Title : [Fic] หมอ...llจิตll
Writer : GroupBee + KJW
Couple: YunJae , YooSu , MinRic
Genre : Drama , Erotic
NC : 20+
Part…11 เรื่องของเราสองคน (การกลับมาของชอง ยุนโฮ! เต็มรูปแบบ)
พี่ฮีชอลฮะ วันนี้แจจุงไม่กลับบ้านนะครับ
ต้องช่วยเพื่อนทำรายงานเยอะเลย ไม่ต้องเป็นห่วงแจจุงนะ
รักพี่ฮีชอลครับ ^^
หลังจากที่ละความสนใจจากเครื่องมือสื่อสารของคนตัวเล็ก ขายาวสาวเท้ามาหยุดอยู่หน้าเตียงกว้าง จดจ้องภาพตรงหน้าอย่างหลงใหล ร่างสูงใหญ่ค่อยๆนั่งลงที่ขอบเตียง ก่อนที่มือหนาจะไล้ไปทั่วดวงหน้าสวย ใบหน้าคมก้มลงมาหอมเพียงเบาๆที่พวงแก้มเนียนนุ่ม ก่อนริมฝีปากอิ่มจะเคลื่อนต่ำลงมาประทับรอยจูบบนกลีบปากสีสวยที่เผยอขึ้นเล็กน้อย
เขาอดใจไม่ไหวแล้วจริงๆ
แจจุงขยับกายหนีสัมผัสแปลกบางอย่าง มีอะไรเกิดขึ้นกับร่างกายเขาร่างบอบบางไม่อาจขยับเขยื้อนได้อย่างอิสระ
ทำไม????
เปลือกตาสีมุกพยายามกระพริบขึ้นลงถี่ๆ หงุดหงิดเหลือเกินที่ไม่อาจเปิดเปลือกตาบางขึ้นมาได้ กว่าที่คนหน้าสวยจะลืมตาขึ้นมาได้อย่างลำบาก ดวงตากลมโตค่อยๆ ปรับสายตาคู่งามให้คุ้นกับแสง สายตาจดจ้องอยู่กับภาพตรงหน้าอย่างหวั่นใจ
บรรยากาศโดยรอบ มันช่างคุ้นเสียจน... น่ากลัว หรือเพียงแค่คิดไปเองร่างบางพยายามยันตัวลุกขึ้นยังไม่ทันจะลุก ทั้งร่างก็ล้มลงไปนอนอยู่ตรงที่เก่า มึนหัวไปหมด ร่างกายของเขาทำไมเหมือนกับไร้ซึ่งเรี่ยวแรงในระหว่างที่กำลังมึนงงกับสภาพของตัวเอง แววตาคู่งามก็พลันสั่นระริกไปด้วยความหวาดระแวงสิ่งแวดล้อมรอบตัว เขาไม่ได้คิดไปเองทุกอย่างมันเหมือนกัน..จนเกินไป
เสียงที่เขาไม่เคยลืมตลอดเวลา 7 ปี ก็ดังขึ้นมากระทบโสตประสาท
“ว่าไงคนสวย ตื่นแล้วเหรอ?”
“จำชั้นได้หรือเปล่า”
แจจุงมองคนตรงหน้าอย่างตกใจกลัวสุดขีด ปากบางขยับเล็กน้อยดูเหมือนจะอ่านได้ว่า
“ นาย!!!!! ”
ไม่มีเสียง
แล้วเสียงเขาหายไปไหน ร่างบางพยายามเปล่งอะไรออกมาอีกครั้ง อีกครั้ง ไร้ความหมาย ตอนนี้แจจุงไม่ต่างอะไรกับคนใบ้สักนิด ตอนนี้เขาเริ่มกลัวถึงขีดสุดแล้ว แขนขาที่ไม่ยอมทำตามคำสั่งในใจของเจ้าของกับยิ่งสั่นสะท้านเกิดความเย็นยะเยือกไปสุดขั้วหัวใจ เป็นอีกครั้งในชีวิตที่เขากลัวเหลือเกิน
ชายหนุ่มสาวเท้าเข้ามาใกล้ร่างบางที่นอนระทดระทวยนั้นอย่างใจเย็น แจจุงพยายามขยับตัวหนี แต่มันทำไม่ได้ เขาเริ่มร้อนใจเมื่อรู้สึกได้ชัดเจนว่าสิ่งที่เกิดกับตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ ในกลิ่นที่เขาสูดลมหายใจผ่านผืนผ้า มันต้องใส่ยาอะไรสักอย่างลงไป ไม่ใช่แค่ยาสลบธรรมดา เขามั่นใจ ยุนโฮทิ้งตัวลงบนขอบเตียงนุ่มนิ่ม มืออุ่นของเขากำลังลูบไล้ไปทั่วเรือนกาย แกล้งชะโงกใบหน้าหล่อเข้าไปใกล้ใบหน้าสวยจนปลายจมูกเฉียดไปโดนแก้มเนียนใส
“สวยเหมือนเดิม ไม่สิ สวยกว่าเดิมนะ คนสวย” เสียงทุ้มไม่พูดเปล่า ยังงับเบาๆตรงติ่งหู แจจุงสะดุ้งเฮือกเมื่อฝ่ามือร้อนล้วงเข้าไปในกางเกงยีนส์สีซีด
“เป็นอะไรไป ตกใจเหรอ ชั้นว่ามันยังเร็วไปนะ”
“อืออ……” เสียงครางต่ำๆ ในลำคออย่างอดไม่อยู่เมื่อมือหยาบสะกิดเข้าไปข้างในกางเกงชั้นใน ทักทายตรงส่วนโคนไปจนถึงปลายอย่างเชื่องช้า แจจุงพยายามหายใจเข้า ออกแรงๆ เพื่อดึงสติตัวเองไว้ไม่ให้หวั่นไหวไปกับสัมผัส ท่าทางแปลกๆของแจจุงนั่นไม่ได้พ้นสายตาคมของยุนโฮไปได้ ยิ่งเห็นแบบนี้ก็ยิ่งอยากแกล้ง...ดูสิว่าจะทนได้สักกี่น้ำ
ยุนโฮขยับกายออกมานิดหน่อย ถอนมือที่สอดเข้าไปในปราการด่านสุดท้ายของแจจุงออกมา ร่างบางราวกับโล่งใจได้เพียงพริบตา เมื่อพลันเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของคนตัวใหญ่ ไม่ใช่จะหยุด แต่กำลังจะเริ่มต่างหาก สายตาคมบ่งบอกได้ว่าอย่างนั้น
เขาก็เพียงแค่ปลดกระดุมเสื้อออกจนหมดให้พันจากความเกะกะ เหลือเพียงแผงอกกำยำ น่าสัมผัส โดยไม่ยอมให้มีการน้อยหน้ากันเกิดขึ้นเพียงครู่ ร่างบางก็ถูกปลดเปลื้องอาภรณ์ ทั้งช่วงบน ช่วงล่างออกไปจนหมดสิ้น เรือนร่างสวยปรากฏตรงหน้า งดงามไม่มีที่เปรียบ ไม่ยอมให้เวลาเสียเปล่าสักนาที ยุนโฮก็โน้มตัวลงทับทาบร่างเปลือยเปล่า ใบหน้าสวยสะบัดหนีจมูกซุกซนที่ซุกไซร้ไม่เลิกไปทั่วซอกคอขาว มือน้อยกำหมัดแน่นกำลังคิดจะต่อยคนที่บังอาจล่วงเกินตัวเองให้คว่ำ สุดท้ายก็พ่ายแก่คนตรงหน้าโดนมือที่ใหญ่กว่าจับไพล่ไปไว้บนหัว หมดทางสู้ อย่างสิ้นเชิง
ร่างใหญ่ทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดกอดรัดร่างเล็กที่นุ่มนิ่มไม่ยอมปล่อยให้เกิดช่องว่างระหว่างคนทั้งสอง ปากรูปกระจับไม่วายหากำไรไปทั่ว ไล่ผ่านส่วนไหนก็ไม่พลาดที่จะหยุดแวะพักชิมความหอมหวานจากเรือนกายเนียนละเอียด ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีคนตรงหน้าก็ยังทำเอาเขาคลั่งไคล้จนแทบเป็นบ้า เรือนกายหอมอ่อนๆ ที่ถูกใจ ทำเอาคนตัวใหญ่สูดหอมซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างถวิลหา ฝ่ามือใหญ่โอบรอบเอวแบบบางอยากกอดให้แน่นกว่านี้ สัมผัสให้ลึกซึ้งยิ่งกว่านี้ ให้สมกับที่เขาไม่สามารถกอดใครได้อีกแล้ว เพราะไม่ว่าใครก็ไม่อาจเติมเต็มความต้องการของเขาได้เหมือน เธอคนนี้
“เพราะเธอเป็นของชั้นเท่านั้น แจจุง ฉะนั้นเธอต้องรับผิดชอบ”
เรียวปากประกบทับริมฝีปากบาง นุ่มนวล แผ่วเบา ค่อยๆลากลิ้นไปทั่วเรียวปากสวย จนแทรกเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในช่องปากอุ่น ลิ้นเล็กๆแตะโดนกันโดยไม่ตั้งใจก่อนจะถูกลิ้นอุ่นจัดของชายหนุ่มไล้ต้อนอย่างอ้อยอิ่งอ่อนหวานราวกับความฝัน มือหนาล้วงเข้าไปหยอกเย้าท่อนเนื้อสีอ่อนซึ่งปกคลุมไปด้วยกลุ่มไหมนุ่ม ก่อนส่งนิ้วเรียวยาวลากไล้ ต่ำลงเรื่อยๆ แล้วหยุดแวะที่ปากทางเข้าสีหวานนิ้วทั้งสามแทรกผ่านเข้าไปคว้านหาจุดกระสันเรียกเสียงครางไม่หยุดของร่างข้างใต้
ยุนโฮได้ใจ ค่อยๆเปลี่ยนจากนิ้วเป็นท่อนเนื้อแน่นหนันของตัวเองแทน ร่างบางกระตุกเกร็งเล็กน้อย ด้วยความคับแน่นของช่องทางที่ราวกับว่ามันไม่เคยเปิดใช้งานมาก่อน แรงตอดรัดของช่องทางแคบ สร้างความเสียวซ่านมากมายแก่คนทั้งคู่ โดยบรรยากาศ สันชาติญาณหรืออะไรก็แล้วแต่ ร่างบางซึ่งขยับกายได้เพียงเล็กน้อยกับขยับสะโพกตอบสนองคนตัวใหญ่อย่างลืมตัว บทรักดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ไม่อาจยั้งรู้ไปถึงจุดสิ้นสุด แจจุงหลับตาลงช้าๆ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ร่างสูงชักนำ จริงอยู่ที่เขาไม่อาจฝืนร่างกายตัวเองเลยได้สักนิด
แต่กับจิตใจ
เกลียดตัวเองเหลือเกิน
ที่ยอมรับว่าโหยหา....
เปลือกตาหนักอึ้งขยับเปิดขึ้นอย่างเกียจคร้าน รู้สึกปวดหน่วงบริเวณเบ้าตา ใจจริงเขาไม่อยากลืมตาขึ้นมารับรู้อะไรอีกเลยด้วยซ้ำ ความรู้สึกเหมือนเดิมกลับคืนมาดั่งฝันร้ายเพียงแต่คราวนี้มันไม่ใช่แค่ชัดเจนในหัว แต่ทุกอย่างมันตอกย้ำซ้ำๆ อย่างกับกลัวว่าเขาจะลืม...ใครจะลืมสิ่งเลวร้ายแบบนี้ ถึงอยากจะลืมแต่มันกลับยิ่งสลักไว้แน่นในหัวใจ
ร้องไห้เหรอ?
เมินซะเถอะ กับคนเลว คนนี้ น้ำตาที่เขาเคยรังเกียจยังมีค่าเกินกว่าจะยอมเสียให้คนอย่างมัน
เสียงหอบกระเส่าอย่างมีอารมณ์สุขสมของคนเลว สลับการส่งเสียงครางต่ำ ด้วยความสุขจากการตักตวงความสำราญในร่างกายบอบช้ำ เขาควรจะรู้สึกยังไงร่างบางโยกตามจังหวะรุนแรงไปทั้งตัวตามแรงกระแทกของคนข้างบน จากตอนแรกที่เพียงรับรู้ แต่ไม่มีความรู้สึกใด กับ ณ ขณะนี้ ความรู้สึกต่างๆของร่างกาย เริ่มทำงานกันอย่างมีประสิทธิภาพ
เขาควรจะดีใจกับมันหรือเปล่า?
“อือออ......”
ร่างบางส่งเสียงครางหวานหูอย่างอดไม่อยู่ ถึงจะพยายามแล้วแต่ร่างกายเขามันช่างไม่รักดีคนตัวใหญ่ชะงักเพียงเล็กน้อย พึ่งรู้เหมือนกันว่าร่างบางนั้นเริ่มสนองรับรสสัมผัส ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มบางๆด้วยความพอใจ ก่อนจะก้มลงมาบดขยี้กลีบปากบางของคนตัวเล็กอย่างหิวกระหาย เหมือนว่ากำลังดูดเลียลูกกวาดแสนอร่อย เรียวปากบางบวมเจ่อเป็นสีเข้มเมื่อถูกขบกัดไปทั่วทั้งริมฝีปากบนและล่าง ลิ้นเรียวยาวลากแตะตามรอยแยกขอบปากก่อนแทรกเข้าไปตวัดไล่สำรวจโพรงปากนุ่มอย่างคนอดอยาก ไม่พอจริงๆ กับคนๆนี้เท่าไหร่เขาก็ไม่พอ ยิ่งได้ยินเสียงครางต่ำในลำคอคนตัวเล็กยิ่งปลุกความต้องการคนตรงหน้ามากขึ้นไปอีก ก่อนที่จะถอนริมฝีปากอิ่มออกมาด้วยความกลัวคนตรงหน้าจะขาดใจตายไปซะก่อน แล้วขยับสะโพกเข้าออกรัวถี่อย่างหนักหน่วงในจังหวะสุดท้ายก่อนจะถอดถอนมันออกมา แล้วลุกเดินออกไปด้านนอก
“แฮ่กกก...แฮ่กกก...”แจจุงหอบแฮ่กอย่างหมดแรง ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดช้าๆอีกหลายครั้ง ใบหน้าสวยแดงก่ำด้วยความโมโหและขวยเขินเมื่อตัวเขาเองรู้ดีว่าเผลอไผลไปกับคนสาระเลวนั่นด้วย ดวงตากลมโตจ้องคนเลวจ้องมองคนเลวนั่นราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ พึ่งรู้เหตุผลที่มันกล้าปล่อยเขาทิ้งไว้บนเตียงก่อนที่จะเดินไปหยิบอะไรในตู้เย็นด้วยความสบายใจ
สภาพแบบนี้จะหนีไปไหนรอดทั้งสี่ด้านของร่างกายเขา ถูกมัดแยกกันเป็นส่วน โดนจับโยงที่ละด้านกับขอบเตียงใหญ่
‘ขึงพืด’ น่าจะเป็นอะไรที่เห็นภาพชัดเจนสุด แจจุงดึงสะบัดข้อมืออย่างแรง
ไม่หลุด!
เชือกที่มัดเขาไว้ทั้งสี่ด้านมันแน่นหนามาก ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเจ็บเงื่อนที่ผูกมัดกับยิ่งขมวดเป็นปมแน่นหนักยิ่งกว่าเดิม ทั้งแขนและขาของเขาตอนนี้ขึ้นรอยแดงเป็นห้อเลือดไปหมด เจ็บแสบไม่เท่ากับที่เจ็บใจที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย
“ไอ้โรคจิต...ปล่อยนะ...ชั้นจะฆ่าแก” เสียงที่หายไปตวาดออกมาสุดเสียง
“ปล่อยสิว่ะ...บอกให้ปล่อย!”
ร่างบางเริ่มอาละวาดรุนแรง เมื่อคนที่ตัวเองก่นด่ามานั่งไขว่ห้างบนโซฟาสีแดงสด สายตาคมดุจเหยี่ยวมองตรงมาที่เขาก่อนกัดสตอเบอรี่ลูกโตในชามแก้วใส อย่างมีความสุข ทีละลูก ทีละลูก
“หยุดดิ้น!” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเป็นประโยคแรก หลังจากเขาเริ่มมีสติ แต่ทำไมเขาจะต้องเชื่อด้วยล่ะ
“ชั้นบอกให้เธอหยุดดิ้น!”ร่างบางยังคงดิ้นดูเหมือนจะยิ่งรุนแรงขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งที่ยุนโฮสั่งด้วยความท้าทาย
“ทำไมชั้นต้องเชื่อแก คนเดียวที่ชั้นจะฟังคือพี่ของชั้น กับคนอย่างแก....” ร่างที่ถูกพันธนาการไว้บนเตียงกว้าง มองคนออกคำสั่งเขาด้วยสายตาเหยืยดหยาม รังเกียจอย่างที่สุด ถึงจะไม่เอ่ยคำพูดต่อให้จบ แต่ด้วยท่าทางของแจจุงมันก็แสดงออกอย่างชัดเจนชายหนุ่มเดินตรงมาที่คนปากเก่งอย่างรวดเร็ว ด้วยแรงโทสะ
“ปากดี คนอย่างชั้นมันทำไม ห๊ะ! ชั้นจะบอกเธอให้ว่าทำไมเธอต้องเชื่อชั้นเพราะพี่ชายสุดที่รักของเธอคงไม่มีวันทำอย่างนี้กับเธอแน่”
พูดจบมือหนาก็กระชากร่างแจจุงขึ้นมาแนบอกกำยำ ข้อมือและข้อเท้าที่ถูกมัดตรึงตรงอย่างแน่นหนา เมื่อถูกแรงกระชากรุนแรงของคนเจ้าอารมณ์ เชือกที่ผูกพันไว้มันยิ่งรัดแน่นจนรู้สึกเจ็บแสบ เกิดรอยถลอกแดงเถือกไปทั่วรอบข้อมือ ข้อเท้าขาวผ่อง จมูกโด่งเป็นสันซุกไซร้ซอกคอขาว ทิ้งลมหายใจอุ่นรดไปทั่วจากลำคอไปถึงไหล่ลาดเนียน ก่อนที่แจจุงจะเตลิดเปิดเปิงไปด้วยแรงอารมณ์ ร่างบางก็สะดุ้งโหยงกับสิ่งแปลกปลอมที่ล่วงล้ำดึงดันจะเข้าไปในช่องคับแคบ ทั้งเจ็บทั้งเสียววาบในคราเดียวกัน มันคือ ผลสตอเบอรี่ลูกโตที่แช่แข็งจนดูเหมือนก้อนน้ำแข็งขนาดเขื่อง มีนิ้วแข็งคีบมันให้อยู่ก้ำกึ่งไม่รู้จะเอาเข้าหรือจะถอนออกมาดี ความเย็นจัดของมันกรีดผิวเนื้ออ่อนรอบบริเวณจนเกิดความชาไปหมด
“อ๊ะ......” ร่างบางเกร็งกระตุกเมื่อสิ่งแปลกปลอมนั้นหลุดเข้าไปในโพรงสีแดงสดที่ถูกคนเลวรุกรานไม่หยุดหย่อน เย็นยะเยือกจนเขารู้สึกชาบริเวณด้านหลัง
“จะ...ทำ...อะไร...อีก...ปะ ปล่อยยยนะ” เสียงแหบพร่าเอ่ยร้องอย่างลำบาก ยิ่งเขาขยับ ยิ่งรู้สึกเสียวซ่านไปทั้งตัว
“อื่ออออ.....”
“ชั้น...บอก...ให้ปะ...ปล่อยย...ไง”
ไม่ได้รู้เลยหรือยังไงว่าเสียงตัวเองมันเย้ายวนเพียงใด ยุนโฮส่งนิ้วแข็งแรงวนหาสิ่งที่ตั้งใจทำหลุดไว้ภายในช่องทางนั้นอย่างไม่จริงจังนัก ราวจะกลั่นแกล้งคนตรงหน้าให้ขาดใจอยู่ตรงนั้น ยิ่งขยับนิ้วสิ่งนั่นก็ราวกับมีชีวิตมันดิ้นขลุกขลักภายในช่องทางแคบจนแจจุงครวญครางออกมาด้วยความเสียวซ่านไม่หยุด
“ชอบใช่มั้ยแบบนี้?” เสียงทุ้มยังมีแก่ใจถามปลายนิ้วยังคงควานหาอะไรบางอย่างด้วยความสนุก สะโพกกลมมนได้รูป ส่ายไปทั่วด้วยความสยิว เมื่อนิ้วแข็งแรงคีบสิ่งนั้นออกมาจนเกือบจะหลุด แต่คนใจร้ายกับถอนนิ้วตัวเองออกมาเพียงเท่านั้น ปล่อยสิ่งแปลกปลอมคาตรงทางแคบนั้นไม่ยอมปล่อยออกมาซะที
“ชอบใช่มั้ยแบบนี้?” เสียงทุ้มยังมีแก่ใจถามปลายนิ้วยังคงควานหาอะไรบางอย่างด้วยความสนุก สะโพกกลมมนได้รูป ส่ายไปทั่วด้วยความสยิว เมื่อนิ้วแข็งแรงคีบสิ่งนั้นออกมาจนเกือบจะหลุด แต่คนใจร้ายกับถอนนิ้วตัวเองออกมาเพียงเท่านั้น ปล่อยสิ่งแปลกปลอมคาตรงทางแคบนั้นไม่ยอมปล่อยออกมาซะที
ปากอิ่มของเขายังงับผลไม้ในชามแก้วใสอีกลูก ยื่นมันด้วยปากต่อคนตรงหน้า คนดื้อยังคงออกฤทธิ์ไม่ยินยอมอ้าปากรับความปรารถนาดีของคนตรงหน้า เมื่อไม่รับมันดีๆชายหนุ่มก็ถูไถมันกับเรียวปากสวยที่ยังคงปิดสนิทไม่ยอมให้สิ่งใดผ่านพ้นเข้าไปได้โดยสะดวก ความเย็นจัดของผลไม้สีแดงฉ่ำแตะสัมผัสเนื้อกลีบปากบางมันเย็นจนรู้สึกว่าปากตัวเองเริ่มหนาขึ้นมาเล็กน้อย เขาบดเบียดเรียวปากสวยผ่านผลไม้จนมันแหลกเหลวคาปาก น้ำผลไม้สีแดง กลิ่นหอมอมเปรี้ยวไหลย้อยลงมาเป็นทางก่อนที่มันจะเปรอะเปื้อนลงมาถึงหน้าอกขาว ยุนโฮก็ส่งลิ้นอุ่นๆไล้เลีย น้ำสีสวยไปทั่ว จนไม่เหลือแม้กระทั่งกลิ่นของมัน ก่อนลิ้มชิมความหวานจากกลีบปากนุ่มนิ่ม ดูดเลียจนมันเปิดรับการทายทักด้วยความยินดี ฟันซี่เล็กกระทบกันกึกกัก เช่นเดียวกับลิ้นของแจจุงที่แลกเปลี่ยนรสหวานกับคนตรงหน้าอย่างลืมตัว
ร่างบางบิดกายสะท้านเมื่อนิ้วหนาสะกิดไปถูกของที่คาไว้เกี่ยวคีบมันออกมากินอย่างหน้าตาเฉย โดยปราศจากท่าทีรังเกียจว่าเอามันออกมาจากช่องทางไหน คนสวยเบือนหน้าหนีไม่อยากมอง โรคจิตจริงๆ ไอ้บ้ากินมันลงได้ไปได้ยังไงกัน คนถูกด่าว่าโรคจิตหัวเราะออกมาด้วยความถูกใจ กับท่าทางของคนสวย เขาก้มหน้าไปจัดการกับเม็ดทับทิมสีสวยที่ประดับบนยอดอก ระรัวลิ้นดุนดันจนหน้าอกกระเพื่อมแอ่นเข้าหาราวกับต้องการสัมผัสมากขึ้นกว่าเดิมปรนเปรอด้วยลิ้นและปากทั้งสองข้างอย่างเท่าเทียม ฝ่ามือใหญ่ก็คว้าหมับที่ไอศครีมโคนยาวที่แข็งขืนชูชันของคนสวยรูดมันขึ้นลงเป็นจังหวะ ร่างบางตัวเกร็ง ส่งเสียงครางหวานหูไม่เป็นภาษาเมื่อถูกปลุกเร้าอารมณ์ทั้งด้านบน ด้านล่าง หนักหน่วงและร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆจนใกล้จะเห็นความสุขรำไรตรงหน้า
แต่... ยุนโฮไม่ได้ใจดีขนาดนั้น!
เขาก็แค่ต้องการทรมานคนสวยแสนดื้อดึงตรงหน้าให้รู้สึกเท่านั้นเอง ไม่ได้ต้องการให้ปลดปล่อยสักหน่อย
เมื่ออยู่ดีๆเขาก็หยุดการกระทำทุกอย่างของตัวเอง แจจุงครางออกมาอย่างไม่พอใจ อารมณ์หวิวถูกเปลี่ยนเป็นอารมณ์โมโห คนสวยหงุดหงิดที่คนโรคจิตไม่ยอมทำอะไรต่อ ปลุกเร้าเขาจนกระเจิดกระเจิงแล้วก็ปล่อยเขาทิ้งแบบนี้มันช่างทรมานสุดๆ คนถูกแกล้งเริ่มมีอาการปวดหนึบไปทั่วประสาทส่วนปลายไอศกรีมแท่งนั่น มันร้อนผ่าวใกล้จะระเบิด เขาต้องการปลดปล่อยของเหลวที่คั่งค้างในนั้นออกมาให้หมดทุกหยดหยาด ร่างบอบบางบิดกายพล่านอย่างไม่รู้จะช่วยตัวเองยังไง เมื่อมือและเท้าถูกตราตรึงไว้แบบนี้ คนใจร้ายยังไม่หยุดกลั่นแกล้ง หลังจากที่ดูผลงานของตัวเองจนหนำใจก็ดูดอมไอศกรีมแท่งโตเต็มปากอย่างไม่นึกรังเกียจ
“อื้อออ... อ่า..” แจจุงครางเสียงหลง
เมื่อได้รับสัมผัสหนักหน่วง รุนแรง สะโพกขยับขึ้นมาแนบชิบใบหน้าคมเปิดทางสะดวกให้เขาจัดการกับสิ่งตรงหน้าอย่างถนัดถนี่ ของเหลวขุ่นข้นที่รอคอยการปลดปล่อยค่อยเยิ้มออกมาปริ่มที่ปลายโคน ยุนโฮใช้มือบีบแน่นไม่ยินยอมให้แจจุงปล่อยมันออกมาอยู่ดี เขาหัวเราะในลำคออย่างสะใจ เมื่อคนสวยเริ่มบิดกายอย่างไม่เป็นสุข ใบหน้าหล่อโน้มเข้าไปจนติดใบหน้าสวย กดจูบแรงๆบนปากแดงที่มันบวมเจ่อขึ้นมาเพราะเขารุกรานไม่หยุด ค่อยๆกระซิบถามเสียงพร่า
“ต้องการให้ชั้นช่วยเธอมั้ย...ที่รัก”
เพิ่มแรงบีบที่ฝ่ามือ เป็นการช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของคนตัวเล็ก
“อ๊ากกกก...... จะ เจ็บบ... ปล่อยมัน” เสียงหวานร้องลั่นด้วยความทรมาน ทำไมถึงไม่ยอมให้เขาปลดปล่อยมันสักที
คนสวยแสนดื้อพยายามขืนความปรารถนาด้านร่างกาย ไม่ยอมตอบรับสักที จนคนขี้แกล้งต้องช่วยเร่งรัดคำตอบเนื่องจากเขาก็รู้สึกตึงแน่นจนปวดหนึบไปหมดแล้วเหมือนกัน มือใหญ่จึงบีบรูดแท่งเนื้อที่ใกล้จะระเบิดลาวาข้นออกมาเป็นจังหวะ พอคนแสนดื้อเกร็งตัวจัดเมื่อใกล้จะถึงจุดหมาย มือหนาก็หยุดทำงานเพื่อรอคำตอบ
ความต้องการทางร่างกาย กุมชัยชนะ แรงต่อต้านภายในจิตใจ แจจุงผงกหัวแรงๆอย่างจำนน ดูเหมือนจะยังไม่ทำให้คนใจร้ายพอใจเขาออกคำสั่งบังคับอีกครั้ง
“พูดมันออกมา”คำพูดน่าอายแบบนั้นยังจะบังคับกันอีก แต่สุดท้ายก็ต้องเอ่ยมันออกมาจนได้
“ชะ...ช่วยที” คนขี้แกล้งแค่นยิ้มอย่างสะใจ
“ก็แค่นั้น”เขาก็จัดการรูดขึ้นลงเบา เบา ก่อนเร่งจังหวะรุนแรงอีกไม่กี่ครั้ง จนในที่สุดของเหลวอุ่นจัดก็พวยพุ่งออกมาเต็มฝ่ามือ
คนตัวเล็กทิ้งตัวนอนหอบระทดระทวยอย่างหมดแรง ทั้งมือและเท้าถูกปลดพันธนาการที่โยงเขาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ร่างกายที่ได้รับอิสระกับไม่มีแรงที่จะพยุงตัวขึ้นมาด้วยซ้ำ รู้ตัวอีกทีคนเลวมันก็จับรวบข้อมือเขาไพล่กันไว้เหนือศีรษะ คุกเข่าคร่อมร่างบางทั้งหมดแบบนี้ไม่รู้จะปลดเชือกออกทำไม ไม่เห็นความแตกต่างสักนิด มือหยาบยังคงลูบไล้ไปทั่วอย่างซุนซน ก่อนเคลื่อนที่ต่ำลงเรื่อยด้วยสันดานหื่น ท่อนเนื้อที่เต้นตุ๊บๆด้วยความต้องการที่ยังไม่ได้ปลดปล่อยออกมาเริ่มถูไถไปมาตรงช่องทางรักที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี
สัมผัสเสียดสีนั่นทำเอาคนหมดแรงรู้สึกตื่นตัวขึ้นมานิดๆ ก่อนจะรู้สึกมากขึ้นเมื่อปากและลิ้นของชายหนุ่มสาละวนอยู่แถวใบหู ทั้งสองมือสะกิดหยอกเอินแผ่วเบาบนเม็ดเต็งตึงสีเข้มทั้งสองข้าง แล้วกดขยี้อย่างมันมือ คนสวยแอ่นอกขึ้นรับสัมผัสอย่างถูกใจ ไม่รอช้าคนตัวใหญ่ก็สอดแท่งเนื้อแน่นเข้าไปอย่างรวดเร็วจนคนไม่ทันตั้งตัวสะดุ้งเฮือก พยายามดิ้นรนขัดขืน แต่ด้วยถูกปลุกเร้าทั้งด้านหน้าและหน้าหลังพร้อมๆกัน จึงทำให้กริยาท่าทางที่แจจุงแสดงออกมา ดูกึ่งยินยอม กึ่งขัดขืน มันยิ่งทวีความต้องการของคนตัวใหญ่ให้ทะยานสูงขึ้น มือน้อยของแจจุงเริ่มจับเอวหนาแน่นอย่างลืมตัว เมื่อริมฝีปากทั้งคู่ประกบแลกเปลี่ยนความเร่าร้อนในกายกันอีกครั้ง ร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเบียดบดกับผิวเนียนละเอียดจนไม่เหลือแม้กระทั่งช่องว่างพอที่ลมจะพัดผ่านร่างกายคนทั้งคู่ได้ เสียงท่อนเนื้อเสียดสีตรงช่องเนื้อคับแคบ ประสานเสียงครางอย่างสุขสมของคนทั้งคู่จนกระทั่งเพลงรักบทนี้สิ้นสุดลง
ยุนโฮทิ้งตัวนอนจับคนตัวเล็กซุกในวงแขน ยังไม่ยอมถอนสิ่งที่คาอยู่ออกมา ใบหน้าสวยแดงก่ำด้วยความเหนื่อยอ่อน อยากหลับแต่ก็ยังหลับไม่ได้สักที ชายหนุ่มเชยคางมนขึ้นมาเพื่อไม่ให้หลบสายตาหนี
“ไหวมั้ย ที่รัก” คำพูดติดกวนอวัยวะเบื้องล่าง ทำให้แจจุงรู้สึกขุ่นเคืองไม่น้อย ถึงไม่ไหวมันก็ทำอยู่ดี ไม่รู้จะพูดให้มันได้อะไรขึ้นมา
เมื่อทำอะไรไม่ได้ เขาก็คิดวิธีตอบโต้แบบเด็กๆ โดยพ่นน้ำลายใส่ใบหน้าหล่อตรงหน้า อยากสื่อให้รู้ว่าเขารังเกียจและขยะแขยงมันแค่ไหน ยุนโฮปาดน้ำลายใสที่กระจายเต็มไปหมดออก สายตาเรียวจ้องไปในลูกแก้วใสในดวงตากลมโต ที่มองตอบเขาอย่างคิดว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่า เขาหัวเราะหึ หึ ในลำคอพลางเลียน้ำลายที่หยดเปรอะฝ่ามือหนาดูดกลืนมันราวกับกินน้ำหวานเลิศรสเล่นเอาแจจุงหน้าถอดสี แปลกใจกับการกระทำของเขา
“ไม่ว่าอะไรที่ออกมาจากร่างกายของเธอ มันหอมหวานถูกปากชั้นทุกอย่าง” คำพูดของเขาทำเอาแจจุงขนลุกซู่
ไอ้โรคจิต
“แก...มัน โรค จิต”คนถูกต่อว่ายิ้มรับคำอย่างแช่มชื่น นี่เขากำลังด่าหรือชมมันอยู่เนี๊ยะ ท่าทางไม่ทุกข์ร้อนของมัน ทำเอาเขาหงุดหงิดทำอะไรไม่ถูก
“ที่นายทำกับชั้นนี่มันผิดหลายข้อหาเลยนะ ชั้นจะลากคอแกเข้าคุก”แจจุงพูดในสิ่งที่เขาคิดว่าขู่คนตรงหน้าได้แน่นอน ด้วยความมั่นใจเพราะเขาพอมีความรู้เรื่องนี้อยู่บ้างเขาแอบค้นหนังสือในห้องสมุดมาศึกษาด้วยตัวเอง ถึงได้รู้ว่าเขาสามารถเอาผิดคนตรงหน้าได้
“เก่งนี่ จะเอาสามีตัวเองเข้าคุกลงเหรอที่รัก”
“อย่ามาปากดี ใครเป็นเมียแก”
ใบหน้าเขาเปื้อนยิ้ม ก่อนจะกรอกเสียงทุ้มชิดใบหู
“หลักฐานยังคา อยู่แบบนี้ต้องให้บอกอีกเหรอว่าเป็นใคร”
แจจุงรู้สึกอับอายที่สุดแต่ร่างกายเขาก็อ่อนล้าจนไม่มีแรงจะดึงตัวเองออกมาจากการถูกเอาเปรียบ ได้แต่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในวงแขนแข็งแรงนั่นปากก็ขู่ด่าไม่หยุด
“ถ้าไม่หยุดดิ้น ชั้นจะต่ออีกรอบนะ”ประโยคประกาศิต เพียงประโยคเดียวแจจุงก็นอนนิ่งราวกับถูกสาป รู้ว่ามันเอาจริง
“จะบอกอะไรให้นะ คนโรคจิตน่ะถึงทำผิด ก็ได้เอาผิดอะไรไม่ได้ในเมื่อเธอพูดเองว่าชั้นโรคจิต ฝันดีนะทูนหัว ” พูดจบก็ก้มมาหอมที่แก้มทั้งสองข้าง
ร่างบางนอนลืมตาโพลง จนได้ยินเสียงดุเอ่ยขึ้นมาลอยๆ
“ถ้านอนไม่หลับให้ชั้นฉีดยาให้สักเข็มมั้ย?” เพียงเท่านั้นตากลมก็รีบนอนขดตัวหลับปี๋ จึงไม่ทันได้เห็นรอยยิ้มอ่อนโยนที่คนใจร้ายเผลอแสดงออกมา
รอยยิ้มที่อ่อนโยนของยุนโฮหรอ???
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น