดีมาจากครอบครัวที่อบอุ่นไม่เคยเลยสักครั้งที่มีใครขึ้นเสียงใส่ให้ระคายหู อาจเพราะเป็นคนมองโลกในแง่ดีมาโดยตลอด จึงอดคิดในทางบวกไม่ได้เพราะคำพูดที่เอ่ยออกมาราวกับให้โอกาสนั้น ทำให้จุนซูโล่งใจขึ้นมาด้วยมีความหวัง รีบส่งคำถามต่อในทันที
“บอกมาสิ ว่าคุณอยากได้อะไร?”ยูชอนส่งเสียงหัวเราะผ่านลำคอ มือใหญ่ไล้ไปรอบๆเรียวขาอัดแน่นด้วยนวลเนื้อนุ่มเนียน ลูบไล้จนเข้าไปถึงซอกขาด้านใน ก่อนป้วนเปี้ยนรอบช่องทางสีชมพูสวยที่น่าเติมเต็มนั่น จุนซูสั่นสะท้านด้วยความรู้สึกแปลกๆ มือเล็กรีบผวาจับกุมข้อมือใหญ่เอาไว้ เกรงภัยที่ตัวเองจะได้รับ ยูชอนส่งสายตากรุ่มกริ่มใส่นัยน์ตาสวยที่มองตอบเขาอย่างตื่นตระหนก เสียงทุ้มพูดราวกับเพ้อ น้ำเสียงไม่ดังนัก แต่ทำเอาใจหนุ่มน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะ
“ก็ตัวเธอไง ที่ชั้นต้องการ~”ไม่ปล่อยให้จุนซูหายช็อคในสิ่งที่ได้ยิน นิ้วเรียวแทรกผ่านเข้าไปในช่องทางสีชมพูสดอย่างเอาแต่ใจ สิ่งแปลกปลอมที่ถือโอกาสเข้ามาในร่างกายผ่านช่องทางที่ไม่เคยมีใครล่วงล้ำ ทำให้จุนซูกรีดร้องขึ้นมาอย่างเจ็บปวด ยูชอนเอื้อมมือที่ยังว่างอยู่จับเนื้อแน่นที่แข็งตัวชูชันของเด็กน้อยรูดคลึงให้มันคลายความตึงแน่น บรรเทาความเจ็บที่คนตัวเล็กรู้สึก ทั้งยังได้ปลุกความรู้สึกต้องการในตัวเด็กหนุ่ม เป็นอีกครั้งที่จุนซูเผลอไผลไปกับมัน สติยั้งคิดเริ่มเลือนรางไปทีละนิด ลืมความเจ็บปวดที่พึ่งรู้สึกไปจนหมด ลืมย้ำเตือนตัวเองว่าไม่ควรยินยอมไปกับการเอาเปรียบของผู้ชายแปลกหน้าไร้มารยาทคนนี้ ลิ้นเปียกชุ่มละเลงทั่วผิวเนื้อขาวอมชมพูถ่ายทอดความชุ่มฉ่ำ พร้อมสร้างรอยรักที่ตีตรากระจ่างชัดทุกพื้นที่ที่ริมฝีปากอิ่มสำรวจ ขบกัดอย่างหมั่นเขี้ยวจนขึ้นสีระเรื่อสมใจ ก่อนดูดกลืนเม็ดทับทิมสวยเด่นที่ประดับยอดอกอย่างเอร็ดอร่อยจากซ้ายไปขวาไม่เร่งรีบ  จุนซูเคลิบเคลิ้มไปกับรสสวาทที่ชายหนุ่มปรนเปรอให้ไม่หยุด ใบหน้ากลมเชิดขึ้นกัดริมฝีปากแน่น บรรยายความรู้สึกตัวเองไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร ร่างกายร้อนผ่าวแทบทุกสัดส่วนที่ถูกรุกราน ทั้งร่างกายและจิตใจตอนนี้ราวกับไม่ใช่ของเขาเอง หน้าอกที่ถูกปากและลิ้นของชายแปลกหน้าครอบครองแอ่นขึ้นเปิดทางสะดวกแก่คนฉวยโอกาสโดยไม่ตั้งใจ มือเล็กที่ผลักไสร่างหนาเมื่อครู่กับขยี้กลุ่มผมสีนิลเข้มของผู้รุกรานระงับความเสียวซ่าน ส่งเสียงครางหวานหูดังกังวานอย่างไม่อาจกลั้น เมื่อช่วงกลางลำตัวได้รับการปลดปล่อยจนเห็นสวรรค์รำไร
“แฮ่กๆๆ...อ่ะ...จะทำอะไรอีก”จุนซูหอบจัดรีบตักตวงลมหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนร้องเสียงหลงเมื่อชายแปลกหน้ายังไม่หยุดเอาเปรียบ แต่จะเอาอะไรไปสู้กับคนใจร้ายได้ในเมื่อตอนนี้เขาหมดแรงแม้กระทั่งขยับตัวหนียังลำบากเลย...เหนื่อยไปทั้งหัวใจ
ร่างระทดระทวยสั่นสะท้านอีกครั้ง เมื่อยูชอนจับเรียวขาคู่งามแยกออกจากกันอย่างใจเย็น ส่งลิ้นละเลงไปทั่วซอกขาด้านในพอให้คนตัวเล็กใจสั่นเล่น ไม่จำเป็นต้องตอบคำถามของเด็กน้อย เมื่อร่างกายเขามันเรียกร้องจนดันแน่นปวดหนึบไปหมด ถ้าไม่ติดว่าสงสารเด็กน้อยที่กลายเป็นเหยื่อล่อให้กับเกมส์ชีวิตของเขาโดยไม่รู้ตัวแล้ว ยูชอนคงจับกระแทกใส่เข้าไปไม่โดยไม่ปรานีเป็นแน่ ความจริงเขารู้แต่แรกแล้วว่าเด็กน้อยน่ารักคนนี้ไม่ได้รู้เห็นเป็นใจกับแผนอุบาวท์นั่น ยอมรับว่าตัวเอง เลว ไม่ต่างกับคนวางแผน แต่มันช่วยไม่ได้จริงๆถ้าจะโทษเธอคงต้องโทษโชคชะตาของตัวเอง ที่ดันต้องตาต้องใจพ่อของเขาถึงขนาดเลือกให้มาเป็นคู่ชีวิต สงสัยคงต้องพิสูจน์ว่ามีดีอะไร???
“อ๊ากก...เอามันออกไป ฮื่อๆๆๆ”เสียงกรีดร้องดังลั่นเมื่อยูชอนเติมเต็มส่วนนั้นพรวดเดียวเข้าไปในร่าง ด้วยความเกร็งจัดของจุนซูทำให้ช่องทางรักบีบรัดส่วนอ่อนไหวของยูชอนจนชายหนุ่มแทบคลั่ง อยากขยับแรงๆใจแทบขาดแต่ความเห็นใจแวบเข้ามาในหัว ครั้งแรกกับการโดนข่มขืนคงเป็นความทรงจำที่เลวร้ายเกินไปหน่อย    
“ครั้งแรกของเธอ ชั้นจะพยายามอ่อนโยนกับมัน”เสียงนุ่มนวลเอ่ยเบาๆข้างกกหูนิ่ม ค่อยจูบซับน้ำตาที่เปรอะเปื้อนดวงหน้าใสอย่างอ่อนละมุนไล่ไปเรื่อยจนกระทั่งริมฝีปากแตะกัน ยูชอนงับกลีบปากนุ่มถูกใจเล่นทั้งริมฝีปากบนและล่าง ปลายลิ้นถือโอกาสแทรกเข้าไปในโพรงปากสวยในจังหวะที่จุนซูเผยอปากขึ้นเตรียมประท้วง ค่อยๆตวัดต้อนลิ้นเล็กภายในไม่ลดละ จากที่เคยล่นหนีลิ้นเล็กเผลอเกี่ยวพันปลายลิ้นหนาด้วยความลืมตัว รสจูบปลอบโยนเพิ่มดีกรีเร่าร้อนขึ้นตามลำดับ
มือซุกซนบีบขยี้เม็ดสีชมพูที่แข็งเป็นไตรับสัมผัส พอรู้สึกได้ว่าเด็กน้อยเริ่มผ่อนคลายไปมากแล้วสะโพกหนาจึงเริ่มขยับ แต่ไม่หยุดปั่นป่วนอารมณ์คนตัวเล็กให้เตลิดเกินควบคุม จากยอดอกมือปลาหมึกของเขาก็เคลื่อนมาบีบเคล้นก้นขาวเนียนล้นมืออย่างเมามัน ร่างกายของเด็กน่ารักนี่ช่างถูกใจเขาไปทุกส่วน เพิ่มแรงขย้ำขยี้จนแทบแหลกเหลวคาฝ่ามือหนาไม่หยุด เร่งจังหวะสวนกายเข้าไปรุนแรงขึ้น พอกับอารมณ์ของจุนซูซึ่งทะยานถึงขีดสุด ตอนนี้ร่างกายเขาตอบสนองต่อทุกสัมผัสของชายแปลกหน้า ในสมองขาวโพลนว่างเปล่าเกินกว่าจะคิดถึงว่าตัวเองกำลังทำในสิ่งน่าละอาย สะโพกกลมมนเด้งเข้าใส่สิ่งที่สวนกายเข้ามาอย่างลืมตัว มือเล็กจิกกำที่เอวของอีกฝ่ายรู้สึกเสียวซ่านปนสุขสม เสียงครางหวานหูที่แว่วออกมาทำให้ยูชอนได้ใจ ขยับกายหนักหน่วงไม่ยั้งจนกระทั่งส่วนที่ประสานฉีดพ่นของเหลวอุ่นจัดอัดเข้าไปในช่องทางคับแคบเต็มที่จนล้นทะลักออกมาเหนอะหนะต้นขาคนตัวเล็กที่ทิ้งตัวฟุบหน้ากับเตียงเกือบจะทันทีที่ยูชอนปลดปล่อยเข้าไปด้านในจนหมด
ยูชอนเอนกายข้างๆร่างเล็กที่เริ่มทำท่าจะขยับหนีด้วยความหมั่นไส้ในความอวดดีไม่เลิก เขาจึงรั้งเอวกลมเข้ามาแนบชิดอีกครั้ง คนตัวเล็กยังไม่วายขยับตัวขลุกขลักในวงแขน ในความคิดของจุนซูตอนนี้ต้องการออกห่างจากผู้ชายอันตรายให้เร็วที่สุดเมื่อบทรักร้อนแรงสิ้นสุดลง สติสัมปชัญญะอันเลือนหายไปเริ่มคืนสู่หัวสมองทีละนิด เกิดความรู้สึกอับอายในสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นที่สุด แต่จุนซูไม่อาจหลีกพ้นไปได้โดยง่ายเนื่องจากบางส่วนของร่างกายที่ยังเชื่อมโยงกันอยู่ เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างขัดเคือง
“ปล่อยได้แล้ว”ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ยูชอนส่งลิ้นเข้าไปล้อเล่นในรูหูคนตัวเล็กขนลุกซู่ ความรู้สึกแปลกๆก่อตัวขึ้นอีกครั้ง
“อะ...อย่า...อื้ออ~”ร้องห้ามอย่างหวาดหวั่น เด็กน้อยกำลังหวั่นไหว ร่างกายบางส่วนมันเรียนรู้ไวต่อรสสัมผัส ตอนนี้เพียงแตะนิดเดียวร่างบางก็สะท้านไปหมด พึ่งรู้สึกตัวเมื่อสายอีกแล้วจุนซู คนตัวเล็กบอกตัวเองอย่างโมโห อีกสิ่งที่เขาได้เรียนรู้คือไม่ควรดิ้นรนหนีในขณะที่ยังมีส่วนของร่างกายคนทั้งสองคับแน่นคาอยู่ อวัยวะภายในของจุนซูช่างไม่รักษาหน้าเจ้าของเอาซะเลย เมื่อส่วนอ่อนไหวของยูชอนตื่นตัวขยายขนาดขึ้น มันก็ตอดรัดรอบท่อนเนื้อจนยูชอนยากที่จะต้านทาน เขาต้องการสวนกายในช่องทางเย้ายวนใจของเด็กน่ารักอีกครั้ง  ไวพอกับความคิดหรืออาจพร้อมๆกับที่คิด สะโพกหนาขยับเสียดสีเข้าไปอีกหน มือหนากอดรัดลำตัวที่เต็มไปด้วยเนื้อหนังนุ่มนิ่มน่ากัดจนแผ่นหลังเนียนบดเบียดเนื้อกายเปลือยเปล่าของยูชอนแทบหลอมละลายเป็นเนื้อเดียว ร่างเล็กครางออกมาไม่หยุดประสานกับเสียงครางแหบพร่าของคนเอาเปรียบ จังหวะรักดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ไม่รู้จุดสิ้นสุด เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นไม่เข้าถึงหูคนที่กำลังร่วมรักกันอย่างสุขสม จนกระทั่งเสียงเรียกเข้าเงียบหายไปในที่สุด เหลือเพียงเสียงลมหายใจหอบกระเส่าของทั้งคู่กับเสียงเนื้อกระทบกันไม่หยุด
แสงสว่างบนหน้าจอมือถือดับลง พร้อมกับตัวอักษรบ่งบอกปลายสายที่ขยันโทรเข้ามา
 “ที่รัก ของยูชอน”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น