2554/02/26

[Fic] หมอ...llจิตll Part…16 คนคนเดียวกัน



Title : [Fic] หมอ...llจิตll
Writer : GroupBee + KJW
Couple: YunJae , YooSu , MinRic
Genre : Drama , Erotic        
NC :  PG 17+

Part…16 คนคนเดียวกัน



~ คฤหาสน์ตระกูลปาร์ค ~

     พอร์ตสีควันบุหรี่ขับเคลื่อนด้วยความเร็วเพียงสี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น  สารถีหนุ่มนามว่ายูชอนนั้นรู้ตัวเองดีกว่าถ้าขืนขับเร็วกว่านี้ก็เท่ากับว่ากำลังล้อเล่นกับความตายอยู่  วงล้อทั้งสี่หยุดลงยังโถงทางเข้าของคฤหาสน์ที่บัดนี้กลับเงียบสงัดเพราะคนในครอบครัวก็ต่างหลับใหลไปตามกาลเวลายามค่ำคืน 

ร่างโปร่งค่อยๆพยุงจุนซูออกมาจากรถและพากันเดินเข้าบ้านไปในสภาพที่ดูจะทุลักทุเลไม่น้อย จุดหมายปลายทางที่ว่าคือห้องนอนของเขาเอง  ถ้าจะถามว่าทำไมต้องเป็นห้องนอนของยูชอนด้วย เหตุผลก็มีอยู่มากมายและถ้าลองหยิบยกมาคร่าวๆแล้วนั้น อย่างแรกเลยที่เค้าพาตัวเองและจุนซูกลับมาบ้านได้อย่างปลอดภัยก็ถือว่าดีเท่าไหร่แล้ว ไหนจะต้องบังคับการทรงตัวของตนเองให้คงเส้นคงวาไหนจะต้องพยุงจุนซูที่ถึงจะตัวเล็กแต่ก็ใช่ว่าจะตัวเบาแล้วยังจะต้องเดินขึ้นบันไดวนนี่อีก  เอาเป็นว่าแรงของชายหนุ่มก็หมดลงพอดีกับที่วางจุนซูลงบนเตียงนุ่ม

เฮ้ย!”ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อนก่อนจะทิ้งตังลงนอนข้างๆคนที่หลับเป็นตายไปแล้วก่อนหน้านี้ - -+

จุนซูเพียงแค่พลิกกายไปมาให้เข้าที่ก่อนจะหลับปุ๋ยเหมือนนางฟ้าตัวน้อยๆในความคิดของยูชอน  ชายหนุ่มหยัดตัวลุกขึ้นมาจัดท่าทางให้จุนซูได้หลับได้อย่างสบายยิ่งขึ้น

ตัวหนักเหมือนกันนะเรา -//- ”ก้มตัวไปหยิบหมอนใบเขื่องที่ไร้ซึ่งคนจับจอง ร่างหนาของชายหนุ่มคล้ายกำลังจะทาบทับกับร่างบางที่ไม่รู้สึกตัวไปแล้วในตอนนี้ ใบหน้าแดงของคนทั้งคู่อยู่ไม่ไกลกัน  ยูชอนเพ่งมองดวงหน้าที่น่ารักนี้

นายดูเหมือนนางฟ้าในฝันของชั้นเลย...จุนซู ริมฝีปากอิ่มจุมพิตเบาๆที่หน้าผากมนอย่างทะนุถนอม

ตอนนี้นายคงปฎิเสธตัวเองไม่ได้แล้วสินะ...ว่าใจนายรู้สึกกับจุนซูแบบไหน
แล้วแบบไหนที่เรียกว่ารัก???

~  Z Z Z Z Z Z     ~



     เกมรักเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งเมื่อยุนโฮจับเอวบางยกขึ้นกระแทกเข้า กระแทกออกเป็นจังหวะถี่ยิบ มือน้อยของแจจุงจิกแรงๆฝังคมเล็บที่บ่าแข็งแกร่ง  กรงเล็บคมขูดข่วนลากยาวเป็นทางไปทั้งแผ่นหลังจนผิวหนังชั้นนอกหลุดติดเล็บมือครบทั้งสิบนิ้ว  ยิ่งกระตุ้นอารมณ์ดิบของคนตัวใหญ่ให้ทวีความต้องการรุนแรงเข้าไปอีก  เรือนร่างบางถูกจับยกขึ้นกระแทกอัดเข้าใส่กลางลำตัวหนาของคนคุมเกมแรงขึ้นด้วยจังหวะที่หนักหน่วงจนอกขาวที่ปรากฏรอยรักสีกุหลาบเป็นจ้ำๆ โยกไปมาตามเกมรักที่กำลังดำเนินอย่างดุเดือด  ท่ามกลางบรรยากาศรอบด้านที่ปกคลุมไปด้วยรัตติกาลมืดมิดกลายเป็นว่าคนทั้งคู่ถูกโอบล้อมไปด้วยท้องฟ้ากว้างซึ่งมีประกายระยิบระยิบของดวงดาราเปล่งแสงสว่างสลัวๆ   ในความเงียบสงัดถูกแทรกด้วยเสียงหายใจหอบกระเส่าจากแรงอารมณ์ของคนทั้งสอง สลับเสียงครางอื้ออึงไม่เป็นภาษา 

ลมหนาวพัดผ่านผิวเนื้อของสองร่างที่เสียดสีกันไม่หยุดหย่อน อย่างไม่รับรู้ว่าอากาศรอบข้างหนาวเย็นสะท้านผิวกายสักเพียงใด  ทั้งคู่ยังคงมอบความอบอุ่นทางร่างกายกันจนใกล้ถึงจุดสุดท้าย  สะโพกหนาขยับเร่งจังหวะรุนแรงขึ้นและถี่ขึ้นไม่นานแจจุงก็รู้สึกอุ่นวาบในช่องท้องเมื่อคนตัวใหญ่ฉีดของเหลวขุ่นข้นเข้าไปภายในร่างกายแจจุงจนหมด  ก่อนถอดถอนท่อนเนื้อส่วนกลางลำตัวออกจากช่องทางที่เอ่อล้นไปด้วยของเหลวเหนียวขุ่น  ร่างบางเอนกายซบใบหน้าลงกับอกแกร่งอย่างหมดเรี่ยวแรงปล่อยให้คนตัวใหญ่ทำความสะอาดส่วนที่เปรอะเปื้อนทั้งด้านหน้าและด้านหลังของตนจนสะอาดหมดจดก่อนช่วยจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่พร้อมกับอุ้มร่างบางตัวปลิวมานั่งที่เบาะด้านหน้ารถ

ก่อนที่รถออดี้คันหรูจะเคลื่อนที่ไปต่อสารภีรูปหล่อก็ลอบยิ้มอย่างมีแผน ค่อยๆสอดมือไปที่ลิ้นชักหน้ารถหยิบบางอย่างออกมา  เขาเหลือบมองคนอวดดีซึ่งหลับใหลด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนกลับมาสนใจมีดผ่าตัดเล่มจิ๋วในมือ  หยิบมันออกมาเช็ดเบาๆแล้วกรีดลงบนปลายนิ้วตนเองเพื่อวัดความคมของมีดจนเลือดแดงข้นซึมออกมาจากชั้นผิวหนัง  ยุนโฮแตะปลายลิ้นเลียเลือดตัวเองก่อนหัวเราะในลำคออย่างพึงพอใจ

ต่อไปคือ บทลงโทษที่เธอขัดใจชั้น แจจุง


    
 แอลกอฮอล์บริสุทธิ์ค่อยๆซึมซาบผ่านลงที่ผิวเนื้อบริเวณท้องน้อยขาวซีด  ของเหลวไร้สี ไร้กลิ่นค่อยๆกลืนตัวเองเลือนหายไปในชั้นผิว  สำลีที่ชุบของเหลวที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคถูกเช็ดถูไปทั่วหลุมสะดือสวยเลยไปถึงเนินเนื้อข้างๆอย่างมีจุดประสงค์  ใบหน้าคมคายยิ้มอย่างมาดหมายมือหนาเกลี่ยไรผมยุ่งเหยิงที่ร่วงลงมาปรกคลุมเบียดบังความงามของเสี้ยวใบหน้าสวย  ปลายนิ้วแข็งแรงสอดเข้าไปสางกลุ่มแพรนุ่มให้เข้าที่ แนบเกี่ยวผมส่วนหน้าที่ยาวเกินไปทัดไว้ข้างหู ค่อยๆจรดปลายจมูกขยี้หยอกเอินจมูกรั้นของเจ้าหญิงนิทราคนสวยด้วยความเอ็นดู

      ลมหายใจอุ่นๆพ่นออกมารดใบหน้าของกันและกัน  ก่อนชายหนุ่มจะประทับจุตพิตที่กลีบปากบวมเจ่อที่อยู่ใกล้กันจนเกือบไม่เหลือช่องว่างพอให้ลมพัดผ่านแตะแผ่วเบาอย่างนุ่มนวล แล้วค่อยๆงับด้วยริมฝีปากอิ่มของตัวเอง  ลิ้นร้อนจัดแทรกผ่านเข้าไปสัมผัสความอ่อนละมุนภายในโพรงปากอบอุ่นตวัดทักไปทั่วภายในช่องปาก จนรู้สึกได้ว่าคนโดนรังแกใกล้จะรู้สึกตัว ยุนโฮถอนริมฝีปากออกมาอย่างรวดเร็ว  แพขนตาหนากระพริบขึ้นลงถี่ยิบก่อนเปลือกตาจะเปิด ความอบอุ่นที่ริมฝีปากบางยังคงอยู่ ทำเอาเจ้าหญิงนิทราแตะปลายนิ้วลูบไล้ทั่วเรียวปากแดงกริยานั่นทำเอาคนแอบลักจูบลอบยิ้มมุมปาก

     สายตากลมโตมองรอบด้านอย่างหวาดหวั่นยังอยู่ที่เดิม เพียงแต่ย้ายจากยืนหนาวอยู่นอกรถมาอยู่ในรถแทน  กับมัน  สายตาหยุดกวาดมาที่คู่กรณีที่มองตนอยู่ไม่ละสายตาทำเอาคนที่คิดจะสบตาสู้กับหลบตาด้วยรู้สึกหวั่นไหว

ทำไมมองมาด้วยแววตาอ่อนโยนแบบนั้น

แค่ครู่เดียวที่เหมือนคนทั้งคู่จะลืมตัวเมื่อแจจุงช้อนตามองกับไปอีกครั้งราวกับแรงดึงดูด ใบหน้าหล่อเคลื่อนเข้ามาใกล้คนหน้าหวานจนเกือบจะชนกับริมฝีปากอิ่ม เปลือกตาสีมุกปิดลงก่อนที่กลีบปากทั้งคู่...จะสัมผัสกัน

ผิดคาด

ที่จอมหื่นอย่างยุนโฮเพียงแต่หอมแก้มนุ่มของแจจุงแทน  ดวงตาคู่งามเปิดขึ้นอย่างประหลาดใจใบหน้าสวยพลันขึ้นสีระเรื่อเมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำกระซิบเบาๆข้างใบหู

“ผิดหวังใช่มั้ยที่ชั้นไม่จูบ?” ก่อนจะหัวเราะอย่างสะใจที่ได้ยั่วโมโหคนตรงหน้า

      ความเขินอายปนกับความโมโหเรียกสติที่หลับใหลไปกับนิทราแสนหวาน ปลุกมันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว พอๆกับความรู้สึกตื่นตัวเตรียมพร้อมจะหนีให้พ้นจากคนตรงหน้า ไวเท่ากับความคิด มือเรียวจับที่ประตูหวังจะเปิดลงไปแต่แจจุงคงจะลืมว่ารถหรูคันนี้เป็นของใคร
      เขามองคนดิ้นรนจะออกจากรถอย่างนึกสนุกจะลงไปได้ยังไงกันเมื่อต้องปลดล็อคจากฝั่งคนขับ  ลำตัวบางถูกรวบเข้ามาในวงแขนแข็งแรงราวปลอกเหล็กแค่ดิ้นข้างนอกก็ลำบากพอแล้ว นี่พื้นที่แคบๆในรถเขาจะหนีไปไหนพ้น  แจจุงจึงทิ้งตัวลงพิงร่างที่โอบรัดแน่นหนาอย่างจำนนเขาไม่เหลือแรงจะต่อสู้อีกแล้ว  เสื้อเชิ้ตที่พึ่งจะได้สวมใส่อีกครั้งถูกถลกขึ้นมาเหนือยอดอก วัตถุโลหะสีเงินเงาวาววับปรากฏในสายตา แววตาคู่งามสั่นระริกด้วยความกลัว ไอ้โรคจิตจะทำอะไรอีก สันมีดเล่มจิ๋วถูไถข้างแก้มใส เงามีดสะท้อนความหวาดหวั่นในแววตาผ่านทางโลหะสีเงิน

“แกจะทำอะไรชั้นอีก” แจจุงกลั้นใจถาม กลัวใจคนตรงหน้าเหลือเกิน คนอะไรอารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

“แล้วคิดว่าชั้นจะทำอะไรเธอล่ะ”ใบหน้าสวยเชิดขึ้นก่อนหลับตาลง

“จะฆ่าจะแกง จะทำอะไรกับชั้นก็เชิญ ตอนนี้ชั้นไม่เหลือศักดิ์ศรีอะไรอีกแล้ว ชั้นเกลียดตัวเอง...นายได้ยินมั้ย!!!

“หึหึ เธอพูดของเธอเองนะ อย่ามาเสียใจทีหลัง”

ก่อนกดคมมีดลงกับผิวเนื้อ บริเวณเหนือขอบชั้นในตัวเก่ง กรีดบางๆจนผิวเนื้อเปิดออกจนกระทั่งเลือดสีแดงสดซึมขึ้นมาบนชั้นผิว อาบทับรอยกรีดบางเบา ปรากฏเป็นตัวอักษรสีแดงสดว่า

MY  YUNHO

ฝ่ามือร้อนเลื่อนมาจับที่เอวค่อด ค่อยๆโน้มหน้าลงมากดจูบตัวอักษรที่ตัวเองสร้างขึ้นทีละตัว แล้วเงยหน้าขึ้นมามองคนช่างคิดอีกครั้ง อดที่จะหัวเราะออกมาไม่อยู่ แจจุงเอ่ยถามด้วยความไม่พอใจ

“หัวเราะอะไรของนาย มีอะไรน่าขำ”คำพูดของแจจุงทำเอาคนตรงหน้าระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างถูกใจ
“ก็ตลกเธอไง คิดว่าชั้นหยิบมันมาปาดคอหรือไง”

“ไอ้โรคจิต คนเลว ทำลายชีวิตคนอื่นมันเป็นเรื่องสนุกสนานสำหรับนายใช่มั้ย?” แจจุงเอ่ยถามน้ำตาเอ่อล้นก่อนน้ำตาเม็ดโตจะไหลไม่หยุดลงมาข้างแก้ม ด้วยความกดดัน เมื่อสักครู่เขากลัวจนแทบจะหยุดหายใจ แต่ดูคนเลวนี่ทำท่าราวกับมันน่าตลกอะไรนักหนา

“ล้อเล่นกับชีวิตคนอื่นมันสนุกนักใช่มั้ย!

“แล้วใครบอกเธอว่าชั้นล้อเล่น“ ยุนโฮเกี่ยวจี้เพชรสวยที่ฝังตัวเนียนไปกับหลุมสะดือสวยของแจจุงเล่น  ร่างบางสะดุ้งวาบขนลุกไปหมดก่อนจะพึ่งสังเกตว่ามีสิ่งแปลกปลอมปรากฎตรงหน้าท้องขาว

“อ๊ะ…..นายทำอะไรกับชั้น” แล้วตัวอักษรนั่นมัน แจจุงมองซ้ำไป ซ้ำมาทีละตัว ถึงมองลงมาจะเห็นเป็นตัวภาษาอังกฤษตัวใหญ่กลับหัวสีแดงสด  แววตาคู่สวยสั่นไหว พอๆกับหัวใจที่เต้นรัวเป็นกลองชุด ตึก ตึก ตึก…..
มือใหญ่ทาบไปที่หน้าอกคนสวยที่แน่นิ่งเป็นตุ๊กตาไปเสียแล้ว ก่อนจะรวบร่างบางมากอดหลวมๆ ลูบมือไปทั่วแผ่นหลังอย่างปลอบประโลม

“ตกใจเหรอ...ชั้นนี่แหละ...พี่ยุนโฮของเธอ!

...เอ่อ...นะ...นาย

“บอกแล้วไง ว่าเธอเป็นของชั้น”

ไม่จริง!”แจจุงพูดออกมาอย่างหวาดกลัว คนตัวเล็กตกใจจนสติที่มีอยู่เริ่มเหลือน้อยลงทุกทีๆเหมือนคนเลื่อนลอย



      ร่างสูงอุ้มคนที่นอนสลบไสลอยู่ภายในรถ ขึ้นมาบนห้องชุดส่วนตัวอย่างระมัดระวัง กลัวคนในวงแขนจะตื่น เขาค่อยๆสาวเท้าเดินอย่างเชื่องช้า อดเป็นห่วงความรู้สึกแจจุงไม่ได้ วันนี้แจจุงคงจะเครียดและกดดันไม่น้อยที่ได้รู้ความจริงว่าแท้จริงแล้วเขาก็คือคนเดียวกับพี่ยุน คนที่ดูจะเข้าอกเข้าใจความรู้สึกของแจจุงที่สุด

      ไม่รู้ว่าจะผิดหวัง เสียใจ หรือเกลียดชังกันขนาดไหนเพราะหลังจากที่เขาพูดมันออกไปร่างบางก็เอาแต่นิ่ง  เสียจนเขาใจคอไม่ดี เขาอยากให้แจจุงได้พูดอะไรออกมาให้เขาได้รับรู้บ้าง ว่าคิดยังไง แต่ก็เข้าใจว่าแจจุงคงกำลังช็อคในสิ่งที่พึ่งได้รับรู้  นั่งนิ่งอยู่จมอยู่กับความคิดของตัวเองจนกระทั่งคล้อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย

      หลายปีแล้วที่เขาเฝ้าติดตามหาเด็กหน้าสวยคนหนึ่ง ยอมรับว่าในคราแรกนั้น มันเป็นเพียงความปรารถนาของร่างกาย ความลุ่มหลงในรสสัมผัสที่ได้รับจากการร่วมรักกับเด็กน้อยหน้าสวย ทันทีที่เด็กคนนั้นเป็นของเขา เขาก็มีเพียงแต่ความต้องการในตัวเด็กคนสวย มากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งไม่สามารถหยุดยั้งความต้องการทางร่างกายอยู่ ยิ่งได้กลิ่นหอมอ่อนๆชวนให้หลงใหล สติที่แทบไม่เหลืออยู่ยิ่งกระเจิดกระเจิงไร้ซึ่งความยั้งคิด ในที่สุดก็พากลับมาต่ออีกครั้งที่คอนโดซึ่งไม่เคยพาคู่นอนคนไหนขึ้นมาเลยสักครั้ง ส่วนใหญ่ก็แค่เปิดห้องค้างกันเพียงชั่วคราวแล้วก็แยกทางใครทางมัน  แต่กับคนนี้มันไม่ใช่แค่นั้น แม้จะหลอกตัวเองว่าเพียงแค่ติดใจเรือนร่างขาว เนียนเรียบ ท่าทีไม่ประสีประสาที่แสดงออกมา ทุกอย่างของเด็กน้อยหน้าสวยมันติดตรึงในทุกอณูความรู้สึก

ปรารถนาเพียงคนคนเดียวเท่านั้น

เป็นครั้งแรกที่เขานอนกับใครไม่ได้อีกเลยซึ่งก็ตอบตัวเองไม่ได้ว่าทำไม ในที่สุดก็ทนต่อเสียงเพรียกหาเด็กหน้าสวยที่เขาไม่รู้แม้กระทั่งชื่อ ไม่ไหว ต้องสืบหาให้ได้ว่าอยู่ที่ไหน
      แต่เขาก็เกิดละอายใจเมื่อได้รับรู้ว่าแท้จริงแล้วแจจุงไม่ได้เข้ามาขายตัวอย่างที่คาดคิดในทีแรก เขากลายเป็นปีศาจพรากความบริสุทธิ์สดใสพร้อมๆกับทำลายชีวิตโดยการหยิบยื่นฝันร้ายอันไม่อาจลบเลือนแก่เด็กคนนั้นไปเสียแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยหยุดเฝ้าติดตามอยู่ไม่ห่าง...เหมือนคนโรคจิต


...แจจุง  เธอรู้มั้ยว่าชั้นก็เจ็บปวดกับสิ่งที่ทำ
แล้วทำไม ยุนโฮถึงกลับมาทำร้ายแจจุงอีก…..

      จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จนผ่านมาเป็นเวลา7 ปี ที่เขาเฝ้ามอง เฝ้าติดตามดูชีวิตประจำวันของแจจุงจนเรื่องของแจจุงกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขาไปเสียแล้ว สิ่งเลวร้ายคงไม่เกิดขึ้นอีกครั้งถ้าแจจุงไม่ดื้อดึงที่จะคบกับผู้หญิงคนนั้น  ควอน โบอา

      ตอนนั้นแหละที่เขาพึ่งรู้สึกว่าตัวเองหวง ดูเหมือนแจจุงจะไม่รู้ตัวเสียเลยว่าได้ก่อกองไฟแห่งความหึงหวงในตัวยุนโฮ เจ้าตัวก็ช่างขยันเติมเชื้อเพลิงเข้าไปไม่เว้นแต่ละวัน จนเมื่อถึงจุดปะทุของเพลิงไหม้ที่สุมในอกของชายหนุ่ม เมื่อแจจุงพาโบอามาประกอบกิจกรรมรักกันที่บ้าน มันทำให้เขาโมโหจนขาดสติ

เธอเป็นของชั้นเท่านั้น แจจุง

      ยุนโฮวางร่างบอบบางบนที่นอนนุ่มนิ่มหยิบผ้านวมผืนหนาคลุมให้ทั่วเรือนร่างแล้วถือผ้าเช็ดตัวผืนยาวเดินหายไปในห้องน้ำ  หลังจากได้ชำระเหงื่อไคลในร่างกายจนรู้สึกสดชื่นขึ้นแล้ว  เขาหย่อนตัวลงนั่งมองแจจุงที่ซุกใบหน้าข้างหนึ่งจมไปในหมอน  มือหนาปัดไรผมที่ตกลงมาปรกคลุมเกะกะใบหน้าสวยออกช้าๆ  ฝ่ามืออุ่นจัดรู้สึกถึงความไอร้อนที่แผ่ออกมาจากร่างกายคนที่เหมือนจะหลับสนิท มือใหญ่ทาบวัดอุณหภูมิบนหน้าผาก ก่อนเลื่อนมาแตะตามเนื้อตัวคนตัวเล็ก ความร้อนจัดส่งกลับมาจนปรอทชั่วคราวอย่างเขาชักมือออกมาอย่างตกใจ

      ช่วงขายาวสาวเท้าไปหยิบผ้าขนหนูสะอาดผืนเล็กแช่ในน้ำถือเดินมาวางบนโต๊ะข้างเตียง ค่อยบิดหมาดๆ เช็ดแผ่วเบาไปทั่วดวงหน้าสวย แล้วจัดการปลดอาภรณ์ของคนตัวเล็กออกเพื่อสะดวกในการเช็ดตัว ดูเหมือนคนเก่งจะยังไม่ยอมสิ้นฤทธิ์ง่ายๆ ร่างบางดิ้นส่ายไปมาหนีความเย็นชื้นจากผืนผ้าที่เช็ดดูดซับความร้อนออกจากร่างกาย สองขาก็พร้อมใจถีบเตะมาที่ช่วงท้องแกร่งทำเอาคนปฐมพยาบาลจุกไปหมด ใบหน้าหล่อก้มต่ำลงไปชิดคนประทุษร้ายอยากรู้ว่าหลับจริงหรือแกล้งเอาคืนเขา เสียงลมหายใจร้อนจัดทอดยาวอย่างต่อเนื่องอย่างคนกำลังหลับสนิท  ยุนโฮส่ายหน้าอย่างอ่อนใจใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนแบบที่แจจุงไม่เคยเห็น ก่อนจะลุกมาทำหน้าที่ตัวเองต่อ เห็นทีว่ากว่าจะเช็ดตัวคนตัวเล็กเสร็จเขาคงต้องไปอาบน้ำอีกรอบ เมื่อเหงื่อเม็ดโตผุดเต็มหน้า และเปืยกชื้นไปหมดทั้งตัวคนตัวใหญ่ ขนาดเข้าเร่งเครื่องปรับอากาศให้เย็นขึ้นอีกเบอร์แล้ว การดูแลคนป่วยคนยากกว่าที่คิดจริงๆ

      ยุนโฮบรรจงป้ายยาแก้อักเสบลงบนหลุมสะดือที่มีคราบเลือดกรังอยู่ติดเครื่องประดับ ค่อยๆใช้เล็บสะกิดมันออกเบาๆ ก่อนใส่ยา เกลี่ยเนื้อยาให้ซึบซาบลงที่รอยสลักชื่อของตัวเอง รอบบริเวณท้องน้อยขาวที่แต้มไปด้วยรอยแดงขึ้นสีจัดเป็นจ้ำๆไปทั่ว เห็นแล้วก็อดจะเกิดความรู้สึกผิดไม่ได้

      มือหนาโอบร่างบางในวงแขนอ้อมมือสอดลงมาเช็ดแผ่นหลัง กระทั่งร่างกายคนตัวเล็กเริ่มกับสู่อุณหภูมิปกติ ยุนโฮเดินกับไปที่ตู้ยาอีกครั้ง หยิบยาลดไข้และยาแก้อักเสบอย่างละเม็ด เดินมาที่แจจุง เอื้อมมือไปเขย่าเบาๆแต่คนที่นอนหลับสนิทได้แต่ส่งเสียงอู้อี้ในลำคออย่างรำคาญ ไม่มีทีท่าจะลืมตาขึ้นมามองด้วยซ้ำ เอาล่ะคงต้องใช้วิธีนี้ ยุนโฮอมน้ำในปากก่อนส่งยาสองเม็ดเล็กเข้าไป  กลีบปากอิ่มก้มลงประกบปิด   ริมฝีปากสวยที่ปิดสนิทจนต้องบีบเบาๆที่คางมน จนแจจุงเผยอปากบางขึ้นเล็กน้อย ลิ้นหนาต้อนยาเข้าไปในโพรงปากอ่อนนุ่ม ลิ้นหนาปิดกั้นเม็ดยาไม่ให้ไหลตามน้ำออกมานอกปาก จนในที่สุดแจจุงก็สามารถกลืนเม็ดยาเข้าไปได้จนหมด

ยุนโฮยังคงประโคมจูบไปทั่วริมฝีปากได้รูป ตวัดเล็มเลียคราบน้ำลายใสที่ไหลปนกับน้ำบริเวณมุมปากสีสด ตลอดจนลำคอระหงของคนที่หลับสนิทด้วยพิษไข้

“หลับไม่รู้เรื่อง..แบบนี้ ถ้าชั้น  ปล้ำ  เธอจะรู้มั้ย?

ชายหนุ่มคิดในใจ เมื่อตนมองใบหน้ายามหลับของแจจุงอย่างเพ้อๆ เจ้าตัวคงไม่รู้ว่าตัวเองมีเสน่ห์มากแค่ไหน ยิ่งใบหน้ายามหลับใหลมันชวนคิดอะไรไปถึงไหนต่อไหน  ยุนโฮกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ข่มสติตัวเองก่อนที่มันจะเตลิดเปิดเปิงมากไปกว่านี้ ร่างใหญ่โน้มตัวลงนอนข้างๆคนหลับสบายไม่ได้รับรู้เลยว่าได้ถูกแววตาคมจ้องมองอย่างมีความหมาย ยุนโฮสอดมือเข้าไปข้างใต้ลำตัวบอบบางรั้งร่างคนตัวเล็กเข้ามาในอ้อมกอดอบอุ่นของตน ก่อนเข้าสู่ห้วงนิทราแสนสุขไปด้วยกัน



      รุ่งอรุณที่แสนสดใสของวันใหม่ หยาดน้ำค้างใสเม็ดกลมหยดกลิ้งลงมาปะทะยอดหญ้าทั่วพื้นที่กว้างเห็นแล้วรู้สึกถึงความสดชื่นยามเช้า ด้วยความเขียวชะอุ่มของใบหญ้าที่ปรกคลุมพื้นดินบนสนามหน้าบ้านตระกูลปาร์คบวกกับเสียงนกน้อยขับขานเสียงดนตรีธรรมชาติอย่างไพเราะ ในมุมหนึ่งของสนามที่จัดไว้ใต้ร่มไม้ใหญ่ดอกไม้สีชมพูผลิดอกบานสะพรั่ง แผ่กิ่งก้านสาขาแข็งแรงอย่างร่มรื่น เก้าอี้สีขาวจัดเรียงเข้าชุดกับโต๊ะสีขาวบนโต๊ะมีแก้วกาแฟกับขนมปังอย่างละชุด จับจองพื้นที่กันคนละมุม โดยสองสามีภรรยาที่กำลังนั่งจิบกาแฟพร้อมขนมปังเป็นอาหารรองท้องในยามเช้า

คุณป๊า!  คุณม๊า!”เสียงที่มาก่อนตัวของลูกชายคนรองร้องเรียกมาแต่ไกล

อ้าว...ริคกี้จะมาทำไมไม่บอกคุณม๊าก่อนล่ะลูก

คิคิ...ริคจะมาเซอร์ไพร์สไงฮะ^^”เด็กขี้อ้อนหย่อนกายลงข้างๆบิดา ก่อนจะหยิบขนมปังขึ้นมาทานเล่น

อะไรทำให้เด็กรักเรียนอย่างลูกหยุดเรียนได้ล่ะมินวอนเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ

ริคไม่ค่อยสบายน่ะฮะเลยกะว่าจะมาอ้อนป๊าม๊าสักหน่อย...ใช่ๆพี่มิคอีกคนคนช่างเจรจาเอ่ยออกมาอย่างร่าเริง

ปากหวานนะเรา...แล้วนี่ไปหาหมอมาหรือยังล่ะ
คุณม๊าฮะ...อย่าลืมสิว่าริคเรียนอะไรอยู่ เมื่อนึกถึงโรงพยาบาลที่ตนกำลังศึกษาอยู่ก็ทำให้ยูฮวานอดนึกถึงใครอีกคนขึ้นมาไม่ได้  >//<

เจ้าเป็ดปากบาน 

จร้า...ม๊าลืมไปสนิทเลย

แล้วนี่พี่มิคยังไม่ตื่นอีกหรอฮะเนี่ย...ริคอุส่าห์มาอ้อนทั้งทีนะ คนช่างอ้อนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

ยังไม่เห็นลงมาเลยลูกก็ลองขึ้นไปหาพี่เค้าสิ

งั้นผมไปหาพี่มิคก่อนดีกว่าลุกขึ้นยืนก่อนจะหอมแก้มม๊าทีแก้มป๊าทีอย่างคนขี้ประจบเจ้ากวางน้อยก้าวกระโดดวิ่งขึ้นบันไดไปยังห้องนอนของพี่ชายที่อยู่ทางซ้ายมือ  ข้อมือขาวบิดกลอนประตูพร้อมกับเปิดเข้าไปอย่างถือวิสาสะ

      เตียงนอนขนาดใหญ่โทนสีเข้มไม่ปรากฏร่างของผู้เป็นเจ้าของ ศีรษะกลมเอียงคอมองอย่างสงสัยแต่ทว่าเมื่อไล่สายตาลงมาดีๆแล้วนั้นยูฮวานก็พบกับสิ่งที่ทำให้เขาตกใจจนต้องอ้างปากค้างไปนานหลายวินาที  -0- 

      ร่างของคนสองคนที่นอนแอบอิงซบกันอยู่ ถล่ำลึกเข้าสู่ห้วงนิทราด้วยกันทั้งคู่โดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้น้องชายได้เข้ามายืนอยู่ตรงนี้แล้วร่างเล็กที่เหมือนจะเริ่มรู้สึกตัวพลิกกายไปมาก่อนจะลุกขึ้นมานั่งด้วยอาการที่งัวเงียอย่างคนที่พึ่งตื่นนอน ยูฮวานจึงเห็นใบหน้าที่น่ารักนี้ได้อย่างชัดเจน ไม่ใช่คนแปลกหน้าที่ไหน แต่เป็นคนที่ตัวเขาเองก็พอจะรู้จักอยู่บ้าง...จุนซู

ไหนพี่มิคบอกไม่ใช่แฟนไง...โกหก!

      เป็นเวลาเดียวกับที่ชายหนุ่มเจ้าของห้องที่ถูกรบกวนจากสิ่งรอบข้างเล็กน้อยเบิกตาตื่นขึ้นมาอาการปวดหัวจึงตรงเข้าเล่นงานแทบจะทันที  ลุกขึ้นมานั่งสะบัดศีรษะแรงๆแต่การปวดที่ว่าก็ไม่ได้หายไปเลยสักนิด  แต่เดี๋ยวคงได้มีอะไรที่ทำให้ยูชอนได้ปวดหัวมากกว่านี้แน่ๆ

นี่มัน...มันเกิดอะไรขึ้นฮะยูฮวานเอ่ยถามเสียงสั่น

...เงียบ...

คือคำตอบเดียวในตอนนี้ จุนซูและยูชอนหันมามองหน้ากันก่อนจะหันไปทางยูฮวานอีกรอบ...

กรี๊ดดดดดดดด

อ๊ากกกกกกกกกสองเสียงต่างคีย์ที่เปล่งออกมาดังสนั่น ด้วยความตกใจ แข่งกันส่งเสียงประสานจนเสียงดังลั่นไปทั่วบริเวณบ้าน

      ยูชอนในตอนนี้อยู่ในสภาพที่...เอ่อ...มีเพียงบ๊อกเซอร์ตัวบางเพียงตัวเดียวเท่านั้น ยังดีที่เห็นว่าทางด้านจุนซู มีเสื้อผ้าอยู่ครบถ้วนไม่ได้ดูล่อแหลมเหมือนกับตัวเค้า ยูชอนปล่อยลมหายใจหนักๆออกมาอย่างเบาใจ แล้วกองผ้าห่มผืนใหญ่ที่พันอยู่รอบๆตัวยังพอปกปิดสิ่งที่ไม่น่าภิรมณ์ได้บ้าง  แต่ถ้าสังเกตดูดีๆแล้วนั้นถึงแม้เสื้อผ้าของจุนซูจะอยู่ครบแต่ไอ้รอยสีแดงๆที่คอและกกหูนั้นล่ะ...มันรอยอะไร?

...รอยสีกุหลาบ?...

พี่มิค...?ยูฮวานเอ่ยเรียกชื่อพี่ชายแต่สีหน้ากลับเต็มไปด้วยคำถามมากมายหลายสิบข้อ

.............

ฮือๆๆอยู่ๆจุนซูก็เริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้น

จุนซู...คือ...เอ่อ...ชายหนุ่มเอ่ยอย่างตะกุกตะกักไม่รู้ว่าตัวเองต้องพูดอะไรออกไปดีในตอนนี้

เกิดอะไรขึ้นลูก...เสียงดังโวยวายไปถึงหน้าบ้านเลย...ผู้เป็นแม่รีบวิ่งเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วง  แต่สิ่งที่เห็นตรงหน้ากลับทำให้พูดอะไรไม่ออก นายองเหมือนจะช็อคไปอีกคนและเมื่อตั้งสติได้แล้วก็เอ่ยอะไรบางอย่างออกไปให้คนที่ได้ยินรู้สึกเสียงสันหลังเล่นกับน้ำเสียงที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนจากผู้เป็นมารดาของตน

แต่งตัวให้เรียบร้อย...ทั้งสองคนเลยแล้วลงมาคุยกันข้างล่าง...เดี๋ยวนี้!”ว่าเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินออกไป  ยูฮวานเพียงแต่หันมาให้กำลังใจเล็กๆและเดินตามมารดาออกไป

รีบๆลงมานะเสียงใสเอ่ยเตือนคนทั้งสองที่นั่งนิ่งเหมือนหุ่นไม่ขยับไปไหน

     ตอนนี้ห้องสี่เหลี่ยมเหลือเพียงแค่คนสองคนที่ยังไม่มีใครยอมปริปากเอ่ยพูดอะไรออกมาก่อนเลย  จุนซูยังคงนั่งร้องไห้เงียบๆคนเดียวอย่างน่าสงสาร  อาจจะเป็นเพราะตกใจที่ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องนอนของผมแบบนี้ในสถานการณ์ที่แสนจะน่าอึดอัดนี้  แล้วผมควรจะเริ่มต้นจากตรงไหนก่อนดีล่ะ? 

     ยูชอนจำได้ว่าเมื่อคืนเค้าก็แค่อุ้มจุนซูขึ้นมานอนบนเตียงห่มผ้าให้  ก่อนจะหยิบหมอนกับผ้าห่มอีกผืนในตู้ลงมานอนข้างๆเตียงของจุนซู  เอ่อ...ไม่ๆเค้าแอบฉวยโอกาสจูบจุนซูไปอีกเล็กน้อยเพียงเท่านั้น  ทั้งหมดที่บอกมาก็ไม่น่าจะมีอะไรเกินเลยไปกว่านั้นนี่นา แล้วตื่นมาทำในถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ

จุนซูเสียงทุ่มเอ่ยอย่างลองเชิง

ฮึก...ฮะเด็กน้อยขี้แยเงยหน้าขึ้นมองคนที่เรียกชื่อตัวเอง  ยูชอนหัวใจหล่นวูบรู้สึกผิดไม่น้อยที่ทำให้คนร่าเริงอย่างจุนซูต้องมาร้องไห้เสียน้ำตาแบบนี้

อย่าร้องนะ...ชั้นขอโทษ

นายพูดได้แค่นี้เองหรอ...ยูชอน

ฮึก...ฮึก...ไม่จริงใช่มั้ยฮะ

ถึงจุนซูจะรักพี่ยูชอนแต่...เรื่องแบบนั้น...ฮึก

นายคงตกใจมาก...แต่ชั้นมั่นใจว่ามันไม่มีอะ....คำพูดที่จะว่าเรื่องทั้งหมดตัวเค้ามั่นใจว่ามันไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นนั้น ชายหนุ่มกลืนมันลงคอไปในทันทีที่จุนซูเงยหน้าขึ้นมามอง ดวงตาแดงก่ำฉายแววกังวล มองตอบมาอย่างไม่อาจปกปิดร่องรอยหวั่นไหว เห็นแล้วคนมองอดที่จะใจหายไม่ได้

เอ่อ...ชั้นว่าเราแต่งตัวแล้วรีบลงไปข้างล่างกันเถอะเดี๋ยวม๊าจะรอนานจุนซูส่ายหัวปฏิเสธ

จุนซูไม่ลงไปได้มั้ยฮะ...จุนซูกลัว

นายจะกลัวอะไร...มีชั้นอยู่ทั้งคน...ส่งมือมาสิยื่นมือออกไปฉุดคนตรงหน้าให้ลุกขึ้นมา  แต่จุนซูก็ยังนิ่งเฉยไม่ขยับเขยือน
เป็นอะไรหรือเปล่า?ยูชอนเอ่ยถามอย่างแปลกใจกับท่าทีแปลกๆของจุนซู

เจ็บตอบกลับมาสั้นๆ

เจ็บหรอ...ตรงไหน?ก้มลงนั่งข้างๆก่อนจะเริ่มสำรวจร่างกายคนตัวเล็ก  นอกจากรอยแดงเป็นจ้ำๆแล้วก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรแล้วนี่

สะโพกคำตอบของจุนซูเล่นเอายูชอนทำอะไรไม่ถูกไปเลย  นี่เขาทำอะไรที่ขาดสติแบบนั้นไปจริงๆหรอเนี่ย ไม่ว่าจะยังไงนายก็ควรจะรับผิดชอบสิ  ทำไมถึงยังลังเลอยู่แบบนี้  เมื่อคิดได้ดังนั้นยูชอนก็อุ้มจุนซูขึ้นมาก่อนจะพาคนตัวเล็กเข้าห้องน้ำไป เพียงไม่นานจุนซูก็ออกมาในชุดลำลองตัวโคร่งที่ดูใหญ่กว่าตัวเค้าอยู่หลายเท่าแต่สำหรับยูชอนแล้วจุนซูดูน่ารักจะตายไป

 ไปกันรึยังชายหนุ่มเอ่ยถาม  ตอนนี้จุนซูดูมีสีหน้าดีขึ้นกว่าเก่าถึงแม้จะมีร่องรอยของความเครียดเจือปนอยู่บ้าง

เอ่อ...

ยังเจ็บอยู่หรอ...ค่อยๆเดินแล้วกันนะร่างโปร่งค่อยโอบประคองจุนซูแล้วพาเดินลงบันไดไปที่ห้องรับแขกขนาดกว้างที่มีผู้เป็นพ่อ แม่และน้องชายนั่งรออยู่ก่อนแล้ว




1 ความคิดเห็น:

  1. เพิ่งได้เมนท์ (อ่านมาจะครึ่งเรื่อง เค้าขอโทษน๊าไรเตอร์*_*)
    พาร์ทนี้แบบว่าหลงรักไอ้โรคจิตมากๆหลังจากที่ด่ามาตั้งแต่ต้นเรื่อง^__^
    แต่งเก่งมากเลยคะไร สุดยอด!!!
    คาราวะ1จอก-/\-

    ตอบลบ