2554/03/05

[Fic] หมอ...llจิตll Part…17 ความรับผิดชอบของยูชอน

Title : [Fic] หมอ...llจิตll
Writer : GroupBee + KJW
Couple: YunJae , YooSu , MinRic
Genre : Drama , Erotic        
NC :  ?
Part…17 ความรับผิดชอบของยูชอน


สถานการณ์ในตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นการกดดันทั้งตัวเค้าแล้วก็จุนซูอยู่ไม่น้อย  ยูชอนรู้ดีว่าทุกคนในครอบครัวของเขาเป็นคนจิตใจดีแต่ที่ต้องมานั่งตีหน้ายักษ์ใส่แบบนี้ก็แค่จะดูท่าทีของจุนซูก็เท่านั้น

ป๊า ม๊าชั้นเป็นคนใจดี...อย่ากลัวไปเลยชั้นบอกแล้วไงว่าชั้นจะอยู่ข้างๆนายแบบนี้กระชับฝ่ามือบางให้แน่นขึ้นไปอีกต้องการลดความกดดันในใจของจุนซูถึงแม้ว่ามันจะช่วยไม่ได้มากก็ตาม

ห้องรับแขกถูกแบ่งเป็นสองฝั่งด้วยกันคือ ฝั่งของยูชอนและจุนซูกับอีกฝั่งตระกูลปาร์ค เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลานายองจึงเริ่มเปิดประเด็นคำถามขึ้น

ม๊าคงไม่ต้องถามอะไรลูกมากใช่มั้ย...ยูชอน

เอ่อ...คือผมอธิบายได้นะฮะ
ไม่ต้องหรอก ทุกอย่างที่ม๊าเห็นมันเป็นคำตอบที่ชัดเจนพออยู่แล้วนายองตัดบทลูกชายโดยการหันทิศทางมายังจุนซูที่นั่งก้มหน้าจนคางแนบชิดกับบอก

แล้วหนูล่ะ...ชื่ออะไร?จุนซูสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะตอบออกไป

ผมชื่อจุนซู...คิม จุนซูฮะ

เด็กที่น่ารัก ความหมายเป็นแบบนี้สินะ...แล้วพ่อแม่เธอล่ะทำงานอะไร

ม๊า...อย่ากดดันจุนซูแบบนี้สิฮะยูชอนยอมรับว่าตัวเค้าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่นายองทำแบบนี้ จุนซูตัวสั่นมากขึ้นจนยูชอนรู้สึกได้ อ้อมแขนแข็งแรงโอบประคอบไหล่บางพร้อมกับคอยตบมันเบาๆให้จุนซูรับรู้ว่าเขาจะคอยอยู่เคียงข้างเสมอ

ทำไมชั้นจะถามไม่ได้ล่ะ...แล้วนี่คบกันมานานหรือยัง...ถึงได้กล้ามานอนกับลูกชายชั้นแบบนี้!”วาจาที่เหมือนจะเป็นการเฉียดเฉียนจิตใจของจุนซู  น้ำตาเม็ดใสที่คลออยู่ในดวงตา ค่อยๆหยดลงยังแก้มสีชมพูช้าๆ

      นายองพอจะได้ฟังเรื่องราวของจุนซูจากยูฮวานมาบ้างแล้วเพราะยูชอนเวลามีอะไรก็มักจะไปพูดคุยหรือปรึกษากับน้องชายอยู่บ่อยๆ  ถึงยูชอนจะไม่ได้บอกว่าคนที่ยูชอนรู้สึกดีด้วยนั้นคือจุนซูแต่ยูฮวานก็พอจะเดาออก เด็กน่าตาน่ารักคนนี้ถูกใจนายองไม่น้อยและก็คงจะมีอะไรดีเพราะไม่อย่างนั้นไอ้เจ้าลูกชายตัวแสบจอมเลือกสรรคงไม่ออกโรงปกป้องกันขนาดนี้หรอก...ลูกพลาดแล้วล่ะยูชอน

อย่าพูดแบบนี้นะครับ...จุนซูไม่ใช่คนแบบนั้น เค้าเป็นเด็กน่ารักเวลาอยู่ด้วยแล้วผมมีความสุข จุนซูไม่เหมือนกับผู้หญิงที่ม๊าพยายามจะยัดเยียดให้เป็นแฟนกับผม...ไม่เหมือนกันเลยสักนิดเสียงทุ่มฟังดูแข็งกร้าวหากแต่ก็ไม่ได้ฟังดูก้าวร้าว 
ยูฮวานกระซิบอะไรบางอย่างกับนายองแล้วก็อมยิ้มน้อยๆ เพราะเค้าสังเกตเห็นสีหน้าของคนข้างกายพี่ชายที่ นั่งก้มหน้าจนคางแทบจะชิดกับอก แต่ใบหน้าขาวผ่องกับขึ้นสีแดงไปถึงคอ มือทั้งสองข้างกำแน่นจนเส้นเลือดขึ้นปูด ด้วยความที่จุนซูกำลังเขินอายจนทำอะไรไม่ถูก
 ...........

เอ่อ...คือ...ยูชอนดูเหมือนจะหลุดปากสารภาพอะไรออกมาจนหมดเปลือก

ลูกพูดเองนะยูชอน


ม๊าให้โอกาสลูกมากมาแล้ว...เวลาของลูกหมดแล้วล่ะ


ยินดีที่ได้รู้จักนะจ๊ะหนูจุนซู...บ้านนี้ต้อนรับลูกเสมอจะ^^”ท่าทีของนายองเปลี่ยนไป  ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยของวัยดูอ่อนโยนอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

แต่ม๊าฮะยูชอนเอ่ยรั้งเอาไว้อีกครั้งจนนายองเริ่มรู้สึกรำคาญขึ้นมาจริงๆซะแล้วในตอนนี้

อะไรอีก!”

ปะ...ป่าวฮะ

ม๊าจะขึ้นไปเอนหลังสักหน่อยพูดจบก็เดินขึ้นไปพร้อมๆกับมินวอนที่หันมาส่งยิ้มใจดีให้กับเด็กๆทั้งสาม

ผมว่าบททดสอบนี้...ลูกเราสอบผ่านนะหันกลับมากระซิบเบาๆที่ข้างหูภรรยาก่อนจะเดินขึ้นบันไดไป


จุนซูไม่เป็นไรใช่มั้ย?ยูฮวานเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงจุนซูเพียงส่ายหน้าไปมาเท่านั้น  จริงๆแล้วก็รู้สึกแย่อยู่มากแต่ยูชอนกุมมือเค้าเอาไว้ตลอดเวลาแม้แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ยอมปล่อยคนตัวเล็กเลยไม่รู้สึกตื่นกลัวอะไรมากนัก

ชั้นจะอยู่ข้างๆนาย...จุนซู

พี่มิค...ริคว่าพาจุนซูกลับบ้านเถอะนายดูเหมือนไม่สบายเลย

อืม...ริคกี้นายเข้าใจพี่ใช่มั้ย?ยูชอนหันมาถามน้องชายสุดที่รักที่รู้ใจเขามากที่สุด

เข้าใจสิฮะ...ก็เราเป็นพี่น้องกันหนิ...อีกอย่างจุนซูน่ารักจะตายไป^^”คำพูดของยูฮวานเล่นเอาคนฟังยืนบิดไปบิดมาทำอะไรไม่ถูก

จุนซูกลับบ้านกันเถอะ...ชั้นจะไปส่งนายเอง

บายนะจุนซูยูฮวานบอกลา

บาย



ยูชอนขับรถมาตามทางที่จุนซูบอก ชายหนุ่มชะลอรถให้ช้าลงเมื่อผ่านมาถึงสนามเด็กเล่นที่จุนซูชอบมา ความทรงจำที่ดีในวันเก่าๆก็เริ่มไหลย้อนเข้ามาในหัวของคนทั้งคู่อีกครั้ง

จอดรถทำไมฮะ?คนตัวเล็กเอ่ยถามหลังจากที่นั่งเงียบมานาน

นายกำลังไม่สบายใจชั้นรู้...ชั้นอยากพานายมาที่นี่ ที่ที่นายชอบมาปลดเข็มขัดเปิดประตูออกไปก่อนจะเดินอ้อมไปยังฝั่งที่จุนซูนั่ง

ลงมาสิเท้าเรียวค่อยๆก้าวออกมาตามคำสั่งของชายหนุ่ม

อยากเล่นชิงช้ามั้ย?ใบหน้าหล่อของยูชอนหันมาถามจุนซู  ศีรษะเล็กพยักขึ้นลง แล้วความเงียบก็บังเกิดไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นยูชอนรู้ดี แต่ถ้ามันเกิดขึ้นแล้วเราก็คงจะย้อนกลับไปไม่ได้ วิธีที่ทำได้ในตอนนี้คือแก้ไขมันไม่ให้เลวร้ายลงไปกว่าเก่า

รู้อะไรมั้ย...ชั้นชอบนายในแบบที่นายร่าเริงมากกว่าจุนซู...ชั้นไม่อยากเห็นนายเป็นแบบนี้เลย

............

จุนซูของชั้น(?)ไม่ร่าเริงแล้วชั้นจะมีความสุขได้ยังไงถ้านายยังเป็นแบบนี้?คำพูดของยูชอนเรียกต่อมน้ำตาจุนซูให้ไหลได้ไม่ยาก  ใบหน้าหวานแดงก่ำทั้งรู้สึกดีกับคำพูดของยูชอน แต่ก็ยังมีความสับสนอยู่หลายอย่าง  ก่อนที่หยาดน้ำใสจะค่อยๆหยดลงช้าๆอีกครั้ง แต่ชายหนุ่มกลับมองไม่เห็น  มือหนายังคงไกวชิงช้าด้วยความเร็วที่พอเหมาะไปเรื่อยๆ

     จุนซูยังคงมีเรื่องให้ต้องขบคิดอยู่มากพอมาเจอเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง  คนที่เก็บความรู้สึกเก่งๆอย่างเขาก็ใช่ว่าจะร้องไห้ไม่เป็น  มันอึดอัดจนอยากระบายออกมาแต่ไม่ว่ายังไงก็ดูเหมือนจะระบายออกมาไม่หมดสักที  จุนซูยังคงร้องไห้ออกมาไม่หยุดแรงสะอื้นทำให้ยูชอนพอจะมองออกมาจุนซูกำลังร้องไห้ออกมามากแค่ไหน  มือหนาปล่อยโซ่เหล็กที่จับอยู่ออกก่อนจะเดินมานั่งยองๆตรงหน้าเอื้อมฝ่ามือไปจับข้อมือบางที่เอาแต่ขยี้ตาจนตอนนี้เริ่มบวมช้ำ  จุนซูก้มหน้าหลบสายตาจากยูชอนแต่ชายหนุ่มกลับเชยคางขึ้นเพื่อที่จะได้เช็ดน้ำตาออกได้ถนัดยิ่งขึ้น  ความอ่อนโยนจากคนตรงหน้ายิ่งทำให้จุนซูที่จิตใจอ่อนไหวสะอื้นไห้ออกมาไม่หยุด

นายคงเสียใจ...ทั้งๆที่นายไว้ใจชั้นมากแต่เรื่องแบบนี้ก็ยังเกิดขึ้น...ใช่มั้ยจุนซู?

.............

ชั้นมันแย่...ชั้นทำลายความไว้วางใจของนาย...ชั้นผิดเองยูชอนก่นด่าตัวเองอย่างโมโห  ถ้าเมื่อวานเค้าไม่เมาเรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น

ฮึก...ไม่นะฮะ...พี่ยูชอน...ฮึก..ไม่ผิด...ฮึกจุนซูเอ่ยแย้งขึ้น

ผิดสิ...ชั้นจะไม่บังคับนายนะจุนซู...ถ้านายจะปฏิเสธการคบกันของเรา

...........

แต่ชั้นก็แค่อยากจะบอกนาย...ว่าชั้น...

ฮึก...ว่าอะไรฮะ?

ชั้นรู้สึกดีกับนายนะ...ถ้าเราจะคบกัน...คือชั้นหมายถึง...มือหนายกขึ้นเกาศีรษะแก้เก้อไม่รู้ว่าจะพูดออกไปยังไง  ตอนนี้จุนซูหยุดร้องไห้ไปแล้วดวงหน้าหวานที่เปื้อนคราบน้ำตาเงยขึ้นมามองชายหนุ่มอย่างคนตั้งใจฟัง

ถ้านายไม่ปฏิเสธจะคบกับชั้น...งั้นเราก็...มาคบกันมั้ย?

      คำพูดคำนี้ที่จุนซูอยากได้ยินมันมากที่สุด วินาทีคงไม่มีอะไรวิเศษไปกว่านี้อีกแล้วสินะ  คนตัวเล็กนั่งตัวแข็งทื่ออ้าปากค้าง ความรู้สึกในจิตใจหลั่งไหลออกมามากมาย เสียงโห่ร้องดีใจ  ความว่างเปล่า  ความรัก  ความเศร้า ความรู้สึกเหล่านี้วิ่งชนผสมปนเปกันมั่วไปหมดในหัวใจดวงน้อย  จุนซูไม่ได้เอ่ยปากตอบรับหรือปฏิเสธ เขาแค่บอกกับชายหนุ่มว่าอยากกลับบ้านเท่านั้น  ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ได้ขัดใจอะไร  ระหว่างทางขับรถก็ยังคงเป็นเช่นเดิม ยังคงมีแต่เสียงเต้นบอกถึงการมีชีวิตของหัวใจดวงน้อยๆสองดวง ความเงียบเชียบยังคงเกิดขึ้นไปเรื่อยๆจนเมื่อมาถึงยังที่หมาย...บ้านของจุนซู

ขอบคุณนะฮะพี่ยูชอนบอกเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินลงจากรถ  ตอนนี้จุนซูคงจะเหนื่อยซึ่งยูชอนก็เข้าใจดี ร่างโปร่งเปิดประตูรถอีกด้านก่อนจะเอ่ยคำพูดที่นั่งคิดมานานตลอดระยะทางที่ขับมา

จุนซู...ชั้นอาจจะดูเข้าข้างตัวเองมากเกินไปแต่ชั้นรู้สึกได้ว่านายเองก็มีความรู้สึกดีๆกับชั้นเหมือนกัน


หัวใจของชั้นมันไม่เคยคาดเดาอะไรผิด


..........

คำตอบจากนายชั้นจะรอนะ...ชั้นจะรอเน้นย้ำอีกครั้งว่าตัวเค้าไม่ได้พูดขึ้นมาลอยๆหรือว่าเห็นเป็นเรื่องล้อเล่น


ความรักไม่ใช่เรื่องล้อเล่น


เอ๋?

เอาละ...คนดีนายควรพักผ่อนให้เยอะๆนะ...นายบอกเองไม่ใช่หรอว่านายแพ้เหล้าน่ะ


พี่ยังจำมันได้ด้วยหรอฮะ
เรื่องเล็กน้อย...


แต่นายก็กินมันเข้าไปซะเยอะเลย^^”ยูชอนลูบกลุ่มผมนุ่มนั้นอย่างเอ็นดูก่อนจะกดจูบลงไปยังหน้าผากมนโดยที่จุนซูเองก็ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ดวงตาสีน้ำตาลเบิกโผล่งขึ้นอย่างตกใจและเขินอายไปพร้อมๆกัน

เข้าไปสิ...ชั้นจะรอส่งนายเมื่อจุนซูเดินเข้าไปแล้วยูชอนก็กลับเข้ามาที่รถ  พาหนะคันหรูเคลื่อนตัวออกไปได้ไม่นานคนที่แอบมองอยู่ตรงหน้าต่างบานหรูมือเล็กแหวกม่านออกมองไปตามถนนที่ทอดยาวออกไป

บายฮะ...พี่ยูชอน




      สองขาเรียวยาวเร่งฝีเท้าในการก้าวเดินเด็กหนุ่มที่มีท่าทีเร่งรีบหอบของพะรุงพะรังในชุดกราวด์สีขาวดูจะเป็นที่คุ้นตากันไปแล้ว  ยูฮวานหายใจเหนื่อยหอบวันนี้เป็นอีกวันที่เขามาสายแต่ก็ใช่ว่าจะไม่ทันคลาสเรียนแรกของวันกำลังจะเริ่มในอีกห้านาทีข้างหน้า...ยังพอมีเวลา  ก่อนใช้ลำตัวดันประตูเข้าไปแทนการเปิด ท่าทีรีบร้อนนี้อยู่ในสายตาของคุณหมอหนุ่มรุ่นพี่

ลมอะไรหอบนายมาเรียนทันได้เนี่ย?ยุนโฮเอ่ยถามขึ้น น่าแปลกที่อดีตรุ่นน้องคนนี้จะเข้าเรียนทันเหมือนนักศึกษาแพทย์คนอื่นๆ

แฮ่กๆ...ไม่ดีหรอไงฮะ?กองเอกสารพร้อมรายงามเล่มหนาอีกสองเล่มวางลงยังโต๊ะ  ยุนโฮมองมันอย่างฉงน

อะไรอีกล่ะเนี่ย

อ่าว...ก็งานที่ทำเสร็จแล้วไงล่ะฮะพี่รู้มั้ยว่าริคอ่ะรีบทำแทบตายยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่ยังคงผุดขึ้นตามใบหน้าใสเรื่อยๆ

แล้วนี่หายดีแล้วหรอ...เจ้าตัวแสบ

ฮะ...ค่อยยังชั่วแล้วล่ะ^^”

เอ่อ...ลืมบอกไปไม่ต้องเอางานมาส่งที่พี่แล้วนะ...พี่ไม่ได้เป็นรุ่นพี่ของนายแล้วล่ะ...เสียใจด้วย

อะไรนะฮะ...พี่หมายความว่าไง

ก็หมายความว่านายถูกยกให้กับรุ่นพี่ชางมินเรียบร้อยแล้ว^^”เสียงใสของคนที่เข้ามาใหม่เอ่ยแทรกขึ้น

พูดอะไรของนายแทมินยูฮวานค้อนร่างบางด้วยสายตาดุๆอย่างไม่สบอารมณ์

หวัดดีฮะพี่ยุนโฮ...ผมมารายงานตัวกับพี่แล้วนะฮะ

ครับผม...ก็คืองี้นะนายจำวันนั้นได้มั้ยล่ะ?

จำได้ฮะ..ริคจำได้ดีเลยล่ะสีหน้าดูจริงจัง

เฮ้ยยย...ชั้นขี้เกียจเล่าแล้วถ้านายอยากรู้ก็ไปถามชางมินเอาเองแล้วกัน...พี่ต้องรีบไปสอนแล้วตัดบทเปลี่ยนเรื่องขึ้นมาซะอย่างนั้น บทยุนโฮจะไม่เล่าก็ไม่เล่าขึ้นมาเฉยเลย  แต่ยูฮวานคงไม่ยอมง่ายๆหรอกคนตัวเล็กรีบวิ่งไปขวางประตูทางออกเอาไว้

เล่ามาก่อน...ไม่งั้นผมไม่ให้พี่ไป

อะไรของนายเนี่ย...เอาไว้ก่อนแล้วกันชั้นจะรีบไปสอน  นายไม่ไปเรียนหรอไงเนี่ย?

ก็ได้ฮะ...จำไว้เลยนะรุ่นพี่...ผมโกรธพี่แล้วด้วยใบหน้าง้ำงอของยูฮวานดูน่าเอ็นดูมากกว่าน่าสงสาร ดังนั้นยุนโฮจึงไม่ได้เอ่ยห้ามปรามหรือยอมปริปากเล่าอะไรออกไปมองดูเด็กขี้งอนแบบนี้มันสนุกกว่าเยอะเลย  แต่ทว่าตอนที่ยูฮวานกำลังเปิดประตูนั้นใครคนนึงก็ผลักบานประตูเข้ามาซะก่อน...รุ่นพี่ชางมิน  คนที่กำลังมีเรื่องค้างคาใจไม่รอช้าเดินตรงเข้าไปถามทันที

นาย...ทำไมชั้นถึงกลายมาเป็นรุ่นน้องของนายได้ล่ะยิงคำถามเข้าใส่ชางมินทันที

อะไรของนายเนี่ย...ไปโกรธใครมาจากไหนลืมไปแล้วหรอว่าชั้นรุ่นพี่นายเชียวนะเลิกคิ้วขึ้นอย่างคนยียวนกวนประสาท 
ยูฮวานคงหายจากไข้แล้วถึงได้มายืนด่าเขาปาวๆแบบนี้

ก็นายนั่นแหล่ะ...นายคนเดียวจมูกโด่งรั้นขึ้นสีด้วยความโมโห

คำก็นายสองคำก็นาย...ได้ชั้นเป็นรุ่นพี่มันเสียหายตรงไหนไม่ทราบยื่นใบหน้าคมเข้มเข้าไปใกล้คนที่ตัวเล็กกว่า

ก็ชั้นไม่ชอบขี้หน้านายหนิพูดออกไปโดยไร้ความยั้งคิด  ชางมินที่หน้าระรื่นเมื่อครู่ตอนนี้กลับมีแค่สีหน้านิ่งเฉยฉายผิดหวังเล็กน้อยกับคำพูดของยูฮวาน

นี่ริคนายพูดแบบนี้ได้ไงแทมินที่สังเกตเห็นสีหน้าผิดหวังเพียงเสี้ยววินาทีของชางมินพูดขึ้น

นายไม่เกี่ยวหันมาดุใส่แทมินอย่างร้ายกาจ

เอาล่ะชั้นจะให้โอกาสเธออีกสักครั้งก็ได้บอกมาสิว่าใครคือรุ่นพี่ของนาย...คิดให้ดีๆนะ

โอกาสที่ชางมินหยิบยื่นมาให้นั้นยูฮวานพยามยามคิดไตร่ตรองเป็นอย่างดี  ถ้าตอบผิดครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นตัวเขาเองที่พลาดโอกาสที่จะได้อยู่กับรุ่นพี่ที่ใจดีอย่างยุนโฮคงหมดไป แล้วเค้าก็คงจะมาสายไม่ได้อีกแล้วถ้าพลาดไปอยู่กับชางมินคนที่เคร่งคัดในกฏระเบียบเอามากๆ TT

คนที่มาช่วยชั้น...กับคนที่นัดชั้นไปที่ห้องดับจิตจะต้องเป็นคนคนเดียวกันอย่างแน่นอนแล้วคนคนนั้นก็คือ...นายไง

อืม...ฉลาดดีหนิ...นายตอบถูกแล้วล่ะ

คิคิ...งั้นชั้นก็อยู่กับพี่ยุนโฮได้เหมือนเดิมแล้วใช่มั้ยยิ้มด้วยความดีใจจนตาแทบปิด

ช้าก่อน...มันก็จริงที่นายตอบถูกนะยูฮวานแต่นายคงลืมอะไรบางอย่างไปคะแนนของนายมันติดลบอยู่...จำไม่ได้จริงๆหรอ?คนที่เหนือกว่าเอ่ยออกมานิ่งๆแต่น้ำเสียงฟังดูสะใจไม่น้อย

คะแนน!...ไม่จริงอ่ะยูฮวานเริ่มโวยวายขึ้นอีกครั้งเมื่อนึกไปถึงคะแนนที่โดนชางมินหักจนติดลบเหลือศูนย์

ยอมรับความจริงหน่อยสิ...ฉะนั้นแล้วไม่ว่านายจะตอบถูกหรือผิดนายก็แพ้อยู่ดี...ฮ่าหัวเราะออกมาอย่างสะใจ

นายมันขี้โกง

ฮ่าฮา...ชั้นไม่ได้ขี้โกงสักหน่อยนะ...นายต่างหากที่พลาด^^”

      เหตุผลที่ผมแลกรุ่นน้องกับยุนโฮก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ผมก็แค่อยากใกล้ชิดกับยูฮวานให้มากยิ่งขึ้นก็เท่านั้นเอง...เฮ้ยยยไม่ใช่ๆ...ก็ไอ้เรื่องเรื่องการมาสายเป็นชีวิตจิตใจนี่ต่างหากที่ผมได้ยิ่งมาบ่อยๆถึงจะรักเรียนแต่ไอ้นิสัยตื่นสายเนี่ยที่ยูฮวานยังแก้ไม่หายสักที  ผมเลยขอรับอาสามาดูแลเรื่องนี้แทนยุนโฮที่เอาแต่ตามใจจนยัยเด็กนี่เคยตัว  ถ้ายูฮวานยังปรับตรงนี้ไม่ได้ก็ถือว่ายังขาดคุณสมบัติการเป็นหมอที่ดี  วินาทีแต่วินาทีมีค่ามากสำหรับหมอและตัวของคนไข้ ผมอยากถ่ายทอดตรงนี้ให้กับเค้า  ไอ้เรื่องอยากใกล้ชิดตามที่เป็นข่าว? ไม่มี๊ไม่จริ๊งงงง (ขึ้นเสียงสูง - -+)

ฮึ่ย!!!”เมื่อไม่ว่าจะเถียงยังไงงานนี้ยูฮวานก็รู้ว่าตัวเองคงจะเถียงสู้ชางมินไม่ได้  อย่างเดียวในตอนนี้คือก้มหน้ายอมรับความผิดพลาดของตัวเค้าเอง  กระทืบเท้าปึ้งปั้งให้รู้ว่าตนนั้นไม่พอใจก่อนกระเดินกระแทกไหล่ชางมินอย่างที่เคยทำเหมือนตอนที่เจอกันครั้งแรกก่อนจะเปิดประตูออกไปตามด้วยแทมิน

ฮ่าฮา...ไอ้ยุนแกดูยัยเด็กนั่นดิหัวเราะจนตัวงอ

ยั่วโมโหริคกี้สนุกมากมั้ยยล่ะห๊ะ?

สนุกไม่สนุกนายก็ดูหน้าชั้นดิ -0-”

ปากก็บอกว่าไม่มีอะไรไม่คิดอะไรแต่ไอ้ท่าทางแบบนี้ กวนประสาทแบบนี้หาดูได้ยากจากสุภาพบุรุษอย่างชิม ชางมินยิ่งนัก  ถ้าไม่ใช่กับคนที่ถูกใจแล้วล่ะก็นายก็คงไม่ทำแบบนี้...อย่าปิดบังชั้นเลย...ชั้นดูนายออกตั้งแต่แรกแล้วไอ้เพื่อนรัก

 เฮ้ย...ไอ้หน้าหมีอย่ามาแซวชั้นแบบนี้น่ะโว้ย...เสียหายหมดใบหน้าคมเข้มขึ้นสีแดงระเรื่อ

หรือไม่จริงอ่ะ...อย่าคิดจะปิดบังคนอย่างชั้นนะโว้ยยย

อะไรของแกอีกเนี่ย...อย่ามามั่วนิ่ม  ว่าแต่แกเหอะเดี๋ยวนี้ชอบโดดงานจังเลยนะ  โยนงานมาให้ไอ้เพื่อนคนนี้ตลอดอ่ะ เอาเวลาไปทำไรว่ะ...ห๊ะคนฉลาดหัวไวรีบเปลี่ยนเรื่องเอาตัวรอดทันทีเมื่อตนเองเริ่มมาถึงทางตัน

ฮ่าฮา...เปลี่ยนเรื่องเลยนะไอ้มิน...ไม่บอกก็ไม่บอกแต่อย่ามาปรึกษาปัญหาหัวใจกับชั้นทีหลังก็แล้วกันคนที่เนียนกว่าอย่างยุนโฮเมื่อพูดจบปุ๊ปก็เดินออกไปปั๊ป  จะบอกว่าเอาเวลาไป...เฮ้ยยยใครเค้าพูดกันล่ะเรื่องแบบนี้ >//<


นายพูดถูก...ชั้นเก็บความรู้สึกตัวเองไม่เก่ง...แต่ยูฮวานก็ยังไม่รู้อยู่ดี



      ยูฮวานเดินออกมาด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวหัวเสียไม่น้อยกับเรื่องในเช้าวันนี้แต่พอนึกไปนึกว่าคำพูดเมื่อกี้ของเขาก็ดูจะแรงไปสำหรับชางมิน  สีหน้าที่แสดงออกมาเพียงเสี้ยววินาทีนี้มันทำให้เขารู้สึกผิดขึ้นมาจับใจ  ร่างเล็กอีกคนของแทมินที่วิ่งตามมาติดๆเอ่ยเรียกยูฮวานจากข้างหลัง

นี่...เดี๋ยวรอชั้นก่อน...ริคกี้

มีอะไรอ่ะน้ำเสียงฟังดูเบื่อๆ 

โอ้ย...หยุดเดินทำไมไม่บอกกันก่อนเล่าแผ่นหลังบางที่แทมินวิ่งตามหยุดเดินขึ้นมากะทันหันจนคนที่เดินตามมาเสียหลัก  จับหน้าผากตัวเองเบาๆ  เมื่อศีรษะกลมชนเข้ากับหลังของยูฮวานคนใจร้อน

นายพูดแบบนั้นกับพี่ชางมินได้ยังไง...นายมันใจร้ายยู่ปากว่า อดน้อยใจแทนรุ่นพี่ของตัวเองไม่ได้

แล้วนายจะมาเดือนร้อนแทนตานั่นทำไมกัน? แค่นี้เขาก็รู้สึกผิดมากพออยู่แล้ว แทมินยังจะมาตอกย้ำกันอีก

ชั้นก็แค่รู้สึกไม่ดีที่ได้ยินนายพูดแบบนั้น...นายไม่รู้หรอว่าพี่ชางมินหวังดีกับนายแค่ไหน?

พอแล้วชั้นไม่อยากฟัง


จะพูดให้ชั้นรู้สึกแย่ไปถึงไหน


นายต้องฟัง...เพราะชั้นยังพูดไม่จบสีหน้าคนตัวเล็กดูจริงจังจนยูฮวานไม่กล้าเอ่ยปฏิเสธหรือเดินหนีไปไหน

พี่ชางมินเค้าห่วงนายมากเลยนะยิ่งตอนที่นายหลับไปในห้องดับจิตเอาแต่เพ้อเพราะพิษไข้

ใช่สิ...ก็มันเป็นความผิดของนายนั่นหนิที่ทำให้ชั้นต้องเป็นแบบนั้น คงจะกลัวชั้นเป็นอะไรตายไปก่อน...อ๊ะยังพูดไม่ทันจบประโยคคนที่แอบฟังมานานก็หมดความอดทน  ชางมินรวบข้อมือบางก่อนจะออกแรงทั้งยื้อทั้งฉุดให้เดินตามตนเองไป  แทมินได้แต่มองตามเท่านั้น...เคลียกันเองก็แล้วกันนะ


~  ปัง  ~

คุณหมอหนุ่มเหวี่ยงยูฮวานเข้าไปในห้องพักส่วนตัวแผ่นหลังบางแนบชิดติดกับกำแพง  ก่อนจะตรงเข้าประชดร่างเพรียวปิดกั้นทางหนีรอด  ใบหน้าคมเลื่อนเข้ามาใกล้เสียงหน้าหวานที่เต็มไปด้วยเหงื่อ   ยูฮวานตกใจไม่น้อยที่คนมาดนิ่งๆอย่างชางมินจะมีอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นมาแบบนี้


แค่กับนายคนเดียว...ยูฮวาน


นี่...นายบ้าไปแล้วหรอไงห๊ะ...ปล่อยชั้นนะไอ้บ้า!”ถึงจะมีความกลัวอยู่เต็มอกแต่คนตัวเล็กก็ยังปากดีไม่เลิก

ปล่อยนายไปหรอ...ทำไมชอบมองชั้นในแง่ลบนักนะยูฮวาน!”ความรู้สึกที่ชางมินพยายามมอบมันให้กับคนคนนี้แต่...

มันส่งไปไม่ถึงนายหรือไง...ไม่รู้สึกบ้างเลยหรอ?

ก็นายมันมีแต่แง่ลบเต็มไปหมด

ทั้งๆที่ชั้นก็คอยช่วยนายมาตลอดเนี่ยนะสายตาที่แข็งก้าวก้มต่ำลง  ไม่อยากให้ยูฮวานเห็นมันเลยแววตาที่ผิดหวัง

ทวงบุญคุณหรอ?คนตัวเล็กยื่นหน้ายื่นตาเข้าไปใกล้ใบหน้าคมอย่างท้าทาย แต่หารู้ไม่ว่าทำแบบนี้มันเหมือนจะเป็นการยั่วกิเลสชางมินซะมากกว่า ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อเผยอขึ้นอย่างคิดว่าตัวเองกำลังเป็นต่อ ไม่ได้รู้เลยว่าคนสูงโปร่งมองมันด้วยสายตาแบบไหน ดูเหมือนว่าสติยั้งคิดของคนขี้ใจน้อยจะเหลือน้อยจนเลือนราง เมื่อกลีบปากสวยน่าสัมผัสอยู่แค่ตรงหน้า ก่อนจะเคลื่อนที่ตรงเข้าประกบปิดกลีบปากสวยสดที่คอยแต่เอื้อนเอ่ยคำพูดให้เค้าน้อยใจเล่น

อะ...อื้มมม...ปล่อยยยยูฮวานทั้งหลบและหลีกหนีจากสัมผัสที่จาบจ้วงนี้โดยไม่รู้เลยว่าท่าทางแบบนั้นยิ่งทำให้คนตรงหน้าหยุดตัวเองไม่อยู่ การดิ้นรนของตัวเองไม่ได้ทำให้คนกระทำผิดรู้สึกตัวสักนิด  ชางมินบ้าแล้วหรอไงที่ทำกับเขาแบบนี้

~ เพี๊ยะ ~

      เมื่อหลุดจากพันธนาการของร่างหนา ฝ่ามือเรียวไม่รอช้าที่จะฝากรอยนิ้วมือทั้งห้าไว้ยังใบหน้าหล่อเข้ม  ยูฮวานไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกร่างเพรียวผลักคนที่ฉวยโอกาสให้ออกห่างก่อนจะเปิดประตูออกไป  ชางมินเมื่อได้ดึงสติกลับมาได้ก็รู้ทันทีว่าตนเองได้ทำเผลอทำอะไรที่ไม่ทันได้ยั้งคิด ปล่อยให้ความรู้สึกที่แอบซ่อนไว้ในจิตใจเป็นใหญ่กว่าเหตุผล  ยกมือขึ้นเกาหัวแก้เก้อ ยูฮวานต้องโกรธเขามากแน่ๆ

ชางมินเอ้ย...ชางมินTT”

      ไม่รู้ว่าวิ่งออกมาไกลแค่ไหนแต่ตอนนี้ยูฮวานไม่สามารถห้ามน้ำตาเอาไว้ได้อีกแล้ว รู้สึกเสียใจที่ชางมินทำแบบนี้  ถ้าอยากฟังคำขอบคุณหรือขอโทษจากเขานัก  เขาก็ยินดีที่จะพูดมันออกไปแต่ช่วยทำตัวให้มันเป็นสุภาพบุรุษอย่างที่นายชอบทำกับคนอื่นๆบ้างได้มั้ย...ไม่ใช่คอยหาเรื่องชวนทะเลาะกับชั้นแบบนี้

 นายนั่นแหล่ะที่ใจร้าย...ชางมิน...ฮึกทรุดกายลงนั่งยังขั้นบันไดก่อนจะปล่อยโฮออกมา เสียงสะอื้นที่คล้ายเป็นเพื่อนคอยปลอบใจยังคงดังสะท้อนไปทั่วบริเวณ


กวางน้อยตัวนี้กำลังตกใจ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น