Title : [Fic] หมอ...llจิตll
Writer : GroupBee + KJW
Couple: YunJae , YooSu , MinRic
Genre : Drama , Erotic
NC : ?
Part…45 การเผชิญหน้าของว่าที่น้องเขยและพี่สะใภ้???
แจจุงนั่งเอนกายทิ้งลำตัวบางไปกับอกแกร่ง ร่างบางอาศัยตักกว้างของยุนโฮเป็นเบาะหนังชั้นดี ปล่อยให้มือหนาโอบรัดไว้ที่เอวบางทำหน้าที่ให้ความอบอุ่น ส่วน มืออีกข้างก็ลูบกลุ่มแพรไหมนุ่มบนศีรษะทุยสวยเล่น ทั้งคู่นั่งนิ่งอยู่แบบนี้มาสักพักแล้ว ไม่ใช่ว่าไม่อยากพูดอะไรกัน เพียงแต่บางทีการได้นั่งอยู่ข้างๆคนที่เรารักและรู้สึกดี เพียงเท่านี้มันก็ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดอื่นใดอีกแล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่นานยุนโฮก็พูดขึ้นมาขัดความเงียบ
“แจจุงครับ พี่ยุนตัดสินใจจะบอกเรื่องของเรากับพี่ฮีชอลของแจจุงนะครับ เราจะได้คบกันอย่างเปิดเผยสักที ต่อไปนี้เรื่องดูแลแจจุง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่ยุน ทีนี้พี่ยุนจะได้ดูแลแจจุงอย่างจริงๆจังๆซะที เช้าก็มารับไปเรียน ตอนเย็นก็พามาส่งบ้าน ดีมั้ย? หือ~” จมูกก้มลงสูดกลิ่นหอมจากเรือนผม ค่อยๆรั้งลำตัวบางให้หันมาเผชิญหน้า เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบ
“แจจุง!!!! ร้องไห้ทำไม เป็นอะไรหรือเปล่า?”ยุนโฮถามอย่างตกใจ เมื่อใบหน้าสวยเปื้อนเปรอะไปด้วยคราบน้ำตา เขารีบเช็ดมันให้หายไปจากดวงหน้าหวานอย่างกังวล แจจุงจับข้อมือใหญ่แน่น เสียงสะอึกสะอื้นกำลังพยายามเปล่งเสียงออกมาให้เป็นประโยค
“ปะ...เปล่า...ฮึกกกก...ฮะ...แจ… จุง...ดีใจมากกว่า...ที่...ฮึกกก…ได้ ยิน พี่ยุนโฮพูดแบบนี้” พูดจบก็โผเข้ากอดร่างหนาแน่น ยุนโฮกอดตอบด้วยความรู้สึกท่วมท้น มือหนาลูบแผ่นหลังคนขี้แงที่แสนน่ารักของเขา อย่างอ่อนโยน
“ไม่ร้องแล้วนะ โอ๋ๆๆๆ”
คนที่กำลังปลอบประโลมกันอยู่ไม่ได้รับรู้ว่าได้มีประจักษ์ พยานอื่นเข้ามาเป็นผู้มีส่วนร่วมในการแสดงความรักของพวกเขา เฝ้ามองอยู่เงียบๆด้วยสายตาที่ไม่อาจคาดเดาไปถึงความรู้สึกส่วนลึกของผู้ เป็นเจ้าของ แววตานิ่งเฉยไม่บ่งบอกอะไรสักอย่าง เสียงเรียกที่ดังตามมาติดๆทำให้คนที่ยังส่งผ่านความรักกันอยู่ถึงกับสะดุ้ง ร่างบางเด้งออกห่างเบาะรองนั่งชั้นดีอย่างกับไฟรนก้น ยุนโฮก็เผลอปล่อยมือที่รั้งเอวแจจุงโดยง่ายเช่นเดียวกัน ใบหน้าทั้งคู่เลิกลักอย่างทำตัวไม่ถูก เมื่อสบสายตาที่มองมาอย่างจับผิดของ
คิม ฮีชอล!
ซีวอนดันร่างของคนรักที่ยังยืนนิ่งเป็นหุ่นอยู่กับที่ แปลกใจในท่าทางของฮีชอลอยู่ไม่น้อย เพียงแต่พอสายตาของเขาเคลื่อนย้ายไปที่จุดเกิดเหตุ ถึงกับตาโตตกตะลึงกับภาพที่เห็น น้องชายสุดที่รักของฮีชอลกับ ไอ้หน้าหม้อที่เขาจำได้ว่ามันบังอาจเข้ามาคุยกับคนรักของเขาในวันนั้น สมองแสนฉลาดเริ่มทำหน้าที่ประมวลผลอย่างรวดเร็ว หรือว่าจะเป็น..
แฟน… ของแจจุง!
ซีวอนไม่สามารถบังคับปากของตัวเองไม่ให้ปรากฏรอยยิ้มได้เลย จะให้ไม่ดีใจได้ยังไงในเมื่อไอ้หน้าหม้อนี่มันไม่ได้คิดที่จะมายุ่งกับคนรัก ของตัวเอง ค่อยเย็นชั่วไปหน่อยซีวอนคิด แต่เสียงราบเรียบของฮีชอลทำให้ริมฝีปากที่ฉีกยิ้มเกือบจะถึงใบหูของเขาหุบลง ราวกับสั่งได้ในทันที
“นายทำอะไรน้องชายของฉัน!”
แค่ประโยคเดียวสั้นๆ แต่สามคนในบ้านถึงกับอึ้งสนิท ยุนโฮกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง ถึงจะเตรียมตัวมาแล้วว่าจะพูดเรื่องคบกับแจจุง แต่เขาไม่ได้เตรียมพร้อมกับสถานการณ์ชวนอึดอัดแบบนี้สักหน่อย เหงื่อแตกผลั่กไปตามไรผมตลอดจนกรอบหน้าเรียวเล็ก ใบหน้าหล่อฉายริ้วรอยแห่งความกังวลอย่างระงับความรู้สึกไม่อยู่ คำพูดที่คิดเอาไว้มันหล่นหายไปไหนหมดไม่รู้ ภาย ในสมองว่างเปล่าเป็นครั้งแรกในชีวิตของชายหนุ่มที่ถูกกดดัน แรงกระตุกที่ชายเสื้อเรียกสติกลับมาได้เพียงบางส่วน เขาเอื้อมมือไปกุมมือแจจุงเอาไว้รู้สึกได้ว่ามือบางสั่นเทา ยุนโฮกระชับฝ่ามือที่เกาะกุมกันแน่นขึ้นอีกนิด อยากให้แจจุงรู้สึกว่ายังมีเขาอยู่เคียงข้างและเขาไม่มีวันปล่อยมือจากแจจุ งเด็ดขาด!
ลมหายใจถูกอัดเข้าไปแรงๆเต็มปอด เรียกความมั่นใจของตัวเองกลับมา ก่อนสบตาของฮีชอลที่มองอยู่ก่อนแล้ว
“ผมชื่อ ชอง ยุนโฮ” ริมฝืปากอิ่มเอื้อนเอ่ย หันไปสบตาหวานซึ้งของคนที่นั่งข้างๆอีกครั้ง เพิ่มขวัญและกำลังใจก่อนเริ่มพูดต่อด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจริงจัง
“และแจจุงเป็น คนรัก ของผม”
เงียบสนิท ไร้ซึ่งการตอบรับในวินาทีนี้ หากมีเพียงเข็มสักเล่มตกลงบนพื้น ซีวอนคิดว่ามันคงจะส่งเสียงดังเกินไปด้วยซ้ำ ถ้าลองคนแบบคิม ฮีชอล นิ่ง เงียบ ไร้การตอบสนอง ผิดปกติแบบนี้ เป็นสัญญาณอันตรายไม่ต่างกับคลื่นใต้น้ำ แต่ซีวอนก็อดยอมรับในความกล้าหาญของไอ้หน้าหม้อนี่ไม่ได้ กล้าและก็บ้าเอาซะมากๆด้วย ที่มาประกาศตัวว่าเป็น คนรัก ของแจจุงน้องชายที่ฮีชอลหวงยิ่งกว่างูจงอางหวงไข่ ชักเริ่มกังวลขึ้นมาแล้วสิว่า ไอ้หน้าหม้อนี่มันจะมีชีวิตรอดออกไปจากบ้านนี้ได้หรือไม่
“นั่นไม่ใช่สิ่งที่ชั้นถาม ตอบมาแค่.. นายทำอะไรน้องชายชั้น!!!!!!”
นั้นไง! ซีวอนคิดไว้แล้วว่าเรื่องมันต้องเป็นแบบนี้ เขารีบฉุดร่างเล็กของฮีชอลไว้แทบไม่ทันเมื่อฮีชอลทำท่าจะกระโจนใส่ร่างสูง
“ปล่อยชั้นซีวอน ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” ฮีชอลหันมาตวาดแว๊ดใส่คนรัก ท่าทางเดือดจัด ตาโตที่ถลึงขึ้นทำให้ฮีชอลดูโหดยิ่งขึ้น คนกลัวแฟนรีบปล่อยมือจากเอวเล็กแทบไม่ทัน ….ช่วยตัวเองไปก่อนนะ ไอ้ว่าที่น้องเขย…. เขาไม่อยากโดนลูกหลงไปด้วย T^T
ยุนโฮยังคงสบสายตาตอบพี่ชายคนรักอย่างไม่วอกแวก ถึงเขาบอกว่าไม่ได้ทำอะไรแจจุง เดาว่าฮีชอลก็คงจะไม่เชื่อ เก็บคำตอบไว้ในใจจะดีเสียกว่า ในสถานการณ์แบบนี้ การนิ่งของตัวเองอาจมีส่วนเพิ่มความโกรธของฮีชอลมากกว่า ยุนโฮจึงส่งเสียงเบสนุ่มทุ้มกล่าวย้ำ เรื่องฐานะของตนกับแจจุง...อีกครั้ง
“ไม่ว่าคุณจะคิดยังไงก็ตาม ผมรักแจจุงน้องชายของคุณเหลือเกิน กรุณาให้โอกาสผมได้ดูแลแจจุงเถอะนะครับ” พร้อมกับนั่งลงคุกเข่ากับพื้น เพื่อแจจุงแล้วเรื่องแค่นี้ทำไมยุนโฮจะทำไม่ได้ ศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายที่จะไม่ยอมคุกเข่าให้ใครโดยง่าย มันเทียบไม่ได้กับความรู้สึกที่มีต่อแจจุง
สิ่งที่ยุนโฮทำไม่เพียงแต่ฮีชอลเท่านั้นที่ตกใจ ทั้งซีวอนและแจจุงก็อึ้งกับสิ่งที่เห็นเช่นกัน โดยเฉพาะแจจุงมันมากกว่าความตกใจ ในอกของเขาอิ่มเอมเปรมปรีดิ์เป็นที่สุด ไม่คิดว่าคนอย่าง ชอง ยุนโฮ จะทำเพื่อเขาได้ขนาดนี้ ไม่เคยคิดเลยจริงๆ ร่างบางทิ้งตัวลงกับพื้นกอดเอวหนาของยุนโฮแน่น ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเอง รักพี่ยุน ได้มากขนาดนี้ ณ ตอนนี้ แจจุงยอมแลกกับความสุขทุกอย่างในชีวิต เพื่อให้มีคนคนนี้อยู่เคียงข้าง…ตลอดไป เสียงหวานอ้อนวอนพี่ชายไม่หยุด
“พี่ฮีชอลฮะ ให้เราคบกันนะฮะ แจจุงรักพี่ยุนโฮ...นะฮะพี่ฮีชอล”
มือที่กำแน่นจนเส้นเลือดโผล่ปูดขึ้นมา เตรียมกระแทกใส่ใบหน้าหล่อเจ้าของคำพูดประกาศความเป็นเจ้าของน้องชายตนเอง แม้จะได้ยิน ได้รู้ ได้เห็นอะไรมาบ้าง แต่พอเจอะเข้าจังๆ ก็อดที่จะเดือดดาลไม่ได้ น้ำเสียงออดอ้อนของน้องชายยังคงได้ผลเสมอ ใจของฮีชอลอ่อนลงไปกว่าครึ่งตั้งแต่ได้ยินคำยืนยันหนักแน่นของชอง ยุนโฮ และยิ่งอ่อนลงไปอีกกับการกระทำที่คาดไม่ถึง พอมาได้ฟังเสียงหวานของแจจุงก็ยิ่งใจอ่อนยวบลงไปอีก เสียงราบเรียบอย่างพยายามข่มใจให้อยู่ในสภาพอารมณ์ปกติ เอ่ยขึ้นชัดถ้อยชัดคำ
“ลุกขึ้นมานั่งคุยกันดีๆบนโซฟาได้แล้ว แจจุงก็ด้วยลุกขึ้น เฮ่อ~~ พี่จะเอายังไงกับเราดี...ไอ้ตัวแสบ” แจจุงดึงร่างหนาให้ลุกขึ้น ก่อนปรี่เข้าไปกอดพี่ชายสุดที่รักอย่างประจบประแจง
เป็นซะแบบนี้ จะไม่ให้พี่หวงได้ยังไงกัน หือออ…แจจุง
“ชั้นจะลองเปิดโอกาสให้นายคบกับน้องชายชั้น แต่… บอกไว้ก่อนเลยนะว่าส่วนตัวชั้น ยังไม่ยอมรับนายเท่าไหร่ ฉะนั้น ถ้าน้องชายของชั้น ต้องมาเสียใจด้วยเรื่องของนาย โอกาสนายหมดลงทันที”
คำพูดเชิงอนุญาตของฮีชอลไม่เพียงแต่ทำให้คู่รักสบายใจเท่า นั้น แม้กระทั่งซีวอนเองซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ที่เกือบจะบานปลายก็รู้สึกโล่งใจ คล้ายกับยกภูเขาออกจากอกเช่นกัน สายตาที่แจจุงมองตอบยุนโฮมันบอกความนัยหมดสิ้นแล้ว แววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วย “รัก” ขนาดเขายังมองออก แล้วคนที่เลี้ยงดูแจจุงมาตั้งแต่เด็กอย่างฮีชอลจะมองไม่ออกเชียวหรือ นั่นย่อมเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
แฉกเช่นเดียวกับยุนโฮ นัยน์ตาคมที่จ้องเข้าไปในลูกแก้วสีนิลใสของแจจุงมันสะท้อนความรู้สึกรักที่ มีต่อแจจุงอย่างเปิดเผย ซีวอนลอบมองคนทั้งคู่อย่างเงียบเชียบ แล้วหันไปสบตาฮีชอล ท่าทางคนรักของเขาจะแพ้ทางแจจุงอีกแล้ว ซีวอนพยักหน้าให้ฮีชอลอย่างให้กำลังใจว่าสิ่งที่ตัดสินใจไป มันถูกแล้ว รอยยิ้มที่ยกขึ้นเพียงนิดเดียวของฮีชอล ทำเอาซีวอนพ่นลมออกจากปาก เขารู้ว่าพายุ สงบลงแล้ว!
ยุนโฮหันไปมองแจจุงที่ส่งยิ้มกว้างรออยู่ก่อนแล้ว ยุนโฮรีบตอบรับคำพูดของฮีชอล ริมฝีปากอิ่มระบายยิ้มด้วยความยินดี “ขอบคุณครับ ผมรับรองว่าจะไม่มีวันนั้นแน่นอน”
“แล้วชั้นจะคอยดู” ฮีชอลพูดขู่ทิ้งท้าย ส่งค้อนให้ยุนโฮขวับ เริ่มหมั่นไส้ยุนโฮขึ้นมาตงิดๆ ป่านนี้ยังไม่หยุดจ้องน้องชายเขาสักที พอเหลือบมองใบหน้าหวานของน้องสุดที่รัก คนเป็นพี่ถึงกับพูดไม่ออก จะยิ้มหน้าบานไปถึงดาวอังคารหรือยังไงกันน้องชายชั้น … พอกันทั้งคู่… นั่นคือสิ่งที่คนเป็นพี่คิด
ถึงเขาจะไม่ได้พึงพอใจเท่าไหร่กับการที่แจจุงหันมาคบกับ ผู้ชายอย่างยุนโฮ แทนหญิงสาวที่เพียบพร้อมอย่างโบอา แต่เมื่อมันเป็นความสุขของน้อง เขาก็คงต้องลองเปิดใจ ยอมรับมัน อย่างที่ซีวอนพูดไว้คงจะถูกว่า การที่เขารักน้องมากมายนั้นมันไม่ผิด แต่การมอบสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดีที่สุดสำหรับน้อง ไม่เรียกว่าให้ความรักกับน้อง เพราะความรักไม่ใช่การฝืนใจ ถ้าอยากให้ก็ต้องให้ในสิ่งที่น้องต้องการ ไม่ใช่ยัดเยียดความสุขในความคิดของตัวเองใส่สมองน้องเท่านั้น บางที ชอง ยุนโฮ อาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่เขาคิด ก็ได้..
ชอง ยุนโฮ ชั้นก็แค่ ให้โอกาสนายเท่านั้น แต่...ถ้าชั้นเห็นว่านายไม่คู่ควรกับความรักของน้องชายชั้นแม้เพียงนิดเดียว
นายจะไม่มีทางได้เจอ น้องชายของชั้นอีก...ชั่วชีวิต!!!
---------------------------------------------------------------------------------------------------
ความชุลมุนวุ่นวายเกิดขึ้นทันทีที่แผ่นกระดาษ จำนวนนับสิบถูกติดลงยังบอร์ดประกาศใต้อาคารชั้นล่างสุดของโรงพยาบาล แรงเบียดเสียดของเหล่านักศึกษาแพทย์ไม่ได้เป็นอุปสรรค์ต่อยูฮวานแม้แต่น้อย ร่างเพรียวดันตัวแทรกกายไปอยู่ด้านหน้าของแถวได้สำเร็จ ความจริงแล้วถ้าเลือกที่จะนั่งดูผลประกาศทางอินเตอร์เน็ตอยู่ที่บ้านมันคงจะ สะดวกกว่านี้หลายเท่าแต่ถ้าต้องรอไปอีกสองวันให้หลังกว่าที่ผลทางอินเตอร์ เน็ตจะออกล่ะก็กวางน้อยผู้แสนใจร้อนตนนี้ก็ขอเลือกวิธีมุงดูคงจะถูกใจตัวเอง ซะมากกว่า ดวงตากลมโตมองตามนิ้ว เรียวอย่างพินิจด้วยความตั้งใจ ยูฮวานเลือกที่จะตรวจดูจากลำดับล่างขึ้นไปด้านบน แผ่นแล้วแผ่นเล่าก็ยังไม่ปรากฏชื่อให้เห็น แอบดีใจที่ตนเองสามารถทำคะแนนได้เกินที่คาดหวังและหยุดหายใจสงบสติอารมณ์ อยู่พักใหญ่เมื่อมาถึงกระดาษแผ่นสุดท้าย แผ่นที่มีความต่างของคะแนนไม่เกิน 0.02 ของหน่อย
หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำตึกตักอยู่ในอกด้วยความระทึกและแทบจะหยุดลงพร้อมๆกับการที่เห็นรายชื่อของตนเด่นหลาอยู่ที่ด้านบนของแผ่นกระดาษ แต่ รอยยิ้มกว้างก็ต้องหุบลงในทันใดเหลือเพียงรอยยิ้มจางๆเท่านั้น เมื่อผลประกาศที่เกินความคาดหวังนี้แต่ยังไม่เป็นที่พอใจสำหรับเขา ใครจะหาว่าเขาโลภมากก็เชิญเพราะที่สิ่งที่ทำไปตั้งใจจะให้เป็นของขวัญสำหรับ ชางมินที่คอยดูและเอาใจใส่ คอยช่วยแนะนำและสอนในสิ่งที่ไม่เข้าใจแต่เขาก็ยังทำมันได้ไม่สำเร็จ...ที่ 2 ก่อนรอยยิ้มหวานมีเสน่ห์จะปรากฏขึ้นมาอีกคราเมื่อคะแนนสูงสุดได้ตกไปเป็นของเพื่อนรักคนสนิท...ลี แทมิน
“ลี แทมินได้อันดับที่หนึ่งงั้นหรอ? ร้ายไม่เบาแหะ ส่วนนายปาร์ค ยูฮวานลูกศิลษ์ของคุณหมอชางมินคนเก่งแถมยังพ่วงตำแหน่งความหล่อไม่เป็นรอง ใคร ได้อันดับที่สองด้วยคะแนนที่ไล่ตามกันมาติดๆ เก่งมากวางน้อยของชั้น^^”ยื่นใบหน้าหล่อๆพร้อมกับขโมยจุมพิตแสนหวานยังแก้มเนียน ชางมินคงไม่ได้สังเกตถึงอารมณ์ของคนตัวเล็กว่าตอนนี้กำลังอยู่ในห้วงอารมณ์ใด หงุดหงิด โกรธหรือร้องไห้...เสียใจ??? ยูฮวานเอื้อวตัวออกมายืนมองคนชอบฉวยโอกาสด้วยดวงตาที่แดงก่ำ น้ำตาที่ปริ่มเตรียมตัวจะไหลอาบสองข้างแก้มได้ทุกเมื่อ
“ร้องไห้ทำไม!?”คำ ถามที่เต็มไปด้วยความห่วงใยทำเอาคนตัวเล็กถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ กวางน้อยถลาเข้ากอดคุณหมอหนุ่มร่างโย่งเอาไว้แน่น ปากบางที่สั่นพร่าเอาแต่เอ่ยพร่ำวาจาที่ไม่สามารถจับใจความได้เลยแม้แต่น้อย
“ยูฮวาน...เป็นอะไร? บอกชั้นสิ! ร้องไห้แบบนี้คนอื่นเค้ามองนายใหญ่แล้วนะ”
“ฮึก...ฮืออๆๆ”
“ยูฮวานบอกชั้นเถอะ อย่าเอาแต่ร้องไห้แบบนี้เลย”ชายหนุ่มออกคำสั่งคล้ายเป็นคำขอร้องเสียมากกว่า เห็นคนรักเป็นแบบนี้แล้วใจไม่ดีเลย
“ฮือๆ...นายผิดหวังหรือเปล่า?”คนตัวเล็กถูหน้าไปมาก่อนเงยหน้าขึ้นถามคนที่กำลังกอดเขาเอาไว้แน่น
เหตุผลที่ทำให้คนอย่างยูฮวานร้องไห้คือ ความผิดหวัง ยูฮวานต้องการจะสอบให้ได้คะแนนอันดับหนึ่งของสาย เหตุผลยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม คือเขากับชางมินจะได้ทำงานร่วมกันในสถานรักษาพยาบาลแห่งนี้ แล้วการที่เขาสอบติดอันดับสองแบบนี้คงไม่ต้องเดาให้ยากว่าคงจะถูกส่งตัวไป อยู่ที่ต่างจังหวัดแต่ถ้าโชคดีหน่อยก็คงจะเป็นโรงพยาบาลแถวๆแถบชานเมือง แล้วแบบนี้จะไม่ให้เจ้ากวางน้อยเสียใจได้ยังไง ไม่ใช่ต้องห่างกับชางมินแค่คนเดียว แต่เขายังต้องห่างกับครอบครัวที่แสนอบอุ่นนี้เสียด้วย แต่จะให้ทำยังไงในเมื่อเขาได้เลือกเส้นทางที่คิดว่าดีที่สุดให้กับตัวเองไป แล้ว
“ผิดหวัง...นายหมายถึงอะไร?”ชางมินลูบหัวทุยเบาๆอย่างรักใคร่ รอยยิ้มจางๆของชายหนุ่มไม่ได้ทำให้คนมองรู้สึกดีขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย
“ก็ชั้นทำอย่างที่ตั้งใจไม่ได้...ชั้นทำไม่ได้อ่า...ฮือๆ”เอาอีกแล้ว ยูฮวานเริ่มร้องไห้เสียงดังอีกแล้ว...แล้วผมควรจะทำยังไงดี?
“โอ๋ๆ อย่าร้องนะครับ เรื่องแค่นี้เอง ชั้นไม่ได้ผิดหวังอะไรในตัวนายเลยแม้แต่น้อย...ยูฮวาน”ตาบ้านี่พูดอะไร ทำไมถึงยังใจเย็นอยู่ได้นะ คนบ้า! ยูฮวานบ่นอยู่ในใจกับท่าทีใจเย็นของชางมิน
“ชั้นกลับภูมิใจในตัวนายเสียมากกว่า แล้วก็ดีใจมากด้วยที่นายตั้งใจทำมันเพื่อชั้น ถึงแม้ว่ามันจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวังเอาไว้แต่แค่นี้เจ้าเป็ดปากบานก็ดีใจ จะแย่อยู่แล้ว...รู้มั้ยครับ...หืม~~~”โอ้ยยย...ให้ตายสิ ผมไม่เคยพูดอะไรที่มันหวานเลี่ยนแบบนี้เลย - -
“ฮึก...พูด...พูดอะไรของนายเนี่ย >//<”ใบหน้าที่แดงก่ำจากการร้องไห้ช่างดูน่ารักเสียเหลือเกิน ชางมินอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปหยอกล้อกับปลายจมูกโด่งรั้นแสนดื้อ
“ใครกันน้าที่เคยบอกชั้นว่าไม่ให้คิดมากๆ แต่กลับเป็นเจ้าตัวซะเอง นึกว่าจะเป็นผู้ใหญ่แล้วซะอีก”ชางมินลอยหน้าลอยตา แต่คนที่ฟังนี่สิ เบิกตากว้างทันทีเมื่อตนเองตกเป็นฝายถูกพาดพิง! ชางมิน นายนี่พูดอะไรไม่เข้าหูชั้นอีกแล้วนะ...เดี๋ยวเถอะ
“ชั้นพูดเองแหล่ะ...ทำไม หรือว่านายมีปัญหา...ห๊ะ!!!”
“เปล่าคร้าบบบ...ไม่กล้ามีหร๊อก ดุจะตายไป -*-”คำพูดประโยคหลังถึงแม้จะแผ่วเบาสักเพียงใด แต่ก็ไม่อาจเล็ดลอดผ่านคนหูดีอย่างยูฮวานไปได้หรอก...จะบอกให้!
“ชิม ชางมิน!”ยูฮวานกดเสียต่ำ เสียงจนน่าขนลุกและก็เป็นชางมินเสียงเองที่ไม่สามารถกลั้นเสียงหัวเราะเอา ไว้ได้ ชายหนุ่มระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นจนคนที่ยืนมองถึงกลับต้องเบี่ยงหน้า หนี...น่าหมั่นไส้
“จะหยุดไม่หยุด...ห๊ะ ชิม ชางมิน”
“ฮ่าฮาๆๆๆๆ”เจ้าของชื่อเอามือกุมท้องที่มันแข็งจนเริ่มปวดหนึบ
“หนึ่ง...สอง...สา...ม”
“อะ...อุ๊บ...:Xx ยะ...หยุดแล้วก็ได้ ก็ชั้นไม่อยากให้กวางน้อยเครียดนี่นา แล้วตอนนี้หายเครียดหรือยังครับเด็กดี^^”ย่อ ตัวลงมาประจันหน้ากับคนช่างเจรจา ปากอิ่มเชิดขึ้นอย่างท้าทาย ถ้าไม่ติดว่านี่เป็นสถานที่ราชการ ชางมินคงได้ดึงยูฮวานมาจูบเสียให้เข็ด โทษฐานที่ชอบยั่วเค้า...โดยไม่รู้ตัว -3-
“ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนี้เลยนะ...มองตาชั้นแล้วบอกชั้นมาสิว่าตอนนี้รู้สึกดีขึ้นหรือยัง?”ยูฮวานยิ้มมุมปากก่อนจะสะบัดหน้า...ไม่ยอมทำตามคำสั่ง
“ปาร์ค ยูฮวาน อย่าบอกนะว่านายไม่กล้าสบตาชั้นน่ะ”คนช่างยุส่งวาจาท้าทาย ยูฮวานพอได้ยินดังนั้นก็รีบทำตามคำท้าทันทีแบบไม่ต้องคิด...เรื่องแค่นี้ ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ!
“อื้อ~~~”นี่แหล่ะคือคำตอบของคนอวดดี
“อะไรนะ...ไม่ได้ยินเลย”ยกมือขึ้นป้องหูพร้อมท่าทางประกอบ
“ก็บอกว่าอื้อๆๆ รู้สึกดีขึ้นแล้ว พอใจยังล่ะ”เขย่งปลายเท้าพูดใส่หูคุณหมอหนุ่มซะเสียงดัง
“ฮ่าๆ...แบบนั้นก็ดีแล้วเพราะถึงนายเครียดไปเราก็ เปลี่ยนแปลงอะไรมันไม่ได้อยู่ดีนั่นแหล่ะ ถึงนายกับชั้นจะไม่ได้ทำงานด้วยกันจริงๆ แต่ชั้นก็ไปหานายได้อยู่ดี เอ...หรือว่านายจะเป็นฝ่ายมาหาชั้น...อืม...เอาไงดีๆ”ชางมินเริ่มเคร่งเครียดกับตัวเลือกมากมายที่ว่า
“คิคิ...ก็เอามันทั้งสองอย่างนั้นแหล่ะ”ยูฮวานหัวเราะชอบใจยกใหญ่กับคำพูดน่าอายของตนเอง อ่า~~~ นี่เค้ากำลังคิดเรื่องอะไรอยู่เนี่ย >//<
“อ้า~~~ เป็นความคิดที่ดีแหะ^^”
“อ่า...ว่าแต่นี่มันกี่โมงกันแล้วเนี่ย?”เหลือบตามองดูนาฬิกาเรือนหรู
“0.O”คงไม่มีเวลามากพอที่จะให้ชางมินได้อธิบายอะไร ข้อมือบางถูกคว้ารวบไว้พร้อมกับแรงชักจูงของคนตัวโตกว่า
“นี่ๆๆๆ จะทำอะไร จะรีบไปไหนน่ะชิม ชางมิน~~~”กวางน้อยหยุดรั้งข้อมือชายหนุ่มเอาไว้ นึกจะฉุดเค้าไปทางนู้นทีทางนี้ทีเห็นเค้าเป็นตุ๊กตาหรือไงกันนะ
“ไม่มีเวลาพูดแล้ว เดี๋ยวก็ตกเครื่องกันพอดี”
“0.O ตกเครื่อง...หมายความว่ายังไงอ่ะ...ชางมิ๊นนน”
“นี่อย่าพึ่งถามมากได้มั้ย เกิดถ้าไอ้ยุนกับอาจารย์หมอมาเห็น ชั้นได้ซวยกันพอดี รีบไปจากที่นี่กันก่อนแล้วชั้นจะอธิบายให้นายฟัง...โอเคมั้ย?”ชางมินพูดซะยาวเยียด ถึงจะรัวเร็วจนฟังไม่รู้เรื่องยังไงแต่คนตัวเล็กก็พอจะจับใจความได้บ้าง ทำตามนายไปก่อนก็แล้วกัน...เฮ่อ~~~
“ชิม ชางมิน นั่นนายกำลังจะไปไหนน่ะ รีบร้อนเชียวนะ”เสียง เรียกของชายชราดังขึ้นจากข้างหลังจนชางมินรีบหยุดชะงัก คนที่วิ่งตามมาไวๆถึงกลับเบรกไม่ทัน หัวทุยชนเข้าอย่างจับที่กลางหลังของชายหนุ่ม...โอ้ยยย
“คะ...ครับ อาจารย์หมอ แหะๆๆ”แทรก ทำเป็นไม่รู้เรื่อง ใบหน้าคมคายไร้สีเลือดฝาด พยายามหาหนทางที่จะพาตนเองและคนรักไปเที่ยวให้ได้อย่างที่ใจต้องการ ถ้าถูกอาจารย์หมอกักตัวไว้แผนการของเขาก็ได้ล้มไม่เป็นท่ากันพอดี อุตส่าห์ไปขอยูชอนเรื่องที่จะพายูฮวานไปเที่ยวกับตนจนได้แล้วเชียว...เอาไง ดีๆ
“จะไปไหนกัน? งานที่อาจารย์หมอมอบหมายไว้ให้ทำเสร็จแล้วหรอ?”
“เอ่อ...คือว่า...อาจารย์หมอพึ่งให้ผมเมื่อเช้านี้เองแล้วมันจะไปเสร็จได้ยังไงกันล่ะครับ”
“เอ่อ...นั่นสิ อาจารย์หมอลืมไปเลย ฮ่าๆ”คนแก่กว่าหัวเราะให้กับความขี้ลืมของตนเอง
“แล้วนี่จะไปไหนกัน?”คำถามของผู้มีพระคุณต่อชางมิน ทำเอาชายหนุ่มไม่อาจที่จะโกหกออกไปได้
“คือว่า...เราสองคนจะไปเที่ยวกันน่ะฮะ”
“ไปเที่ยวหรอ!!!”
“อ่า...ฮะ...แต่...อาจารย์หมอไม่ต้องเป็นห่วงนะฮะเรื่องงานที่มอบหมายให้ผมทำ ไอ้ยุนมันรับอาสาแทนเรียบร้อยไปแล้ว แหะๆ”ขอโทษนะโว้ยไอ้ยุน แต่ถึงคราวที่แกจะต้องทำงานชำระหนี้ให้ชั้นบ้างแล้ว
“อืม...อาจารย์หมอคงให้งานเราสองคนหนักจนเกินไป เอาไว้ถ้าคุณหมอชางกับคุณหมอชองทำงานนี้เสร็จเมื่อไหร่ อาจารย์หมอจะให้พักงานยาวเลยดีมั้ย?”
“พัก...พักยาวนี่ไม่ได้หมายความว่า...จะไล่ผมออกใช่มั้ยครับ???”คุณหมอหนุ่มหน้าซีดลงกว่าเดิม ยูฮวานแอบอมยิ้มน้อยๆกับท่าทางน่าขบขันของชายหนุ่ม...คิคิ
“อาจารย์หมอจะไล่ลูกศิลษ์เก่งๆแบบนี้ได้ยังไง อ้าว...ไปเถอะ ขอให้เที่ยวให้สนุกล่ะกัน เดี๋ยวอาจารย์หมอจะไปตามงานที่เจ้ายุนมันก่อน...โชคดีๆ”
“คร้าบบ...สวัสดีครับอาจารย์หมอ”ชางมินเอ่ยลา ยูฮวานก็เช่นกัน
.
.
.
“นี่ชางมิน โยนงานไปให้พี่ยุนแบบนั้นได้ยังไง?”ตุ๊กตาหน้ารถเอ่ยถามในประเด็นที่กำลังสงสัยและข้องใจ เห็นช่วงนี้พี่ยุนโฮดูยุ่งๆเครียดๆอยู่ด้วย
“ก็ปล่อยให้มันทำซะบ้าง จะได้ไม่ว้าวุ่น”
“แล้วแบบนี้จะไม่เครียดไปกว่าเก่าหรอไง?”
“ไม่สนใจ...นายอ่ะไม่รู้อะไรซะแล้ว ก่อนที่เราจะครบกันนะมันเอาแต่โยนงานมาให้ชั้น ทำอย่างกับชั้นเป็นถังขยะไปได้...ชิร”นึกย้อนไปถึงตอนนั้นแล้วมันก็น่าเจ็บใจ ปล่อยให้ไอ้เพื่อนตัวดีไปทำเรื่องแย่ๆอยู่ได้ตั้งนานสองนาน
“หรอ...แล้วนายก็เลยคิดที่จะเอาคืนพี่ยุนของชั้น...ว่างั้น?”
“ของนาย!!!”คนขับรถทวนคำเสียงดัง
“นี่แหน่ๆๆ”มือหนาทั้งบดทั้งขยี้กลุ่มผมนุ่มจนบัดนี้มันยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง
“โอ้ยยย...ชางมิน!!!”ยูฮวานโวยวายพรางก้มตัวหลบพลันวัน...เล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง
“พูดอะไรของนายอ่ะ พี่ยุนโฮของชั้น ชิร...ของแจจุงเค้าต่างหาก”คนพูดหน้าบึ้งเป็นตูดเป็ดไปเรียบร้อยแล้ว ;B
“ฮ่าๆ ดูทำหน้าเข้า คิดว่าน่ารักมากเลยหรือไง?”
“ไม่รู้!”อยู่ๆดูท่าคุณหมอจอมกวนจะโกรธขึ้นมาจริงๆซะแล้ว
“โอ๋ๆ...ชางมิน...ชางมิน...ชิม ชางมิน~~~”คนขี้งอนยังคงสนใจถนนตรงหน้ามากกว่าคนตัวเล็กข้างกาย
“.............”
“อย่าโกรธชั้นน้า...ชั้นแค่แกล้งนายเล่นเฉยๆเอง ชางมินของชั้นต่างหากที่น่ารักที่สุด...ชิม ชางมินของปาร์ค ยูฮวาน >//<”
~ เอี๊ยด ~
เสียงเบรกรถดังสนั่นหวั่นไหว ชายหนุ่มแตะเบรคในทันใดกับคำพูดแปลกหูที่ไม่ค่อยได้ยินมากนักจากปากของยู ฮวาน สองแขนคว้าหมับเข้าที่ใบหน้าขาวเนียนก่อนจะเคลื่อนเสี้ยวหน้าหล่อเรียวเข้า ไปกระซิบอะไรบางให้คนรักได้รับรู้บ้าง
“ปาร์ค ยูฮวานก็เป็นของชิม ชางมินคนนี้คนเดียวเหมือนกัน!”ไล้ สันจมูกไปเรื่อยๆ เรียวลิ้นนุ่มตวัดไล่เลียกลีบปากอิ่มสีสด สายตาที่ส่งมามันช่างเจ้าเล่ห์เสียจริง ชางมินกำลังจะกลายเป็นคนคุมเกมส์ในครั้งนี้อีกแล้ว ริมฝีปากได้รูปไม่รอช้าที่จะครอบครองเรียวปากอิ่มที่เผยออ้าออกรอคอยจุมพิต แสนหวานของชายหนุ่มให้ก้มลงมาประทับด้วยความเต็มใจ
“อะ...อืม~~~”ยูฮวานค่อยๆผลักแผงอกแกร่งออกอย่างแผ่วเบา นึกเสียดายกับรสจูบแสนอ่อนโยนที่ถูกหยิบยื่นไปให้ แต่อากาศหายใจก็เหลือน้อยลงเต็มที
“ไหน...ไหนบอกว่าจะรีบไปไง >///<”ทุบมัดแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นการเตือนสติ
“ชั้นจะพานายไปเกาะเชจูนะ...ยูฮวาน”คนพูดยังไม่เลิกส่งสายตากรุ่มกริ่ม...จะแกล้งกันไปถึงไหน ชางมินบ้า
“จะบ้าหรอไง...ชั้นไปกับนายไม่ได้หรอก พี่ยูชอนไม่ยอมให้ชั้นไปนอนค้างคืนไกลๆแบบนั้นแน่ๆ”ด้วย รู้ใจของพี่ชายของตนเองดี การไปพักแรมในที่ที่ไกลๆแบบนี้แถมยังไปกับ...เอ่อ...กับคนรักสองต่อสอง มันคงเป็นเรื่องที่ยากในการเอ่ยปากอนุญาตให้ไป
“ใครบอก...พี่นายอนุญาตแล้วต่างหาก แถมยังลงมือจัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางมาให้นายอีกตั้งสองใบแหน่ะ...เค้า รับชั้นเป็นน้องเขยแล้ว ไม่รู้หรอ ฮ่าๆ”ชางมินหัวเราะชอบใจ
“ห๊ะ!!!”ยูฮวานอ้าปากค้างด้วยความงุนงง
“จริงๆ...ชั้นไม่ได้โกหกนายนะ ทำไมมองชั้นแบบนั้นล่ะ?”ชางมินรีบออกตัว ก็ดูยูฮวานทำหน้าทำตาเข้าสิ
“ฮ่าๆ เชื่อๆก็ได้ ก็ทุกทีพี่มิคไม่ใจดีแบบนี้กับใครนี่นา...ไปกันเถอะชางมิน ถ้าพี่มิคโอเค ชั้นก็ไม่มีปัญหาอยู่แร้ววว...ไปๆๆๆ...ไปเกาะเชจู...วู้ๆๆๆๆ”
“ฮ่าๆๆๆๆ”
ความร่าเริงของยูฮวานและเสียงหัวเราะของชางมินช่างเป็นสิ่งที่เข้ากันได้ดีเสียจริงๆ...แล้วแบบนี้จะเรียกได้มั้ยว่ามันคือการไป ฮันนีมูล ล่วงหน้าน่ะ>//<
----------------------------------------------------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น