2554/07/09

[Fic]หมอ...llจิตll โดนแบนถาวรแล้วน้าTT

[Fic]หมอ...llจิตll  โดนแบนถาวรแล้วน้าTT






เสียดายมากเลยกับเวลาที่สะสมมา


คอมเม้นจาก..รีดเดอร์ที่เป้นกำลังใจ ต่อไปนี้
ไม่มีอีกแล้ว


เริ่มท้อและหมดแรงไปเองTT


บีผิดเองที่ไม่อ่านกติการบอร์ดให้ดีๆTT




ตอนนี้แจ้งเบื้องต้นไว้ก่อนนะคะ
แล้วบีจะเอามาลงใหม่ตั้งแต่พาสแรกเลยค่ะ


แต่ตอนนี้เพื่อไม่ให้เป็นการขาดตอน ตามไปอ่านได้ที่


http://groupbeekjw.blogspot.com/


นะคะ^^


ส่วนคนที่จองฟิคกับบีไว้ บีจะมาอัพเดทการเคลื่อนไหวเรื่อย ไม่ต้องกลัวนะคะ^^


ใครโอนเงินมาแล้ว ยังไม่ได้แจ้งบีบ้างคะ


เมลมาที่GroupBee09@Gmail.com
ด่วนเลยนะคะ!


--แบบฟอร์ม--


Username ที่ใช้ในบอร์ด :
ชื่อ -  นามสกุล :
ที่อยู่ :
เบอร์โทรติดต่อ :
จำนวนเงินที่โอน :
วัน/เวลาโอน :


---------------------------------------------


PS.รักรีดเดอร์ทุกคนค่ะ^^


GroupBee~

2554/07/05

[Fic] หมอ...llจิตll Part…30 กาแฟเป็นเหตุ

Title : [Fic] หมอ...llจิตll
Writer : GroupBee + KJW
Couple: YunJae , YooSu , MinRic
Genre : Drama , Erotic        
NC :  NC17+
Part…30 กาแฟเป็นเหตุ


จุนซูกระสับกระส่ายไปมาอย่างไม่เป็นสุข ร่างนุ่มนิ่มพลิกตัวไปมาด้วยความหงุดหงิดอาการนอนไม่หลับกำลังจะทำให้เขาประสาทกินจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว จุนซูผุดลุกผุดนั่งสักพักก็ทิ้งตัวนอน อีกครู่ก็ต้องลุกขึ้นมาอีก ใบหน้าน่ารักงอเง้าอย่างหงุดหงิด โมโห กระวนกระวาย

โอ๊ยยยย~ นี่เราเป็นอะไรไปเนี๊ยะ ทำไมมันรู้สึกแย่ขนาดนี้

มือเล็กกำหมัดหลวมๆเคาะบนศีรษะสวย อาการปวดหัวตุ้บๆแบบนี้ไม่ชอบเลยจริงๆ เสียงแกร๊ก ดังขึ้นเมื่อประตูห้องน้ำเปิดออก  คนตัวเล็กรีบทิ้งตัวลงนอน โดยไม่ลืมที่จะหยิบผ้าห่มผืนหนาคลุมทั่วทั้งร่าง โผล่ออกมาแค่ศีรษะเท่านั้น  คำพูดขู่ของพี่ยูชอนเมื่อเช้า ทำเอาจุนซูไม่สบายใจเอาเสียเลย แงๆๆ 
เค้ายังเจ็บแผลอยู่นะ หลับสักทีสิ คิม จุนซู คนตัวเล็กสั่งตัวเองในใจ ไม่ได้รู้เลยว่าท่าทางยุกยิกที่แสดงออกอยู่ขณะนี้ มันอยู่ในสายตาที่จ้องมองอย่างเป็นห่วงปนขำตลอดเวลา  ปาร์ค ยูชอนแกล้งเดินอ้อมไปแต่งตัวข้างเตียงที่นางฟ้าตัวน้อยนอนชิดจนแทบจะตกขอบเตียง  กลิ่นสบู่จางๆลอยมากระทบปลายจมูก จุนซูหรี่ตามองหาเจ้าของกลิ่นหอม มองไม่เห็นอะไรเลย เมื่อมองไม่ชัดในที่สุดก็ต้องเปิดเปลือกตาสีมุกขึ้นมาทั้งหมด  อย่างนี้ค่อยเห็นภาพชัดหน่อยจุนซูคลี่ยิ้มอย่างร่าเริง ก่อนจะรีบขดตัวเข้าไปหลบในผ้าห่มอีกหน เมื่อเห็นเป้าหมายที่ตนกำลังมองหา ยืนโชว์หุ่นอยู่ตรงหน้า เห็นแล้วอดที่จะใจสั่นไม่ได้ เรือนร่างที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันรอบเอวอย่างหมิ่นเหม่แบบนั้น อีกมือก็ถือผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดหัวที่เปียกชุ่มด้วยหยดน้ำ  >///<  
“จะหนีพี่ไปไหน...หืมมม~” เสียงทุ้มพูดพลางขืนผ้าห่มที่จุนซูกำไว้แน่น  จนกระทั่งผ้าเปิดออกมาจุนซูดันแผงอกกำยำที่เปลือยเปล่ามีหยาดน้ำเกาะพราวไปทั่วออกห่างเมื่อในที่สุดก็ถูกรวบเข้าไปในวงแขนกว้าง  ยกลำตัวคนตัวเล็กวางลงกับตักทีนี้ขยับดิ้นยังไงก็อย่าฝันว่าจะหลุด
 “ปล่อยจุนซูนะพี่ยูชอน...ไม่เอานะ...จุนซูง่วงมากเลยกำลังจะนอนแล้วนะฮะ” เสียงหวานพูดรัว เมื่อจมูกโด่งซุกซนไปทั่วลำคอขาว  แล้วไล่ขึ้นมาสูดกลิ่นหอมข้างแก้มใสคลอเคลียอยู่อย่างพึงพอใจ
“คนกำลังจะนอน ทำไมดูไม่งัวเงียเลยสักนิด นอนไม่หลับใช่มั้ยครับ” ยูชอนดักคออย่างรู้ทัน
ร่างนุ่มนิ่มในวงแขนอุ่นแสร้งทำเป็นหลับทั้งที่รู้สึกวูบวาบไปหมดแล้ว  ลมหายใจร้อนจัดของปาร์ค ยูชอน มันทำเอาคนน่ารักเกร็งนิ่งอย่างทำอะไรไม่ถูก ท่าทางแบบนี้น่าแกล้งชะมัด ยูชอนไล่ปลดกระดุมชุดนอนลายโปเกมอนออกจากเรือนร่างที่ทำเป็นหลับตัวแข็งทื่อจนเกือบครบทุกเม็ด ดูท่า.. คนแกล้งง่วงจะทนต่อไปไม่ไหว ถึงได้ลุกมาโวยวายเสียยกใหญ่เล่นเอาคนขี้แกล้งหัวเราะอย่างขบขัน เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างอารมณ์ดี
 “อ้าว...ไหนว่าง่วงแล้วไงครับ...ลุกขึ้นมาทำไมล่ะ...หืมม~” ไม่พูดเปล่า ยังมีแก่ใจหอมแรงๆที่ข้างแก้มใสฟอดใหญ่
“ก็...ก็...ก็” เสียงหวานตะกุกตะกักอย่างจนมุม ไม่รู้จะแก้ตัวยังไง
“ก็อะไรครับ” ยูชอนถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์  จุนซูมองคนใจร้ายที่คาดคั้นกันไม่หยุดอย่างเริ่มนึกเคือง ออกแรงดิ้นด้วยกำลังที่มีทั้งหมด แต่ก็ยังไม่หลุดจากอ้อมกอดที่แน่นหนานี้ได้  ยูชอนก็ยังคงยิ้มอย่างเอ็นดูคนที่พลาดท่าเสียทีให้กับเขา แล้วยังมาทำโกรธกันอีก
“ปะ ปล่ อื้อออ~~~” เสียงประท้วงถูกปิดด้วยริมฝีปากอิ่ม มือหนาที่โอบรัดอยู่รอบเอวนิ่มเริ่มเลื้อยไปทั่วเรือนร่างนุ่มลื่นมือ  ก่อนจับที่ท้ายทอยคนตัวเล็กเพื่อประทับรอยจุมพิตให้ล้ำลึกขึ้น เล่นเอาจุนซูหมดแรงเอาซะดื้อๆ ลิ้นหนาลากผ่านความเปียกชื้น ไปทั่วช่องปาก ดูดด่ำกับน้ำหวานภายในอย่างถูกใจแทบไม่อยากให้เหลือสักหยด ลิ้นเล็กถูกดูดเลีย จนไร้ทางหนี ตวัดเกี่ยวพันกันอย่างไม่มีใครยอมใคร  จนกระทั่งยูชอนรู้สึกเหมือนจุนซูจะขาดอากาศหายใจเขาจึงค่อยๆถอนริมฝีปากอิ่มของตนเองออกมาอย่างอ้อยอิ่ง  ใบหน้าน่ารักแดงก่ำไม่รู้เป็นเพราะว่า กำลัง “โกรธ” หรือ “เขินจัด” กันแน่  จุนซูหอบแฮ่กๆ รู้สึกเหมือนถูกดูดกลืนไปทั้งตัว  เงยหน้ามองพี่ยูชอนอย่างเอาเรื่องแต่พอเห็นสายตากรุ้มกริ่มที่ส่งตอบมาทำเอาหลบสายตาคมแทบไม่ทันได้แต่ก้มหน้างุดบ่นอุบอิบอยู่กับอก
 “จุนซูพูดอะไรนะครับ” ยูชอนแกล้งพูดชิดกกหูนิ่ม ลมหายใจร้อนเป่าเข้าไปเบาๆในรูหูทำเอาจุนซูขนลุกขู่อย่างบอกไม่ถูก หันหน้าหนีความรู้สึกแปลกๆพัลวัน  มือเล็กดันใบหน้าที่ยังไม่หยุดคลอเคลียพวงแก้มสีระเรื่อ หอมแล้วหอมอีกจนแก้มเขาจะช้ำหมดแล้ว
“คราวหน้าจะมอร์นิ่งคิสพี่ขอแบบเมื่อกี้นะครับ” ยูชอนพูดนัยน์ตาแพรวพราว เล่นเอาคนถูกจ้องวางสีหน้าไม่ถูก คิดผิดจริงๆที่หันมาสบดวงตาคู่นั้น
“อย่าฮะพี่ยูชอน...พอได้แล้ว...ไม่เอา อย่าทำรอยสิฮะ” เสียงหวานประท้วงอีกครั้ง เมื่อถูกขบงับตรงซอกคอขาว ดูเหมือนว่าคำประท้วงจะได้ผล  เมื่อยูชอนละความสนใจที่ซอกคอขาวผ่องน่าสัมผัส แต่.. ส่วนอื่นนอกจากนั้นมันอยู่เหนือข้อตกลง ดังนั้นในทุกที่ที่ริมฝีปากอิ่มลากผ่านจะปรากฏรอยรักสีหวาน ประทับตราจองไว้ทั้งหมด
“พี่ยูชอนขี้โกง...ปล่อยจุนซูนะ” คนตัวเล็กยังไม่หยุดดิ้นขลุกขลัก เช่นเดียวกับที่พี่ยูชอนของเขาที่ยังไม่ยอมหยุดสำรวจเรือนร่างอวบอิ่ม  อะไรบางอย่างพองๆที่ดันแถวๆก้นทำเอาคิม จุนซู หยุดดิ้นนั่งตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับ  รู้สึกถึงสัญญาณอันตรายบางอย่างต่อร่างกายตัวเอง  มือหนาปลดเปลื้องชุดนอนที่อยู่ในสภาพหลุดลุ่ยของจุนซูให้พ้นทาง  เรือนร่างขาวผุดผาด ประทับรอยตีตราสีกุหลาบปรากฏขึ้นแก่สายตา  ยูชอนค่อยๆดันคนตัวเล็กนอนราบกับที่นอนนุ่มแล้วตามคร่อมทับอยู่ด้านบนแววตาเจ้าชู้สำรวจไปทั่วร่างอวบอิ่มอย่างหลงใหล
 “อย่ามองนะ” จุนซูเอ่ยใบหน้าแดงก่ำ
“มองภรรยาตัวเองนี่ผิดด้วยเหรอครับ...คนดี...รู้มั้ยว่าจุนซูของพี่ น่ามอง.. แค่ไหน”
“อ๊ะ พี่ยูชอน ไม่เอานะ จุนซูยังเจ็บ...” เรียวขาคู่งามหุบเข้าหากันทันที  ที่ฝ่ามืออุ่นๆลูบไล้บริเวณปลีน่อง ก่อนฉวยโอกาสเข้าไปในส่วนที่ลึกกว่านั้น
“ไหนขอพี่ดูหน่อยสิครับ เจ็บตรงนี้ใช่มั้ย?” ยูชอนพูดอย่างห่วงใย พร้อมสำรวจความบอบช้ำของภรรยาตัวน้อย เขาวางเท้าของจุนซูพาดกับบ่า  ก้มลงตรวจตราก่อนจะค่อยๆวางปลายเท้าทั้งสองข้างลงกับเตียงอย่างทะนุถนอม  ใบหน้าหล่อเหลาระบายยิ้มอย่างให้กำลังใจ แล้วขยับลุกขึ้นไปหยิบยามาทาให้ด้วยความอ่อนโยน  สะโพกกลมได้รูปขยับหนีเมื่อรู้สึกเจ็บแปลบปนเย็นซ่าทั่วช่องทางรักด้านหลัง คงจะไม่ใช่แค่ทายาให้แล้วมั้ง เมื่อรู้สึกได้ถึงสิ่งแปลกปลอมที่แหวกเข้ามาทีละนิ้ว แช่คาไว้ให้ภายในคุ้นชินกับมันก่อนคว้านสะกิดตุ่มไตภายในเล่นอย่างเมามัน
“ใช่ตรงนี้หรือเปล่าครับ” ยูชอนแกล้งถามคนน่ารักที่กัดริมฝีปากตัวเองแน่นอย่างควบคุมความรู้สึกเร่าร้อนภายใน
“อ่ะอ่า~~~” จุนซูหลุดส่งเสียงครางแหบพร่า 
เมื่อยูชอนสะกิดไปถูกตรงจุดกระสัน ร่างเล็กบิดเร่าอย่างเสียวซ่านยิ่งเห็นคนใต้ร่างเตลิดเปิดเปิงไปอย่างควบคุมตัวเองไม่อยู่ยูชอนก็ยิ่งได้ใจ เสียงครางหวานหูของจุนซูมันทำให้เขาเกือบเผลอมอบความล้ำลึกกับคนตัวเล็กอย่างรุนแรงไปเสียแล้ว  ลิ้นสากไล่เลียไปทั่วไอศกรีมโคนแท่งยาวตรงกลางลำตัวของภรรยาตัวน้อย ดูดเม้มหนักหน่วงจนจุนซูต้องยกสะโพกขึ้นร่อนส่ายไปมาอย่างพยายามระงับอารมณ์วาบหวามที่ได้รับ   ยูชอนฉวยโอกาสที่คนตัวเล็กกำลังเผลอไผลไปกับรสสัมผัสแทรกความเป็นชายของตนซึ่งคับแน่นจนแทบระเบิด เข้าไปแทนที่นิ้วแข็งแรงที่ทำหน้าที่ขยายช่องรักจนน่าจะพร้อมรับมันเข้าไปได้สักที
“อ๊ะ...มันเจ็บนะ...พะ...อื้อออ~” เสียงประท้วงขาดตอนไปอีกครั้ง เมื่อกลีบปากบางถูกช่วงชิงความหวานอีกครั้ง มือหนาก็ขยี้เบาๆที่เม็ดทับทิมสีสวยที่ประดับยอดอก ความเจ็บในคราแรกเริ่มเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่านในรสสัมผัส จุนซูแอ่นกายเบียดชิดหน้าอกแกร่ง สะโพกสวยเด้งรับกับจังหวะเสียดสี มือไม้เกร็งจิกข่วนเป็นทางทั่วแผ่นหลังกว้าง จนผิวหนังขาวเต็มไปด้วยรอยเลือดซิบเบาบางพอให้ได้รู้สึกแสบ แต่ไม่ได้สร้างความเจ็บปวดอะไรมากมายกับยูชอนซ้ำยังทำให้รู้สึกพึงพอใจเสียมากกว่า
ยูชอนยกสะโพกกลมมนของภรรยาตัวน้อยของเขาขึ้นเพื่อความ”ล้ำลึก” ยิ่งกว่า  ก่อนขยับสะโพกหนาเข้าไปจนสุดแล้วดันออกเป็นจังหวะและหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆตามอุณหภูมิภายในร่างกายที่ร้อนระอุ  จุนซูขยับสะโพกตอบรับอย่างห้ามไม่อยู่ เสียงแหบต่ำกระซิบที่กกหูนิ่มของภรรยาตัวน้อย ก่อนกัดเล่นที่ติ่งหูอย่างหยอกเอิน
 “พี่ยูชอน รักจุนซูนะครับ” ก่อนสวนกายเข้าออก อีกครั้ง เป็นจังหวะถี่จัด
“พะ...พี่...ยะ...ยูชอนน...อ่า~~~” เสียงหวานครางออกมาอย่างสุขสมเมื่อถึงจุดสิ้นสุด จุนซูรู้สึกอุ่นวาบไปทั่วช่องทางด้านหลัง เมื่อของเหลวอุ่นๆของพี่ยูชอนถ่ายเทเข้ามาภายในโพรงอ่อนนุ่มของตน  ยูชอนถอนกายออกมาก่อนรั้งคนตัวนิ่มเข้ามานอนกอดอย่างแสนรัก

เสียงกรนเบาๆอย่างคนหลับลึก สร้างความรำคาญใจแก่อีกคนที่ยังนอนลืมตาโพลงอยู่ในความมืดไม่น้อย
“พี่ยูชอนบ้า บ้า บ้า บ้าที่สุดเลย ฮึ่มม..” ไหนบอกว่าจะทำโทษและจะเป็นคนช่วยให้นอนหลับไงล่ะ ใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายหลับยิ่งมองก็ยิ่งสร้างความขุ่นเคืองใจ  จุนซูเริ่มพาลด้วยความหงุดหงิด เขาแกะมือที่เกี่ยวรัดรอบเอวอิ่มออกก่อนจะยันกายลุกขึ้นไปหยิบเสื้อคลุมตัวยาวมาสวมปกคลุมเรือนร่าง เดินออกไปยืนผ่อนคลายอารมณ์หน้าระเบียงห้อง สายลมพัดแรงๆผ่านผิวเนื้อขาวละเอียดจนจุนซูรู้สึกหนาวขึ้นมานิดๆ  มือเล็กกระชับเสื้อเข้ามาแนบอก บรรยากาศตรงหน้าดูวังเวง อาจเป็นเพราะยังอยู่ในช่วงราตรีที่ยาวไกล ไม่รู้เพราะอะไร เวลาที่เหมือนอยู่กับตัวเองแบบนี้มันทำให้จุนซูเหงาจับใจ คิดถึงพ่อกับแม่ที่ไม่ได้เจอกันเนิ่นนาน

อีกแล้ว
นี่เขาร้องไห้อีกแล้ว ใช่มั้ย?
ทำไม ตอนนี้เขาถึงได้เหงาแบบนี้นะ

สัมผัสอบอุ่นที่แนบชิดบริเวณแผ่นหลัง ทำเอาคนที่เหม่อลอยสะดุ้งโหยงอย่างตกใจ คนตัวเล็กอึ้งไปเพียงชั่วครู่ก่อนเอนกายผิงอ้อมกอดที่คุ้นเคย...อ้อมกอดของพี่ยูชอน
“ตัวเย็นหมดแล้วนางฟ้าของพี่ เขาไปข้างในกันเถอะนะ” ยูชอนพูดพลางหอมเบาๆที่ข้างแก้ม แต่ความรู้สึกเปียกชื้นบริเวณพวงแก้มใสของจุนซู ทำเอาคนที่คิดจะเอาเปรียบถึงกับชะงัก ก่อนหันร่างนุ่มนิ่มในวงแขนมาเผชิญหน้า  ใบหน้าหวานที่เปียกฉ่ำไปด้วยน้ำตาทำเอาคนขี้แกล้งถึงกับทำอะไรไม่ถูก เอามือเกลี่ยหยดน้ำตาที่เกาะแพขนตาของคนตัวเล็กออกอย่างแผ่วเบา  กริยาที่เต็มเปี่ยมด้วยความห่วงใยของยูชอนทำเอาจุนซูผวาตัวเข้าสู่อ้อมแขนที่เตรียมพร้อมรับร่างนิ่มอยู่แล้ว อย่างแน่นหนา มือใหญ่ลูบหลังคนตัวเล็กอย่างปลอบโยน เสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยความวิตก
 “ร้องไห้ทำไมครับนางฟ้าน้อยของพี่...หรือว่า เพราะพี่ทำให้จุนซูต้องเจ็บ...พี่ขอโทษนะครับ”ยูชอนกล่าวอย่างอ่อนโยน หัวเล็กส่ายไปมาเชิงปฏิเสธแต่ยังไม่วายหยุดสะอึกสะอื้น  ยูชอนลูบหัวเด็กขี้แยเบาๆ ก่อนดันคนที่กอดรัดตัวเองแน่นหนามาสบตาหวานซึ้งที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาใส  ส่งนิ้วมือลูบเช็ดมันออกมาแล้วประสานสายตากับคนตรงหน้า
“บอกพี่ยูชอนสิครับว่าจุนซูเป็นอะไร...ดูสิตาบวมเป็นตาปลาทองแล้ว หยุดร้องไห้ได้แล้วนะครับ”
เสียงแหบปนสะอื้นพูดออกมาอย่างยากเย็น “ ไม่ได้เป็นอะไร...ฮึกกก...หรอกฮะ...เพียงแค่ จุน ฮืกกก จุนซูคิดถึงพ่อ กับแม่ ไม่ได้เจอกันมานาน อยู่ๆ จุนซูก็รู้สึกเหงา เหมือนตอนที่อยู่คนเดียวที่บ้านเลยฮะ...พี่ยูชอนก็หลับ ฮึกกก ไม่เห็นอยู่เป็นเพื่อนจุนซูเลย ฮื่ออ~
“โอ๋ ๆๆๆ พี่ขอโทษนะครับ พี่ผิดเองจริงๆ” ฝ่ามือใหญ่กระชับข้อมือของจุนซูขึ้นมาตีที่ใบหน้าหล่อของตัวเอง
“จะทำอะไรฮะ...พี่ยูชอน!” โลมาน้อยเอ่ยเสียงสูงอย่างตกใจ เมื่อมือของเขาตบลงที่ใบหน้าพี่ยูชอนอย่างรุนแรง จนปรากฎเป็นรอยแดงจางๆ จนต้องรีบชักมือตัวเองออกจากการจับกุม เขาไม่ได้อยากให้พี่ยูชอนทำร้ายตัวเองแบบนี้สักหน่อย
“ก็ลงโทษตัวเองไงครับ...พี่ทำให้คนที่พี่รักที่สุดเสียใจ พี่รู้สึกผิดจริงๆ ครับ” จุนซูเอื้อมมือไปสัมผัสตรงบริเวณที่ขึ้นรอยนิ้วมือแผ่วเบาก่อนเขย่งตัวขึ้นพ่นลมที่ปาก เป่าเบาๆ บริเวณโหนกแก้มที่ขึ้นรอยสีแดงจัด
“ฟู่ว์~~~ ไม่เจ็บแล้วนะฮะ อุ๊บบบ….” กริยาน่ารักนั่นมันทำให้ยูชอนอดใจไม่ไหวจนต้องประทับริมฝีปากอิ่มบดเบียดกลีบปากสีชมพูสดอย่างหลงใหล มันทั้งอ่อนโยนและอบอุ่นในคราเดียวกัน กว่าคนตัวใหญ่จะยอมถอนริมฝีปากบาง ก็เนิ่นนานเสียจนจุนซูแทบขาดอากาศหายใจ เขารีบจับข้อมือใหญ่อย่างตกใจเมื่อมันกำลังประทุษร้ายเชือกเส้นบางที่มัดอยู่ที่เอวอิ่ม แค่กระตุกเบาๆทีเดียว เรือนร่างที่ยูชอนประทับรอยรักสีหวานก็ปรากฏแก่สายตา...อีกครั้ง
“อย่าฮะ...พี่ยูชอน...ตอนนี้จุนซู ง่วงงจริงๆนะฮะ” จุนซูประท้วงพร้อมเบือนหน้าหลบจมูกโด่งที่ซุกไซร้ไปทั่วดวงหน้าและเลื่อนต่ำลงมาหยุดที่ซอกคอ ยิ่งเสื้อคลุมของเขาถูกกระตุกเชือกออกไปแล้ว ทำให้ยูชอนรุกรานเรือนกายนุ่มนิ่มได้อย่างถนัด มือไม้บีบเค้นก้นกลมสวยพอดีมืออย่างถูกใจ  เสื้อที่เคลื่อนต่ำลงมาละไหล่ลาดเนียนไม่ได้สร้างความลำบากหรือเกะกะ จมูกซุกซนของปาร์ค ยูชอนสักนิด กลับทำให้จุนซูดูงดงาม เย้ายวนยิ่งกว่าเก่า
“อ๊ะ...อ่า...อืมมม~” เสียงครางหวานหูดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อโดนระรานตรงกลางลำตัว ฝ่ามืออุ่นปลุกเร้าจนมันเกิดความต้องการขึ้นอีกหน สะโพกมนขยับสอดรับกับจังหวะรูดคลึงของคนชักนำ ยิ่งทำให้ยูชอนได้ใจ มือที่กอบกุมเร่งจังหวะเสียดสีจนของเหลวเหนียวข้นถูกปล่อยออกมาเต็มไปหมด จุนซูพิงซบกับแผงอกแกร่งอย่างหมดแรง  ตอนนี้เขาเริ่มจะเพลียแล้วจริงๆ เสียงหวานแหบพร่าเอ่ยเบาๆจนแทบจะเป็นเพียงเสียงกระซิบ
“อุ้มจุนซู ไปนอนทีได้มั้ยฮะ...พี่ยูชอน...จุนซูเดินไม่ไหวแล้วฮะ”ยูชอนส่งยิ้มกรุ่มกริ่มแววตาฉายแววเจ้าเล่ห์จัด
“ได้สิครับ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ” บอกว่าได้แต่ไหงยังคลอเคลียบริเวณแผ่นหลังขาวไม่เลิก ริมฝีปากอิ่มพรมจูบไปทั่ว สร้างรอยรักสีกุหลาบทั่วไปหมด มันทั้งจั๊กจี้ปนเสียวซ่านระคนกันไปในรสรักที่พี่ยูชอนหยิบยื่นให้ไม่หยุด อยากจะรู้นักว่ายังมีส่วนไหนรอดพ้นการตีตราของคนตัวใหญ่บ้าง...สงสัยว่าจะไม่มี  จุนซูดันตัวเองจนหันมาประชันหน้ากับคนเจ้าเล่ห์ ก่อนส่งมือไปปิดริมฝีปากช่างเอาเปรียบของพี่ยูชอนแต่ก็ยังไม่วายถูกระดมจูบทีละนิ้วๆจนคนตัวเล็กรีบชักมือออกจากการกอบกุมด้วยความเขินจัด ใบหน้าแดงซ่านทำอะไรไม่ถูก
“พะ พอแล้วฮะ พี่ยอนชอนอ่า ไม่เล่นแล้วนะ”
“แล้วใครบอกว่าพี่เล่นล่ะครับ หืมม~ “จุนซูเงยหน้าขึ้นมาสบสายตาคมอย่างหวาดหวั่น รู้สึกไม่ปลอดภัยซะจริง นึกเคืองตัวเองเหลือเกิน ทำไมไม่ง่วงจริงๆซักที มือเล็กดันที่หน้าอกแข็งแรงที่ปิดทางหนีของตัวเองไปซะหมด แต่แรงอันน้อยนิดของจุนซูไม่ได้ทำให้กำแพงมนุษย์ที่ขวางทางอยู่นั้นขยับสักนิด คนตัวเล็กจิ๊ปากอย่างอย่างไม่สบอารมณ์ เริ่มเกิดความหงุดหงิดที่ถูกขัดใจ  ยิ่งเห็นใบหน้าของคนที่ตัวเองรักส่งยิ้มมาให้อย่างทะเล้นมันยิ่งทำให้เดือดปุดๆเข้าไปใหญ่
“ถอยไปนะพี่ยูชอน ไม่งั้นจะมาว่าจุนซูไม่เกรงใจไม่ได้นะ” เสียงดุหง่าวๆในแบบคิม จุนซู ดูยังไงก็น่ารักในสายตายูชอนเหลือเกิน ยูชอนเพียงแต่ยักไหล่แบบกวนๆ แล้วถอยหลังเปิดทางให้คนขี้หงุดหงิด
จุนซูมองอย่างไม่แน่ใจแต่ก็คิดว่าเป็นไงเป็นกัน ร่างเล็กรีบก้าวเท้าเดินเข้าไปในห้องนอนทันที แต่ยังไม่ทันจะก้าวข้ามเขตระเบียงหน้าห้องได้นั้น ร่างนิ่มก็ถูกรวบทีเดียวตัวปลิวเข้ามาตกอยู่ในวงแขนอบอุ่น จุนซูดิ้นรนสุดกำลังน้อยๆของเขา ส่งเสียงร้องโวยวายไม่หยุด
“พี่ยูชอน!!!!!
“ว่าไงครับ คนดี”
“ปล่อยสิฮะ จุนซูง่วงแล้วนะฮะ”
“ครับ”
“ครับ แล้วก็ปล่อยสิฮะ นะฮะ” เสียงอ้อนๆของจุนซูในเวลาแบบนี้คงไม่ได้ผล เมื่อจมูกซุนซนยังวนเวียนแถวซอกคอหอมกรุ่นของเขาอย่างติดใจ ในเมื่อไม่รู้จะทำยังไงให้หลุดพ้นการคนเจ้าเล่ห์ ร่างเล็กที่ดิ้นขลุกขลักจู่ๆก็ทิ้งตัวซบกับแผงอกกำยำ แกล้งหลับคาวงแขนแข็งแรงที่เกี่ยวพันรอบลำตัวอวบอิ่มของเขาอยู่ไปเลย เปลือกตาสีมุกปิดแน่นทำเป็นหลับ ดูไม่สมจริงเอาเสียเลย เล่นหลับตาปี๋ขนาดนั้นมองยังไงก็ดูออกว่ากำลังแกล้งหลับ มีอย่างที่ไหนดิ้นๆอยู่ดีๆก็หลับซะอย่างนั้น ยูชอนเปล่งเสียงหัวเราะในลำคออย่างรู้ทัน ก้มหน้าลงกระซิบแผ่วเบา
“หลับจริงหรือเปล่าเนี๊ยะ” ฝ่ามืออุ่นอ้อมไปปลุกเร้ากลางลำตัวของคนขี้เซา เขารูดเค้นเสียจนคนแกล้งหลับส่งเสียงออกมาอย่างควบคุมตัวเองไม่อยู่
“อ๊ะ อืออ~~อออ…..”ยูชอนหัวเราะน้อยๆก่อน งับเบาๆที่กกหูนุ่มของจุนซู เสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกมากระเซ้าอย่างเอ็นดู
“งั้น ตอนนี้ก็ “ตื่น” แล้วใช่มั้ยครับ” จุนซูส่งค้อนวงใหญ่ให้พี่ยูชอนอย่างขุ่นเคือง เสียงหวานไม่วายประท้วงแก้ตัวน้ำขุ่นๆ
                “ก็พี่ยูชอนมาปลุกจุนซูทำไมล่ะครับ จุนซูตื่นเพราะพี่นั่นแหละ”
“เหรอครับ แล้วจะให้พี่ทำต่อหรือเปล่า” ยูชอนส่งยิ้มให้แบบเป็นต่อ ในเมื่อท่อนเนื้อนิ่มของคนตัวเล็กขยายซะจนเต็มมือเขาไปหมด  ทั้งที่เมื่อครู่พึ่งปลดปล่อยไปแท้ๆ 
“คนขี้แกล้ง” เสียงหวานใสบ่นอุบอิบอยู่เบาๆ พยายามซ่อนใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อจากแรงอารมณ์  ยูชอนก้มลงกระซิบข้างหูภรรยาตัวน้อยของเขา
“ใช่ครับ.. พี่ชอบแกล้ง แต่พี่แกล้งเฉพาะคนที่เป็น “ที่รัก” ของพี่เท่านั้น แล้วจุนซูอยากรู้มั้ยว่า “ที่รัก” ของพี่เป็นใคร “
“ไม่เห็นจะอยากรู้เลย” จุนซูบอกปัดไปอย่างนั้น แต่หัวใจกลับเต้นรัวราวกับวิ่งรอบสนามเป็นสิบๆรอบ ยูชอนฉกชิงความหวานที่กลีบปากสีชมพูแสนสวยนั่นอีกครั้ง ปลายลิ้นนุ่มค่อยๆรุกล้ำเข้าไปเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กที่ตอบสนองอย่างเก้ๆกังๆด้วยความไม่เป็นประสีประสาอย่างอ่อนละมุน น้ำหวานใสภายในถูกดูดด่ำราวกับน้ำผึ้งเดือนห้า หวานหอมชวนลุ่มหลง จุนซูจะรู้มั้ยว่าความน่ารักของตัวเอง กำลังผูกมัดหัวใจของยูชอนจนอยู่หมัด ยูชอนละริมฝีปากอิ่มออกมาเพื่อให้เวลาคนตัวเล็กได้หายใจเข้าไปบ้าง
“พี่บอกไปแล้ว ทีนี้ รู้หรือยังครับ ….ที่รัก” เสียงทุ้มพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มประดับบนใบหน้า
สายตาคมที่มองมาจริงจังยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ทำเอาคนเป็น “ที่รัก” หลบตาพัลวัน  ก่อนจะถูกมือใหญ่เชยคางมนขึ้นมาจุมพิตที่กลีบปากอ่อนนุ่มอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เพียงมีแต่ความนุ่มนวล มันยังแฝงไปด้วยรสสัมผัสเร่าร้อนเพิ่มขึ้นมาเป็นลำดับ  ฝ่ามือหนาเริ่มปฎิบัติตามหน้าที่ของมันไม่ขาดตกบกพร่อง ขย้ำขยี้ก้นกลมกลึงขนาดพอดีมืออย่างติดใจ ก่อนแทรกนิ้วผ่านเข้าไปรุกล้ำช่องรักด้านหลังทีละนิ้วๆอย่างใจเย็น  ร่างเล็กสะดุ้งเพียงเล็กน้อยอย่างตกใจที่จู่ๆสิ่งแปลกปลอมก็ล่วงล้ำเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่เพียงชั่วครู่ก็ร่อนสะโพกมนเข้าหาสัมผัสที่ได้รับ
ทำเอาจุนซูส่งเสียงครางไม่เป็นภาษา  ยิ่งริมฝีปากอิ่มหยอกเย้ากับเม็ดทับทิมสีหวานที่ประดับยอดอก ละเลงลิ้นเปียกชุ่มไปทั่วฐานอกสวย แล้วขบงับเบาๆพอสร้างความรัญจวนใจแก่คนตัวเล็ก  ทำเอามือน้อยที่คอยกั้นท่าไม่ให้คนตัวใหญ่เข้ามารังแกตัวเองได้ กลับเปลี่ยนเป็นโอบล้อมลำคอแกร่งของคนตัวใหญ่ซะเอง เหมือนกับว่าเรี่ยวแรงเขาหายไปไหนหมดไม่รู้ ยังดีที่ฝ่ามือหนาโอบรัดรอบเอวอิ่มของตัวเองอยู่ ไม่อย่างนั้นจุนซูคงจะล้มไปแล้วแน่ๆ เขารู้สีกหมดแรงจริงๆ  ยูชอนคว้าร่างอ่อนระทวยของคนตัวเล็กพิงกับระเบียงหน้าห้องแล้วจับมือสวยให้กำที่ขอบโลหะสีเงินตรงราวระเบียง  การเปลี่ยนท่าทางกะทันหันของยูชอนทำเอาจุนซูตกใจไม่น้อย เสียงแหบพร่าเอ่ยถามอย่างแปลกใจระคนสังหรณ์ใจอะไรบางอย่าง
 “จะทำอะไรอีก พะ พี่ ยูชอน อือ~ออออ….พะ พอแล้วฮะ”
ชายหนุ่มสูดกลิ่นหอมอย่างหลงใหลตรงซอกคอ ก่อนตอบคำถามจุนซูด้วยการกระทำ ยูชอนค่อยๆแทรกความเป็นชายที่ตื่นตัวเต็มที่ของตัวเองเข้าไปอย่างรวดเร็วไม่รีรอให้คนตัวเล็กได้มีโอกาสประท้วง  แช่คาท่อนเนื้อแข็งขืนไว้เพื่อให้โพรงอ่อนนุ่มคุ้นชิน ภายในช่องทางเล็กแผ่ซ่านความร้อนระอุด้านใน สัมผัสกับส่วนที่เชื่อมประสานร่างกายกันอยู่ ผนังเนื้อตอดรัดตุ๊บๆ จนยูชอนแทบจะระเบิดอารมณ์ออกมาด้วยความคลั่ง  เลือดในกายของชายหนุ่มมันสูบฉีดจนหัวใจเต้นระส่ำระส่ายไม่เป็นจังหวะ แต่เขาต้องอดทนไว้ก่อน เกรงว่าถ้ารีบร้อนเกินไปอาจทำให้จุนซูไม่พร้อม แม้แรงบีบรัดภายในนั้นช่องทางคับแคบจะร่ำร้องรุนแรงให้เขาเริ่มต้นสักที ร่างกายเริ่มประท้วงด้วยการปวดหนึบๆตั้งแต่ท้องน้อยลงมาถึงส่วนที่เชื่อมประสานจนติดกันเป็นเนื้อเดียว แต่เพื่อจุนซูเขาทนได้ ใบหน้าหล่อก้มลงกระซิบเสียงพร่าด้วยไฟปรารถนา
“พี่ไม่ลืมคำพูดตัวเองเมื่อเช้าหรอกนะและเมื่อกี้พี่ก็ไม่ได้หลับด้วย”
“พี่ยูชอน” จุนซูอุทานเสียงสูง 

เสียรู้คนเจ้าเล่ห์จนได้

“อย่าฮะ...เดี๋ยวมีคนเห็น” จุนซูประท้วงอีกหน ดวงตาเล็กสอดส่องไปรอบสารทิศ จริงอยู่ที่คืนนี้เป็นคืนเดือนหงาย แม้แต่แสงดาวที่ส่องระยิบระยับประดับท้องฟ้า ยังมองไม่เห็น นับประสาอะไรกับเขาทั้งคู่ ที่อยู่เหนือขึ้นมาชั้นบน แถมหน้าระเบียงห้องพี่ยูชอนยังมีต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาบดบังเรือนร่างพวกเขาอยู่ ถ้ามีใครอุตริเดินมายามวิกาลแบบนี้ ก็คงมองเห็นเพียงเงาตะคุ่มๆเท่านั้น แต่ถึงยังไงมันก็ยังน่าอายอยู่ดี
สะโพกหนาเริ่มขยับสวนกายเข้าหาร่างนุ่มนิ่มอย่างหลงใหล ไม่สนท่าทีเชิงประท้วงของคนตัวเล็ก มือหนาช่วยช้อนประคองเอวอิ่ม ไว้ด้วยแรงกอดรัดแน่นหนา ยังไงก็ไม่มีท่าหลุดมือเข้าลงไปข้างล่างได้แน่ มืออีกข้างก็ไม่หยุดลูบไล้ผิวเนื้อเนียนลื่นมือ อย่างไม่รู้เบื่อ
“ไม่มีใครเห็นหรอกครับ มืดออกอย่างนี้ อืมมม~” เสียงทุ้มสั่นพร่า พูดปลอบใจคนช่างคิดมาก ก่อนสวนกายเข้าไปแรงขึ้น เรื่อยๆ
 พี่ยูชอนบ้า  เจ้าเล่ห์ไม่มีใครเกิน
ในที่สุดจุนซูก็ต้องปล่อยให้อะไรมันดำเนินต่อไป ตอนนี้เขาไม่สามารถรับรู้อะไรได้อีกแล้ว นอกจากปล่อยตัวปล่อยใจไปตามการนำพาของพี่ยูชอน เสียงคนทั้งคู่ประสานรับกันแข่งกับเสียงแมลงที่ขับขานท่วงทำนองยามค่ำคืน  ยูชอนกอดรัดร่างเล็กแนบแน่น กัดเบาๆที่แผ่นหลังสวย เสียงครางหวานหูดังขึ้นเมื่อตัวเองใกล้จะถึงจุดปลดปล่อย
“อ่ะ..อาาาา~~ อีกนิดนะ...จุนซู...ไปพร้อมกับพี่นะครับ”
“อือ~ออออ...จะ...จุนซู...จะไม่ไหวแล้วฮะ...อื้อออเร็วอีกนิดได้มั้ย...พี่ยู...ชอนน”
ยูชอนเร่งจังหวะสวนกายเสียดสีช่องทางเชื่อมโยงเขากับจุนซูอย่างหนักหน่วง เขาอยากให้จุนซูกับเขาไปถึงจุดสุดท้ายพร้อมๆกัน ในที่สุดของเหลวอุ่นจัดก็พวยพุ่งเข้าไปในช่องทางเล็กจนหมด จุนซูทิ้งกายเอนหลังพิงอกแกร่งอย่างอ่อนแรง ยูชอนอุ้มร่างระทดระทวยไว้ในวงแขน เสียงทุ้มเย้าแหย่อย่างอารมณ์ดี
“ต่ออีกสักรอบดีมั้ยครับ ที่รัก”
จุนซูทำตาเหลือกขึ้นอย่างตกใจ ก่อนส่ายหัวพรืดจนผมเผ้าพันกันยุ่งเหยิงไปหมด เรียกเสียงหัวเราะจากยูชอนไม่หยุด ขาเรียวยาวก้าวผ่านประตูระเบียงเข้ามาในห้องกว้าง รอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ที่จุนซูเคยชื่นชม ตอนนี้กลับทำให้เกิดเสียวสันหลังวาบ ทันทีที่แผ่นหลังสัมผัสเตียงนุ่ม ร่างเล็กก็รีบกระโจนเข้าใส่ผ้าห่มผืนหนาหมายจะซ่อนตัวในนั้น
แต่ทว่า ดัน ช้ากว่าคนเจ้าเล่ห์ที่โน้มตัวลงมานอนคร่อมเรือนร่างเปลือยเปล่าของตน  ใบหน้าหล่อเลื่อนต่ำลงมาจนใกล้จะถึงกลีบปากสวย จุนซูหลับตาปี๋อย่างหวาดๆ สัมผัสเย็นๆที่หน้าขาจนกระทั่งส่วนกลางลำตัวทำเอา เปลือกตาที่ปิดสนิทเปิดขึ้น ภาพที่เห็นทำเอาจุนซูถึงกับพูดไม่ออก ยูชอนยิ้มให้อย่างใจดี
“คิดว่าพี่จะทำอะไรจุนซูครับ?” เสียงทุ้มถามขึ้นมาเมื่อเห็นจุนซูมองหน้าเขาอย่างงงๆ มือใหญ่สาละวนเช็ดทำความสะอาดส่วนที่เปรอะเปื้อนทุกซอกทุกมุมจนหมดจด ก่อนหยิบชุดนอนของตัวเอามาสวมใส่ให้อย่างเอาใจ มือหนาลูบผมคนน่ารักเบาๆ เอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยน
“นอนนะครับ นางฟ้าน้อยของพี่ พี่จะจับมือจุนซูไว้อย่างนี้ ต่อไปนี้จุนซูไม่ต้องเหงาอีกแล้วนะ จุนซูจะมีพี่ยูชอนอยู่เคียงข้างเสมอนะครับ”จุนซูน้ำตารื้น รู้สึกตื้นตันใจที่พี่ยูชอนค่อยใส่ใจตัวเองเสมอ เขาซาบซึ้งใจเหลือเกิน นิ้วมือของยูชอนส่งมาเกลี่ยน้ำตาใสที่หางตา
“ไม่ร้องแล้วนะครับ นอนเถอะนะคนเก่ง”
“ขอบคุณนะครับ พี่ยูชอน ขอบคุณที่พี่รักจุนซู” คนตัวเล็กรั้งร่างใหญ่ให้ลงมานอนข้างๆ ยูชอนโอบกอดจุนซูไว้ในวงแขน  ทำตัวเล็กเอาแต่จ้องหน้าเขาไม่หยุด แถมยังไม่มีทีท่าว่าจะนอนสักนิด
“ไม่นอน..พี่ต่ออีกรอบนะ” คำขู่ ดูเหมือนจะได้ผล คนตัวเล็กรีบปิดเปลือกตาสีมุกช้าๆ อย่างเพลียจัด ใบหน้าที่ซุกอยู่กับอกกว้างยิ้มอย่างเปี่ยมสุข เมื่อพี่ยูชอนกระซิบข้างหู แล้วหอมแผ่วเบาที่พวงแก้มใส ก่อนที่จุนซูจะพล่อยหลับไป
“ขอบคุณ...ที่เกิดมาให้พี่ รัก นะครับ”
ยูชอนกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ก่อนหลับตาลงเข้าสู่ห้วงนิทราแสนสุขไปพร้อมกัน