2554/12/10

Part…46 รู้ความจริง + ติดตาม!


Title : [Fic] หมอ...llจิตll
Writer : GroupBee + KJW
Couple: YunJae , YooSu , MinRic
Genre : Drama , Erotic       
NC :  17

Part…46 รู้ความจริง + ติดตาม!

บรรยากาศในร้านไอศครีมสไตล์น่ารัก รอบร้านรายล้อมไปด้วยสวนดอกไม้ขนาดย่อม เต็มเปี่ยมด้วยกลิ่นหอมหวานของดอกไม้หลากสีสดใสเป็นธรรมชาติ เสียงกระบอกไม้ไผ่กระทบกันก่อนถ่ายเทน้ำใสจากกระบอกหนึ่งไปสู่อีกกระบอกหนึ่งดังป๊อกแป๊ก ทั้งร้านประดับประดาไปด้วยของตกแต่งมีชีวิตชีวา ต้นไม้ทุกต้นยังคงเติบโตต่อไปได้อีก ไม่ใช่เพียงแค่ตัดมาประดับร้านเฉยๆรอวันโรยรา แจจุงมองไปรอบๆร้านอย่างถูกใจ ที่นั่งของเขาอยู่ติดกระจกใสสามารถมองออกไปเห็นความวุ่นวายภายนอกร้านได้ชัดแจ๋ว ปากบางคลี่ยิ้มทันทีที่ได้ไอศกรีมสีชมพูอ่อนโรยหน้าด้วยวิปครีมกับสตอเบอร์รี่สีแดงฉ่ำลูกโต ท่าทางน่าอร่อย ไม่ลืมหันไปฉีกยิ้มสดใสเผื่อแผ่ผู้ชายที่นั่งตรงข้าม เสียงหัวเราะในลำคอของอีกฝ่ายทำให้มือที่กำช้อนโลหะสีเงินแน่นเตรียมพร้อมจัดการของหวานที่วางล่อตาอยู่ตรงหน้าชะงักมองตามเสียงนั้นไปอย่างสงสัย
“ขำอะไรไม่ทราบฮะ พี่ยุน”
“เปล่าครับ แค่พี่คิดว่าสตอเบอร์รี่นี่น่าหม่ำจังเลย^^”ไม่พูดเปล่า ยุนโฮยังเอื้อมมาหยิบสตอเบอร์รี่ในถ้วยเข้าปากหน้าตาเฉย ค่อยๆเคี้ยวยั่วโมโหแจจุงอย่างใจเย็น
“อะ...อาหย่อยแหะ รู้งี้พี่สั่งแบบแจจุงมั้งดีกว่า เขาปรายตามองแก้วกาแฟร้อนของตัวเอง ก่อนดันแก้วไว้ห่างๆเหมือนไม่อยากได้แล้ว
“ใจร้ายอ่ะพี่ยุน มาแย่งแจจุงกินทำไมฮะ มันมีแค่ลูกเดียวนะ ถ้าอยากกินแต่แรกทำไมไม่สั่งล่ะ...เชื่อเขาเลย สั่งกาแฟมาแล้วก็ต้องดื่มให้หมดนะ เสียดายเงิน”เสียงหวานขู่ฟ่อแต่ดูน่าขันในความคิดของยุนโฮ ก็เสียงของแจจุงมันน่ารักมากกว่าน่ากลัวเป็นไหนๆ
“ครับๆๆๆ เอ๊า~ มามองค้อนพี่ยุนทำไมล่ะ”คนตัวใหญ่พูดราวกับไม่รู้สาเหตุของการจ้องมองมาแบบโกรธๆ
“แย่งเค้ากินแล้วยังมาถามอีกนะ คนใจร้าย”แจจุงบ่นงึมงำก่อนจะตักวิปครีมด้านบนขึ้นมาชิม สีหน้าแจ่มใสขึ้นเมื่อลิ้นสัมผัสรสชาติที่ถูกใจ ยุนโฮยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆจนแจจุงต้องคว้าถ้วยหนีอย่างว่องไว ครั้งนี้ไม่ยอมให้แย่งง่ายๆอีกแล้ว
“ฝันไปเถอะ แจจุงไม่ให้พี่ยุนแย่งได้หรอก”
“แล้วใครบอกกันว่าพี่จะแย่ง พี่แค่อยากมองหน้าแจจุงใกล้ๆเท่านั้นเอง เห็นพี่เป็นคนตะกละหรือยังไงครับ หืมม~” พูดพลางส่งนิ้วไปคีบจมูกคนขี้หวงเล่นด้วยความเอ็นดู มือหนารีบคว้าถ้วยไอศกรีมในจังหวะที่แจจุงวางมันลงบนโต๊ะเพื่อเอามือคลำจมูกที่ขึ้นสีแดงจัดจากแรงบีบของคนรัก ทำไมถึงชอบทำให้เขาดูเหมือนเด็กนักนะ แจจุงค่อนขอดในใจยังไม่ทันได้บ่น ถ้วยไอศกรีมก็ถูกอีกฝ่ายแย่งไปซะแล้ว
“เอาคืนมานะ พี่ยุน ไหนว่าจะไม่แย่งไงฮะ!!!”คนตัวเล็กเริ่มร้องโวยวาย  ยุนโฮหัวเราะพร้อมยกถ้วยหนีมือแจจุงที่เอื้อมมาหมายเอาคืน “ไม่ได้แย่งจริงๆ อย่างอนพี่สิครับ มาม๊ะ...ให้พี่ป้อนนะครับ”ยุนโฮส่งเสียงอ้อน เรียกรอยยิ้มกลับมาบนใบหน้างอง่ำของแจจุงได้อีกครั้ง เพียงแต่เป้าหมายของยุนโฮกับไม่ใช่ที่ริมฝีปากของแจจุงอย่างที่คิด แจจุงยู่ปากเชิดขึ้นอย่างงอนจัดเมื่อรู้ตัวว่าตกเป็นฝ่ายถูกแกล้งซะแล้ว และก็กลายเป็นสงครามไอศกรีมอย่างช่วยไม่ได้ แรงน้อยนิดของแจจุงไม่อาจทำอะไรฝ่ายตรงข้ามได้อย่างใจ แถมถูกจู่โจมกลับชนิดที่ไม่ทันได้ตั้งตัว จนแก้มนวลเนียนที่ถูกเล็งเป็นเป้าหมายใหญ่ ตามติดมาด้วยจมูกรั้นตามแบบฉบับเด็กดื้อของคนหน้าสวยถูกใช้เป็นที่วางเนื้อไอศกรีมเย็นจัดแทนถ้วยใสไปทั้งหมด ช้อนโลหะในมือใหญ่เปลี่ยนเป็นอาวุธขนาดจิ๋วอัดเนื้อไอศครีมล้นปรี่ก่อนโปะและปาดเล่นจนมอมแมมไปทั้งหน้า...ก็ฝีมือชอง ยุนโฮทั้งนั้น
“อ้ามมม~~~ มองค้อนพี่ยุนทำไมล่ะ อ้าปากเร็วเข้า”ยุนโฮส่งยิ้มสดใสพลางยื่นช้อนที่ตักไอศกรีมรสสตอเบอร์รี่พูนๆมาใกล้หน้าคนรัก จนเนื้อไอศกรีมเย็นสัมผัสกลีบปากแดงสด...ไม่มีทีท่าว่าจะเผยอปากรับ
แจจุงตวัดค้อนกอดอกหันเมินไปอีกทางอย่างไม่สนใจ หลังจากที่โดนหลอกไปไม่รู้กี่ครั้งจนใบหน้าขาวเหนียวแหนะหนะไปหมด พี่ยุนก็ยังไม่หยุดแกล้งเขาอีก ชอบหลอกกันอยู่เรื่อย จะแกล้งกลับบ้างก็ทำไม่สำเร็จเพราะอีกฝ่ายแรงเยอะกว่า พอยอมอ้าปากรอจนเมื่อย สุดท้ายก็ป้ายไอศกรีมมาที่จมูกเขาจนเลอะเทอะไปหมด คนถูกแกล้งเริ่มโวยวายดังลั่นเมื่อตอนนี้ไอศกรีมรสโปรดได้ย้ายมาอยู่บนผมของตัวเองเสียแล้ว นอกจากไม่รู้สึกผิดแล้วคนขี้แกล้งยังหัวเราะออกมาชนิดที่ไม่เกรงใจกันแม้แต่น้อย การที่แจจุงถูกพี่ยุนแกล้งนี่มันน่าขำตรงไหนนักหนา คนสวยฟึดฟัดเมื่อตกเป็นจุดเด่นของคนในร้านโดยไม่รู้สึกตัวแต่มันทำให้เขาอับอายขายหน้าไปกันใหญ่ หนำซ้ำคนช่างแกล้งยังหัวเราะเขาเสียงดังลั่น ไม่คิดว่าแจจุงจะงอนบ้างเลยใช่มั้ย?
“เหนียวไปหมดแล้ว ทำไมพี่ยุนชอบเล่นเป็นเด็กๆไปได้”คนสวยบ่นพลางค้อนใส่ตาคมที่จ้องหน้าตนแล้วก็เอาแต่หัวเราะจนตัวงอ
“ก็แจจุงของพี่น่ารักนี่นา..ฮ่าๆ”คำพูดกับการกระทำของชายคนรักดูไม่ค่อยจะสัมพันธ์กันสักเท่าไหร่นัก คนสวยมองค้อน ตั้งแต่เข้ามานั่งในร้านเขาได้แต่มองไอศกรีมรสโปรดตาละห้อยด้วยความเสียดาย แทนที่จะได้กินอย่างที่คิดกับมาเล่นอะไรแบบนี้อยู่ได้
“ไม่เห็นเกี่ยวเลยฮะ พี่ยุนชอบแกล้งแจจุงอยู่เรื่อย ไอ้นี่เขามีไว้กินไม่ใช่ให้เอามาเล่นนะ!”ช้อนโลหะเล็กๆในมือกดกระแทกย้ำๆที่ไอศกรีมในถ้วยใส ก่อนเอื้อมมือไปหยิบทิชชู่ที่วางอยู่มุมโต๊ะ กระดาษสีขาวในมือยังไม่ทันได้แตะผิวหน้า มือเล็กก็ถูกดึงไว้ทำให้แจจุงหยุดชะงัก ช้อนตามองตามข้อมือที่ถูกจับกระทั่งเลยไปถึงใบหน้าเจ้าของมือหนาที่รั้งเขาไว้อย่างไม่เข้าใจปนสงสัยการกระทำของคนตรงหน้า ยุนโฮส่งยิ้มทะเล้นให้คนช่างสงสัย ค่อยๆโน้มตัวเข้ามาใกล้จนใบหน้าทั้งคู่แนบชิดกัน จมูกโด่งของยุนโฮหยอกเอินปลายจมูกรั้นสวยของอีกฝ่ายราวกลั่นแกล้ง แจจุงเอ่ยถามเสียงสั่น
“พี่ยุน...จะเล่นอะไรอีกฮะ ถอยออกไปนะคนอื่นมองใหญ่แล้ว”คนถูกถามไม่ตอบเพียงแต่ขยิบตาใส่นัยน์ตาพราวระยิบระยับ มือบางดันร่างหนาออกไปให้ห่างตัวในใจเต้นตึกตัก การที่ยุนโฮเข้ามาใกล้ขนาดนี้ทำให้เขาหายใจติดๆขัดๆ เขินจนไม่รู้จะวางมือไม้ไว้ที่ตรงไหนดี  ยุนโฮถือโอกาสรวบมืออีกข้างไว้เช่นกัน เสียงทุ้มกระซิบไม่ได้แคร์สายตานับสิบคู่ที่มองมาที่พวกเขาอย่างใคร่รู้
“อยู่เฉยๆนะ เดี๋ยวพี่เช็ดให้”แล้วลิ้นร้อนจัดก็แตะเบาๆที่ปลายจมูกรั้นของคนสวย ตวัดเลียซ้ำๆจนหมดจด จึงค่อยเปลี่ยนจุดหมายไปเรื่อยๆบรรจงลากผ่านผิวแก้มระเรื่อที่เปรอะคราบไอศกรีมสีชมพูเต็มไปหมด รอยเปื้อนสีชมพูอ่อนตัดกับผิวขาวผ่องค่อยๆหายไปทีละนิดๆ เชื่องช้า นุ่มนวล คนสวยได้จะนั่งนิ่งๆปล่อยให้ยุนโฮทำอะไรไปตามอำเภอใจ ดวงตากลมโตหลุบต่ำไม่กล้าสบสายตาที่จดจ้องอยู่ตลอด ลมหายใจของยุนโฮทำเอาเขารู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งดวงหน้า กว่าคนตัวใหญ่จะละเลียดไอศกรีมรสหวานหมด เล่นเอาแจจุงแทบหมดลมหายใจ ~
“อร่อยจัง ไอศกรีมรสนี้ วันหลังเรามากินด้วยกันอีกนะ”ยุนโฮเอ่ยล้อเลียน เมื่อเห็นแจจุงเอาแต่หลบตาเขา มือหนาเชยคางมนขึ้นมาประสานสายตา แล้วมองต่ำลงมาที่กลีบปากสีแดงของแจจุงอย่างมีความหมาย ร่างบางรีบผลักลำตัวหนาของยุนโฮออกห่างทันทีก่อนที่ริมฝีปากทั้งคู่จะสัมผัสกัน แค่นี้เขาก็อายคนในร้านจะแย่แล้ว...พี่ยุนโฮนี่บ้าที่สุดเลย
“ฝันไปเถอะ ต่อไปแจจุงไม่มากินไอศกรีมกับพี่ยุนแล้ว คนชอบเอาเปรียบ”เสียงหวานตวาดแว๊ดใบหน้าแดงก่ำ ทั้งโกรธทั้งอายจนทำตัวไม่ถูก เขาสาบานได้เลยว่าไม่มีวันจะหลงกลพี่ยุนโฮแบบนี้อีกแล้ว บอกว่าจะพามากินไอศกรีมแท้ๆ พูดจบก็ลุกหนีออกไปจากร้านทันที
“จะไปไหนครับ รอพี่ยุนด้วยสิ”ยุนโฮยิ้มส่งเสียงเรียกไล่หลัง เมื่อเห็นคนรักงอนลุกออกไปจากร้าน เขาหันไปส่งยิ้มให้คนในร้านที่นั่งมองพวกเขากันหน้าระรื่นอย่างสนอกสนใจ แล้วสาวเท้าตามคนขี้งอนไปด้วยความรวดเร็ว
.
.
.

สายตาคู่หนึ่งมองตามร่างคนทั้งสองจนกระทั่งเห็นคนทั้งคู่ขึ้นรถที่จอดไว้หน้าร้านก่อนจะขับเคลื่อนมันออกไป เสียงเรียกแผ่วเบาอย่างเกรงใจของคนที่มาด้วยทำให้เขาละความสนใจจากสิ่งตรงหน้าได้ชั่วขณะ
“จะตามเขาไปอีกมั้ย ที่รัก?”ไม่มีคำตอบจากอีกฝ่าย คนที่เขาเรียก ที่รัก เพียงแต่ยกแก้วกาแฟร้อนขึ้นมาจิบช้าๆ แล้วมองเหม่อไปนอกร้านดังเดิม ซีวอนมองท่าทางของคนรักอย่างไม่สบายใจ ตั้งแต่คนรักของตัวเองเริ่มเปิดใจยอมรับยุนโฮในฐานะแฟนของน้องชายสุดหวง เรื่องราวต่างๆทำท่าเหมือนกับว่าจะดีขึ้น...ถ้าเพียงแต่ไม่เกิดเหตุการณ์ในวันนั้น

~ Flesh  black ~

...ย้อนไปเมื่ออาทิตย์ก่อน....
ในวันอาทิตย์ที่จุนซูขออนุญาตมานอนค้างที่บ้าน เนื่องจากจุนโฮพี่ชายเดินทางไปต่างประเทศ ระหว่างที่ฮีชอลจะขึ้นไปเรียกทั้งสองคนลงมารับประทานอาหารเย็น เสียงคุยที่ดังเล็ดลอดออกมาอย่างไม่สนใจคนที่เปิดประตูเข้ามายืนมองอยู่กลางห้อง แจจุงกับจุนซูหันหลังคุยกันอยู่หน้าระเบียงอย่างออกรส เขาคงจะทำเป็นไม่สนใจแล้วเรียกน้องชายกับเพื่อนน้องชายที่เขารักเสมอน้องอย่างจุนซูไปกินข้าวได้อย่างไม่ลังเล แต่ทว่า...เรื่องที่ทั้งคู่คุยกันมันกำลังทำให้หัวใจเขากระตุกชา เลือดในกายเย็นวาบอย่างไม่เคยเป็น มือบางกำแน่นข้างลำตัว โกรธจัดอย่างไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อนในชีวิต ทั้งโกรธที่ตัวเองถูกหลอก โกรธความโง่ของแจจุง โกรธ...มัน คนที่ทำให้น้องชายของเขา รัก !!!

รักไปได้ยังไง!!!

ฮีชอลยังคงกัดฟันกรอด ยืนฟังเรื่องราวทั้งหมดอย่างสงบ เสียงจุนซูเจื้อยแจ๋วยิงคำถามใส่แจจุงตลอด เหมือนว่าจะเป็นเขาคนเดียวที่ไม่เคยรู้อะไรบางเลย
“ดูแจจุงมีความสุขจังเลยนะ สบายใจที่ได้คบกับพี่ยุนโฮแบบเปิดเผยแล้วใช่มั้ยล่ะ^^?”แจจุงกลับส่ายหน้าไปมาแทนคำตอบ
“ทำไม…??? ทำหน้าเครียดแบบนั้นหมายความว่ายังไงห๊ะ แจจุงอ่า~ ไม่สบายใจอะไรหรอ?”
“เฮ่ออออชั้นไม่รู้จะพูดยังไงดี จุนซู...ชั้นกลัว”น้ำเสียงสั่นเครือ เอนร่างบางเอียงคอซบไปที่ไหล่ของจุนซู
“ร้องไห้ทำไม ไม่เอาไม่ร้องสิ มีอะไรต้องกลัวอีก หรือว่าพี่ยุนโฮทำอะไรนายหรือเปล่า บอกเค้ามานะ”จุนซูถามเสียงเขียว
“ไม่...ไม่ใช่”
“แล้วแจจุงกลัวอะไร? บอกจุนซูสิ เราจะไม่มีความลับต่อกันใช่มั้ย?”แจจุงดูลังเลไปชั่วครู่ แต่ก็เปิดปากพูดออกมาในที่สุด
“ชั้นกลัวว่าพี่ฮีชอลจะไม่ยอมรับพี่ยุนโฮ ชั้นกลัวที่ตะต้องเลิกกับพี่ยุนโฮ กลัว...กลัว...ชั้นกลัวไปหมดแล้ว ถ้าวันหนึ่งพี่ฮีชอลรู้เรื่องที่พี่ยุนโฮเคยทำกับชั้น ถ้าพี่ชายชั้นรู้ว่าคนที่เคยข่มขืนชั้นในอดีตคือ...พี่ยุนโฮ ชั้นจะทำยังไงดี จุนซู ฮื่อๆๆๆ จุนซูชั้นอยู่ไม่ได้จริงๆถ้าไม่มีพี่ยุนโฮ จุนซูเข้าใจชั้นใช่มั้ย ฮื่อๆๆๆ ชั้นรักพี่ยุนโฮมากเกินกว่าจะยอมเสียเขาไป ชั้นจะทำยังไงดี ต้องทำยังไง”จุนซูดันร่างสั่นเทาของเพื่อนรักเข้ามาสวมกอด มือบางลูบปลอบโยนไปทั่วแผ่นหลัง
ฮีชอลไม่รับรู้อะไรต่อจากนั้นอีกแล้ว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองก้าวออกมาจากห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ ในสมองของเขามันสับสนไปหมดทุกอย่าง นี่มันเรื่องอะไรกัน? ทำไมแจจุงถึงโง่แบบนี้ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมยังกล้าปิดบังเขาซึ่งเป็นพี่ชายได้อยู่อีกหรอ! ทำไมถึงยังคบไอ้สาระเลวนั้นทั้งๆที่มันเป็นคนทำลายชีวิตให้แปดเปื้อน ทำไมกัน? เขาไม่เข้าใจเลย ลงมานั่งควบคุมสติอารมณ์บนโซฟาที่ห้องรับแขก  ตอนนี้ฮีชอลรู้เพียงแต่ว่าตัวเองยังไม่พร้อมที่จะมองหน้าน้องชาย...คงต้องขอเวลาทำใจสักพัก  เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาไล่หารายชื่อ “แจจุง ^^ กดโทรออก ใช้เวลาไม่นานปลายสายก็รับ
“อือ...ล็อคบ้านให้ดีนะ แล้วลงมากินข้าวกันด้วย”
[พี่ฮีชอลจะออกไปข้างนอกเหรอฮะ]
“ใช่ วันนี้พี่คงไม่กลับบ้านนะ คงจะค้างบ้านซีวอน แค่นี้นะแจจุง”
[เดี๋ยวก่อนฮะ ผมรักพี่นะฮะ]
……...
[ ฮัลโหล เอ่อ...พี่ฮีชอลฮะ ผมรักพี่นะฮะ ฮัลโหลๆๆ ]
“อืมม~ รู้แล้วๆ พี่ก็รักแจจุงนะ รัก...มากกว่าใคร!”ฮีชอลพยายามคุมเสียงของตัวเองให้ไม่สั่นก่อนจะกดวางสาย แล้วขับรถออกไปจากบ้านด้วยหัวใจร้าวราน

~ Come Black ~

“ซีวอน”เสียงเรียกชื่อไม่ดังแต่พอทำให้ซีวอนหลุดจากภวังค์ เขาได้แต่ยิ้มบางๆหวังให้กำลังใจคนตรงหน้า ทุกเรื่องของแจจุงสำคัญต่อฮีชอลเสมอ...ข้อนี้เขารู้ดีที่สุด
“ชั้นไม่มีวันยกแจจุงให้กับผู้ชายที่ชื่อ ยุนโฮ เป็นอันขาด!!!”แววตาสวยแข็งกร้าว ซีวอนได้แต่บีบมือเล็กของคนรักอย่างปลอบโยน เขาเข้าใจความรู้สึกของฮีชอลแต่ก็อดห่วงใยความรู้สึกของแจจุงไม่ได้ แจจุงจะเป็นยังไงบ้างถ้ารู้ถึงความคิดในใจ...ของพี่ชายตัวเอง!

  --------------------------------------------------------------------------------------- 

.
.
.

เสียงเคาะประตูห้องติดๆกันในเวลาที่ใครต่อใครต่างใช้เป็นช่วงเวลาพักผ่อน เฉกเช่นเดียวกับคุณหมอหนุ่มยุนโฮ ซึ่งกว่าเจ้าตัวจะสะสางงานที่มันคาราคาซังได้จนครบถ้วน บวกกับงานที่เพื่อนซึ่งไม่ค่อยอยากสนิทด้วยเท่าไหร่ในตอนนี้อย่างเจ้าหมอมินหน้าเป็ดโยนโครมมาตรงหน้าด้วยเหตุผลพิลึกกึกกือว่า เป็นการล้างบาปที่เคยก่อในอดีต แล้วมันไปเกี่ยวกับไอ้เพื่อนหน้าเป็ดตรงไหน ยุนโฮไม่เข้าใจแต่กว่าจะหายงง มันก็แจ้นหนีไปเสียก่อนโดยงานยังคงกองพะเนินอยู่บนโต๊ะของเขา รอคนมาเคลียร์ให้เรียบร้อย กำหนดส่งที่อุตส่าห์มีน้ำใจแปะด้วยโพสต์อิทสีหวาน ยิ่งทำให้เขาอยากกระทืบเพื่อนให้จมดินไปเลย ให้มันได้อย่างนี้สิ ส่งพรุ่งนี้ก่อนเที่ยง...ให้ตายสิ!!! เวลาจะสวีทกับคนรักยิ่งน้อยๆอยู่ มันจะมาเบียดเบียนเวลาของเขาเพื่ออะไร อย่าให้รู้นะว่าหนีไปหวานแหววกับยูฮวานเขาจะอาละวาดให้น่าดู
หลังจากหลุบตาลงเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าของประสาทตากับบรรยากาศเย็นสบายได้ที่จนคุณหมอคนขยันเริ่มจะเคลิ้ม เสียงประตูที่ยังดังรัวเป็นจังหวะสม่ำเสมอทำให้เขาตื่นเต็มตาได้ในที่สุด แต่ด้วยความมึนงงจากงานที่จัดการจนล่วงเลยมาถึงเช้าวันใหม่ ทั้งที่ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนเต็มที่ อาการปวดหัวบริเวณขมับทำให้หมอยุนโฮปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง ก่อนใช้นิ้วคลึงไปทั่วหัวคิ้วทั้งสองข้าง พลางคิดในใจว่าใครกันที่บังอาจส่งเสียงรบกวนเวลานอนของเขา หวังว่าคงไม่ใช่เพื่อนที่ชื่อ ชางมิน เพราะถ้าเป็นอยากนั้นคงได้มีการวางมวยกันเกิดขึ้น เพราะเขารู้สึกง่วงงุนเกินกว่าจะเสวนากับใครทั้งนั้น เสียงเคาะยังไม่หยุด ยุนโฮส่ายหน้าจำยอมเมื่อแผนแกล้งหลับของเขาดูท่าว่าจะล้มเหลว กว่าจะรวมสติลุกมาเปิดประตูได้ก็ชั่วอึกใจ คนใจร้อนด้านนอกยังคงเคาะประตูเสียงดังอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย นับถือในความพยายามเหลือเกิน ชายหนุ่มเอื้อมจับลูกบิดเปิดประตูออกโดยไม่คิดส่องดูจากด้านในก่อนว่าเป็นใคร เพราะคิดว่าคงไม่พ้นเจ้าเพื่อนสนิทสุดแสบอย่างชางมินอยู่แล้ว ทันทีที่บานประตูเปิดออก! บุคคลที่ยืนอยู่ตรงหน้าสร้างความประหลาดใจ ระคนสงสัยแก่ยุนโฮเป็นอย่างยิ่ง
~ ฮีชอล!!! ~
-------------------------------------------------------------------------------

“เฮ่อ ~~~” ลมหายใจที่ทอดยาวบ่งบอกว่าชอง ยุนโฮ มีความรู้สึกแบบไหน ใบหน้าเรียวเล็กหมองคล้ำกว่าที่เคย ซ้ำยังมีร่องรอยกังวลปรากฏเด่นชัด คิ้วขมวดจนดูยุ่งเหยิงคล้ายมีเรื่องครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา แววตาคมฉายความเหนื่อยล้าผ่านแก้วตาสีเข้ม ตั้งแต่คนคนนั้นก้าวเข้ามา ความรู้สึกของเขา ณ ขณะนั้นมีเพียงความอึดอัดใจปนกดดัน ความเงียบเท่านั้นคือสิ่งที่เขาแสดงออก แววตาแข็งกร้าวฉายความเกลียดชังของฮีชอลไม่ได้ทำให้เขารู้สึกแย่เท่ากับคำพูดถางถาง พาดพิงไปถึงแจจุง ใช่...เขามันคนเลวที่มีแต่ความเห็นแก่ตัว ทำไมยุนโฮจะไม่รู้ว่านอกจากตัวเองแล้วแจจุงไม่เคยได้ใกล้ชิดกับคนอื่น ทำไมจะไม่รู้ว่าความรักที่แจจุงมอบให้อาจมาจากอารมณ์หวั่นไหว นอกจากเขาแล้วแจจุงไม่เคยรู้จักใคร แล้วจะมารู้ดีอะไรกับความรักที่เขาเนรมิตมันขึ้นมาโอบล้อมแจจุงเอาไว้ สายใยแห่งความผูกพันที่เขาสร้างขึ้นมามัดหัวใจบริสุทธิ์เอาไว้แน่นหนา ทุกอย่างมันเริ่มต้นมาจากความคิดและการกระทำของตัวเองทั้งนั้น จริงอย่างที่ฮีชอลพูด ถ้าไม่มียุนโฮสักคน แจจุงอาจจะพบคนที่ดีกว่าคนเลวๆ...อย่างเขา!
จนกระทั่งกลับออกไป แต่ความว้าวุ่นกลุ้มใจของชายหนุ่มไม่ได้ลดน้อยลงไปสักนิด หากแต่มันกับเพิ่มขึ้นทุกขณะ  นับว่าเป็นครั้งแรกที่ปากของเขาปิดสนิท ไม่ตอบโต้แม้ว่าถ้อยคำที่อีกฝ่ายกล่าวหาจะเต็มไปด้วยการดูหมิ่น เหยียดหยาม ถ้าเป็นเขาเมื่อก่อน คนคนนี้คงไม่มีโอกาสได้ยินเชิดหน้าด่าเขาอยู่แบบนี้เป็นแน่ เพียงแต่เวลาที่เปลี่ยนไปทำให้หัวใจด้านที่ชาของเขารู้จักคำว่า รัก ตั้งแต่หัวใจเปิดรับคิม แจจุง เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของมัน ก็พึ่งจะรู้ในวันนี้เองว่าแท้จริงแล้วเขาก็เป็นเพียงแค่ผู้ชายอ่อนแอ คนหนึ่งที่ปรารถนาจะเก็บความรักของตัวเองไว้ แม้วิธีการที่จะทำให้ได้ครอบครองความรักนั้นจะดูเห็นแก่ตัวมากมายแค่ไหนก็ตาม

เขายอมรับว่า...ไม่เคยสนใจว่าคนอื่นจะมองว่าเขาเป็นคนเลวทรามต่ำช้า
เขาไม่แคร์หากถูกมองด้วยสายตาแห่งความเกลียดชัง!

ขอเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่ยังรักและต้องการความรัก...จากเขาอยู่
แค่ความรักจากเธอเพียงคนเดียว
แจจุง พี่แค่ต้องการเธอ~

น้ำตาที่คลอหน่วยอยู่รอบขอบตาเรียวยาว ปริ่มจะร่วงสะท้อนใจกับคำพูดของคิม ฮีชอล พี่ชายคนรักที่มาเยี่ยมอย่างไม่ได้นัดหมาย พร้อมยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลส่งให้กับมือ จะยิ้ม หัวเราะ หรือร้องไห้ก่อนดี เมื่อได้เห็นสิ่งของที่อยู่ภายในซองหนานั้น หลักฐานมากมายที่สามารถมัดตัวเขาให้ติดตะรางหัวโต ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา พรากผู้เยาว์และกักขังหน่วงเหนี่ยว หยิบมาอ่านผ่านๆตาแล้วอดยิ้มสมเพชตัวเองไม่ได้ เงื่อนที่เขาบรรจงผูกมันกำลังมัดคอเขาจนเกือบหายใจไม่ออกอยู่รอมร่อ
ฮีชอลไม่ได้ทิ้งข้อความอะไรไว้เป็นพิเศษ แต่จากสิ่งที่เห็นก็พอจะเดาได้ไม่ยากว่าเป็นการข่มขู่  ไม่ต้องแปลเจตนาของพี่ชายคนรักก็รู้ความนัยว่าคงต้องการให้เขาเลิกกับแจจุงสินะ แล้วถ้ายุนโฮจะบอกว่าไม่กลัวล่ะ! อยากรู้ว่าฮีชอลจะทำยังไงต่อไป แววตาเหนื่อยล้ามีประกายเจ้าเล่ห์แฝงอยู่ เขาจะลองเสี่ยงเดิมพันด้วยหัวใจเป็นครั้งสุดท้ายและถ้าการเสี่ยงของเขาครั้งนี้ปรากฏว่า...เขาเป็นฝ่ายชนะ แม้แต่ฮีชอลก็คงไม่สามารถหยุดยั้งเขาได้...ยุนโฮมั่นใจ!!!

 --------------------------------------------------------------------------------------- 

“คุณไปไหนมาครับ...ที่รัก?"น้ำเสียงติดงัวเงียเอ่ยถาม เมื่อหูแว่วเสียงเปิดประตูห้องตลอดจนฝีเท้าและกลิ่นหอมอ่อนๆของคนรักโชยผ่านเข้าสู่ประสาทรับรู้ นางฟ้าตรงหน้าไม่ตอบแต่ก้มหน้าลงมาจุมพิตอรุณสวัสดิ์แผ่วเบา แต่เขาโลภเกินกว่าจะเพียงพอแค่นั้น ถึงในส่วนลึกมันจะบอกว่าแปลกที่ฮีชอลมาทำหวานกับตัวเองแบบนี้ จากสีหน้าที่ไม่สู้ดีและรอยยิ้มเจื่อนๆ สงสัยเขาต้องเรียกรอยยิ้มสดใสของคนรักกลับมาเสียแล้ว
“อ๊ะ~”ฮีชอลอุทานตกใจเพราะถูกมือหนารั้งเอวคอดบางให้ล้มบนลำตัวทอดยาว ก่อนที่จมูกโด่งจะไม่หยุดซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่น
“เดี๋ยวก่อนซีวอน จะทำอะไรน่ะ ปล่อ..ย...อื้อออ~”กลีบปากแดงสดถูกประกบปิดเสียงประท้วง ลิ้นร้อนดุดดันดูดกลืนน้ำหวานใสภายในอย่างอดอยาก ปากบางถูกขบกัดเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยวจนบวมเจ่อทั้งด้านบนและด้านล่าง มือไม้ไม่อยู่นิ่งปัดป่ายไปทั่วเรือนร่างสวยจนร่างบางดิ้นเร่า ตอนแรกแค่คิดจะฟัดเล่นๆพอได้สัมผัสผิวนุ่มลื่นของคนรัก ได้สูดกลิ่นหอมที่แสนติดใจ วินาทีนี้เขาขอตามใจตัวเองก่อนดีกว่า โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆแม่เสือสาวแสนสวยใช่ว่าจะยินยอมด้วยง่ายๆทั้งตบทั้งข่วนจนแสบผิวไปหมด ทันทีที่ซีวอนปล่อยกลีบปากบางเป็นอิสระแม่เสือสาวก็ร้องโวยวายลั่น
“ไอ้บ้าซีวอน ปล่อยนะ ชั้นไม่ได้มาเพื่อให้นายปล้ำหรอกนะ”ร่างบางดิ้นพล่าน คงคิดว่าแรงนิดเดียวของตัวเองจะสะบัดหลุดวงแขนที่รัดรอบลำตัวอย่างแน่นหนาได้...ไม่มีทาง นอกจากชายหนุ่มจะไม่ยอมปล่อยแล้วเรียวปากหยักสวยยังระรานทั่วดวงหน้าหวาน กดจูบหนักหน่วงที่หัวคิ้วก่อนเลื่อนลงมาหอมที่แก้มแดงระเรื่ออีกฟอดใหญ่
“ผ่อนคลายหน่อยสิครับที่รัก คิ้วคุณพันกันจนเป็นโบว์ได้แล้วรู้มั้ย หืม~” ซีวอนพูดพลางพรมจูบไปทั้งตัว จนฮีชอลตัวอ่อนปวกเปียกไม่ต่างอะไรกับขี้ผึ้ง ท่าทีขัดขืนเริ่มหายไปช้าๆ มือน้อยกำจิกผ้าปูสีหวานระงับความรู้สึกที่ได้รับอาศัยความเนียนเฉพาะตัวซีวอนก็สามารถกำจัดอาภรณ์เกะกะให้หลุดพ้นเรือนกายแสนเย้ายวน ผิวขาวผุดผาดไม่เปลี่ยน แววตาซุกซนสำรวจร่างเปลือยเปล่าไม่ลดละ ทำเอาคนถูกจ้องเขินจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน พยายามซุกกายหนีสายตาลวนลามของคนรักแสนเจ้าเล่ห์
“มองอยู่ได้ หยุดมองสักที...ชั้นอายนะ”ซีวอนยิ้มเจ้าเล่ห์กับคำตัดพ้อแสนน่ารัก
“คุณสวยเหลือเกิน...ที่รัก”คำชื่นชมยังลอยมาให้ได้ยินอยู่เรื่อยๆ
“ไอ้หื่น”ซีวอนอมยิ้มกับคำค่อนคอดของคนรัก อยากถามเหมือนกันว่า หื่นแล้วชอบมั้ย? แต่ไม่เอาดีกว่าเพื่อความปลอดภัยของชีวิต
ริมฝีปากอุ่นสะเปะสะปะไปทั่วลำคอระหง รอยรักแดงก่ำเด่นหลาทุกพื้นผิวที่ริมฝีปากลากผ่าน เม็ดทับทิมประดับยอดอกสวยเด่นดึงดูดสายตา ไม่รอช้า ซีวอนมอบความชุ่มฉ่ำด้วยลิ้นยุ่นจนใบหน้าสวยของคนรักเชิดขึ้นกัดริมฝีปากตัวเองแน่นระงับความเสียวซ่านที่ได้รับ เสียงครางในลำคอดังขึ้นเรื่อยๆยิ่งทำให้ซีวอนได้ใจหนัก ดูดเม้มยอดอกแรงๆจนฮีชอลขยุ้มเส้นผมบนหัวของเขาจนมันพันกันยุ่งเหยิง สะโพกกลมกลึงเบียดเสียดหน้าท้องสวยได้รูปของซีวอนเต็มไปด้วยความต้องการจนชายหนุ่มร้อนรุ่มตามไปด้วย มือใหญ่ยกสะโพกยั่วอารมณ์พิศวาสขึ้นเปิดทางสะดวกแก่การลึกซึ้งด้วยปลายนิ้วแกร่ง ฮีชอลเกร็งหนีสิ่งแปลกปลอมที่แทรกผ่านก่อนร้องครางด้วยความรัญจวนใจ เมื่อนิ้วซุกซนคว้านหาจุดกระสันเมามัน ยิ่งเรียกเสียงครางปริ่มจะขาดใจของคนรัก ชายหนุ่มก็ยิ่งรู้สึกพอใจ ก่อนที่คนสวยช่างยั่วของซีวอนจะถึงจุดหมายไปเสียก่อน ซีวอนกลับกลั่นแกล้งโดยการชักนิ้วทั้งหมดออก เขาอยากรู้ว่าคนรักของเขาจะทำยังไง???  ฮีชอลถูไถช่องทางรักกับท่อนขาคนรักด้วยความขัดใจ ร่างกายต้องการปลดปล่อยจนไม่เป็นตัวของตัวเองเสียแล้ว ในสมองขาวโพลนไปหมด สายตาที่ประสานกันหยาดเยิ้มเต็มไปด้วยแรงปรารถนา กลีบปากแดงบวมเจ่อจากการกัดระงับความรู้สึกของเจ้าตัว
“ช่วยชั้นหน่อยได้มั้ย...ซีวอน” เสียงหวานอ้อน ทำเอาเลือดในกายหนุ่มสูบฉีดไปทั้งตัว มือบอบบางลูบไล้ลำตัวยาวของเขาช้าๆ พร้อมกับโน้มตัวลงใช้ผิวกายเนียนละเอียดเสียดสีเขาไปทั่วร่าง จากที่คิดจะแกล้งให้อีกฝ่ายทนไม่ไหวกลายเป็นตัวเขาเองที่ชักทนไม่ไหวเสียแล้ว ทำไมถึงได้ยั่วเก่งขนาดนี้นะ ไวพอกับความคิดจึงยกร่างเบาหวิวที่ปั่นป่วนเขาอยู่ขึ้นจ่อให้ช่องรักแนบชิดส่วนชูชันกลางลำตัว ค่อยแทรกมันผ่านเข้าไปช้าๆอย่างใจเย็นแต่ก็ยังสร้างความเจ็บปวดไม่น้อยกับฮีชอล สะโพกกลมมนขยับถอยกระเสือกกระสนดันตัวออก น้ำตาปริ่มนัยน์ตาสีหวาน ซีวอนพลิกร่างบอบบางคว่ำลงกับเตียง ทันทีที่ส่วนเชื่อมโยงร่างกายของทั้งคู่หลุดจากกันร่างบางก็ดันตัวลุกหนีอย่างคนขี้ขลาด
“ซีวอน ชั้นยังไม่พร้อม!”เสียงสั่นพร่าห้ามปรามคนรักที่ดูจะหน้ามืดไปเสียแล้ว ยังไม่ทันจะก้าวลงจากเตียงสมใจ ลำตัวบางก็ถูกรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดแนบแน่น เสียงกระซิบแหบพร่าข้างหูปนลมหายใจร้อนๆทำให้ฮีชอลเสียวซ่านจนขนลุกซู่
ซีวอนกดล็อคเขาไว้ด้วยท่อนขา ฝ่ามืออุ่นจัดไล้ผ่านเรียวขาอ่อนล้วงควักไปถึงท่อนเนื้อด้านหน้าจนแข็งขืนสู้มือ ฝ่ามือหนารูดคลึงเป็นจังหวะหนักหน่วง ปลุกเร้าอารมณ์คนใต้ร่าง แล้วหันมาบีบขย้ำก้นขาวผ่องเป็นยองใยตรงหน้าจนขึ้นรอยมือแดงปื้นใหญ่ ปลายนิ้วแหวกขยายช่องทางรักให้เปิดรับสัดส่วนความเป็นชายที่ตึงเครียดจวนเจียนจะระเบิด เบียดอัดความเป็นชายพรวดเดียว ไม่สนเสียงร้องประท้วงอื้ออึงของคนรักเพราะเขารู้ว่า ตัวเองสามารถเปลี่ยนมันให้กลายเป็นเสียงครางหวานหูได้อย่างน่าอัศจรรย์
“อืออ~ อ่า~”ฮีชอลครวญครางสุขสมเมื่อคนเอาแต่ใจ ปรนเปรออย่างถึงใจจนตัวเองขึ้นสวรรค์ติดกันไปหลายรอบ แรงกระแทกด้านหลังรุนแรงขึ้นเมื่อคนคุมเกมส์เริ่มเห็นปลายทาง ชายหนุ่มเร่งจังหวะขึ้นเล็กน้อยก่อนปล่อยของเหลวอุ่นๆเข้าไปภายในโพรงอ่อนนุ่ม ร่างใหญ่ล้มตัวทับร่างบางที่นอนทิ้งตัวหอบอย่างอ่อนเพลีย ยังไม่ยอมหยุดระดมจูบไปทั่วแผ่นหลังเนียนอย่างหลงใหลจนฮีชอลต้องร้องปรามดุ
“ลุกออกไปได้แล้ว มันหนักนะ”
“ต่อได้มั้ย?”ซีวอนไม่วายต่อรอง มือเริ่มซุกซนอีกครั้งแต่ก็ยินยอมขยับตัวลุกขึ้นคร่อมร่างแทน ฮีชอลเอียงหน้ามองคนรักส่งเสียงอ้อน
“ไว้ก่อนได้มั้ย ชั้นเหนื่อยจริงๆ”สีหน้าคนพูดออกอาการเพลียอย่างเห็นได้ชัดจนซีวอนรู้สึกผิด เขารีบถอนกายออกจากร่างฮีชอล เอ่ยถามเสียงนุ่มนวล
“เป็นอะไรหรือเปล่า สีหน้าคุณดูไม่ดีเลยนะครับ?”
“ไม่เป็นอะไรหรอกซีวอน นายช่วยกอดชั้นแน่นๆหน่อยได้มั้ย...แค่กอดนะ!”ไม่รอช้ามือหนาโอบกอดลำตัวบางแนบกาย น้ำเสียงสั่นๆของฮีชอลทำให้ชายหนุ่มจับได้ถึงความไม่ปกติ
“มีอะไรจะบอกผมมั้ย เผื่อมันจะช่วยให้คุณรู้สึกสบายใจขึ้น”น้ำเสียงเจือกระแสห่วงใยเอ่ยถาม ฮีชอลได้แต่ส่ายหน้าไปมากับอกแกร่ง ตอนนี้เขายังไม่พร้อมจะพูดถึงมันจริงๆ
“แค่นายกอดชั้นไว้แบบนี้...ก็พอแล้ว”คำพูดท้อแท้แบบคนหมดแรงของฮีชอลทำให้ซีวอนกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น ใบหน้าหล่อโน้มลงมาจูบเบาๆที่หน้าผาก
“ผมรักคุณนะ...ที่รัก~
“ชั้นก็รักนายชเว ซีวอน”สายตาประสานกันหวานซึ้ง ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดอะไรต่อกัน เมื่อคนทั้งสองต่างเข้าใจซึ่งความรู้สึกนึกคิดของกันและกัน ริมฝีปากหนาทาบทับแผ่วเบาบนกลีบปากบางด้วยสัมผัสแห่งรัก นุ่มนวลและอ่อนละมุ่น ก่อนที่ทั้งสองร่างจะเอนซบกันจมดิ่งเข้าสู่ห้วงนิทราลึก~


---------------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น