2554/03/26

[Fic] หมอ...llจิตll Part…19 ความในใจ

Title : [Fic] หมอ...llจิตll
Writer : GroupBee + KJW
Couple: YunJae , YooSu , MinRic
Genre : Drama , Erotic      
NC :  ?


Part…19  ความในใจ


วิ่งเข้ามาหลบในห้องน้ำคนตัวเล็กขอพักหายใจสักครู่  หัวใจดวงน้อยของจุนซูมันเต้นแรงจนเหมือนกับว่าจะออกมาเต้นนอกอกเสียให้ได้  ด้วยความที่ไม่ทันได้สังเกตอะไรจุนซูเลยไม่เห็นร่างบางเพื่อนสนิทของตนที่กำลังวุ่นกับการส่องกระจกสำรวจอะไรบางอย่างตามร่างกายของตนเองอย่างเป็นกังวลอยู่  รอยแดงที่คอและแผงอกขาวของแจจุงมันเด่นชัดจนแทบจะทะลุเสื้อนักศึกษาสีขาวตัวบางออกมา 


เมื่อหายเหนื่อยเป็นที่เรียบร้อยแล้วขาเรียวเตรียมที่จะก้าวเดินพลันสายตาก็เหลือบขึ้นมามองคนในกระจก  ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรออกไปคงเพราะเห็นรอยแดงที่ลำคอเพียงเสี้ยววินาทีนั้น  สองสายตาที่ประสานกันในกระจกแจจุงรีบกระชับคอเสื้อให้มิดชิดก่อนจะหลังกลับมาหาคนที่ยืนอ้าปากค้าง  ไม่รู้ว่าจุนซูได้เห็นอะไรบ้างหรือป่าวแล้วมายืนอยู่ที่นี่นานแล้วหรอยัง


จุน...นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงใบหน้าหวานซีดเผือกลงทันที


คอ...ที่คอนายแจจุงครั้งนั้นก็ทีนึงแล้วแต่ครั้งนี้มันเยอะและน่ากลัวยิ่งกว่า


จุนซูเห็นแล้วก็รู้สึกเจ็บแทนก่อนจะลูบไปมาเบาๆยังต้นคอของตัวเองบ้าง  คนที่ถูกไล่ต้อนให้จนมุมจำต้องเอ่ยสารภาพออกมาแต่ทว่าสายตาดำวาวก็เห็นอะไรบางอย่างขึ้นมาก่อน...???


เอ่อ...เดี๋ยวก่อนจุนซู...มีอะไรติดที่คอของนาย...ชั้นว่านายต่างหากที่เป็นฝ่ายต้องอธิบายมือเรียวยกมือขึ้นชี้ไปที่ลำคอด้านซ้ายของเพื่อนคนสนิท


รอยแดงถึงจะไม่ขึ้นสีจัดแดงเป็นจ้ำดูน่ากลัวอย่างของแจจุง แต่เมื่อปรากฏหลาบนผิวขาวผ่องของจุนซูมันก็เด่นชัดอยู่ดี รอยแดงสีระเรื่อที่ประปรายไปทั่วซอกคอ ไล่มาถึงหน้าอก...แล้วมันเกิดขึ้นกับจุนซูได้ยังไงในเมื่อจุนซูยังไม่มีแฟน?


อะไรของนาย...อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง ชั้นไม่ตลกนะ!”เสียงหวานดุ


ชั้นไม่ได้เปลี่ยนเรื่องนะ...ไม่เชื่อนายก็ลองส่องกระจกดูสิดันร่างที่ยืนตัวแข็งทื่อไม่ขยับไปไหนให้เดินไปที่หน้ากระจกบานใหญ่แล้วสิ่งที่เห็นก็ให้คำตอบออกมาได้อย่างชัดเจนว่าแจจุงไม่ได้พูดปดแต่อย่างใด


เอ่อ...คือ...เอ่อ...


ชั้นว่าไม่ใช่ชั้นคนเดียวแล้วมั้งที่จะต้องเป็นฝ่ายตอบ...นายก็ควรจะตอบคำถามของชั้นเหมือนกันดวงตาสุกใสจ้องมองใบหน้าของคนที่เอาแต่หลบก้มจนคางติดชิดกับอก แจจุงกดดันจุนซูอย่างหนัก


ไม่เอาแล้ว...ชั้นไม่ถามนายแล้วก็ได้...ไม่อยากรู้แล้วด้วยเบ้ปากเหมือนเด็กน้อยที่ถูกขัดใจเสียเต็มประดา ดวงหน้าที่แดงก่ำกำลังจะร้องไห้


อย่ามาทำนิสัยแบบนี้นะ!”


แจจุง...นายดุชั้นหรอ?


ชั้นไม่ได้ดุนายแต่ชั้นก็อยากจะรู้เรื่องของนายเหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น...เราจะไม่ปิดบังกันไม่ใช่หรอ?


ก็จริงอยู่เราเป็นเพื่อนกัน ไม่ควรที่จะมีอะไรปิดบังกัน...แต่แจจุงนายเองก็มีอะไรปิดบังชั้นอยู่...


เอ่อ...เรื่องนั้น...คือเหตุใดคนที่กำลังเป็นต่ออย่างแจจุงกลับกลายมาเป็นฝ่ายถูกต้อนของจุนซูเสียได้ล่ะ


งั้นเอาอย่างนี้แล้วกันเพื่อความเสมอภาคเรามาแลกเปลี่ยนเรื่อง...


ก็ได้...แต่นายเล่าต้องก่อนนะจุนซูแจจุงรีบโยนไปให้จุนซูเป็นฝ่ายเปิดเรื่องเผยความลับออกมาก่อน


ชริ...ตลอดเลยอ่ะ -3- ”ถึงจะหงุดหงิดอยู่บ้างแต่สุดท้ายจุนซูก็ยอมเล่ามันออกมาจนหมด



เรื่องของเขากับพี่ยูชอน






~ ประกาศ ~


นักศึกษาแพทย์ปีสามที่มีรายชื่อดังต่อไปนี้จะได้เป็นตัวแทนไปออกค่ายอาสาบำเพ็ญประโยชน์ที่เมือง...... 



      ดวงตาสีดำเทาไล่เรียงอ่านตัวอักษรบนแผ่นกระดาษขาวช้าๆ  ในใจภาวนาขออย่างให้มีชื่อของตัวเองปรากฏขึ้นเลย  ใจจริงแล้วไม่ใช่ว่ายูฮวานไม่อยากไปการได้ออกไปหาประสบการ พบปะพูดคุยกับคนไข้นอกสถานที่นั้นออกจะเป็นเรื่องที่ดี  แต่ถ้าได้ไปแล้วต้องไปกับรุ่นพี่ของตัวเองล่ะก็เขาจะขอถอนตัวตั้งแต่วินาทีนี้เลย  นิ้วชี้หยุดลงยังรายชื่อสุดท้ายที่เป็นชื่อของตัวเองก่อนจะเบ้ปากอย่างหงุดหงิด


ไม่ใช่นายคนเดียวหรอกนะ...ที่หงุดหงิดน่ะเสียงของชางมินดังขึ้นข้างหลังร่างเพรียว  ยูฮวานหันกลับมาค้อนด้วยสายตาดุๆก่อนจะเดินเลี่ยงออกไป รู้สึกเหนื่อยใจที่ต้องมาเจอกับคนแบบนี้ คนที่ทำให้เค้าปั่นป่วนไปหมดรวมทั้งหัวใจดวงน้อยๆนี้ด้วย  ถ้าจะถามว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ความรู้สึกแปลกๆที่ว่า...ก็คงจะเป็นตอนจูบ???  สะบัดหัวไล่ความคิดและความรู้สึกที่คอยก่อกวนจิตใจของตนเองตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาให้ออกไปจนหมดสิ้น


จะหนีไปไหนล่ะคว้าข้อมือเอาไว้ก่อนที่กวางน้อยจะเดินหนีไปจริงๆ  ยูฮวานหันกลับมาอีกครั้งก่อนสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุม


ไปให้ไกลๆนายไงล่ะ...ถามได้ใบหน้าขาวหันหนีไม่อยากสบสายตากับคนที่กำลังจ้องมองเขาด้วยแววตาที่รู้สึกผิด



ถ้ารู้สึกผิด...ทำไมนายไม่ขอโทษล่ะ



เดี๋ยวก่อนสิ...คือว่า...เรื่องที่นายต้องไปออกค่ายกับชั้น


ใครไปออกค่ายกับนายกัน ทางโรงพยาบาลเค้าจัดต่างหากล่ะ


ก็นั่นแหล่ะ...ชั้นนี่มันซวยชะมัดเลยเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กเริ่มต่อปากต่อคำ คุณหมอหนุ่มก็เริ่มพูดจากวนโทสะทันที



นายมันก็เป็นอีกแบบนี้...กวางน้อยถึงยังไม่หายโกรธนายสักที



พูดแบบนี้หมายความว่าไง?เชิดใบหน้าขึ้นอย่างท้าทาย ลืมไปแล้วหรือไงว่าที่ทำแบบนี้น่ะถึงได้โดนจูบ...ยูฮวาน


ก็ซวยที่ต้องไปค่ายอาสาน่ะสิ...นี่ขนาดชั้นมาทำงานทุกวันไม่ได้หยุดงานยังท่วมหัวขนาดนี้เลย...โอ้ยจะทำไงดีเนี่ยชางมินพูดอย่างร้อนรนแต่ไอ้เรื่องที่ว่าได้อยู่กับยูฮวานนี่สิ อันนี้น่าสนนะ - -+


งานนายยุ่งมากเลยหรอ?เมื่อคิดถึงการงานที่ชางมินต้องทำนั้น ยูฮวานก็รู้ดีว่ามันหนักหนามากแค่ไหน


มีอะไรที่ชั้นพอจะช่วยนายบ้างได้มั้ย?คนใจแข็งเริ่มใจอ่อนลงแล้ว


นายจะช่วยชั้นจริงๆหรอดวงตาคมเป็นประกายเจ้าเล่ห์


อะ...อืมทำไมมองชั้นแบบนั่นเล่า...ตาบ้า


งั้นช่วยไปหยิบของในห้องชั้นให้ทีสิ


เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย...แล้วมันอยู่ตรงไหนล่ะพอหันกลับมาถามถึงของที่ให้ไปหยิบ ชางมินก็หายไปซะแล้ว


หายไปไหนเร็วจัง...แล้วจะรู้มั้ยเนี่ยเดินดุ่มๆออกไป 


นี่เราโกรธหมอนั่นอยู่ไม่ใช่หรอไงแต่กว่าจะคิดได้ก็คงจะช้าไปเสียแล้ว


      มือบางเปิดประตูห้องพักของชายหนุ่มก่อนจะกวาดสายตามองหาสิ่งที่คิดว่าชางมินจำเป็นต้องใช้งาน  อะไรบางอย่างทำให้เค้าต้องหยุดยืนมอง ตุ๊กตากวางขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ขนปุยสีน้ำตาลเข้มวางอยู่บนโต๊ะทำงานเรียกความสนใจจาก
ยูฮวานได้เป็นอย่างดี  เดินเข้าไปใกล้อย่างลืมตัว ที่คอของเจ้ากวางน้อยมีการ์ดแผ่นเล็กๆคล้องอยู่ เขียนอะไรบางอย่างเอาไว้ ยูฮวานหยิบมันขึ้นมาคิดว่าถ้าเปิดอ่านจะเป็นการเสียมารยาทไปมั้ยนะ แต่ไม่ทันซะแล้วเมื่อความอยากรู้มันมีมากกว่า มือบางเปิดแผ่นกระดาษออกช้าๆจึงได้เห็นประโยคข้อความที่อยู่ข้างใน



...ถึงกวางน้อยผู้น่ารัก

             ชั้นขอโทษกับเรื่องวันนั้น

             ยกโทษให้ชั้นได้หรือเปล่า

                      เป็ดปากบาน ชิม ชางมินคนนี้สำนึกผิดแล้ว TT ...



เมื่ออ่านจบก็หัวเราะออกมาเบาๆ  ไม่คิดว่าชางมินจะทำอะไรได้หวานเลี่ยนแบบนี้


คนอย่างนายก็น่ารักกับเขาด้วยหรอเนี่ย...ไม่น่าเชื่อพูดกับตุ๊กตาตัวน้อย ก่อนจะจุ๊บมันเบาๆที่ปาก


ชั้นคงต้องยกโทษให้เจ้านายของนายสินะ...เจ้ากวางน้อยอุ้มตุ๊กตาขนปุยขึ้นมากอด ยูฮวานเดินออกจากห้องพักคุณหมอหนุ่มด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เขาคิดว่าตอนนี้คงจะหยุดยิ้มไม่ได้แล้ว...ไม่รู้ทำไม  แต่ตอนนี้คงต้องหาชางมินให้เจอซะก่อน  ว่าจะไปขอบคุณสักหน่อยน่ะ >//<


      คุณหมอหนุ่มที่แอบอยู่หลังเสาต้นใหญ่ไม่ใกล้ไม่ไกล ชางมินแอบเดินตามยูฮวานมาที่ห้องอยากรู้ว่าเด็กแสนดื้อจะมีปฏิกิริยายังไง  จะยังโกรธหรือว่าจะยกโทษให้กับเขา  แต่เมื่อลองประเมินด้วยสายตาดูแล้วการคาดเดาของเขาแล้วคงเป็นไปในแง่บวกเสียมากกว่า  ต้องไปขอบคุณคนที่ให้คำแนะนำ ออกหัวคิดดีๆนี้ กว่ามันจะยอมช่วยเล่นเอาผมหืดขึ้นคอไปเลย...ไอ้เพื่อนรักยุนโฮ!


นายนี่บทจะหายก็หาตัวจับยากจังเลยนะ!”หลังจากที่เดินวนหาร่างสูงโปร่งอยู่หลายรอบยูฮวานก็เริ่มเอ่ยปากบ่น  ขาเรียวยาวเริ่มเมื่อยซะแล้วในตอนนี้ จริงๆชางมินก็ไม่ได้อยู่ไกลจากยูฮวานเลยเพียงแค่ชายหนุ่มคอยเดินตามอยู่ข้างหลังต่อให้
ยูฮวานเดินหาเค้าทั้งวันจ้างให้ก็หาไม่เจอหรอก 55+


คุณหมอชางมิน...ทำอะไรคะเนี่ยเสียงพยาบาลสาวนางนึงพูดขึ้น เมื่อเห็นท่าทางแปลกๆของคุณหมอหนุ่มที่ทุกทีจะดูเคร่งขรึมอยู่ตลอดเวลาแต่ทำไมถึงมายืนหลบๆซ่อนๆก้มๆเงยๆอยู่แบบนี้   คนหูไวอย่างยูฮวานหันกลับไปแทบจะทันทีที่ได้ยินชื่อของคนที่เขากำลังตามหาอยู่...ชางมิน!


เอ่อ...พอดีผมทำของหล่น...น่ะครับยกมือขึ้นปาดเหงื่อทั้งๆที่อากาศก็ออกจะเย็นสบายหรือเพราะว่าเค้าพลาดท่าถูกใครบางคนจับได้กันนะ  ใบหน้าหล่อแสร้งทำเป็นมองร่างเพรียวที่กำลังเดินตรงเข้ามา


ชางมิน!”ยูฮวานตะโกนเรียกคนที่กำลังจะหันหลังเดินกลับ...อาย >//<


เอ่อ...นายเรียกชั้นหรอ?ยกมือขึ้นเกาหัวแก้เก้อ


ก็เรียกนายน่ะสิ...ชิมชางมินเน้นเสียงจนคนฟังรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวบางอย่าง


มีอะไรหรอ?คุณหมอหนุ่มยังไม่เลิกทำเนียน - -+


นี่นายแกล้งให้ชั้นเดินหาทั่วโรงพยาบาล...แต่ดูสินายกลับทำตัวเหมือนคนโรคจิตแอบเดินตามชั้นเนี่ย


เปล่านะๆ...ชั้นไม่ได้เดินตามนายสักหน่อยปฏิเสธเสียงแข็ง เอาอะไรมาพูด มีหลักฐานเรอะ!...โธ่


ก็เห็นๆกันอยู่...ยังจะมาเถียงยูฮวานขอสู้ตาย


ชั้นก็เดินไปเรื่อยเปื่อยรอนายไปหยิบของมาให้นี่แหล่ะ...หาเจอมั้ย^^”เมื่อพูดถึงเรื่องของที่ให้ไปหยิบ ยูฮวานก็หน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที


อืม...นายให้ชั้นหรอ?เอ่ยถามออกไปทั้งๆที่รู้ดีอยู่แก่ใจ


ก็ถ้านายยอมรับว่าตัวเองเป็นกวางน้อยของชั้น...ก็คงงั้นมั้งยืดอกวางมาดอย่างน่าหมั่นไส้


ใครเป็นกวางน้อยของนายกัน...เจ้าเป็ด


ไม่รู้สิ...คนตรงหน้าชั้นมั้ง ยืนกอดตุ๊กตาซะแน่นเลย...ชอบมั้ย?


อืมยูฮวานรู้สึกอายมากๆที่ชางมินที่อยู่ดีๆก็เปลี่ยนโหมดมาหวานกันแบบนี้...ตั้งตัวไม่ทัน


ชั้นยืนเลือกตั้งนานแหน่ะ


ขอบใจนะ


ไม่เป็นไรครับ^^”


บ้า >//<”


วันนี้ให้ชั้นไปส่งนายที่หอนะไหนๆก็ไหนๆแล้วถ้าจะเนียนอีกสักเล็กน้อยคงจะไม่เป็นไร...ใช่มั้ย


ไม่ต้องเลย ว่างมากหรอไง...ไหนบอกว่ายุ่งไง


ก็ยุ่ง...แต่ถ้าเป็นเรื่องของนาย ชั้นก็พร้อมเสมอที่จะทำตัวให้ว่าง...ไปเถอะมือหนาโอบไหล่เล็กอย่างถือวิสาสะ ยูฮวานหันมาค้อนอย่างรู้ทัน คุณหมอหนุ่มจึงต้องลดมือลงมาอยู่ข้างลำตัวตามเดิม


มองแบบนี้หมายความว่าไง...แค่จะปัดแมลงให้เฉยๆ” -*-


ไม่ต้องมาพูดเลยนะ...ชั้นหิวแล้วด้วย...นายต้องเลี้ยงข้าวเรียวปากชมพูส้มพูดอย่างเด็กเอาแต่ใจ


ได้คร้าบบบ...คุณหนูยูฮวาน


คิคิ





จริงหรอจุนซู!...นี่นายไม่ได้ล้อชั้นเล่นใช่มั้ยเนี่ย?แจจุงไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน แต่ก็นะเพื่อนของเขาคนนี้ไม่เคยโกหก ศรีษะเล็กพยักขึ้นลง ใบหน้าแดงๆกับอาการขวยเขินของจุนซูยิ่งดูน่ารักเข้าไปใหญ่


แล้วก้นนายล่ะ...ก้นน้อยๆของนายยังเจ็บอยู่มั้ย..คิคิ..อะ...โอ้ยร้องเสียงหลงเมื่อจุนซูตั้งใจหยิกแขนขาวของคนที่ยังไม่เลิกแซวเขาจนขึ้นเป็นรอยแดง


นายมันทะลึ่ง...เดี๋ยวนี้เอาใหญ่แล้วนะแจจุง ไม่ต้องมีทำเป็นถามโน่นถามนี่เลยนะ เรื่องของนาย...ชั้นยังไม่ลืม


      เมื่อถึงคราวของตนเองแจจุงก็เงียบไปสักพักใหญ่ เค้าไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นจากตรงไหน จะต้องพูดออกไปยังไงไม่ให้จุนซูได้เห็นความอ่อนแอในตัวเขา...ลำบากใจที่จะพูด  จุนซูเองก็พอจะเข้าใจในปัญหาที่ว่า มือบางโอบประคองร่างของแจจุงให้เข้ามาแนบชิดกับตนราวกับเป็นการปลอบประโลม ใจจริงในตอนนี้จุนซูไม่ได้อยากรู้อะไรจากแจจุงอีกแล้วมันเหมือนกับว่าความเจ็บปวดของเพื่อนคนนี้ได้ถูกถ่ายทอดมาถึงเขา ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ส่วนน้อยก็ตามแต่ถ้าแจจุงไม่บอก แจจุงก็ยิ่งอึดอัดแล้วเขาจะไปช่วยอะไรได้  ปากบางค่อยๆเอ่ยเล่าเรื่องราวที่แสนเจ็บปวดทีละนิดๆด้วยเสียงที่เบาและสั่นคลอน


คนๆนั้นใช่มั้ย...มันใช่มั้ย?ยิ่งได้ฟังเรื่องราวจากปากของแจจุง การกระทำที่ต่ำช้าและร้ายกาจ คำถามที่อยากจะถามคนเลวในตอนนี้



 ยังมีความเป็นคนอยู่หรือเปล่า?



จุนซูทั้งโกรธและโมโห ถ้าไม่ติดว่าแจจุงขอร้องเขาเอาไว้ จุนซูคงได้แจ้งตำรวจจับมันไปแล้ว...ไอ้เลว!


ฮึก...ทำไมนายต้องมาเจอเรื่องแบบนี้อีก...ชั้นไม่เข้าใจ...ชั้น...จุนซูร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ อดสงสารเพื่อนรักคนนี้ไม่ได้


อย่าพูดแบบนั้นอีกเลยจุนซู...มันทำให้ชั้นยิ่งรู้สึกสมเพชตัวเองเข้าไปใหญ่...แค่นี้ชั้นก็สมเพชตัวเองจะแย่แล้ว...ฮือๆๆ แค่นายไม่รังเกียจชั้น ฮึกกกก็พอ ตอนนี้แจจุงรู้สึกแย่มากๆ ถึงจะรู้ว่าจุนซูไม่มีวันทอดทิ้งเขา แต่ในใจก็คิดกังวลจนตีกันวุ่นวายไปหมด สับสนเหลือเกิน ยิ่งคิดไปถึงใครอีกคน ที่เป็นต้นเหตุให้เขาเป็นอย่างนี้ ...ยุนโฮ!


“ไม่เอาน่า อย่าพูดแบบนี้อีกเชียว ไม่งั้นชั้นงอนจริงๆด้วย ชั้นจะรังเกียจนายได้ยังไง นายคือเพื่อนรักของชั้นนะแจจุง” มือบางตบเบาๆที่หลังของคนช่างคิดมาก ก่อนเอ่ยถามด้วยความสงสัย


คนที่มาส่งนายวันนั้นหรือเปล่า ?แจจุงเงยหน้าที่เต็มใบด้วยน้ำตาขึ้นมองจุนซู ถามแบบนี้จุนซูต้องเห็นอะไรมาแน่ๆ


เอ่อ...นายหมายถึงอะไร


คนที่มาส่งนาย...ชั้นเห็นไอ้เลวนั่น...มันใช่มั้ย?


นายเห็น? แจจุงพูดเสียงสั่นอย่างหวั่นใจไม่น้อย เพราะถ้าอย่างนั้นจุนซูก็รู้มาโดยตลอด นี่เขากำลังทำลายความไว้ใจของเพื่อนรักอยู่หรือเปล่า แล้วมันจะทำให้จุนซูโกรธมั้ย? ถ้าจุนซูโกรธจนไม่อยากคบกับเขาต่อไปล่ะ? เขาจะทำยังไง? ความรู้สึกผิดท่วมท้นในใจของแจจุงทำให้เขาไม่รู้จะพูดอะไรออกมา


...............


ชั้นขอโทษ...ขอโทษจุนซู...ฮือๆๆๆแจจุงกระชับกอดแน่นขึ้นไปอีก กลัวว่าจุนซูจะโกรธและเกลียดเค้า...กลัวว่าจะไม่เหลือใคร


นายทำให้ชั้นโกรธนาย...โกรธนายมาก ….แจจุง


ฮือๆๆๆๆๆ


นายปิดบังชั้น ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนเราไม่ได้เป็นเพื่อนกัน แต่ชั้นพึ่งเข้าใจมันเมื่อกี้นี้เอง เรื่องแบบนี้มันยากที่จะพูดออกไป...ยากเหลือเกิน


ใช่...จุนซูพึ่งจะเข้าใจ ขนาดเรื่องระหว่างเค้ากับพี่ยูชอน จุนซูยังรู้สึกลำบากใจที่จะพูดออกไปเลย แจจุงคงจะลำบากใจมากกว่าเขาหลายเท่าตัว


อย่าร้องออกมาอีกเลยแจจุง ชั้นไม่ได้โกรธหรือเกลียดนายสักนิด ถ้าชั้นพอจะช่วยอะไรนายได้บ้าง...ชั้นก็ยินดี


ช่วยไม่ได้หรอกจุนซู...ฮึก...ไม่มีใครช่วยชั้นได้แจจุงสั่นหัวไปมาพยายามขับไล่ความคิดที่น่ารังเกียจของตนเองออกไปให้หมด แต่คงเป็นไปได้ยาก เพราะสิ่งที่แจจุงต้องการจะลบล้างออกไปนั้นมันได้ถูกฝังไว้...อยู่ในส่วนที่ลึกที่สุด



ก้นบึ้งของหัวใจ...หัวใจของแจจุง



ทำไมล่ะ...ทำไมแจจุง ถ้าแจจุงอยากจะหนีไปให้ไกลจากคนเลวคนนั้น จุนซูก็จะขัดขวางอย่างเต็มที่ดวงหน้าเศร้าสร้อยของแจจุงสะท้อนอยู่ในดวงตาที่มุ่งมั่นของจุนซู แจจุงมองเห็นมันอย่างชัดเจน เขารู้สึกอุ่นใจจริงๆที่มีจุนซูคอยเคียงข้างถึงแม้ว่าจุนซูจะช่วยแก้ปัญหาของเขาไม่ได้ เพราะตัวเขาเองยังไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไม ไอ้ก้อนเนื้อเล็กๆที่เต้นอยู่ในอกของเขาถึงได้สั่นไหวกับคนๆนั้น ความรู้สึกแปลกประหลาดที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับเขาเลยสักนิดเดียว  สิ่งที่คนนั้นทำมันไม่ควรค่าจะให้อภัยด้วยซ้ำ ทำร้ายกันไม่มีหยุด ทั้งหลอกลวงและเห็นแก่ตัว แล้วทำไม ตัวเขาถึงได้สะดุดใจกับคำพูดพล่อยๆของใครคนนั้น....



ยุนโฮ นายบอกรักชั้นทำไมคนเลว!



จุนซู...นายรู้อะไรมั้ย? มีคำถามนึงที่ชั้นยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้


คำถามในใจของนายหรอ?


อืม...ทั้งที่ใจบอกเกลียดแต่ชั้นก็ยังอยากเจอ บางทีถ้าชั้นกับเขาไม่ได้เจอกันอีก... ชั้นอาจจะต้องทรมานไปจนตาย เหมือนตกนรกทั้งเป็น...ฮึก...แปลกใช่มั้ยที่หัวใจของชั้นมันร่ำร้องหาเขา...คิดถึงแต่เขา...จุนซู...มันเหมือนกับว่าชั้นรักเค้าไปแล้ว...ชั้นรักยุนโฮ...ฮือๆ


นายรักคนเลวนั่นได้ยังไงแจจุง...มันจะเป็นไปได้ยัง?จุนซูไม่อยากจะเชื่อ แต่เค้าไม่ได้หูฝาดแจจุงบอกว่ารักงั้นหรอ?...ให้ตายเถอะ!


ฮึก...ฮือๆๆ ชั้น...ก็ไม่รู้...ไม่รู้จริงๆ


“นายแน่ใจเหรอว่ารักมัน?” จุนซูถามย้ำอย่างเป็นห่วง ไม่อยากได้ยินคำตอบว่าใช่เลยจริงๆ ใบหน้าที่ก้มงุดร้องไห้ไม่หยุดพยักหน้าหลายทีเป็นการยืนยัน นั่นไม่ทำให้จุนซูสบายใจขึ้นมาเลยสักนิด


นายรักไอ้เลวนั่นหรอ...ทั้งๆที่มันทำกับนายแบบนั้น...โธ่แจจุง...ชั้นจะช่วยนายยังไงดี...



ไม่มีคำตอบหรอกจุนซู นายอย่าคิดหามันอีกเลย..ทางออกที่ว่า...แทบไม่มี

เหมือนเขาวงกต  แม้ว่าจะวิ่งไปจนสุดทางแต่สุดท้ายก็วกกับมาอยู่ตรงที่เดิม

ทางที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือ ทางออก แต่วิธีเดินออกไปยังไงนั่น ชั้นไม่รู้จริงๆ

หัวใจชั้นมันรักเขาไปอย่างไม่มีเหตุผล

ชั้น..ห้ามใจ..ตัวเองไม่ทันจริงๆ จุนซู



      อ้อมกอดนี้จะช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บของนายได้มั้ยนะ ชั้นสงสารนายจริงๆ ต้องมาแบกรับเรื่องราวอะไรตั้งมากมาย อยากรู้จริงๆว่านายทนทรมานกับความรู้สึกของตัวเองแบบนี้ได้อย่างไรกันแจจุง  เป็นชั้นชั้นคงตายไปแล้ว...



เพราะรักคำเดียวสินะ



มันไม่ผิดหรอกที่นายจะรักคนเลวคนนั้น เพราะหัวใจคนเรามันไม่ได้เต้นไปตามการสั่งการของสมอง มันถึงได้ทำอะไรโดยไม่มีเหตุผล หัวใจมันเต้นไปตามความรู้สึกของตัวเองเท่านั้น ชั้นเข้าใจความรู้สึกนายนะ...แจจุง


แต่ชั้นไม่รู้จะช่วยนายยังไง