2554/09/12

Part…35 ข่มขืน!!!

Title : [Fic] หมอ...llจิตll 
Writer : GroupBee + KJW
Couple: YunJae , YooSu , MinRic
Genre : Drama , Erotic        
NC :  20+
Part…35 ข่มขืน!!!

หลังจากที่เรียนวิชาสุดท้ายและระหว่างที่รอแจจุงไปส่งงาน จุนซูขอแยกตัวมาดักรอพี่ยูชอนที่ใต้ตัวตึกของคณะเศรษฐศาสตร์  โชคร้ายที่วันนี้จุนซูลืมเอาโทรศัพท์มาเลยทำให้ติดต่อกันได้ยากไปสักหน่อย แก้วใสคู่งามถูกบดบังด้วยมือปริศนาก่อนที่มือหนาอีกข้างหนึ่งจะรั้งเอวบางเข้ากอด ลมหายใจและสัมผัสอุ่นๆประทับยังพวงแก้มนุ่มนิ่ม กลิ่นน้ำหอมบวกกับกลิ่นกายเฉพาะตัวของพี่ยูชอน จุนซูจำได้ดีไม่ต้องเดาให้เสียเวลา เสียงใสอุทานออกมาเบาๆ
พี่ยูชอน~”
ว่าไงครับนางฟ้าของพี่...ทำไมไม่รับโทรศัพท์พี่อีกแล้วล่ะยูชอนกดโทรศัพท์หาจุนซูจนมือแทบจะพันกันแต่คนตัวเล็กก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์สักที ทำเอาร่างโปร่งอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้
จุนซูลืมเอาโทรศัพท์มาฮะ...พี่ยูชอนรอจุนซูนานมั้ย?ชายหนุ่มส่ายหน้าแทนคำตอบ  มือหนายกขึ้นจัดทรงผมให้จุนซู สายลมในยามบ่ายแก่ๆทำให้หัวคนตัวเล็กดูยุ่งเหยิงไปหมดแต่ดูน่ารักสำหรับเค้าไม่น้อยเลยทีเดียว
จุนซูต่างหาก รอพี่นานหรือเปล่าครับ...หืม?หลังจากที่สอนเสร็จร่างโปร่งก็รีบลงมาหาจุนซูเพราะไม่อยากให้คนตัวเล็กต้องรอนาน...เค้ารู้ว่าจุนซูไม่ชอบรออะไรนานๆ
วันนี้พี่ติดประชุมคงจะเลิกดึกมาก จุนซูกลับบ้านเองได้ใช่มั้ย?ใจจริงก็อยากให้จุนซูไปค้างที่บ้านด้วยกันแต่วันนี้คงเห็นทีจะไม่ได้เพราะเนื่องด้วยหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบ
ได้สิฮะ จุนซูโตแล้วนะพี่ยูชอนทำไมชอบมองเค้าเป็นเด็กอยู่เรื่อยเลยนะ...ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
อย่าดุพี่แบบนี้สิครับ ก็พี่เห็นจุนซูเป็นเด็กจริงๆนี่นายูชอนแกล้งแหย่
พี่ยูชอนฮะ!”คนที่ถูกเรียกว่าเด็กเริ่มไม่พอใจเสียแล้ว
ฮ่าฮา...พี่ไม่แกล้งแล้วก็ได้...อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ...ยิ้มหน่อยน้า...นะครับหยิบแก้มยุ้ยๆอย่างหมั่นเขี้ยว จุนซูหลุดหัวเราะให้กับความขี้อ้อนของยูชอนเข้าจนได้
อะ...แฮ่มมมเสียงกระแอมของผู้มาใหม่ดังขึ้น ไม่ใช่ใครที่ไหนแจจุงนี่เอง
แจจุงมาขัดจังหวะหรือเปล่าฮะ^^”สายตาที่มองมานั้นดูเจ้าเล่ห์ไม่น้อย
ทำไมนายมองชั้นแบบนั้นกันแจจุงจุนซูย้อนถามแต่ก็อดหน้าแดงไม่ได้
สวัสดีครับอาจารย์ปาร์ค^^”แจจุงเอ่ยก่อนจะก้มหัวเป็นเชิงทักทาย
หวัดดีครับแจจุงยูชอนส่งยิ้มเป็นมิตรกลับไปให้
นี่เพื่อนของจุนซูเองฮะพี่ยูชอนจุนซูเริ่มแนะนำทำตัวเป็นคนกลางที่ดี
ไม่ต้องบอกพี่ก็รู้...ตัวติดกันซะขนาดนั้นตั้งแต่ที่เค้าเข้ามาสอนที่นี่ก็เป็นต้องเห็นสองเพื่อนสนิททูคิมอยู่ด้วยกันตลอดเวลาสินะ มีแจจุงที่ไหนก็ต้องมีจุนซูที่นั่น มีจุนซูที่ไหนก็ต้องมีแจจุงด้วยเช่นกัน...สองคนนี้คงสนิทและก็รักกันมากจริงๆ
คิคิ
ได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการสักทีนะครับถึงแม้ว่ายูชอนจะเป็นแฟนกับเพื่อนของเขา แต่แจจุงก็ไม่เคยได้พูดคุยกับยูชอนแบบนี้เลยสักครั้ง  จะมีบ้างก็แค่เวลาส่งรายงานแต่ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการพูดคุยในแบบยูชอนที่เป็นคนรักของจุนซู
วันนี้แจจุงขอล็อคตัวจุนซูเอาไว้นะฮะ...แจจุงไม่ได้เจอจุนซูนานมากแล้วแกล้งแซวเล่นก่อนจะกระโดดกอดคอเพื่อนรักจุนซู เวลาเจอกันของทั้งคู่ดูน้อยลงไปจริงๆ ยูชอนหัวเราะให้กับความน่ารักของสองเพื่อนซี้ที่ยิ่งอยู่ด้วยกันก็ยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่
ฮ่าฮา...วันนี้ครูมีประชุมล่ะ สงสัยคงต้องยอมแจจุงหนึ่งวันซะแล้ว^^”
คิคิเสียงหัวเราะของโลมาน้อยทำเอาทุกคนถึงกับยิ้มตาม
 อ่า เดี๋ยวพี่ต้องไปประชุมแล้วล่ะ แย่จังยังอยากคุยอยู่เลยยูชอนพูดพรางทำหน้าตาเซ็งๆ ก็ประชุมทีนึงใช่ว่าจะชั่วโมงสองชั่วโมงเสียเมื่อไหร่ อย่างน้อยก็สามชั่วโมงคิดแล้วก็แสนจะเหนื่อยใจแต่ด้วยสปิริตความเป็นครูเค้าจะคิดแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด(คิดไปแล้วอ่ะปาร์ค...ไม่ทันอ่ะ55)
พี่ยูชอนพรุ่งนี้เรามีนัดกันนะครับจุนซูเอ่ยเตือน กลัวว่าพี่ยูชอนจะลืมเพราะวันนี้กว่าจะเลิกก็คงจะดึก พรุ่งนี้เค้าทั้งสองมีนัดกับพี่จุนโฮตอนบ่ายเสียด้วย!
ครับผม...แจจุงครูฝากเด็กดื้อจุนซูคนนี้ด้วยนะ...ต้องไปก่อนแล้ว...บายครับยังไม่ทันได้พูดอะไร พี่ยูชอนวิ่งออกไปซะแล้ว คำว่าเด็กทำเอาจุนซูถึงกับควันออกหู แจจุงก็เอาแต่หัวเราะกับประโยคทิ้งท้ายของยูชอน แต่เมื่อเริ่มรู้สึกถึงสายตาอำมหิตจากเจ้าโลมาตัวอวบมือบางก็รีบยกขึ้นปิดกลั้นเสียงหัวเราะที่ว่านั้นแทบไม่ทัน- -+
ไม่หัวเราะแล้วก็ได้...คิคิ
ยังไม่หยุดอีก...เดี๋ยวนี้เอาใหญ่แล้วนะ นายจะกลับมาบ้านเลยมั้ย?จุนซูเอ่ยชวนเพราะตอนนี้เริ่มจะเย็นมากแล้ว อากาศก็เริ่มหนาวมากขึ้นด้วย  แต่อยู่ๆแจจุงก็เงียบไปสีหน้าที่บ่งบอกถึงความไม่สบายใจบางอย่าง...เป็นอะไร?
มีอะไรหรือเปล่าแจจุง บอกชั้นได้นะจุนซูรู้สึกไม่ดีเลยที่เห็นแจจุงเป็นแบบนี้ นายน่าจะมีความสุขไม่ใช่หรอ?
โบอา...โบอารู้เรื่องของชั้นกับพี่ยุนสิ้นคำพูดของแจจุงทำเอาคนฟังถึงกับตกใจไม่น้อย
รู้หรอ...โบอารู้ได้ยังไง? ไม่มีทาง!”นอกจากตัวแจจุงก็มีเค้าที่รู้เรื่องนี้ แล้วโบอาไปรู้ความลับที่ว่านี้มาจากไหนกันนะ
เรื่องนี้ชั้นก็ไม่รู้...แต่โชคดีที่เธอไม่ได้เอาเรื่องนี้ไปบอกพี่ฮีชอล
แต่มันก็ไม่น่าดีใจเลยสักนิด...ชั้นล่ะจะบ้าตาย
ยังไม่หมดแค่นั้นนะจุน...มีอยู่วันนึงชั้นไปส่งโบอาที่บ้าน นายรู้มั้ยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับชั้น...จุนซูเบิกตาด้วยความอยากรู้ รู้สึกตื่นเต้นและเริ่มกลัวในเวลาเดียวกัน
เธอใส่อะไรบางอย่างลงไปในถ้วยกาแฟ ซึ่งมันทำให้ชั้นรู้สึก...แบบนั้น...ทางเพศน่ะ ยามันออกฤทธิ์เร็วจนน่ากลัวเลยล่ะ
แล้ว...ยังไงต่อ?
เธอพยายามจะมีอะไรกับชั้นด้วยแต่โชคดีที่ชั้นหนีออกมาได้ซะก่อน ก่อนที่อะไรๆมันจะแย่ไปมากกว่านี้ในขณะที่แจจุงกำลังเล่าเรื่องอย่างเคร่งเครียดนั้น จุนซูเองก็มีสีหน้าครุ่นคิดไม่แพ้กัน
 นายรู้มั้ยว่ามันเป็นเรื่องที่บังเอิญมากๆเลย ชั้นออกมาเจอพี่ยุนโฮพอดีแล้วเค้า...ก็...ช่วยชั้นไว้น่ะเมื่อนึกย้อนไปถึงความอ่อนโยนของยุนโฮในตอนนั้นแล้วแจจุงก็เขินขึ้นมาซะเฉยๆ พี่ยุนโฮดูเป็นสุภาพบุรุษจริงๆถึงแม้จะเป็นฝ่ายได้เปรียบอยู่มากก็เถอะ แต่ถ้าแจจุงไม่มาเจอพี่ยุนโฮเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำยังไง จะหาทางออกให้ตัวเองได้ยังไงเพราะในตอนนั้นอาการของเขาก็แย่พอตัวแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
เฮ้ยย...ค่อยยังชั่ว ดีนะที่ได้ยุนโฮ...เอ่อ ชั้นหมายถึงได้พี่ยุนของนายมาช่วยไว้น่ะจุนซูเริ่มหน้าแดงแข่งกับแจจุงซะแล้ว  ไม่รู้ว่าทั้งคู่คิดอะไรอยู่ >//<
ยัยโบอากล้าทำถึงขนาดนั้นเลยหรอเนี่ย...ไม่อยากจะเชื่อแต่ก็นะ...เรื่องแบบนี้เค้าก็พอจะเข้าใจความรู้สึกของโบอาอยู่บ้าง เมื่อความรักและความเสียใจมันบังตา ความผิดชอบชั่วดีย่อมถูกบดบังตามไปด้วยความโมโหและยากที่จะควบคุม
แต่ชั้นเข้าใจโบอานะ และเรื่องทั้งหมดมันก็เกิดขึ้นเพราะชั้น...ชั้นเองแจจุงพูดเสียงสั่น
แล้วนายจะทำยังไงต่อไป...แจจุง
ชั้นจะมาเคลียกับโบอาน่ะ กะว่าจะพาเธอไปส่งที่บ้านด้วยนึกหวั่นใจกับสิ่งที่กำลังจะต้องเผชิญอยู่ไม่น้อย แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ...?
มันต้องผ่านได้ด้วยดี....เชื่อชั้นสิจุนซูให้กำลังใจ
ชั้นก็ขอให้มันเป็นอย่างนั้น ขอบใจนายมากนะจุนซู ชั้นรักนายจังจุนซูอาสานั่งอยู่เป็นเพื่อนแจจุงจนกว่าโบอาจะเลิกเรียน เมื่อเวลาเริ่มดึกขึ้นเหล่านักศึกษาภาคเรียนสุดท้ายของวันนี้ก็ค่อยๆทยอยกันลงมาจากตัวตึกเป็นสัญญาณว่าวันนี้การเรียนได้สิ้นสุดลงแล้ว
ให้ชั้นอยู่เป็นเพื่อนนายดีกว่ามั้ยจุนซูเริ่มไม่แน่ใจเสียแล้ว
ไม่ต้องหรอก...จุนซูขอชั้นกอดนายอีกทีได้มั้ย เรียกความมั่นใจน่ะ
ทำไมจะไม่ได้ล่ะจุนซูตรงเข้าไปกอดเพื่อนรักของเค้า หยาดน้ำใสเริ่มเออซึมขอบตาสวยของคนทั้งคู่อีกครั้ง
ชั้นรักนายแล้วก็เข้าใจนายนะแจจุง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม...โชคดีนะ^^”ผละออกจากกันช้าๆก่อนที่ทั้งสองจะต่างคนต่างเช็ดน้ำตาให้แก่กัน ช่างเป็นภาพที่แสดงถึงความรักอันบริสุทธิ์ของจุนซูและแจจุง มิตรภาพที่จะยังคงแน่นแฟ้นแบบนี้ตลอดไปไม่แปรเปลี่ยน  จุนซูฉีกยิ้มกว้างให้แจจุงอีกครั้งเพื่อให้คนมองได้รู้สึกดีและมีกำลังใจขึ้นกว่าเก่า
กลับบ้านดีๆนะจุนซู
อื้อ...ชั้นไปก่อนนะยืนส่งจุนซูจนลับสายตาไป ตอนนี้ก็เหลือแต่เรื่องของเขาแล้วสินะ ถึงเวลาที่จะต้องไปปรับความเข้าใจกับโบอาอีกครั้งแล้ว...แจจุง


แจจุงออกมายืนรอโบอาที่หน้าคณะ หลังจากเกิดเรื่องในวันนั้นราวกับว่าหญิงสาวทำตัวหายไปจากชีวิตเขาไปเลย เขาไม่อยากให้มันจบแบบนี้ เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพียงเพราะความเห็นแก่ตัวของเขาฝ่ายเดียว ไม่น่าต้องมาทำให้ผู้หญิงดีๆคนหนึ่งมาเกี่ยวพันกับเรื่องแบบนี้เลยจริงๆ...ไม่น่าเลย ข้อมือสวยยกขึ้นมาดูเวลาเกือบจะหนึ่งทุ่มแล้ว น่าจะใกล้ถึงเวลาที่โบอาเลิกเรียนสักที แจจุงยังจำได้แม่นยำว่าทุกวันศุกร์เป็นวันที่โบอาเลิกเรียนช้าเสมอ จนเขาต้องมานั่งรอเพื่อที่โบอาจะได้มีเพื่อนกลับบ้าน  ลงมาแล้ว! โบอาก้มหน้าเกือบเดินเลยเขาไปเพราะมัวแต่สนใจค้นหาอะไรบางอย่างในกระเป๋าสะพายข้าง แจจุงคว้าข้อมือเล็กของหญิงสาวไว้ทันก่อนที่จะเดินหนี แค่เขาเรียกชื่อ “โบอา” เจ้าของชื่อก็หันมามองเขาอย่างตกตะลึงก่อนจะเตรียมสาวเท้าหนี
“ปล่อยโบอานะ!”หญิงสาวขึ้นเสียงพร้อมสะบัดข้อมือออก แต่มันไม่หลุดเมื่อแรงของตนมีน้อยกว่า
“ให้ผมไปส่งคุณเถอะ โบอา” แจจุงขอร้องเสียงอ่อน โบอามองใบหน้าของคนที่เคยได้ชื่อว่า “แฟน” เพียงแค่สบสายตาที่มองมาอย่างจริงใจ...เธอมองหาความแสแสร้งในแววตาคู่สวยของแจจุงไม่ได้จริงๆ
“เพื่ออะไรคะแจจุง เรื่องของเรามันจบไปแล้ว คุณน่าจะดีใจที่ต่อไปนี้ แจจุงจะได้ไม่ต้องมาฝืนทนทำเป็นรักโบอา”เสียงหวานเริ่มสั่น พอๆกับแก้วตาใสที่เอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำตา
“ผมขอโทษ ถึงคำขอโทษกี่ล้านคำ จะไม่ช่วยทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นแต่ผมก็ยังอยากจะพูด ผมเสียใจจริงๆครับโบอา ฟังนะ คุณจะเป็นผู้หญิง เพียงคนเดียวในชีวิตของผม ที่ผมเรียกว่า “แฟน” ที่ผมจะรักและคอยเป็นห่วงโบอา...ตลอดไป”
“แจจุง”
“กลับบ้านกันเถอะนะ เดี๋ยวผมไปส่ง” แจจุงพูดพร้อมถือโอกาสรวบมือโบอามากุมไว้หลวมๆ
..............
..............เมื่อเห็นหญิงสาวไม่ตอบอะไร เอาแต่จ้องหน้าเขาอยู่แบบนั้นเล่นเอาแจจุงใจคอไม่ดีเอาเสียเลย
“โบอา ถึงเราจะไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่เรายังเป็นเพื่อนกันได้...ใช่มั้ย?”แจจุงถามอย่างไม่แน่ใจ รู้สึกเหมือนตัวเองหน้าด้านมากที่ทำเขาไว้ขนาดนั้น แล้วยังมีหน้ามาร้องขอความเป็นเพื่อนจากเขาอีก มือเรียวสวยที่กุมมือของหญิงสาวไว้ค่อยๆปล่อยออกก่อนฝืนยิ้มเจื่อนๆ
“ไม่ได้สินะ”แจจุงเอ่ยเสียงเศร้า ทำท่าจะขอตัวกลับบ้าน แต่ทว่า...หญิงสาวกับจับมือของแจจุงไว้ แจจุงหันกลับมามอง เธอไม่ได้พูดตอบอะไรกลับไป มีเพียงแค่ยิ้มที่ส่งมาให้อย่างสดใสเท่านั้น
“จะไปไหน ทางกลับบ้านโบอามันต้องไปทางนี้ต่างหาก”หญิงสาวแกล้งหยอก แจจุงเดินจับมือกับโบอาไปตลอดทาง อยู่ๆเสียงหวานก็เอ่ยขึ้นมาทำลายความเงียบ
“เรายังเป็นเพื่อนกันได้ แต่...ขอเวลา โบอาทำใจก่อนได้มั้ย รอโบอาได้มั้ยคะ...แจจุง”แจจุงมองใบหน้าเปื้อนยิ้มของหญิงสาว ก่อนจะระล่ำระลักตอบอย่างดีใจ
“ได้สิ นานเท่าไหร่ก็จะรอ^^”ไม่รู้ว่าโบอาตาฝาดไปหรือเปล่า แต่รอยยิ้มของแจจุงในครั้งนี้ช่างดูละมุนและสดใสอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แจจุงคงอึดอัดใจมากและการไม่ถือโทษของเธอก็คงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่คนอย่างเธอจะทำให้ได้สินะ
เป็นครั้งแรกในรอบหลายวันเลยจริงๆที่แจจุงรู้สึกปลอดโปร่งมันสบายใจอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน เมื่อเขาสามารถเคลียร์ปัญหาของตัวเองกับโบอาได้จริงๆจังๆสักที ตลอดทางเข้าซอยหมู่บ้านของโบอา แจจุงก็เริ่มบ่นมาโดยตลอดทาง หญิงสาวก็เอาแต่หัวเราะแล้วก็หันมาล้อเขาเสียอีกว่าเป็นตาแก่ขี้บ่น ให้มันได้อย่างนี้สิคนเขาอุตส่าห์เป็นห่วง แจจุงเคยพูดหลายครั้งแล้วว่าให้โบอาย้ายไปอยู่ที่หอของมหาวิทยาลัย เนื่องจากกว่าจะถึงบ้านก็ดึกแล้ว แถมทางเข้าหมู่บ้านของหญิงสาวก็แสนจะเปลี่ยว...ไม่น่าเดินเลย โบอาก็ได้แต่บอกว่าเขาเป็นคนที่วิตกเกินไป  แต่สำหรับแจจุงมันใช่เพียงแต่ว่าบรรยากาศรอบด้านที่ดูไม่ปลอดภัยสำหรับหญิงสาวที่เดินท่อมๆกลับบ้านในยามวิกาล ถึงมันจะมีระบบรักษาความปลอดภัยดีเพียงไหน หากเราประมาทอันตรายก็เกิดขึ้นได้เสมอ
ข้างหน้าเขาเหมือนมีคนยืนมั่วสุมอะไรไม่รู้อยู่กลุ่มหนึ่ง ถึงจะมองไม่ถนัดเพราะรอบด้านปกคลุมไปด้วยความมืด แต่ก็ดูได้ไม่ยากว่าทั้งหมดนั้นดูไม่น่าไว้ใจแม้แต่น้อย แจจุงกระชับมือโบอาแน่น จริงๆเขาเริ่มจะกลัวขึ้นมาแล้ว เมื่อเห็นสายตาแทะโลมของคนเหล่านั้นที่มองมาที่เขาและโบอาอย่างน่ารังเกียจ แจจุงรีบพาโบอาเดินหนี แต่เพียงแค่คนทั้งคู่เดินผ่านตา คนเหล่านั้นก็ตั้งท่าย่างสามขุมเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลังเขากับโบอา จนมองไม่เห็นทางออก มันมีกันทั้งหมดสี่คน ตัวใหญ่ๆกันทั้งนั้นแล้วเขาจะสู้ไหวหรอ แจจุงคิดในใจอย่างตระหนก พยายามมองหาทางหนีทีไล่ เขายืนบังโบอาเอาไว้ ไม่อยากให้ถูกมองด้วยสายตาประทุษร้าย เพียงแต่รูปร่างที่ค่อนข้างบอบบางและรูปทรงไล่เลี่ยกัน ทำให้เหมือนผู้หญิงสองคนยืนซ้อนกันเสียมากกว่า
“จะทำยังไงดีค่ะแจจุง...โบอากลัว”หญิงสาวกระซิบถามเสียงสั่น
“ใจเย็นๆนะโบอา เดี๋ยวผมบอกว่า “วิ่ง” แล้วคุณรีบวิ่งกลับบ้านไปให้เร็วที่สุดนะ”
“ไม่เอา โบอาจะทิ้งคุณได้ยังไง”
“คุยอะไรกัน บอกพวกพี่มั้งสิ”หนึ่งในพวกกุ๊ยนั้นถาม ก่อนส่งมือหยาบมาจับที่หัวไหล่แจจุง ร่างบางสะบัดหนีอย่างรังเกียจ
“ปล่อยนะ พวกคุณถอยไปเถอะ ผมจะกลับบ้าน”แจจุงพูดออกไปอย่างหวาดๆ
“บ้านมันไม่หนีไปไหนหรอก มาเล่นอะไรสนุกๆกับพวกพี่ก่อนดีกว่า เฮ้ย!!! กูขอไอ้หน้าสวยนี่ พวกมึงจะทำไรกับอีคนนั้นก็เชิญ”แจจุงหันมาพยักหน้ากับโบอาเชิงส่งสัญญาณให้หนี หญิงสาวยังคงไม่ยอมไป แจจุงขยับหนีคนที่ทำท่าจองตัวเขา ก่อนพูดกับโบอาอย่างจริงจัง
“ถ้าคุณไม่หนีเราจะไม่รอดทั้งคู่...ไปซะ ผมบอกให้ไป!!!”แจจุงวิ่งเข้าใส่คนที่กางแขนออกมาขวางทางออก ก่อนผลักโบอาออกจากวงล้อมสุดแรง
“วิ่งงงงงงงง!!!!!!!” แจจุงตะโกนสุดเสียง ค่อยโล่งใจขึ้นมาบ้างเมื่อเห็นหญิงสาววิ่งหายไปจากสายตา ก่อนจะตกใจสุดขีดเมื่อถูกตบแรงๆที่ใบหน้า
“ทำบ้าอะไรน่ะ”ก่อนที่จะทันได้ตอบอะไร หนึ่งในพวกเลวนี่ก็ตะโกนขึ้นมา
“ชิบหายแล้ว พ่อมึงมา”
“เหี้ยเอ๋ย!!!!!!! มึงยังจะยืนอยู่อีกหรอไง ตำรวจมาแล้วมึงแหกตาดูบ้างมั้ย ไอ้ควาย ลากไอ้นี่ขึ้นรถ”แจจุงพยายามขืนตัวหนี แต่เรี่ยวแรงอันน้อยนิดของตนต่อให้ดิ้นยังไงก็ไม่ขยับเขยื้อนจากแรงกดล็อคแน่นหนา ในที่สุดก็โดนลากขึ้นมาบนรถจนได้
“ถ้าไม่อยากได้ ผัว! ทีเดียวสี่คนก็หยุดดิ้นแล้วเลิกแหกปากสักที กูรำคาญ”คำพูดประกาศิตนั่นทำให้ร่างบางที่ทั้งขัดขืนและส่งเสียงโวยวายสุดชีวิตนิ่งงันราวกับถูกสาบ ดวงตากลมมองคนที่เอ่ยคำขู่อย่างหวาดหวั่น ท่าทางของมันราวกับจะขย้ำเขาแทบทุกเมื่อ บรรยากาศนอกรถก็มืดสนิทจนเขามองไม่เห็นทางแล้วจะหนีจากพวกชั่วนี้ได้ยังไง?

พี่ยุนฮะ ช่วยแจจุงด้วย แจจุงกลัวฮะ

คนที่นั่งอยู่เบาะหน้าอยู่ๆก็เอื้อมมือมากระชากเอวแจจุงมาประชิดลำตัวอย่างถือสิทธิ์ ก่อนหยิบผ้ามาผูกคาดไว้แน่นหนาที่รอบศีรษะทุยสวย ปิดรอบดวงตาคู่งามที่เห็นภาพสุดท้ายคือ ใบหน้าที่มองเรือนร่างตนอย่างหื่นกระหาย ยิ่งตกอยู่ในความมืดแจจุงกลับยิ่งรู้สึกหวาดกลัวขึ้นไปอีก ยังไม่สาแก่ใจเมื่อแขนทั้งสองข้างถูกจับไพล่ไปด้านหลัง มันใช้อะไรสักอย่างมัดข้อมือเล็กของแจจุงอย่างแน่นหนา ทำอย่างกับว่าเขามีปัญญาหนีต่อให้แขนขาเป็นอิสระแต่ถูกนั่งล้อมหน้า--ล้อมหลังแถมส่งสายตาประทุษร้ายเรือนกายที่ไม่ต่างเท่าไหร่กับผู้หญิงแบบเขา ต่อให้มีปีกยังไม่รู้จะหนีพ้นน้ำมือพวกถ่อยนี้หรือไม่ แจจุงนั่งคิดอย่างอับจนหนทาง

พี่ยุนฮะ พี่อยู่ที่ไหน มาช่วยแจจุงที
     
รถจอดลงพร้อมกับร่างบอบบางที่เผลอหลับไปด้วยความเพลีย มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่โดนเหวี่ยงกระแทกลงมานอนกับพื้น ดวงตาที่ถูกผูกมัดด้วยผ้าทำให้ไม่เห็นแม้กระทั่งเบื้องหน้าของตนมีใครยืนอยู่ แจจุงถดกายถอยหนีไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปนั้นเพื่ออะไร แต่ตอนนี้เขาหวาดกลัวสิ่งที่เขามองไม่เห็นเหลือเกิน

พระเจ้า!!!! อย่าใจร้ายกับผมนักเลย

เป็นอีกครั้ง...ที่คำขอร้องของแจจุงไม่ได้ผล พระเจ้าไม่เคยยืนข้างเดียวกับเขาเลยจริงๆ ข้อเท้าเล็กถูกกระชากแรงๆจนมาชิดกับท่อนขาแข็งแรงของอีกใครคนหนึ่ง ก่อนที่กางเกงสแลคเนื้อดี จะถูกปลดออกจากร่างรวดเร็วพอๆกับเสื้อเชิ้ตตัวบางที่โดนฉีกแหวกจนกลายเป็นเพียงแค่เศษผ้า เสียงฉีกขาดของมันทำเอาแจจุงสั่นสะท้านอย่างหยุดไม่อยู่ ลำตัวบอบบางส่ายไปมาอย่างกระเสือกกระสน เมื่อมือหยาบของมันบีบเค้นไปแทบทุกส่วนสัดของร่างกาย ทั้งจาบจ้วง รุนแรง จนแจจุงกรีดร้องออกมาจนสุดเสียง ไม่มีทางที่เขาจะหนีสิ่งเลวร้ายที่กำลังเกิดขึ้นได้เลย ยิ่งแจจุงดิ้นรนผิวขาวๆก็ถูไถกับร่างกายของคนเลวทรามนั้นมากขึ้นไปอีก
“ฮึก...ยะอย่า...ทำ...อะ...อะไรผมเลยนะ...ฮื่ออออ”
“ปะ...ปล่อย ผมเถอะ เราไม่รู้จักกัน อย่าทำแบบนี้เลย”
เสียงร้องขอความเมตตา ไม่ได้ช่วยให้คนเลวหยุดการกระทำที่กำลังจะเริ่มขึ้นแม้แต่น้อย ไม่มีเสียงตอบรับคำขอ แม้จะหยุดชะงักการกระทำเลวทรามก็ไม่มีสักนิด ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ ทำเหมือนเขาพูดพร่ำเป็นบ้าอยู่ลำพัง เสียงคนคุยกันแว่วหายไปจนเหลือเพียงเสียงร้องของตัวเขาเองกับเสียงหัวใจที่เต้นแรงอย่างไม่อาจควบคุมความหวาดหวั่นในใจได้ แม้แต่หัวสมองของเขาก็ดูขาวโพลนไปหมด พอๆกับดวงตาที่ถูกปิดสนิท ไม่เหลือทางให้เขาได้ดิ้นรนสักนิดเดียว  ถ้าหูของแจจุงยังคงทำหน้าที่ได้ดีอยู่ ในที่แห่งนี้น่าจะมีเพียงตัวเขากับคนชั่วเพียงแค่สองคนแล้วมันจะต่างกันตรงไหน ในเมื่อเขาไม่ได้อยากถูกขืนใจ...ไม่ว่าจะด้วยคนกี่คนก็ตาม
แจจุงยังคงส่งเสียงร้องสะอื้นไห้อย่างน่าสงสาร ตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งเสียงหวานแผ่วเบาอย่างอ่อนแรง ไม่ทำให้คนชั่วหยุดยั้งการกระทำเลวทรามกับเรือนร่างของตนได้เลย ขาเรียวถูกจับแยกออกเพื่อสอดใส่สิ่งแปลกปลอมขนาดใหญ่เข้ามาในช่องทางรักที่เคยมีเพียงพี่ยุนโฮคนเดียวที่ได้สัมผัส ตอนนี้กลับต้องมาแปดเปื้อนจากน้ำมือคนเลวทรามด้วยการกระทำที่รุนแรง ร่างบางผวาสุดตัว ร้องไห้ออกมาปริ่มจะขาดใจ
“จะ...เจ็บบบ...ปล่อยนะ...ฮื่อออ...พี่ยุน...ช่วยด้วยย...ฮึกก”
ช่องทางที่ถูกรุกล้ำฉีกขาดเป็นทางยาวจนเลือดสีแดงสดไหลไม่หยุด แต่กลับอำนวยความสะดวกแก่การยัดเยียดท่อนเนื้อขนาดใหญ่ให้แทรกผ่านเข้าไปหาความสุขปลายทางได้ง่ายยิ่งขึ้น แรงกระแทกที่สวนกายเข้า—ออกอย่างเมามัน รุนแรงเสียจนร่างบางดิ้นพล่านอย่างเจ็บปวด มือหยาบขยี้ขย้ำก้นขาวเนียนจนขึ้นสีแดงอมม่วงอย่างน่ากลัว ฟันคมก็ไม่หยุดระรานเม็ดทับทิมประดับยอดอกทั้งกัดทั้งดึงจนเลือดไหลซึมออกมาชโลมหน้าอกขาวผ่อง แจจุงรู้สึกเหมือนร่างกายถูกแยกออกเป็นส่วนๆมันปวดร้าว ทรมานจนไม่อยากหายใจอีกต่อไป ยิ่งได้ยินเสียงคนชั่วครางอย่างสุขสมกับการได้ย่ำยีร่างกายของตน แจจุงแทบอยากกลั้นใจตายไปให้พ้นความอัปยศ

พี่ฮีชอล ช่วยด้วย
พี่ยุน ช่วยด้วย
จุนซู ช่วยด้วย 
เสียงร่ำร้องในใจยังคงดังก้องอยู่ในหัว...ไม่หยุด
ขอให้มันเป็นเพียงความฝัน ฝันร้ายที่เมื่อตื่นขึ้นมามันก็จะเลือนหายไป

“อื้ออ...ซี๊ดดด...อ่าาาา~~~”คนชั่วยังคงกระแทกกายสวนเข้ามาแสวงหาความสุขกับร่างบางไม่หยุด ร่างบางขยับตามแรงกระแทกจนรู้สึกแสบผิวไปหมด อาจเป็นเพราะเขานอนอยู่บนพื้นดินที่ประปรายไปด้วยเม็ดกรวดเม็ดทรายเล็กๆก็เป็นได้ คนชั่วบีบเค้นไปทั่วทั้งตัว พร้อมส่งเสียงครางอย่างน่ารังเกียจตลอดการข่มขืนเขา เมื่อมันถ่ายทอดผลผลิตจากความใคร่ที่น่ารังเกียจในตัวเขาเวร็จสิ้น แจจุงคิดว่าฝันร้ายคงจบลงแล้ว แต่มันไม่ใช่!!!  เมื่อมันชักส่วนนั้นออกเพียงครู่เดียวก็กระแทกสวนอัดมันกลับเข้าไปอย่างไม่ออมแรงอีกครั้งและอีกครั้ง
“ฮึก...พะ...พอสักที...พี่ยุน ช่วย...จะ...แจจุงที...ฮื่อออ...” เสียงแหบคร่ำครวญอย่างคนเพ้อ เขาคิดถึงพี่ยุนเหลือเกิน
แจจุงร้องไห้สะอึกสะอื้นจนรู้สึกปวดหัวไปหมด น้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุดทำให้เขาปวดไปทั้งเบ้าตา ป่านนี้ดวงตาคู่สวยคงจะบวมช้ำไปหมดแล้ว น้ำตาที่ไหลรินหลั่งไม่ขาดสายจนผ้าที่ปิดรอบดวงตาเปียกชื้นซึมไปทั่วทั้งผืน ลำตัวบางถูกจับพลิกไปพลิกมาอย่างกับตุ๊กตาไร้วิญญาณเพียงเพื่อรองรับความใคร่ของมันเท่านั้น ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่จะสิ้นสุด ตอนนี้แจจุงไม่อยากจะรับรู้อะไรอีกแล้วในหัวมาว่างเปล่าไปหมด ความเจ็บปวดอะไรนั้นเป็นยังไง เขาไม่รับรู้อะไรอีกแล้วจริงๆ ร่างกายมันชาเสียจนไร้ความรู้สึกไปแล้ว มีเพียงความต้องการเดียวที่ยังมั่นคงตั้งแต่ต้น คือ...ให้มันหยุดการกระทำของมันสักที...ได้โปรด
“อ่ะ…. อื้อออ~~~” คนกระทำราวกับไม่รู้สึกรู้สม ส่งเสียงครางระงมไม่หยุดจนกระทั่งสติของแจจุงวูบดับลง แต่ร่างบางยังคงขยับไปตามแรงของคนข้างบนที่ยังสวนกายเข้ามาอย่างไม่หยุด ทว่า...เมื่อร่างบางแน่นิ่งไป ไร้เสียงโหยหวนอย่างปวดร้าว กลับทำให้คนบางคนหยุดการกระทำทุกอย่าง ร่างด้านบนถอนสิ่งที่คาคับช่องทางบวมช้ำออกก่อนจะชันกายนั่งมองเสี้ยวหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบดินผสมน้ำตาจนมอมแมมไปหมด  น้ำตาเม็ดโตหล่นลงมากระทบผิวแก้มใสที่ยังปรากฎรอยช้ำแดงจากความรุนแรงป่าเถื่อน มือใหญ่แกะปมเชือกที่มัดข้อมือสวยจนเขียวช้ำแล้วเอื้อมมือไปคลายปมผ้าที่คาดปิดดวงตาคู่สวยออก...ริมฝีปากหยักสวยได้รูปพึมพำออกมาแผ่วเบาออกแรง ก่อนหันหลังเดินออกจากบริเวณนั้น โดยไม่เหลียวกลับมามอง
“แจจุง พี่ขอโทษ”

1 ความคิดเห็น:

  1. อ่าววววววแจจุงโก๊ะ เฮ้ยยยไอ้ชัวร์ทำไมทำกะนุ้งแจแบบนี้กีสๆๆๆ

    โวยวายๆๆๆ สงสารแจ ไอ้ยุนโฮ เดี่ยวเหอะเตะออกไปนอกโลกรักแจใหมเนี๊ยะ

    ไอ้ๆๆๆ @#&(&%*__)(*&#WE@Q2

    ตอบลบ